ลูซี่ แบสช์ (Lucie Basch) ผู้ร่วมก่อตั้ง Too Good to Go สาขาฝรั่งเศส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสตาร์ทอัพจากประเทศเดนมาร์กที่ก่อตั้งในปี 2015 กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ The Guardian ว่า
“มันต้องใช้คนทั้งหมู่บ้านเพื่อจะแก้ปัญหาตรงนี้ มันไม่มีทางที่คนเดียวจะทำได้ ต้องใช้การผสมผสานของคนที่มีความต้องการที่ดีมาร่วมมือกัน” ซึ่งแบสช์แห่ง Too Good to Go ก็บอกเหมือนกันว่า “คู่แข่งเดียวของเราคือถังขยะ”
ปัจจุบัน Too Good to Go ให้บริการใน 5 ประเทศและ 13 เมืองในยุโรปและอเมริกา โดยเริ่มต้นเปิดตัวที่ยุโรปในปี 2015 ก่อนขยายตลาดมาเรื่อยๆ จนเปิดในอเมริกาเมื่อปี 2020 ตอนนี้พวกเขามีบริการแล้วในเมืองอย่างออสติน,ชิคาโก้, ลอสเอนเจลิส, ซีแอตเทิล และฟิลาเดลเฟีย แบสช์บอกว่าโดยประมาณแล้วพวกเขาลดขยะอาหารนับเป็น 300,000 มื้อต่อวันเลยทีเดียว
ลูกค้าของ Too Good to Go สามารถเปิดแอพฯ ขึ้นมาแล้วค้นหาร้านอาหาร เบเกอรี่ และร้านซูเปอร์มาร์เก็ตในแอพฯ และซื้อถุง ‘Surprised Bags’ ที่ทางร้านจะเตรียมไว้ให้ ไม่ว่าจะเป็นขนมปัง เบเกิล ผัดไทย หรือผักผลไม้สดที่ยังคุณภาพดี (แต่ตามกฎหมายระบุไว้ว่าต้องทิ้งเมื่อหมดวัน) ใส่ไว้ในนั้นให้ ราคาต่อถุงก็ประมาณ 3-5 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ของที่อยู่ในนั้นอย่างน้อยจะมีมูลค่ามากกว่า 3 เท่าของที่จ่ายไป เพราะฉะนั้นถือว่าเป็นดีลที่ดีมากๆ สำหรับลูกค้า
คือพวกเราเชื่อว่ารองเท้าฟุตบอลมีคอนเซปต์ มีเรื่องเล่าของมัน ไม่ว่าจะแบรนด์ไหนก็แล้วแต่ ดังนั้นเราจึงใช้จุดนี้มาเป็นคอนเซปต์หลักของร้าน Ari สาขาแรกที่ทองหล่อ อย่าง Ari Football Concept Store เป็นสถานที่รวบรวมสินค้าและเรื่องราว เกี่ยวกับรองเท้าฟุตบอลในช่วงแรก ใครอยากได้สินค้าอะไร อยากแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องฟุตบอลตรงไหนก็มาหาเราได้ ซึ่งตอนนั้นในประเทศไทยยังไม่มีร้านรองเท้าฟุตบอลแบบ stand-alone แบบนี้ขึ้นมาเลย
ผมรู้สึกว่า Ari เริ่มต้นขึ้นด้วยความแตกต่างจากร้านอื่นๆ คือความพยายามสร้าง products with personality อย่างในช่วงแรกเราก็เป็นเจ้าเดียวที่มีการทำ personalize ด้วยการนำเทคโนโลยีสกรีนชื่อเข้ามาเป็นที่แรกๆ ในไทย คือไม่ใช่แค่สกรีนเสื้อนะ สกรีนยันรองเท้าฟุตบอล แสดงความเป็นเจ้าของติดลงไปเลย
แสดงว่าการสร้าง products with personality ถือเป็นหัวใจสำคัญและจุดแข็งของ Ari ในขณะนั้น
นอกจากเรื่องนี้ที่ผ่านมา Ari เราพยายามนำเสนอว่าการใส่เสื้อฟุตบอลแท้มันเท่จริงๆ เราทำการตลาดโดยใช้อินฟลูเอนเซอร์มาใส่เสื้อฟุตบอลแท้หลากหลายแบบ ช่วยส่งเสริมวัฒนธรรมการใส่เสื้อฟุตบอลมากขึ้นไปอีก
แล้วในช่วงการแข่งขันบอลโลกปี 2014 ตอนนั้น Ari เป็นยังไง เสื้อฟุตบอลทีมชาติต่างๆ เริ่มเข้ามาเป็นจุดขายหรือยัง
อีกอย่างหนึ่งคือเราต้องปรับตัวให้ทันตลอด อ่านให้ขาดว่าทิศทางของวงการกีฬากำลังไปทางไหน อย่างทุกวันนี้ Ari ก็เริ่มเดินทางภายใต้สโลแกนใหม่อย่าง Football for All คือเป็นฟุตบอลของคนทุกเพศ ทุกวัน เพราะทุกวันนี้เราเห็นแล้วว่าฟุตบอลเป็นกีฬามหาชนจริงๆ ผู้หญิงก็เล่นฟุตบอลได้ ใส่เสื้อฟุตบอลเป็นแฟชั่นได้ เราก็พยายามนำเสนอจุดนี้ มีการใช้อินฟลูเลนเซอร์ที่เป็นผู้หญิง มีการจัดตั้งทีมฟุตบอลหญิงของ Ari เพื่อช่วยโปรโมทสินค้า ขึ้นมาเป็นต้น
แล้วการทำแบรนด์ส่วนตัวอย่าง Ari Gear มีความท้าทายอย่างไรบ้าง
อันดับแรกเลยคือ มีราคาที่จับต้องได้ คุณภาพของสินค้าดี หลังจากนั้นคือเรื่องของการทำการตลาด การเลือกอินฟลูเลนเซอร์ที่เข้ากับสินค้า จัดแคมเปญหรือการร่วมงาน (Collaboration) ที่เหมาะสม ยกตัวอย่างที่เราเคยร่วมงานกับ Masked Rider เพื่อออกแบบเสื้อผ้าในคอลเลกชัน The Masked Rider X Ari Collection ก็เป็นหลักฐานหนึ่งของการพยายามผลักกรอบเดิมๆ ของเสื้อผ้ากีฬาให้มันกว้างมากขึ้น
โปรเจกต์ The Masked Rider X Ari Collection สำหรับผมก็มองว่าสอบตก ไม่ได้รับการตอบรับตามที่คาดการณ์ ซึ่งเราก็ยอมรับและพยายามปรับปรุง เก็บฟีดแบ็คมาเป็นบทเรียนพัฒนาต่อในครั้งต่อไป ไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัวอะไรขนาดนั้น ยังคงสนุกกับการได้นำแพชชั่นของตัวมาทำอะไรใหม่ๆ อยู่
มีเหตุการณ์ไหนไหมที่ทำให้คุณรู้สึกว่า Ari ที่ดำเนินกิจการมาตลอด 13 ปีมันประสบความสำเร็จแล้วจริงๆ
ผมยกตัวอย่างช่วงโควิด-19 แล้วกัน ตอนนั้นคือเราเพิ่งขยายสาขากันไปเอง แล้วก็ไม่ได้คิดเลยว่าสถานการณ์จะหนักขนาดนััน แต่เราก็รอดมาได้เพราะทั้งตัวเราและลูกค้ายังคงเชื่อมั่นและไว้ใจใน Ari อยู่
5. ยกตัวอย่างให้เห็นภาพมากขึ้น จากการใช้เทคโนโลยีทำให้บาร์บีคิว พลาซ่าสามารถแบ่งกลุ่มลูกค้าออกมาได้เป็น 11 กลุ่มหลักๆ ด้วยกัน ไล่เรียงตามระดับความรอยัลตี้ลดหลั่นกันลงไปได้แก่กลุ่มลูกค้าที่เป็น champion, loyal, potential loyalist, promising, need attention, new customer, about to sleep, at risk, cannot lost them, hibernating customer, lost customer เมื่อกลุ่มเป้าหมายชัด การทำกลยุทธ์ต่างๆ ก็ย่อมชัดเจนและแม่นยำมากขึ้นไปด้วย
34. และตั้งเป้าไว้อีกว่าภายในปี 2050 ฟู้ดแพชชั่นจะเป็นองค์กรที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ หรือหมายถึง Net Zero ที่หลายๆ องค์กรทั่วโลกกำลังพูดถึงนั่นเอง
แจนหยิบหมวกรุ่นแรกที่ยังขายดีอยู่ทุกวันนี้มาให้เราดู “มันเป็นรุ่นชื่อว่า Who Are You Bucket Hat” เป็นหมวกทรงบัคเก็ต 6 สี ปักคำแสดงนิสัยน้องหมาต่างบุคลิก อย่าง wanderer, player, foodie ฯลฯ “พอทำออกมาแล้ว เริ่มมีลูกค้าที่อยากจะ customize หมวกบ้าง อยากปักชื่อของน้องหมาน้องแมว เราเลยเพิ่มให้สามารถ customize คำบนหมวกได้ด้วย”
ในตอนแรกทั้งคู่ทำหมวกออกมา 3 ไซส์เท่านั้นคือ S M L แต่หลังจากเชี่ยวชาญการตัดหมวกให้สัตว์เลี้ยงบวกกับมีแฟนๆ เรียกร้องเข้ามาไม่หยุด ปัจจุบัน Ready to Woof จึงมีถึง 7 ไซส์เริ่มจากไซส์เล็กสุดคือ XS ขนาดประมาณหมาชิวาว่า และไปจบที่ไซส์ใหญ่สุดคือ 3XL ที่แม้แต่หมาใหญ่อย่างอลาสกันมาลามิวต์ก็ใส่ได้สบายๆ
เพราะ pets are the new kids. หรือเทรนด์การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเป็นลูกกำลัง ‘มา’ สินค้าและสถานที่สำหรับไลฟ์สไตล์นี้จึงเกิดขึ้นมากมาย เช่น คอมมิวนิตี้มอลล์สำหรับคนรักหมา ช่วยย้ำให้แววและแจนมั่นใจว่าแบรนด์กำลังมาถูกทาง
สำหรับสินค้าที่เป็น high involvement หัวใจสำคัญอีกอย่างที่จะนำพาลูกค้าเดินทางจากขั้นการรับรู้แบรนด์ไปจนถึงขั้นการตัดสินใจซื้อ คือการหา ‘human value’ ระหว่างตัวสินค้ากับผู้คนให้เจอ
“human value เป็นเหตุผลสำคัญในการตัดสินใจซื้อสินค้าที่เป็น high involvement อย่างมาก พอเข้าใจ human value ก็ทำให้เราวิเคราะห์กลยุทธ์ทำการตลาดไปหาคนที่คิดว่าจะเป็นผู้ซื้อได้ และ human value ระหว่างสินค้ากับผู้คนก็จะตอบสนองต่อกันได้ดีหากภาพของสินค้าที่เรานำเสนอไปนั้นชัดเจนและตรงกับสิ่งที่เขามองหาอยู่”
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ เช่นสินค้าสองอย่าง มีราคาเท่ากัน คุณสมบัติพื้นฐานเหมือนกัน ดูเผินๆ คนอาจจะคิดว่าลูกค้าที่มาซื้อก็คงเป็นคนกลุ่มเดียวกัน แต่ความจริงไม่ใช่แบบนั้น เพราะแม้จะราคาเท่ากัน คุณสมบัติพื้นฐานเหมือนกัน แต่โฟกัสที่ Human Value ที่ต่างกัน การดีไซน์แบรนด์และโปรดักต์ก็จะตอบโจทย์ของคนแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป
“ถ้าเราหา human value ไม่เจอ ยิงโฆษณาไปยังคนที่ไม่ได้มี human value กับสินค้า นอกจากจะขาดประสิทธิภาพแล้ว โฆษณาของเราก็อาจทำให้เขาเกิดความรำคาญ จนเป็นความรู้สึกที่ไม่ดีกับตัวแบรนด์ได้
“แบบนี้สิการทำงานมันถึงจะสนุกและได้ผลลัพธ์ที่ดี เพราะเราได้วิเคราะห์ได้หา human value ของลูกค้า ได้มานั่งหาว่าใครกันนะคือคนที่จะมาซื้อสินค้าราคาหลักล้านจนถึงร้อยล้านเหล่านี้”
คุณสมบัติที่สำคัญและจำเป็นในการคิดกลยุทธ์การขายสินค้าที่เป็น high involvement คือความเข้าใจในกลไกธุรกิจและ human value ของลูกค้า ซึ่งคุณสมบัตินี้ล้วนมีอยู่ในตัวบุคลากรของ NEIGHBORS ไม่ว่าจะมีมาตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงานหรือปลูกฝังในภายหลัง
จากที่ได้เล่ามาทั้งหมด จะเห็นว่าการทำการตลาดให้กับสินค้าที่เป็น high involvement นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ยังต้องอาศัยประสบการณ์และความเข้าใจอย่างลงลึกถึงจะสามารถนำพาให้คนที่เห็นโฆษณากลายมาเป็นลูกค้าที่ตัดสินใจซื้อได้ ซึ่งหากใครสนใจอยากจะเรียนรู้เรื่องการทำการตลาดให้สินค้า high involvement มากขึ้นก็ลองเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ neighbors.co.th
ดังนั้นเพื่อการส่งเสริมการขายอย่างสะดวก คุณชวนจึงเลือกตั้งคอนเซปต์ “ทานอาหารเป็นยา” นิยามสินค้าของ Nam Tao Thong Herb เป็นอาหารเพื่อช่องทางการขายที่แพร่หลายกว่าเพราะสิ่งสำคัญคือขายยังไงและขายที่ไหน