นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการใช้คุกกี้

บริษัท ทุนดี จำกัด (“บริษัท”) มีความจำเป็นต้องใช้คุกกี้ในการทำงานหลายส่วนของเว็บไซต์เพื่อรับประกันการให้บริการของเว็บไซต์ที่จะอำนวยความสะดวกในการใช้บริการเว็บไซต์ของท่าน โดยบริษัทรับประกันว่าจะใช้คุกกี้เท่าที่จำเป็น และมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลของท่านโดยสอดคล้องกับกฎ หมายที่เกี่ยวข้อง และจะไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้แก่บุคคลอื่น เว้นแต่เป็นกรณีการใช้คุกกี้บางประเภทที่อาจดำเนินการโดยผู้ให้บริการภายนอก ทั้งนี้ เมื่อท่านเข้าใช้บริการเว็บไซต์ บริษัทจะถือว่าท่านรับทราบและตกลงนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้แล้ว โดยบริษัทสงวนสิทธิ์ในการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ตามแต่ละระยะเวลาที่บริษัทเห็นสมควร โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวผ่านทางเว็บไซต์นี้... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customized advertisements based on the pages you visited previously and to analyze the effectiveness of the ad campaigns.

Coolection

คอลเลกชั่นแบรนด์ไทยคลายร้อนระดับตำนาน ที่ปรับตัวให้ cool และ fresh อยู่เสมอ

ภาพแสงแดดจ้า ความรู้สึกแสบร้อนผิว เหงื่อที่ชุ่มกาย และกลิ่นเฉพาะของหน้าร้อน ไม่เพียงเป็นภาพจำของเดือนเมษายนแต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดผลิตภัณฑ์คลายร้อนหลากหลายที่คนไทยคุ้นเคยมานาน 

ในอดีต คนไทยมีวิธีคลายร้อนด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นการใช้น้ำอบลูบตัว หยิบแป้งเย็นมาโบก หรือแม้กระทั่งเลือกของกินดับร้อนอย่างข้าวแช่และไอศครีม สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงช่วยให้ร่างกายเย็นลง แต่ยังกลายเป็นวัฒนธรรมการใช้ชีวิตในแบบไทยๆ ที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น และนั่นเองคือจุดเริ่มต้นของแบรนด์ไทยหลายแบรนด์ที่ถือกำเนิดขึ้นพร้อมกับความต้องการ ‘เย็น’ ในแบบที่คนไทยคุ้นเคย

แต่ถึงอย่างนั้น วิธีคลายร้อนของเราย่อมแตกต่างออกไปตามเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามา รวมถึงผลกระทบจากความนิยมในสินค้าต่างประเทศ คำถามสำคัญคือแบรนด์สินค้าคลายร้อนทั้งหลายแหล่ของไทยนั้นยืนหยัดอยู่ได้อย่างไรในสมรภูมิอันดุเดือดไม่ต่างจากอุณหภูมิของไทยในตอนนี้ ช่วงเวลาร้อนๆ แบบนี้ ผสมปนเปกับพายุฤดูร้อนที่ทำเอาปรับตัวแทบไม่ทัน Capital ขอเปิดกรุ Coolection คอลเลกชั่นแบรนด์ไทยคลายร้อนระดับตำนาน ที่ยัง ‘cool” และ ‘fresh’ อยู่เสมอ ด้วยกลยุทธ์ที่แตกต่างแต่เข้าใจผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง

นางลอย
Brand Heritage Marketing 

สินค้าที่ผูกโยงกับหน้าร้อนไทยและสงกรานต์แบบสลัดไม่ขาด แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นต้องมีนางลอย แบรนด์น้ำอบไทยระดับตำนานที่เริ่มต้นจากคุณย่าเฮียง ธ.เชียงทอง ที่ได้สูตรน้ำอบจากเพื่อนในวัง ก่อนดัดแปลงและเริ่มขายที่ตลาดนางลอยเมื่อกว่า 100 ปีก่อน จนกลายเป็นไอเทมประจำเทศกาลสงกรานต์ แต่สัญลักษณ์นี้ก็มีอีกด้านที่ทำให้ธุรกิจมีข้อจำกัด คือส่วนใหญ่แล้วมักจะขายได้ในช่วงเทศกาลเท่านั้น 

น้ำอบนางลอยจึงไม่หยุดแค่การขายน้ำอบ แต่เริ่มแตกไลน์สินค้าเพื่อให้กลิ่นอายของแบรนด์เข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันมากขึ้น ทั้งผ้าขาวม้ากลิ่นน้ำอบ แป้งหินร่ำ ดินสอพอง เทียนอบ เทียนหอมอโรม่า ขี้ผึ้งนวดสมุนไพร และสมุนไพรหอม ที่ยังคงกลิ่นอัตลักษณ์ของแบรนด์ไว้ แต่ปรับรูปลักษณ์และวิธีใช้ให้เหมาะกับยุคสมัย โดยยังอิงกับวัฒนธรรมไทยอย่างแนบเนียน 

นอกจากนั้น ยังเปิดโรงงานให้นักศึกษาและผู้สนใจได้เข้าไปเรียนรู้และสัมผัสขั้นตอนการผลิตจริง พร้อมเปิดโอกาสให้ทดลองคิดต่อยอด ในเชิงการสื่อสาร นางลอยยังหยิบเอาเรื่องเล่าต่างๆ ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ของแบรนด์มาเล่าใหม่ผ่านฉลากสินค้า เว็บไซต์ ไปจนถึงโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะการปรุงน้ำอบแบบโบราณที่ใช้มือทำทุกขวด 

แบรนด์น้ำอบนางลอยจึงไม่ใช่เพียงสินค้าเฉพาะช่วงเทศกาล แต่คือ ‘ความหอมแบบไทยๆ’ ที่มีพื้นที่ในชีวิตประจำวันของคนรุ่นใหม่แต่ยังคงจิตวิญญาณของแบรนด์ไว้ได้ และนี่คือ brand heritage marketing ที่ดึงเอา ‘รากเหง้า’ และ ‘เรื่องราวต้นกำเนิดของแบรนด์’ มาสื่อสารให้แบรนด์มีคุณค่า และเชื่อมโยงกับอารมณ์และความทรงจำของผู้บริโภค

อ่านเรื่องราวคลายร้อนและกลยุทธ์ฉบับเต็ม capitalread.co/issue-seasonalbusiness-nangloy

แป้งเย็นตรางู
Product Diversification

แป้งเย็นตรางูถือกำเนิดเพื่อรักษาผดผื่นคัน นอกจากนั้นยังถูกใช้เป็น ‘พัดลม’ ในยุคที่ความเย็นยังเป็นของหายาก จนตอนนี้แป้งเย็นตรางูไม่ได้เป็นเพียงผลิตภัณฑ์ดับร้อน แต่กลายเป็น ‘สัญลักษณ์’ แห่งความเย็นในวัฒนธรรมไทย 

แต่ใช่ว่าทุกอย่างจะอยู่ยั้งยืนยง ปฏิเสธไม่ได้ว่าในวันที่เรามีแอร์และพัดลม การปรับตัวเป็นเรื่องสำคัญที่แป้งเย็นตรางูรู้ดี นอกจากใช้ storytelling ที่เน้นย้ำให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 132 ปี ซึ่งช่วยให้แบรนด์ดูแข็งแรงและมั่นคง แบรนด์ยังทำ product diversification หรือการพัฒนาไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค

ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม HerbaCeutic เจาะกลุ่มวัยรุ่นและคนทำงานที่สนใจเรื่องสุขภาพผิว มีทั้งแป้งเย็น โลชั่น เซรั่มบำรุงผิว หรือจะเป็นกลุ่ม Body Care ที่มีสินค้าทั้งเจลอาบน้ำและสบู่ บอดี้สเปรย์ ทิชชู่เปียก รวมถึงหน้ากากอนามัย สเปรย์พ่นปาก ที่ยังคงคอนเซปต์ให้ความสดชื่น

“สินค้าพวกนี้เกิดขึ้นเพราะเราเห็นว่าบางทีการพกแป้งเย็นกระป๋องเหล็กมันไม่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนทุกวันนี้ การมีทิชชู่เปียกสำหรับคนที่ไปคอนเสิร์ต การใช้เจลอาบน้ำก่อนนอน บางทีมันตอบโจทย์ผู้คนในวงกว้างมากกว่า”

อ่านเรื่องราวคลายร้อนและกลยุทธ์ฉบับเต็ม capitalread.co/snakebrandfamily

หงส์ไทย
Customer-centric 

หน้าร้อนแบบนี้ นอกจากพัดลมพกพา หนึ่งสิ่งที่คนไทยหลายคนน่าจะต้องมีติดตัว ไม่ว่าจะยามหน้ามืด นอนน้อย หรือเครียด ก็คือยาดม และหนึ่งในยาดมแห่งยุคที่คนพูดถึงก็คือ หงส์ไทย

แม้จะมียาดมให้คนไทยเลือกใช้ แต่หงส์ไทยไม่ได้เป็นเพียงแค่แบรนด์ยาดม แต่เป็นแบรนด์ที่ยืนหยัดและเติบโตจากการให้ความสำคัญกับผู้บริโภคเป็นหลัก แนวคิดแบบ customer-centric ของหงส์ไทย คือการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่การขายสินค้า แต่คือการสร้างความประทับใจในระยะยาว

ทุกครั้งที่ได้รับฟีดแบ็กจากลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นคำชมหรือคำตำหนิ หงส์ไทยนำสิ่งนั้นกลับมาพัฒนาและปรับปรุงอยู่เสมอ อย่างกลิ่นยาดมกระปุกเขียวที่เป็นซิกเนเจอร์ ผ่านการปรับสูตรมากกว่า 30 รอบ ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของหงส์ไทยพัฒนารวมกันไม่ต่ำกว่า 500 รอบ ทั้งแบรนด์ยังพยายามหาค่ากลางของกลิ่น เพื่อให้ยาดมทุกกระปุกใช้ได้กับทุกกลุ่มวัย ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นหรือผู้สูงอายุ ที่ผ่านมายังพัฒนาแพ็กเกจจิ้งให้มีฝาตะแกรงกันหก ทั้งยังมี Hatari x Hongthai หรืออุปกรณ์ติดพัดลมที่ช่วยให้ลมที่พัดผ่านหอมยิ่งขึ้น

หงส์ไทยยังไม่ขายแค่สินค้า แต่ขายความประทับใจ อย่างการมอบยาดมกว่า 1,200 โหล ให้การกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อให้นักกีฬาไทยที่เข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิก ปารีส 2024 ได้เอาไปใช้กันจุกๆ จากที่ก่อนหน้านี้มีภาพออกมาว่าก่อนนักกีฬายกน้ำหนักของไทยจะขึ้นแข่งได้เติมพลังด้วยการสูดยาดมหงส์ไทย

การใส่ใจในคุณภาพ การไม่ลดมาตรฐาน และการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องคือหลักการ customer-centric ที่ทำให้หงส์ไทยสามารถยืนหยัดในตลาดได้อย่างมั่นคงและยาวนาน

อ่านเรื่องราวคลายร้อนและกลยุทธ์ฉบับเต็ม capitalread.co/hongthai

บ้านวรรณโกวิท
Experience Marketing

ในวันที่ร้านอาหารใหม่ผุดขึ้นแทบทุกหัวมุมถนน ทั้งคนไทยก็เปิดรับรสชาติอาหารหลากหลาย เมนูคลาสสิกๆ ของไทยจึงอาจได้รับความนิยมน้อยลง ยิ่งเป็นข้าวแช่ เมนูดับร้อนของไทยซึ่งมีรสชาติเฉพาะตัวแล้วนั้น การหาที่ทางของตนเองจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ที่ทางที่บ้านวรรณโกวิทเลือกเดินคือการสร้างประสบการณ์ที่ชวนหลงใหล เพราะลูกค้าที่มาที่นี่ไม่ได้มองหาแค่อาหารอร่อย แต่พวกเขามาสัมผัส เรื่องราว กลิ่น รส และความพิถีพิถันแบบไทยแท้ ตั้งแต่ข้าวแช่สูตร 100 ปีที่ส่งต่อกันมาหลายรุ่นในครอบครัว เสิร์ฟพร้อมเรื่องเล่าของวัตถุดิบ การหุงข้าวแบบเช็ดน้ำ รวมถึงเครื่องเคียงที่ต้องใช้เวลาทำนับวัน ไปจนถึงบรรยากาศบ้านโบราณที่เป็นฉากหลัง ทั้งหมดนี้คือ ‘ประสบการณ์’ ที่ไม่ใช่แค่อิ่มท้อง แต่เติมเต็มความรู้สึกในทุกประสาทสัมผัส 

“คนกลุ่มแรกๆ ที่เข้ามาคือกลุ่มคนที่ชอบบ้านสไตล์โบราณ มีกลุ่มอนุรักษ์ไทยที่ชอบเดินมาดูบ้านแล้วขอเข้ามาทานอาหาร เราเลยเริ่มเปิดบ้านเฉพาะตรงระเบียงก่อนแล้วค่อยขยายเปิดมุมอื่นของบ้านให้นั่งตามมา ทุกวันนี้ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนสูงอายุราว 40-50 ปี กลุ่มวัยรุ่นที่ชอบเดินเล่นในย่านนี้ และคนที่สนใจอยากมากินอาหารในบ้านโบราณ ลูกค้าอีกกลุ่มคือคนที่อยากซื้ออาหารสำหรับงานจัดเลี้ยงและตอนนี้กำลังขยายไปขายออนไลน์ส่งลูกค้าต่างจังหวัด” 

ทุกองค์ประกอบของบ้านวรรณโกวิทจึงกลายเป็นเวทีของ experience marketing ที่ทรงพลัง ไม่ต้องโฆษณาให้ดัง แค่เปิดบ้านให้ผู้คน ‘รู้สึก’ ถึงคุณค่าที่อยู่เบื้องหลังอาหารทุกจาน

อ่านเรื่องราวคลายร้อนและกลยุทธ์ฉบับเต็ม capitalread.co/ban-wannakovit

เต่าเหยียบโลก
Brand Transformation

นอกจากหน้าร้อนจะมาพร้อมเหงื่อ อีกสิ่งที่หลายคนน่าจะเห็นตรงกันคือกลิ่นกายของผู้คนที่คละคลุ้ง เต่าเหยียบโลกเองเป็นธุรกิจที่อาจไม่คลายร้อน แต่เชื่อว่าสำคัญจำเป็นในหน้าร้อนนี้แน่ๆ เพราะนี่คือแบรนด์ที่เริ่มต้นจากการผลิตแป้งระงับกลิ่นกาย 

เมื่อกาลเวลาผ่านไป เต่าเหยียบโลกก็ต้องปรับตัวตาม นำมาสู่การปรับอย่างแรกๆ คือการปรับโลโก้ซึ่งแบรนด์พยายามปรับโลโก้ให้ทันสมัยหลายรอบ แต่พบว่าทำให้ผู้บริโภคสับสนและไม่สามารถจดจำได้ ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการตระหนักถึงดีเอ็นเอของแบรนด์ เน้นคงซิกเนเจอร์เดิม แต่เพิ่มความทันสมัยเล็กน้อย ทำให้โลโก้ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น โดยไม่สูญเสียตัวตนดั้งเดิม

เต่าเหยียบโลกยังขยายไลน์สินค้าจากเดิมที่มีแค่แป้งระงับกลิ่นกาย เช่น แป้งทาระงับกลิ่นเท้า ที่เกิดจากอินไซต์ลูกค้าที่นำแป้งระงับกลิ่นกายไปใช้ที่เท้า, สเปรย์ระงับกลิ่นและสบู่, บรรจุภัณฑ์ที่ใช้งานสะดวกขึ้น เช่น ขวดฝาเปิด-ปิดที่หมุนเติมรีฟีลได้ ทำให้แบรนด์ขยายฐานลูกค้าและทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ นอกจากนั้นแบรนด์ยังขยายช่องทางการขาย เช่น โมเดิร์นเทรดอย่างร้านสะดวกซื้อ หรือช่องทางออนไลน์ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ

การปรับตัวของเต่าเหยียบโลกไม่ใช่เพียงการปรับโฉมภายนอก แต่คือการปรับตัวทั้งในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การวางกลยุทธ์ทางการตลาด การสร้างแบรนด์ให้ทันสมัยและยังคงเอกลักษณ์เดิมไว้ และนี่คือ ‘brand transformation’ ที่ทำให้แบรนด์เต่าเหยียบโลกอยู่คู่กับคนไทยไปอีกยาวนาน 

อ่านเรื่องราวคลายร้อนและกลยุทธ์ฉบับเต็ม capitalread.co/taoyeablok

ไผ่ทองไอสครีม
Brand Modernization

ไอศครีมของไทย ยังไงก็ต้องไอศครีมกะทิ และเชื่อว่าหนึ่งในแบรนด์ไอศครีมกะทิที่โดนใจและอยู่คู่กับชาวไทยมานานก็คือไผ่ทอง ที่แม้ในวันนี้จะอยู่ในมือของทายาทรุ่นที่ 2 แล้วก็ยังได้ใจคนทาน เพราะไม่เพียงสืบทอดสูตรและคุณภาพเท่านั้น แต่ยังเดินหน้าพัฒนาแบรนด์ให้ทันสมัยโดยไม่ทิ้งรากเหง้า หรือที่เรียกว่า brand modernization

จากการสังเกตพฤติกรรมผู้บริโภคที่ออกจากบ้านน้อยลง ไผ่ทองไอสครีมจึงเปิดตัวบริการไผ่ทองเดลิเวอรีและไผ่ทองสเตชั่น ที่กระจายไอศครีมผ่านจุดขายตามปั๊มน้ำมัน พร้อมพัฒนาตู้กดไอศครีมอัตโนมัติ ซึ่งรองรับการขาย 24 ชั่วโมง ไผ่ทองไอสครีมยังให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้า ด้วยการคงรสชาติและมาตรฐานไว้แม้จะเปลี่ยนรูปแบบการขาย หรือพัฒนาช่องทางใหม่ๆ เช่น การขายออนไลน์และการขยายหน้าร้าน

“ถ้าเป็นไปได้ เราก็อยากจะอุดให้ครบทุกรูรั่วเลยค่ะ (หัวเราะ) มันจะมีบางตึก บางอาคาร หรือบางหอพักนะ ที่คนขายเราเข้าไปไม่ถึง แต่ลูกค้าเกิดอยากกินขึ้นมาตอนนั้นนี่นา อีกอย่างตู้กดไอศครีมทำงานขายให้เราได้ 24 ชั่วโมงเลยนะคะ

“ทุกวันนี้เราหาคนขายยากขึ้นจริงๆ ค่ะ เราต้องยอมรับว่าทุกวันนี้มีทางเลือกอาชีพที่หลากหลายมากขึ้น บางคนเขาไม่อยากออกมาตากแดดร้อนๆ เข็นรถเข็นขายแล้ว เขาอยากไปทำอย่างอื่นมากกว่า เราเลยเริ่มหาคนขายได้ยากขึ้นแล้วค่ะ ตู้ vending machine ก็จะมาช่วยเราได้ตรงนี้”

‘ไผ่ทองไอสครีม’ จึงเป็นตัวอย่างของแบรนด์ที่เข้าใจรากเหง้าของตัวเอง แต่พร้อมปรับเปลี่ยนให้สอดรับกับยุคสมัย  

อ่านเรื่องราวคลายร้อนและกลยุทธ์ฉบับเต็ม capitalread.co/paithong-ice-cream

You Might Also Like