Clean House Effect

วิธีคิดแบบนวัตกรของ Sweepy ไม้กวาดดอกหญ้าสมาร์ตดีไซน์จากภูมิปัญญาที่ลานวัด 

หากพูดถึง smart living ในยุคนี้ คนส่วนใหญ่อาจนึกภาพสินค้าเทคโนโลยีที่มีนวัตกรรมล้ำหน้าหรือหมวดสินค้าไอทีอย่างอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ Sweepy by SAJ คือแบรนด์ไม้กวาดของ บริษัท สะอาดใจ จำกัด ที่แสดงให้เห็นว่าไม้กวาดดอกหญ้าธรรมดาๆ จากวัสดุธรรมชาติและภูมิปัญญาท้องถิ่นก็เป็นสินค้าในยุค smart living ได้เหมือนกัน

แก่นสำคัญของนวัตกรรมคือการออกแบบสิ่งใหม่ที่แก้ปัญหาให้ผู้ใช้และเบลนด์เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ หากลบภาพจำจากเปลือกภายนอกของไม้กวาดที่เป็นของใช้งานคราฟต์แสนธรรมดาในชีวิตประจำวันออกไป จะพบว่าไม้กวาด Sweepy เป็นนวัตกรรมสุดสมาร์ตที่ทำให้การกวาดบ้านเป็นเรื่องสมูทขึ้นและยังวางประดับในบ้านได้อย่างไม่เคอะเขิน

ตูน–นนทัช ขันธรูป แปลงร่างไม้กวาดที่ลานวัดเป็น broom (ไม้กวาด) และ dustpan (ที่โกยผง) โดยปรับดีไซน์ให้โมเดิร์นขึ้นและเสริมฟีเจอร์สำคัญ เช่น ทรงที่คำนึงถึงสรีรศาสตร์ การออกแบบประสบการณ์กวาดบ้านโดยคำนึงถึง noise control และยังตามเมกะเทรนด์ด้านความยั่งยืนด้วยคอลเลกชั่นไม้กวาดที่สามารถรีฟีลดอกหญ้าใหม่ได้

ในยุคที่ช้อปปิ้งออนไลน์บูมและเกิดสงครามราคาที่แข่งขันกันขายของราคาถูกใน e-Marketplace ตูนเลือกขายไม้กวาดราคาแพงกว่าราคาตลาด 4-5 เท่าและอยากเล่าเรื่องไม้กวาดแบรนด์ไทยให้คนต่างชาติรับรู้ถึงของใช้จากความครีเอทีฟของภูมิปัญญาพื้นบ้าน 

Product
Innovative Wisdom from Temple

ย้อนกลับไปราว 5 ปีที่แล้ว โมเมนต์ยูเรก้า! ที่ตูนปิ๊งไอเดียออกแบบไม้กวาด Sweepy เป็นครั้งแรกมาจากช่วงที่บวชเป็นพระ 

“เราเรียนรู้วิชาการทำไม้กวาดจากหลวงลุงที่วัด ตอนนั้นได้ไปบวชที่วัดป่า วังน้ำเขียว ส่วนใหญ่ที่วัดพระจะเป็นคนทำไม้กวาดเองทั้งไม้กวาดทางมะพร้าวและไม้กวาดดอกหญ้า”

ด้วยความที่ตูนมีอีกหนึ่งบทบาทเป็นสถาปนิก วิชาชีพนักออกแบบทำให้เขาชอบตั้งคำถามว่าสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้ดีพอแล้วหรือยัง สามารถพัฒนาให้ดีขึ้นกว่านี้ได้ไหม    

“เราตั้งคำถามว่าไม้กวาดที่มีอยู่ยังเหมาะกับสมัยนี้ไหม เหมาะกับคนใช้หรือเปล่า แล้วถ้ามันไม่เหมาะ เราจะสามารถแก้ปัญหาทั้งเรื่องการใช้งาน ความสวยงาม และดีเทลต่างๆ ของกระบวนการทำได้มากกว่านี้หรือเปล่า” 

ก่อนจะตรัสรู้ทางธรรมต้องผ่านกระบวนการทำความเข้าใจความทุกข์ทางโลกอย่างลึกซึ้งเสียก่อนจึงจะพบหนทางดับทุกข์ได้ เช่นเดียวกัน การรู้แจ้งของดีไซเนอร์ก็ต้องผ่านกระบวนการทำความเข้าใจความทุกข์ หรือ pain point ของผู้ใช้เสียก่อนถึงจะนำเสนอทางดับทุกข์ให้ผู้ใช้ได้

ตูนสังเกตพบ ‘ความทุกข์’ ของคนใช้ไม้กวาด เช่น ดอกหญ้าร่วงบ่อยทำให้ไม้กวาดมีอายุการใช้งานสั้น, ไม้กวาดกวาดได้ไม่ถึงทุกซอกทุกมุม, จับไม้กวาดไม่ถนัดมือ และยังเกิดไอเดียสร้างประสบการณ์การใช้ไม้กวาดให้แฮปปี้ขึ้นซึ่งเป็นสิ่งที่คนทั่วไปอาจไม่ได้ตระหนักถึง 

ในขณะที่หลายคนใช้ไม้กวาดและที่โกยผงเพื่อทำงานบ้านให้เสร็จตามฟังก์ชั่นที่มี ภาพโอกาสที่ตูนมองเห็นคือ ไม้กวาดและที่โกยผงที่มีสมาร์ตดีไซน์ แม้จะไม่ใช่สินค้าเทคโนโลยี เป็นงานคราฟต์ทำมือจากวัสดุธรรมชาติก็สามารถออกแบบให้เป็นอุปกรณ์สุดสมาร์ตสำหรับผู้ใช้ได้

“เราเอากระบวนการทำไม้กวาดจากวัดมาพัฒนาดีไซน์ให้ทันสมัยและเหมาะกับคนใช้งาน มาเบรกดาวน์ว่าการทำไม้กวาดจะตอบโจทย์การกวาดบ้านทั้งในเรื่องของคุณภาพและการใช้ในบ้านยังไง จะทำยังไงให้ไม้กวาดเป็นสินค้าซิกเนเจอร์อันใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด 

“เราอยากทำให้ไม้กวาดเป็น extension ของคนที่เวลาหยิบมาใช้งานแล้วรู้สึกถนัดที่สุด เลยคำนึงถึงเรื่อง angle และ human scale ของคนและมีน้ำหนักที่ดีที่สุดที่เหมาะแก่การใช้งาน ถ้าสังเกตคือตัวปลายไม้กวาดจะใช้ดอกหญ้าที่เล็กกว่าตัวท้ายเพื่อให้เก็บกวาดทุกซอกมุมได้หมด คัดเฉพาะดอกหญ้าก้านอ่อนที่มีความนุ่ม อันที่ไม่สวยหรือก้านแข็งเกินไปก็จะคัดออก เอามาคัดไซส์แล้วมัดเป็นช่อๆ ให้อยู่ด้วยกัน พอมัดเรียบร้อยก็เอามาเรียงรวมกันโดยไล่ระดับ แล้วเย็บให้เข้ากับตัวโมเดล”

ดอกหญ้าของไม้กวาด sweepy จึงเรียงไล่ระดับเป็นทรงโค้ง ตอบโจทย์ด้านสรีรศาสตร์และคุณภาพของไม้กวาด และยังมีดีไซน์มินิมอลที่ทำให้การกวาดบ้านรื่นรมย์ขึ้น 

Design Sound & Touch in Sweeping Experience

ตูนขยายความว่าสิ่งที่ทำให้ออกแบบ Sweepy ได้ไม่เหมือนใครและตอบโจทย์ผู้ใช้คือการใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่มองไม่เห็นถ้าไม่ตั้งใจสังเกต อย่างเสียงที่กระทบพื้นเวลากวาดบ้าน ฝุ่นที่ติดมากับดอกหญ้า ความนุ่ม-แข็งของดอกหญ้า

เวลาพูดถึงการออกแบบสินค้าให้มีฟีเจอร์ noise control หลายคนอาจนึกภาพสินค้าเทคโนโลยีอย่างหูฟัง แต่อุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านทั่วไปก็สามารถออกแบบโดยคำนึงถึงมลภาวะทางเสียงได้ด้วยเช่นกัน เหมือนที่ตูนออกแบบที่โกยผงให้คู่กับไม้กวาดโดยเลือกใช้วัสดุที่ลดการเกิดเสียง

“การกวาดบ้านคือประสบการณ์ ถ้าสมมติว่าเราเอาพลาสติกหรือเหล็กคุณภาพไม่ดีไปเจอกับพื้นโดยตรงมันก็จะมีเสียงก๊องแก๊ง ผมไม่อยากใช้พลาสติกเพราะว่ามันจะมีเสียงแบบพลาสติก อยากใช้เหล็กที่บางแต่ก็ไม่ได้คมเพื่อไม่ทำให้เกิดเสียงและสื่อถึงความใส่ใจในการทำโปรดักต์ตัวนี้” 

นอกจากการคำนึงถึงมลภาวะทางเสียงแล้วก็ยังคำนึงถึงความสะอาดที่ไร้ฝุ่น อย่างการนำดอกหญ้าไปตากให้แห้งเพื่อเอาผงฝุ่นที่ติดมากับดอกหญ้าออกให้หมด

“สิ่งสำคัญคือไม้กวาดของเราเป็นโปรดักต์ที่ใช้ในอินทีเรียร์ เราจึงใช้วัสดุธรรมชาติโดยเอามาใช้ให้คลีนและน่าใช้ที่สุด เคลือบไม้เพื่อเวลาจับหรือสัมผัสจะไม่มีฝุ่นผง เช็ดไม้ทุกด้ามให้ไม่มีตำหนิและรอยแตก” 

ไม้กวาด Sweepy ยังแยกออกเป็นหลายรุ่นเพื่อประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานให้เหมาะกับวัสดุแต่ละประเภท รุ่นสแตนดาร์ดคือไม้กวาดดอกหญ้าขนนุ่มสำหรับใช้กวาดอินดอร์ แบ่งเป็นไม้กวาดขนาดปกติทั่วไปและขนาดเล็ก อีกแบบคือไม้กวาดเสี้ยนตาลที่มีขนแข็งเหมาะสำหรับใช้กวาดเอาต์ดอร์ 

“ตัวเสี้ยนตาลจะมีความความแข็งและยืดหยุ่นมากกว่า จะกวาดพื้นหญ้า พื้นปูน หรือส่วนที่มีน้ำขัง แอ่งน้ำช่วงหน้าฝนได้ดี อยากแนะนำไม้กวาดเสี้ยนตาลเวลากวาดทรายหรือกวาดฝุ่นที่อยู่ข้างนอก” 

พอใช้ดอกหญ้า 2 ประเภทในการทำไม้กวาด ที่โกยผงก็ทำจากวัสดุ 2 แบบด้วยเช่นกันสำหรับแยกใช้อินดอร์และเอาต์ดอร์ เน้นดีไซน์โค้งและขนาดใหญ่เพื่อให้กวาดได้เยอะ หากใช้คู่กันจะสามารถวางเก็บด้วยกันได้เพราะตูนตั้งใจเจาะรูที่ด้ามและทำที่ยึดให้ทั้งไม้กวาดและที่โกยผงสามารถเก็บเข้าคู่กัน

Price
Design to Last 

ไม้กวาดดอกหญ้า Sweepy มีราคาอยู่ที่ 380 บาท หากเป็นไม้กวาดเสี้ยนตาลจะราคาสูงขึ้นมาเล็กน้อยเป็น 390 บาท นับว่าราคาสูงกว่าไม้กวาดทั่วไปราว 4-5 เท่า ส่วนที่โกยผงมีราคาอยู่ในระดับใกล้เคียงกันที่ 420 บาท 

ตูนมองว่าสำหรับไม้กวาดทั่วไปที่ดอกหญ้าร่วงง่ายจะทำให้สินค้ามีอายุการใช้งานสั้นราว 2-3 เดือน การออกแบบให้ดอกหญ้าของไม้กวาด Sweepy ติดทนก็เพื่อยืดระยะเวลาการใช้ให้นานขึ้นถึง 1-2 ปี ซึ่งหากมองในระยะยาว การซื้อสินค้าราคาแพงหนึ่งครั้งแล้วใช้เนิ่นนานอย่างคงทนจะถูกกว่าการซื้อสินค้าราคาถูกแต่ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ

วิธีคิดนี้เป็นแนวคิดของเศรษฐกิจหมุนเวียน (circular economy) ที่สนับสนุนสินค้าซึ่งมีอายุการใช้งาน (product lifespan) นานเพื่อลดคาร์บอนฟุตปรินต์จากการทิ้งของไม่ใช้แล้วให้กลายเป็นขยะ โดยสามารถสนับสนุนตั้งแต่ต้นน้ำให้ธุรกิจผลิตสินค้าที่มีคุณภาพไปจนถึงเผยแพร่ให้ลูกค้าตระหนักรู้ถึงการช้อปปิ้งที่คำนึงถึงความยั่งยืน และตูนก็อยากส่งต่อแนวคิดนี้ให้คนใช้ไม้กวาด Sweepy 

“เราเน้นเรื่องของคุณภาพและความคุ้มค่า ออกแบบของใช้ที่ใช้งานได้นานให้คุ้มกับคนใช้ให้ได้มากที่สุด ไม่ต้องทิ้งบ่อย ราคาที่เราตั้งออกมาก็คำนึงถึงวัสดุและต้นทุนการผลิตที่มีกระบวนการซับซ้อนและมีหลายขั้นตอน สำหรับให้คนที่ชอบงานดีไซน์ คนที่ทำความสะอาดบ้านเองและคนที่อยากแต่งบ้านให้สวย ได้สิ่งที่ดีที่สุด”

เสน่ห์ของไม้กวาดดอกหญ้าที่ใช้งานไปนานนับปีคือสีของดอกหญ้าที่ค่อยๆ เปลี่ยนสีจากการแก่ตัวลง “ประทับใจภาพที่ลูกค้าส่งมาให้ดูมาก จากตอนซื้อใหม่ที่ดอกหญ้าเป็นสีเขียวสดแล้วเขาใช้นานเป็นระยะเวลาปีกว่าจนดอกหญ้ากลายเป็นสีเหลือง เขาก็ยังใช้งานได้อยู่และใช้ไม้กวาดได้อย่างคุ้มค่าจริงๆ เหมือนเวลาเราออกแบบบ้านไม้ ที่พอเริ่มแก่มันก็ยิ่งสวย ยิ่งมีคุณค่า”

Place & Promotion
Stories That Sell

แต่เพราะการขายราคาสูงกว่าไม้กวาดเจ้าอื่นๆ ในตลาดนี้เองที่ทำให้แบรนด์ Sweepy มีความท้าทายในการสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจว่าทำไมสินค้าในราคานี้ถึงคุ้มค่าเมื่อซื้อไป 

ปัจจุบัน Sweepy ขายผ่านหลากหลายช่องทาง ทั้งช่องทางออนไลน์ของแบรนด์, e-Marketplace และยังวางขายที่ห้างสรรพสินค้าอย่างร้านโฮมโปร บุญถาวร รวมถึงส่งออกไปต่างประเทศ ซึ่งตูนบอกว่ากว่าจะขยายช่องทางการขายอย่างมั่นคงได้จนถึงทุกวันนี้ การเริ่มขายไม้กวาดมีดีไซน์เป็นเจ้าแรกๆ นั้นไม่ง่ายเลย

“มันยากมากในตอนแรก ลองเอาไปขายที่ตลาดตามคอมมิวนิตี้มอลล์และตลาดงานคราฟต์ต่างๆ ช่วงแรกก็ยังไม่มีใครสนใจ ถ้าขายออนไลน์ เวลาลูกค้าเห็นแค่ราคาและรูปแล้วต้องตัดสินใจซื้อเลย มันก็ท้าทายในการขาย

“หรือเวลาไปซื้อที่โฮมโปร ลูกค้าอาจจะเห็นแค่สินค้าแต่ไม่เห็นกระบวนการทำที่มัดดอกหญ้า หรือไม่เห็นเรื่องราวว่าทำไมถึงออกแบบมาเป็นแบบนี้ ทำให้เวลาไปแขวนกับไม้กวาดที่ราคา 80 บาท การจะทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อในราคาที่เราขายก็จะเป็นเรื่องที่ท้าทายมากที่สุด”  

สิ่งที่ตูนทำเพื่อให้ลูกค้าเข้าใจว่าสินค้ามีคุณภาพและเปิดใจอยากใช้คือการเล่าเรื่องราวกระบวนการผลิตและทำให้คนเห็นภาพคอนเซปต์ของแบรนด์ให้ได้มากที่สุด ซึ่งแม้จะเน้นเล่าเรื่องทางโซเชียลมีเดีย แต่ก็เป็นการสร้างแบรนด์ที่ทำให้การขายในทุกช่องทางเป็นไปด้วยดีตามไปด้วย

 “คอนเซปต์แรกที่อยากสื่อสารคืออยากให้สินค้าเราเป็นของขวัญได้ อยากสร้างภาพลักษณ์ให้ไม้กวาดไม่ใช่สิ่งที่สกปรก ให้ลูกค้ามองเห็นว่าการใช้ไม้กวาดเป็นการ cleaning your soul เห็นภาพไม้กวาดของเราอยู่ที่บ้านของเขาให้ได้มากที่สุดว่าจะอยู่มุมไหนของบ้าน มองไม้กวาดเป็นเหมือนงานศิลปะที่วางตั้งโชว์ไว้ในบ้านมากกว่าเป็นสิ่งของที่แอบอยู่ในตู้และไม่สามารถโชว์ได้ สิ่งนี้สำคัญในการสื่อสารทั้งกับลูกค้าใหม่และกับคนที่เคยใช้แล้วให้กลับมาซื้ออีกเพราะเขาสามารถซื้อให้เพื่อนเพื่อเป็นของขวัญได้”  

ในอนาคตตูนอยากพาไม้กวาด Sweepy โกอินเตอร์ให้ไปไกลกว่าเดิม “อยากพาไม้กวาดของเราให้ไปไกลกว่าประเทศไทยและไปได้ไกลที่สุด ให้คนรู้จักมากขึ้นในหลายประเทศและเข้าใจว่ามันดียังไง เราเลยพยายามที่จะคุมคุณภาพของการทำไม้กวาดนี้ให้ดีมากกว่าการพัฒนาสินค้าอื่น ถ้าเรามีสินค้าที่เราถนัด ก็อยากทำสิ่งที่ทำอยู่ให้ดีที่สุด”

Planet 
Refill Broom to Declutter the Planet 

ตูนแย้มว่าในอนาคตอันใกล้นี้มีแพลนที่จะเปิดตัวไม้กวาดรุ่นใหม่ที่สามารถรีฟิลดอกหญ้าได้ ความพิเศษของรุ่นนี้คือจะมีชิ้นส่วนไม้กวาดสำหรับให้ลูกค้านำไปประกอบเองได้ที่บ้าน มีทั้งส่วนด้ามและดอกหญ้า ซึ่งหากดอกหญ้าหมดเมื่อไหร่ก็สามารถซื้อรีฟิลใหม่เฉพาะดอกหญ้าได้ 

นอกจากจะช่วยสนับสนุนด้านความยั่งยืนแล้วยังช่วยอำนวยสะดวกด้านโลจิสติกส์เวลาส่งไม้กวาดไปขายยังต่างประเทศอีกด้วย ซึ่งไม้กวาดรุ่นรีฟิลของแบรนด์รุ่นนี้ได้เริ่มขายล่วงหน้าไปก่อนแล้วที่อเมริกาและกำลังได้รับความสนใจอย่างมาก

“สำหรับรุ่นรีฟิลเราทำเพราะอยากลดการทิ้งให้น้อยลงและทำมาให้คนที่ไม่อยากทิ้งไม้กวาดบ่อยๆ หรือสนใจเรื่องโลกร้อนเหมือนกัน ส่วนใหญ่ไม้กวาดจะทำมาจากพลาสติก แบรนด์ Sweepy ก็อยากสนับสนุนความยั่งยืนให้ได้มากที่สุดด้วยการใช้วัสดุจากธรรมชาติเพื่อทำโลกให้สะอาดขึ้นและน่าอยู่ขึ้น”  

ภาพในฝันของ Sweepy ไม่ใช่ความฝันยิ่งใหญ่ระยะยาวแต่เป็นการ clean planet ในทุกๆ วันทั้งการทำความสะอาดในบ้านและโลกนอกบ้าน ไปจนถึงทำความสะอาดใจ  

คอนเซปต์ของ Sweepy มาจาก motto ที่ว่า เวลาเรากวาดบ้านให้สะอาด ใจก็สะอาดขึ้นด้วย หรือในทางกลับกันถ้าเริ่มจากใจเราสะอาดและมีสินค้าที่เราเห็นแล้วสบายใจ ก็จะอยากมีบ้านและห้องที่สะอาดสำหรับต้อนรับเพื่อนมากินข้าวหรือว่ามานั่งเล่น จัดบ้านได้อย่างสบายใจ” 

ความภาคภูมิใจของตูนคือการเป็นดีไซเนอร์ไทยที่ทำไม้กวาดแบรนด์ไทย สิ่งที่เขาได้เรียนรู้จากการทำบริษัท สะอาดใจ จำกัด ก็คือ “ถ้าเรามีไอเดียอะไรที่ดีต่อโลกก็ให้ทำออกมาเลยโดยไม่ต้องกลัวมัน มันไม่มีอะไรที่เป็นสูตรสำเร็จแล้วตลอดไป อย่างไม้กวาดเราก็ยังสามารถเอามาทำให้มันดีขึ้นได้ เอาไอเดียครีเอทีฟของเราออกมาใช้ให้ได้มากที่สุดแล้วมันก็แก้ปัญหาให้โลกนี้ได้

“ถ้าเราช่วยกัน clean โลกใบนี้ ก็จะช่วยสร้างการตระหนักรู้ที่ดีต่อโลกได้”   

ข้อมูลติดต่อ
Facebook : Sweepy by SAJ

Writer

Craft Curator, Chief Dream Weaver, Lifestyle Columnist, Editor-in-Cheese, Design Researcher 'Instagram : @rata.montre'

Photographer

ช่างภาพที่สนุกกับการแต่งตัว อยู่กับเสียงเพลง และหลงรักในความทรงจำ Ig : mocfirst

You Might Also Like