นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการใช้คุกกี้

บริษัท ทุนดี จำกัด (“บริษัท”) มีความจำเป็นต้องใช้คุกกี้ในการทำงานหลายส่วนของเว็บไซต์เพื่อรับประกันการให้บริการของเว็บไซต์ที่จะอำนวยความสะดวกในการใช้บริการเว็บไซต์ของท่าน โดยบริษัทรับประกันว่าจะใช้คุกกี้เท่าที่จำเป็น และมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลของท่านโดยสอดคล้องกับกฎ หมายที่เกี่ยวข้อง และจะไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้แก่บุคคลอื่น เว้นแต่เป็นกรณีการใช้คุกกี้บางประเภทที่อาจดำเนินการโดยผู้ให้บริการภายนอก ทั้งนี้ เมื่อท่านเข้าใช้บริการเว็บไซต์ บริษัทจะถือว่าท่านรับทราบและตกลงนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้แล้ว โดยบริษัทสงวนสิทธิ์ในการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ตามแต่ละระยะเวลาที่บริษัทเห็นสมควร โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวผ่านทางเว็บไซต์นี้... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customized advertisements based on the pages you visited previously and to analyze the effectiveness of the ad campaigns.

การเดินทางของคนจีนช่วงตรุษจีน

มองกระแสชาวจีนอพยพครั้งใหญ่ช่วงตรุษจีน สูงเป็นประวัติศาสตร์กว่า 9,000 ล้านทริป

ภาพของชาวจีนที่เนืองแน่นในสนามบิน สถานีรถไฟ หรือแหล่งท่องเที่ยวในประเทศหรือนอกประเทศจำนวนมาก เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สะท้อนถึงการฟื้นตัวของวิกฤตเศรษฐกิจที่จีนกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ 

เป็นเรื่องปกติที่พบเห็นได้ในช่วงตรุษจีนของทุกปี นักวิเคราะห์หลายสำนักคาดการณ์ว่าในเดือนกุมภาพันธ์เศรษฐกิจจีนจะกลับมาฟื้นตัวต้อนรับปีมังกรได้อีกครั้ง สำหรับคนไทยเราอาจหยุดแค่ 3-5 วัน แต่สำหรับคนจีนที่เฉลิมฉลองเทศกาลชุนหยุนหรือตรุษจีนที่ยาวต่อเนื่องถึง 40 วัน สำหรับปีนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม – 5 มีนาคม ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เดินทางกว่า 189 ล้านคนเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 19.7% ถือเป็นการอพยพผู้คนครั้งใหญ่ที่สุดในโลก 

และหากถามว่าใครขับเคลื่อนการเดินทางครั้งนี้ แน่นอนว่าเป็นกลุ่มคนวัยรุ่น และคนทำงานที่ต้องการใช้วันหยุดเพื่อพักผ่อน กลับถิ่นฐานบ้านเกิด ซึ่งนับเป็น 2 ใน 3 ของนักเดินทางทั้งหมดในช่วงตรุษจีนปีนี้

โดยเมืองที่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในปีนี้คือ เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง เซินเจิ้น และกวางโจว นอกจากนี้เมืองฮาร์บินซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลน้ำแข็งและหิมะนานาชาติก็เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ได้รับความนิยมในปีนี้ 

ส่วนการเดินทางระหว่างประเทศ แม้ตัวเลขนักท่องเที่ยวจะยังต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด แต่ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแอและความต้องการผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป การเดินทางครั้งนี้ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดี โดยเฉพาะหลังจากจีนบรรลุข้อตกลงฟรีวีซ่ากับหลายประเทศ ทำให้การท่องเที่ยวของจีนร้อนแรงที่สุดในรอบ 5 ปี

‘เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยืนหนึ่งพร้อมรับนักท่องเที่ยวจีน’

เมื่อเร็วๆ นี้จีนได้บรรลุข้อตกลงการยกเว้นวีซ่ากว่า 23 ประเทศ ทั้งมาเลเซีย สิงคโปร์ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ สเปน รวมถึงไทย และจากการสำรวจของ Global Times พบว่า สิงคโปร์และไทยเป็นประเทศแรกๆ ที่ชาวจีนอยากมาเพื่อสัมผัสธรรมชาติและประเพณีที่สวยงาม โดยเฉพาะหลังวันที่ 1 มีนาคมซึ่งเป็นวันแรกของการฟรีวีซ่าในไทย ทางศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงประเมินไว้ว่า ปีนี้นักท่องเที่ยวจีนจะมาไทยมากเป็นอันดับ 1 อาจมีจำนวนราว 5,200,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มี 3,500,000 คน สำหรับมูลค่าการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีนอาจยังไม่สามารถทดแทนช่วงก่อนโควิดได้ เพราะค่าใช้จ่ายในการเดินทางยังสูง 

ในขณะเดียวกันทางฝั่งสิงคโปร์ที่ฟรีวีซ่าให้ชาวจีนอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 ที่กำลังจะมาถึง ทำให้จำนวนโรงแรมในสิงคโปร์ที่ถูกค้นหาและจองโดยชาวจีนเพิ่มขึ้นทันทีกว่า 340% ภายใน 1 ชั่วโมงหลังจากการประกาศนโยบายฟรีวีซ่า 

‘การเดินทางกระตุ้นเศรษฐกิจโลก’

โดยรวมแล้วตรุษจีนปีนี้จะมีการเดินทางสูงเป็นประวัติศาสตร์ถึง 9,000 ล้านทริป ซึ่งสูงกว่าปี 2566 เกือบ 2 เท่าที่มี 4,700 ล้านทริป เนื่องจากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาการเดินทางยังถูกจำกัดด้วยโรคระบาด สภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้ปีนี้ภาครัฐยื่นมือเข้ามาช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยว เพื่อสร้างแรงผลักดันในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งการสนับสนุนให้ประชาชนใช้จ่ายในท้องถิ่น หรือการเพิ่มจำนวนรถโดยสาร เที่ยวบิน และรถไฟเพื่อรองรับความต้องการที่มากขึ้น 

จากข้อมูลที่กล่าวไปข้างต้นทั้งหมด สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในไตรมาสแรก Cao Heping ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง คาดการณ์ว่าการใช้จ่ายในช่วงตรุษจีนจะช่วยกระตุ้นการเติบโตของ GDP ให้ประเทศได้มหาศาลในไตรมาสแรกซึ่งอาจเกิน 5.2%

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวยังมองว่า นักท่องเที่ยวจีนจะเป็นกุญแจสำคัญในการผลักดันการเติบโตธุรกิจท่องเที่ยวในปีนี้ จากข้อมูลข้างต้นเห็นได้ชัดว่าการเดินทางระหว่างประเทศจะเพิ่มขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่ช่วงตรุษจีน แต่ยังรวมไปถึงการจัดโอลิมปิก 2024 ณ ประเทศฝรั่งเศสที่จะเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมนี้

สุดท้ายแล้ว ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แม้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนยังไม่กลับมาเต็มที่ แต่ชาวจีนส่วนใหญ่ยังมีความมั่นใจว่าเทศกาลตรุษจีนปีนี้จะเป็นการเริ่มต้นที่ดี ซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกด้วย

ข้อมูลจาก

Writer

นักเขียนที่สนใจเรื่องธุรกิจ การตลาด และความเป็นไปในสังคม

Illustrator

บรรณาธิการศิลปกรรม Email: y.pongtorn@gmail.com

You Might Also Like