ทำไม 20 ตระกูลรวยสุดในเอเชียปีนี้ ไร้เงาตระกูลจีน และเศรษฐีอินเดียติดถึง 6 อันดับ
เว็บไซต์ Bloomberg จัดอันดับ 20 ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชีย ประจำปี 2024 ความน่าสนใจของปีนี้อยู่ที่ตระกูลมหาเศรษฐีจากจีนได้หายไปจากลิสต์ ไม่ติดแม้แต่อันดับเดียว
ในภาพรวม 20 อันดับของตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชียพบว่า 6 ใน 20 เป็นตระกูลจากอินเดีย นั่นหมายความว่าการกระจุกตัวของความมั่งคั่งและอำนาจในเอเชียกำลังเปลี่ยนไป เมื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนเริ่มชะลอตัว ที่ผ่านมาจีนเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียมานานหลายทศวรรษ และในปีนี้นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2020 ที่ตระกูลร่ำรวยจากจีนไม่ผิดโผ
แต่กลับเป็นอินเดียที่กำลังเคลื่อนไหวเพื่อแซงหน้าจีนอย่างรวดเร็ว และในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นอินเดียกลายเป็นตลาดหุ้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกแซงหน้าฮ่องกง
‘เหตุใดเศรษฐกิจจีนจึงชะลอตัว’
นับตั้งแต่เกิดโควิดจนถึงช่วงโควิดซา ชาวจีนก็ยังไม่กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ โดยเฉพาะเรื่องการใช้จ่าย ที่คนส่วนใหญ่ไม่กล้าใช้เงิน ต้องการเซฟเงินในกระเป๋าให้มากที่สุด ซึ่งผิดจากหลักที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าชาวจีนที่อัดอั้นจากช่วงโควิดจะใช้เงินเต็มที่
นอกจากนี้ยังมีหลายปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจจีนชะลอตัว ทั้งในเรื่องของการส่งออก ความต้องการของสินค้าจีนทั่วโลกก็ลดลง ประเทศที่เป็นคู่ค้าลดการนำเข้าสินค้าจีน อัตราการว่างงานที่สูงเป็นประวัติการณ์ และมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ในประเทศตกต่ำ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อความมั่งคั่งของตระกูลเก่าแก่ของจีน ทำให้หลายธุรกิจไม่ติดโผในปีนี้
‘อินเดียจะแซงจีนได้หรือไม่’
ปัจจุบันอินเดียขึ้นแท่นการเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกประมาณ 1,428 ล้านคน แซงหน้าจีนที่มีประชากร 1,425 ล้านคน และอินเดียเป็นประเทศที่มีคนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเกือบครึ่งของประชากรทั้งหมด (ประมาณ 714 ล้านคน) ซึ่งมากกว่าไทย 6 เท่า
ด้วยตัวเลข GDP ในปี 2023 ที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 6.3% จนถึงปี 2030 ซึ่งนับว่าสูงที่สุดในกลุ่มประเทศสมาชิก G20 และธนาคารโลกคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจอินเดียจะโต 6.6% ซึ่งดีที่สุดในกลุ่มประเทศชั้นนำ นอกจากนี้อินเดียยังเป็นประเทศที่มีสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นมากถึง 106 บริษัท ถือเป็นประเทศที่มียูนิคอร์นมาเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐฯ และจีน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่อินเดียเป็นที่หมายปองของแบรนด์ต่างชาติมากมาย
อย่างไรก็ตาม จากการวิเคราะห์ของเว็บไซต์ Financial Review ระบุว่า อินเดียอาจไม่สามารถเป็นมังกรผงาดแบบจีนได้ในเร็วๆ นี้ เพราะมีข้อจำกัดในหลายด้านเรื่องการจ้างงาน สุขภาพ การศึกษา และอาหาร รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานซึ่งเมื่อเทียบกับจีน ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ในขณะที่อินเดียยังต้องพึ่งพาภาคเอกชนเป็นหลัก
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลจากศูนย์เฝ้าระวังเศรษฐกิจอินเดีย บอกว่า คนวัยทำงานส่วนใหญ่ (60%) ไม่ต้องการทำงาน และเข้าสู่ระบบการจ้างงาน เนื่องจากความล้มเหลวของนโยบายด้านการศึกษาที่ทำให้นักศึกษาจบใหม่ว่างงาน หรือไม่ได้งานตามความถนัด
เมื่อไหร่อินเดียจะแซงหน้าจีน?
มีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน เปิดเผยว่า อินเดียจะแซงจีนได้ในอีก 30 ปีข้างหน้ากว่าที่ขนาดเศรษฐกิจอินเดียจะแซงหน้าจีน และทางจีนเองก็พัฒนาอยู่ตลอดเวลา โดยจะเห็นได้จากการที่จีนก็พยายามเปลี่ยนภาพลักษณ์จากการเป็นประเทศที่ผลิตสินค้าเลียนแบบ เป็นประเทศเจ้าของเทคโนโลยีหรือนวัตกรรม เพื่อเพิ่มมูลค่าให้สินค้าและบริการของตัวเอง
นอกจากนี้ยังมีเรื่องการปกครอง จำนวนประชากร และค่านิยมของคนจีนที่ทำงานหนักและทำอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นจุดแข็งที่ทำให้จีนแข่งขันกับสหรัฐฯ ได้
และในงานวิจัยดังกล่าว ยังยืนยันอย่างหนักแน่นว่าการที่อินเดียจะแซงหน้าจีนเป็นไปได้ยากมากๆ หรือถ้าเป็นไปได้จริง ก็อาจไม่ใช่เร็วๆ นี้
สำหรับผลการจัดอันดับ 20 ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชีย พบว่า ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชียอันดับ 1 ตกเป็นของตระกูลอัมบานี (Ambani) จากอินเดีย เจ้าของเครือข่ายธุรกิจ Reliance Industries ที่กระจายอยู่ในหลายอุตสาหกรรมทั้งธุรกิจปิโตรเคมี โรงกลั่นน้ำมัน โทรคมนาคม เครือข่ายมือถือ ค้าปลีก และบริษัทด้านสื่อและโฆษณา ที่มีมูลค่าทรัพย์สินรวมกว่า 102.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
อันดับ 2 คือ ตระกูลฮาร์โตโน่ (Hartono) จากอินโดนีเซีย ผู้ผลิตบุหรี่รายใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซีย และยังลงทุนในธนาคารกลางแห่งเอเชีย มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 44.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
อันดับ 3 คือ ตระกูลมีทรี (Mistry) จากอินเดีย เจ้าของบริษัท Shapoorji Pallonji Group ที่ลงทุนในหลายธุรกิจ โดยเฉพาะวิศวกรรมและก่อสร้าง อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งในการก่อสร้างธนาคารกลางอินเดียในมุมไบ และพระราชวัง Al Alam สำหรับสุลต่านแห่งโอมาน มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 36.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
อันดับ 4 คือ ตระกูล Kwok จากฮ่องกง ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดในฮ่องกง มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 32.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
อันดับ 5 คือ ตระกูลเจียรวนนท์ จากไทย เจ้าของกลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ หรือซีพี ที่ครอบคลุมธุรกิจหลากกลุ่ม ทั้งอาหาร ค้าปลีก และโทรคมนาคม มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 31.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในส่วนของรายละเอียดอื่นๆ ดูได้จากลิงก์นี้ www.bloomberg.com/features/asia-richest-families-2024-list
จากลิสต์ดังกล่าวจะเห็นได้ชัดเจนว่า ขั้วมหาอำนาจของเอเชียที่มาแรงในปัจจุบันคือ อินเดีย ที่กำลังเร่งเดินหน้า ขับเคี่ยวมูลค่าเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธว่าจีนยังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอิทธิพล เพียงแค่ตอนนี้ยังต้องรอเวลาฟื้นตัวให้กลับมาสดใสดังเดิม ซึ่งก็เป็นไปได้ว่าในปีต่อไปตระกูลที่ร่ำรวยจากจีนจะกลับมาติดอันดับอีกครั้ง
ข้อมูลจาก
- bloomberg.com/features/asia-richest-families-2024-list/
- longtunman.com/23776
- องค์การสหประชาชาติ (UN)
- afr.com/companies/financial-services/can-india-replace-china-as-the-new-engine-of-global-growth-20240117-p5exxr