ยอ ‘โบรา’ เซโย

Bora Korean Mart ซูเปอร์มาร์เก็ตเกาหลี ที่เปิดร้านเพียงแค่ 2 ปี แต่มีสาขามากถึง 60 สาขา

Bora (โบรา) ในภาษาเกาหลีแปลว่า สีม่วง

และสีม่วงนี้เองคือสีที่ถูกโฉลก และกลายมาเป็นสีประจำบริษัท สีประจำแบรนด์ของร้านที่อยู่ตรงหน้าเรานี้ ร้านขนาดหนึ่งคูหา ที่หน้าร้านตกแต่งตามเทศกาลอย่างวัยรุ่น มีคำภาษาเกาหลีแปะอยู่ที่กระจกมากมาย

มองไปด้านขวาก่อนที่จะกดเปิดประตูเข้าไปในร้าน ก็จะเห็นชื่อร้านเป็นภาษาเกาหลีและอังกฤษ โดดเด่นอยู่อ่านได้ว่า Bora Korean Mart (โบรา โคเรียน มาร์ท) เสียงเพลงฮิตติดหูของหลากหลายศิลปินที่คลอไปตลอดช่วยสร้างบรรยากาศระหว่างการเลือกซื้อสินค้าในร้านได้อย่างดี และไม่ต้องบอกเลยว่าร้านนี้ขายสินค้าอะไร หลายๆ คนก็น่าจะรู้คำตอบ

Bora Korean Mart คือซูเปอร์มาร์เก็ตเกาหลีที่มีสินค้าครอบคลุมตั้งแต่ขนม, เครื่องดื่ม, เครื่องปรุง, อาหารแช่แข็ง, อาหารพร้อมทาน ไปจนถึงของใช้ต่าง ๆ ที่นำเข้าจากเกาหลีใต้โดยเฉพาะ มีโมเดลธุรกิจแบบแฟรนไชส์ ตอนนี้กำลังเข้าสู่ปีที่ 3 กับจำนวนร้านสาขาที่มีมากถึงประมาณ 60 สาขา

เราชวน โบ–ภัทรพร จิรัญญกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท พี เอส เอ็น อินเตอร์ฟู้ด จำกัด และหนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์ซูเปอร์เกาหลี ‘โบรา โคเรียน มาร์ท’ มาพูดคุยถึงการทำร้าน ตั้งแต่จุดเริ่มต้น โมเดลธุรกิจ เทคนิคที่ใช้มัดใจลูกค้า ไปจนถึงทิศทางข้างหน้าของโบรา โคเรียน มาร์ทในขวบปีต่อๆ ไป

ซูเปอร์เกาหลีสีม่วงที่เปิดสาขาแรกในช่วงโควิด

แรกเริ่มเดิมทีธุรกิจดั้งเดิมของโบและที่บ้านคือโรงงานผลิต นำเข้า-ส่งออกขนม และอาหาร รับจ้างผลิต OEM ส่งขนมตามร้านกาแฟ และโรงแรมชื่อดัง 

จากต้นทุนที่ต่อยอดจากธุรกิจดั้งเดิมมีพร้อมแบบไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ บวกกับความชอบของตัวเองและน้องสาว (ที่ตอนนี้น้องสาวแต่งงานกับชาวเกาหลี และไปอาศัยอยู่ที่ประเทศเกาหลี) ที่ชื่นชอบเกาหลีทั้งอาหาร ศิลปิน ซีรีส์ ไปจนถึงวัฒนธรรมเกาหลี จึงเกิดไอเดียในการเปิดร้านซูเปอร์มาร์เก็ตเกาหลีขึ้น และใช้ชื่อว่า Bora Korean Mart

“เรามีต้นทุนอยู่แล้ว เรารู้จักทั้งโรงงานผลิตขนม บริษัทต่างๆ มากมาย นอกจากแค่นำเข้า-ส่งออกสินค้าแล้ว ก็น่าจะมาทำหน้าร้านของเราเองบ้าง ประกอบกับน้องสาวมีบริษัทอยู่ที่เกาหลี เขาสามารถ sourcing สินค้า ติดต่อบริษัทที่เกาหลีให้ได้  และการมองเห็นเทรนด์ต่างๆ ของเกาหลีได้รวดเร็ว เลยเป็นจุดเริ่มต้นของการทำร้านโบราขึ้น”

ปลายปี 2563 โบรา โคเรียน มาร์ท จึงเกิดขึ้น มีสาขาแรกอยู่ที่สาทรซอย 10 เป็นร้านขนาดไม่ใหญ่ชั้นเดียว 1 คูหา แต่เต็มไปด้วยสินค้านำเข้าจากเกาหลีมากมาย มีกิมมิกคือ ที่ร้านมีเครื่องต้มเหมือนที่เกาหลี ใครอยากกินรามยอนถ้วยฟอยล์ก็ไม่ต้องไปถึงแม่น้ำฮัน เพราะเค้ามีบริการต้ม พร้อมมุมโต๊ะเก้าอี้หน้าร้านให้นั่งทานได้เลย

แต่หากย้อนกลับไป โบรา โคเรียน มาร์ท เปิดตัวในช่วงที่โควิด-19 กำลังระบาดพอดี โบบอกกับเราว่าที่จริงไม่ได้ตั้งใจเปิดร้านช่วงโควิด-19 แต่ตามแพลนที่วางไว้คือช่วงปลายปี และโควิด-19 รอบใหม่ก็มาพอดี แต่ก็ยังตัดสินใจเปิดร้านตามแพลนที่วางไว้

“ผลตอบรับในช่วงเปิดสาขาแรกดีกว่าที่คาดไว้นะ ลูกค้าค่อนข้างให้ความสนใจ บางคนก็แวะมาถ่ายแค่หน้าร้านอย่างตื่นเต้น ซึ่งอาจจะเพราะโดนล็อกดาวน์ ห้ามเดินทางเป็นปัจจัยประกอบด้วย”

โมเดลธุรกิจแบบแฟรนไชส์ 
อยากเปิดร้านจะต้องมีความเป็น ‘ติ่ง’ ด้วย

ถ้าจะบอกว่าโบรา โคเรียน มาร์ท เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตเกาหลีที่มีสาขามากสุดในไทยก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะจากวันแรกนับจนถึงตอนนี้ที่แบรนด์โบรากำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 เราเห็นสาขาใหม่ของร้านเกิดขึ้นมากมาย ทั้งในกรุงเทพฯ และตามหัวเมืองในต่างจังหวัด รวมๆ แล้วตอนนี้มีประมาณ 60 สาขา ผ่านโมเดลการขยายธุรกิจแบบแฟรนไชส์ 

จริงอยู่ที่ว่าความท้าทายของการทำธุรกิจแบบแฟรนไชส์คือ ความมีมาตรฐานที่ต้องควบคุมให้เหมือนกันทุกสาขา เพราะหากสาขาใดสาขาหนึ่งไม่ได้มาตรฐานย่อมกระทบทั้งหมด ความประทับใจของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ก็จะลดน้อยลง 

แต่สำหรับโบแล้วเธอบอกกับเราว่า “เราวางแนวทางการทำธุรกิจมาร์ตเกาหลีในรูปแบบแฟรนไชส์ตั้งแต่แรกเริ่ม โดยสาขาสาทรเป็นสาขาที่บริษัทบริหารเอง และเป็น role model ให้กับสาขาอื่นๆ ที่หากใครอยากเปิดร้านไม่ใช่แค่หาทำเลที่เหมาะและมีเงินพร้อมเท่านั้น แต่ต้องมีความเป็นติ่งด้วย”

ติ่งในที่นี้ของโบคือความชื่นชอบและสนใจวัฒนธรรมเกาหลี เพราะจะทำให้เราสามารถเข้าใจและเข้าถึงสินค้าชนิดนั้นๆ ได้อย่างรวดเร็ว 

“แม้โบราจะทำโมเดลแฟรนไชส์ มีสาขาเยอะ แต่เรามีการคัดเลือกคน เราเทรนพนักงาน เรามีมาตรฐานให้ทุกอย่าง ไปจนถึงการเลือกรับพนักงานเข้ามาทำในร้าน ถ้าสังเกตแต่ละสาขาพนักงานของโบราก็จะดูวัยรุ่นหน่อย เพราะพนักงานเหล่านี้จะตามเทรนด์สินค้า มีความเป็นติ่งในตัวค่อนข้างดี รู้จักสินค้าหลากหลาย บางทีสินค้ามาถึงร้านแทบจะไม่ต้องอธิบายเลยว่าสินค้าคืออะไร เขาก็รู้กันหมดแล้ว เพราะดูซีรีส์ รู้จักศิลปินเกาหลี

“แฟรนไชส์โบราค่อนข้างอิสระไม่ได้มีการกดดันเป้ายอดขายใดๆ ขึ้นอยู่กับเจ้าของร้านนั้นว่าจะขายได้มากน้อยแค่ไหน แต่ขอแค่สั่งสินค้าจากเราเท่านั้น เราเป็นคนเซตระบบ เตรียมความพร้อมให้เป็นมาตรฐานให้เหมือนกันทุกสาขา ซึ่งนอกจากขายหน้าร้านสาขาแล้ว ยังให้อิสระในการขายผ่านช่องทางออนไลน์ด้วยเหมือนกัน”

จุดแข็งคือสินค้าเอกซ์คลูซีฟ

เมื่อเดินเข้าร้านมาเราจะเห็นตั้งแต่ขนม ลูกอม มันฝรั่งทอด สาหร่าย ขนมกรุบกรอบ อยู่บนเชลฟ์ทางซ้ายครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของร้าน ถัดไปเชลฟ์ด้านขวาก็มีสารพัดเครื่องปรุง วัตถุดิบ อุปกรณ์ครัว ไปจนเชลฟ์รามยอนที่มีให้เลือกมากกว่า 40 รสชาติวางเรียงรายอยู่  มองไปด้านหลังของร้านมีของแช่แข็ง อาหารพร้อมทาน เครื่องดื่มต่างๆ ให้เลือกซื้ออย่างครบครัน

โบมั่นใจว่ามีครบมากที่สุดแล้ว สิ่งที่ทำให้โบรา โคเรียน มาร์ท แข่งขันในตลาดมาร์ตเกาหลีที่มีทั้งรายเล็กรายใหญ่คือ มีสินค้าเอกซ์คลูซีฟที่ไม่มีที่ร้านอื่น

“เรามีสินค้าที่ไม่เหมือนใคร เป็นสินค้าเอกซ์คลูซีฟที่มีเฉพาะโบรา และมีแบรนด์ของตัวเองที่สั่งผลิตขึ้น นี่คือจุดแข็งที่ยังอยู่ในตลาดและสู้กับเจ้าอื่นได้”  

ภายในร้านโบรา โคเรียน มาร์ททุกสาขา หากลองสังเกตจะมีสินค้า house brands อย่าง Kory Up แบรนด์สินค้าสไตล์เกาหลีที่มีทั้งขนม อาหาร และเครื่องปรุงที่สั่งผลิตขึ้นมาเอง มีทั้งที่ผลิตในไทยและเกาหลีโดยพัฒนาสูตรให้มีความอร่อยถูกปากคนไทยมากที่สุด และสามารถควบคุมต้นทุนราคาได้ดี ซึ่งเป็นข้อดีที่ได้เปรียบกว่าร้านอื่นๆ 

ส่วนสินค้าที่มีในร้านก็คัดเลือกแต่สินค้าที่คัดมาแล้วว่าอร่อย ซึ่งกว่าจะมีสินค้าเยอะขนาดนี้ ทั้งโบและน้องสาวผ่านการชิมสินค้าเกาหลีมามากมายนับไม่ถ้วน

“สินค้าเกาหลีบางรสชาติอาจถูกปากคนเกาหลีและขายดีมากๆ แต่สำหรับคนไทยรสชาติอาจจะไม่ถูกปากก็ได้ เพราะฉะนั้นสินค้าทุกชนิดในร้านต้องผ่านการชิมก่อนทุกครั้ง เพราะสินค้าที่เอาเข้ามาแล้วต้องขายได้ ยกตัวอย่างลูกอมโสมที่เกาหลีขายดีมาก แต่พอลองชิมแล้วก็รู้สึกว่าอาจจะไม่เข้ากับคนไทยเท่าไหร่ 

“อีกหนึ่งสิ่งที่ผู้คนจดจำโบราได้ดีคือแบรนด์ ‘Gimbab King’ แบรนด์ข้าวห่อสาหร่ายสไตล์เกาหลีหรือที่หลายคนเรียกว่าคิมบับไส้แน่น ที่เริ่มทำก่อนเปิดร้านโบราได้ 6 เดือน ใช้ต้นทุนจากการที่เรามีโรงงานผลิต ผลิตคิมบับออกมาสดใหม่ทุกวัน รสชาติอร่อยตามสูตรแบบฉบับเกาหลีของทางร้าน ซึ่งจะมีวางขายแค่เฉพาะที่หน้าสาขาทุกสาขาเท่านั้น”

เทคนิคที่ใช้มัดใจลูกค้า

สำหรับหัวใจสำคัญของการทำมาร์ตเกาหลี โบบอกว่ามีด้วยกัน 2-3 เรื่องคือ ความซื่อสัตย์จริงใจต่อลูกค้า ที่เป็นพื้นฐานหลักในการทำธุรกิจ, คุณภาพของสินค้า ที่ต้องมีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และที่สำคัญต้องอร่อย, คนที่เป็นเจ้าของและพนักงานต้องมีใจรักการบริการเพราะการสื่อสารและพูดคุยแนะนำสินค้าเป็นเรื่องสำคัญ

“จริงๆ ช่วงแรกก็มีเฟลเหมือนกันนะ เปิดร้านมาเจอคู่แข่งดัมป์ราคาถูกมาก แต่เรารู้สึกว่าการเล่นเกมราคาสุดท้ายมันจะไม่เวิร์กกับร้านเอง เราเลยเลือกที่จะแข่งขันเรื่องคุณภาพสินค้าและความหลากหลายมากกว่า ส่วนเรื่องราคาก็อยู่ในระดับใกล้เคียงกันที่สามารถทำกำไรได้”

สิ่งที่เราเห็นคือ โบรา โคเรียน มาร์ท  มัดใจลูกค้าด้วยโปรโมชั่น ทำการตลาดกับสินค้าที่มีศิลปินดังเป็นพรีเซนเตอร์บ่อย จัด Black Friday ตามเทศกาล หรือการทำ CRM ระบบสะสมแต้ม แลกของรางวัลที่นอกจากลูกค้าจะได้ประโยชน์จากการช้อปสินค้าแล้ว ร้านเองก็ได้ดาต้ามาปรับปรุง พัฒนาร้าน หาสินค้าที่ตรงความต้องการลูกค้าได้ง่ายขึ้น

ร้านจะอยู่ได้ต้อง ‘ใหม่’ ตลอดเวลา

การทำร้านให้อยู่ได้ โดยไม่ใช่แค่ตามเทรนด์ คือต้องทำให้ร้านมีความใหม่ตลอดเวลา สิ่งที่ทำให้ร้านใหม่ และน่าเข้ามาช้อปสินค้าคือการมีสินค้าตัวใหม่มาเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า 

“พฤติกรรมของคนเกาหลีกับคนไทยที่เหมือนกันคือ การมาเร็วไปเร็ว เพราะฉะนั้นสินค้าที่อยู่ในกระแสต้องรีบมีมาวางขาย ไม่ใช่ว่าลูกค้าเดินเข้ามาแล้วมีแต่สินค้าเก่า บางสินค้าที่ร้านนำมาคือชนกับที่เกาหลีวางขายเลย เพราะได้น้องสาวที่อยู่เกาหลีที่รู้กระแส รู้เทรนด์ค่อนข้างไว ก็จะรีบติดต่อหาสินค้ามาลงที่ร้าน”

จากตอนแรกเริ่มเดิมที โบรา โคเรียน มาร์ทมีขายแค่พวกขนมอย่างเดียว ก็เริ่มเพิ่มสินค้ากลุ่มอื่นๆ เข้ามา อย่างสินค้ากลุ่มบิวตี้ เครื่องครัว เครื่องปรุง ของแช่แข็ง อาหารพร้อมทาน คอลลาเจนต่างๆ ที่ลูกค้าสนใจ เพื่อให้ไม่จำเจ และสามารถ maintain ลูกค้าได้นั่นเอง

มาถึงวันนี้เมื่อย่างเข้าสู่ปีที่ 3 แม้ความตื่นเต้นของแบรนด์โบรา โคเรียน มาร์ท อาจจะไม่เท่าปีแรกๆ ซึ่งทุกอย่างยังใหม่ แต่สิ่งที่ชาเลนจ์คือการ maintain ลูกค้าให้ได้ เพราะฉะนั้นการมีสินค้าแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาตลอดจึงเป็นเรื่องสำคัญ

หลังจากนี้ โบรา โคเรียน มาร์ท อาจจะยังไม่มีแพลนขยายสาขาในประเทศเพิ่ม ส่วนแพลน 5-10 ปี ข้างหน้านั้นน่าจับตาเป็นพิเศษ เพราะแบรนด์ซูเปอร์มาร์เก็ตเกาหลีของคนไทยแบรนด์นี้วางแผนที่จะขยายสาขาไปเปิดในประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามและกัมพูชา

ด้วยความเข้าใจทุก element ของซูเปอร์มาร์เก็ตเกาหลี มีความเป็น specialty store ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ และที่สำคัญคือการรู้ว่าลูกค้าของตัวเองเป็นใครของโบและน้องสาว จึงไม่น่าแปลกใจว่าแม้จะมีซูเปอร์มาร์เก็ตเกาหลีเปิดใหม่มากมาย แต่ทำไมหากอยากกินอะไรตามอปป้าหรืออนนี่ในซีรีส์ หรือหากนึกถึงซูเปอร์มาร์เก็ตเกาหลีขึ้นมา

ซูเปอร์มาร์เก็ตเกาหลีสีม่วงอย่าง ‘โบรา โคเรียน มาร์ท’ จะเป็นชื่อแรกๆ ที่หลายคนนึกถึง

You Might Also Like