Set-Jetting เทรนด์ท่องเที่ยวตามรอยหนัง และ The White Lotus Effect ที่ทำยอดจองโรงแรมพุ่งกระฉูด

‘เรื่องราวฉิบหายวายป่วงของคนขาวมีสตางค์และพนักงานประจำรีสอร์ตที่พวกเขาไปพักผ่อน’ คือสิ่งที่หลายเว็บไซต์นิยาม The White Lotus ซีรีส์สั้นแบบจบในซีซั่นของ HBO ไว้แบบนั้น

ถ้าให้แนะนำต่ออีกสักหน่อยว่าจะเจออะไรอีกในซีรีส์เรื่องนี้ อาจจะขยายความต่อได้ว่าคุณจะเจอ มนุษย์ป้า วัยรุ่นปสด. ฆาตกรรม เซ็กซ์ การฉ้อโกง ความลับใต้เตียงของผัวเมีย และอีกความวายป่วงอีกมากมาย บอกเลยว่าถ้าคุณเลิฟดาร์กคอมเมดี้ ชอบขำกับสถานการณ์กระอักกระอ่วน มุกหน้าตาย และความโง่งมของคนขาว The White Lotus คือซีรีส์ที่จะโดนเส้นแน่ๆ

แต่พ้นไปจากเรื่องขำของคนขาว สิ่งหนึ่งที่ทำให้ The White Lotus เป็นกระแสคือการ ‘ตามรอย’ ของแฟนๆ ซีรีส์ที่ใช้คำว่าเป็นปรากฏการณ์ ไม่เพียงเท่านั้น โรงแรมของโลเคชั่นในเรื่องยังออกแคมเปญมาตอบรับซีรีส์เพื่อกระตุ้นให้คนอยากมาเพิ่มขึ้นอีก ถือเป็นกรณีตัวอย่างที่น่าจับตาสำหรับคนทำธุรกิจ

แต่ทำไม The White Lotus ถึงปลุกกระแสได้ปังขนาดนี้ได้ล่ะ

1. บทที่อ้างอิงจากเมืองท่องเที่ยว

เพราะเป็นซีรีส์ที่เล่าเรื่องเศรษฐีผิวขาวที่ถลุงเงินไม่อั้นไปกับช่วงเวลาพักผ่อน ประสบการณ์การเข้าพักใน The White Lotus จึงต้องพิเศษ และจริงมากพอที่จะทำให้คนดูเชื่อว่า นี่แหละคือทริปของคนรวย

ประสบการณ์แบบที่ตัวละครใน The White Lotus ได้รับไม่ต่างจากประสบการณ์การไปเที่ยวในโรงแรม 5 ดาวเชนดัง เริ่มตั้งแต่วิธีการเดินทางไปรีสอร์ตที่หรูหรา ตัวรีสอร์ตที่ตกแต่งได้โอ่อ่าเป็นเอกลักษณ์ การต้อนรับของพนักงานแสนเป็นมิตร ห้องพักที่น่าหมกตัวนอนทั้งวัน กิจกรรมที่สะท้อนวัฒนธรรมท้องถิ่นน่าตื่นตา ทั้งหมดถูกคิดและออกแบบให้กลายเป็น The White Lotus Experience ที่น่าอิจฉา อยากไปใช้ชีวิตแบบนั้นสักครั้ง

และแม้จะเป็นรีสอร์ตในจินตนาการ แต่ Mike White ผู้กำกับและทีมงานก็เขียนบทโดยกำหนดว่าโรงแรมนั้นตั้งอยู่ในเมืองที่มีอยู่จริง ซึ่งก็ได้ฮาวาย ซิซิลี และประเทศไทยตามลำดับซีซั่น

2. บินไปถ่ายโลเคชั่นจริง

ตอนที่ Mike White เลือกโลเคชั่นของแต่ละซีซั่น หนึ่งในเกณฑ์ของเขาคือเลือกเมืองที่ให้ความรู้สึกเชื่อมโยงกับธีมของซีซั่นนั้น อย่างซีซั่นแรก ธีมที่ไมค์อยากสื่อสารคือความร่ำรวยและการล่าอาณานิคมของคนขาว ไมค์จึงเลือกฮาวาย เกาะที่ประวัติศาสตร์การโดนล่าอาณานิคมมาเป็นแบ็คกราวด์ของเรื่อง 

ขณะที่ซีซั่น 2 เล่าเรื่องเซ็กซ์และเงินตรา เกาะซิซิลี ประเทศอิตาลีที่รุ่มรวยไปด้วยสีสัน ศิลปะ มีบรรยากาศแสนโรแมนติกเย้ายวนก็ตอบโจทย์ และเมื่อประกาศสร้างซีซั่น 3 ที่โฟกัสกับเรื่องจิตวิญญาณ ศาสนาแบบตะวันออก และความตาย โลเคชั่นที่ผู้กำกับมีอยู่ในใจคือญี่ปุ่นกับประเทศไทย และสุดท้ายก็เลือกบ้านเรา

เป็นเรื่องปกติสำหรับหนังหรือซีรีส์ที่ดูจบแล้วอยากไปตามรอยให้ได้สักครั้ง อันที่จริง ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีคำเรียกสำหรับการท่องเที่ยวแบบนี้โดยเฉพาะ คือคำว่า Set-Jetting ที่นักท่องเที่ยวดูหนังแล้วได้แรงบันดาลใจจนอยากไปเยี่ยมเยือนสถานที่ในหนังนั่นเอง 

เราพนันได้ว่าตอนทำ The White Lotus ไมค์ก็คิดถึงเรื่องนี้เหมือนกัน แต่อาจเพราะเป็นซีรีส์ที่แทบจะดำเนินเรื่องทั้งเรื่องในรีสอร์ตและในเมืองนั้นๆ ระหว่างที่ติดตามตัวละคร คนดูก็เหมือนได้ตามพวกเขาไปเที่ยวด้วย ที่สำคัญ ในทุกซีซั่นยังอัดแน่นไปด้วยภาพเมืองสวย วิวสุดตระการตา และวัฒนธรรมแสนรุ่มรวย   

พอซีรีส์เรื่องนี้ปล่อยฉายออกไป มันจึงเกิดสิ่งที่เรียกว่า The White Lotus Effect ขึ้น 

3.ปรากฎการณ์ The White Lotus

The White Lotus Effect คืออะไร ว่าง่ายๆ คือปรากฎการณ์ที่คนดูซีรีส์พากันเสิร์ชเกี่ยวกับรีสอร์ตและเมืองที่ไวท์โลตัสถ่ายทำ และแห่จองตั๋วและห้องพักกันให้พรึ่บหลังจากซีรีส์ออกฉาย อย่างในซีซั่นแรก  Four Seasons Resort Maui at Weilea ที่เกาะฮายวายก็มีผู้เข้าชมเว็บไซต์เพิ่มขึ้น 425% และมีอัตราจำนวนคนเช็กห้องว่างพุ่งสูงขึ้น 386% 

หลังจากซีซั่นแรกได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ชม ซีซั่น 2 ที่คราวนี้เลือกดำเนินเรื่องที่ The White Lotus สาขาอิตาลี Four Seasons San Domenico Palace รีสอร์ตเจ้าของโลเคชั่นก็รายงานว่ามียอดจองเข้ามาล่วงหน้า 6 เดือนเต็มหลังจากกอง The White Lotus เข้ามาถ่ายทำ ทำให้พวกเขาไม่สามารถเปิดรับจองเพิ่มได้อีกจนกว่าซีซั่น 2 จะฉายจบ นอกจากนี้ Expedia Group ยังบอกว่ามียอดเสิร์ชเกี่ยวกับ San Domenico Palace, Taormina, A Four Seasons Hotel และ Sicily เพิ่มขึ้นถึง 300% เลยทีเดียว

ประเทศไทยของเราก็ไม่น้อยหน้า เพราะตั้งแต่ HBO ประกาศว่าโลเคชั่นของ The White Lotus สาขาใหม่คือเกาะสมุย ภูเก็ต และกรุงเทพมหานคร ยอดค้นหาไฟล์ทใน Expedia จากเมืองนอกสู่บ้านเราก็พุ่งฉิว โดยเมืองที่มียอดสูงเป็นอันดับต้นๆ คือเชียงใหม่ ภูเก็ต และเกาะสมุย ไหนจะยอดเสิร์ช Four Seasons Resort Koh Samui หนึ่งในสถานที่ถ่ายทำที่เพิ่มขึ้น 65% บน Hotels.com

ไม่ได้มีแต่ลูกค้าเท่านั้นที่วิ่งเข้าหา แต่ธุรกิจบ้านเราก็ขายของกันฉ่ำ เช่น เครือโรงแรมอนันตรา (ในเรื่องมีการถ่ายทำที่ อนันตรา ไม้ขาว ภูเก็ต วิลล่าส์) ก็ขายแพ็คเกจ Lotus Awakening Escape ชวนให้แขกได้มาสัมผัสประสบการณ์แบบ The White Lotus ผ่านคอร์สอาหาร กิจกรรม สปา ทริปเที่ยวชมเมือง และห้องพักที่อนันตรา 3 สาขาในเกาะสมุยและภูเก็ต 

เครือ Four Seasons ที่เป็นโลเคชั่นเจ้าประจำของซีรีส์ก็ไม่น้อยหน้า เริ่มจาก Four Seasons Bangkok ที่ออกเซ็ต Afternoon Tea สุดเก๋ที่หยิบเอาเสน่ห์ของเกาะสมุยมาเป็นแรงบันดาลใจในการรังสรรค์ ให้คนที่มากรุงเทพฯ ได้สัมผัสประสบการณ์แบบไม่ต้องไปไกลถึงสมุย 

ยิ่งไปกว่านั้น ในอนาคตเครือ Four Seasons ยังมีแผนจะต่อยอดอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการออกทริป World of Wellness พาแฟนๆ The White Lotus 48 คนนั่งไพรเว็ตเจตไปกิน เที่ยว ทำกิจกรรมใน 8 จุดหมายปลายทาง รวมถึงเมืองที่ The White Lotus ไปถ่ายทำ 3 เมืองเพื่อให้ได้ประสบการณ์เหมือนในเรื่องอย่างเต็มอิ่ม

ถ้าจะพูดกันว่าซอฟต์เพาเวอร์ที่แท้จริงอย่างไร เราคิดว่า The White Lotus คือตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดที่สุด น่าสนใจว่า โลเคชั่นต่อไปของซีซั่นหน้าจะพาเหล่าเศรษฐีคนขาวเซ็ตใหม่ไปที่ไหนต่อ แล้วเศรษฐกิจในเมืองนั้นจะปังขึ้นได้แค่ไหน เพราะเรามั่นใจว่าจะมีคนดูไปตามรอยแน่นอน

อ้างอิง

Writer

นักอยากเขียนผู้รักทะเลและฤดูหนาวพอๆ กับหนังสุขซึ้ง สนใจประเด็น gender และเรื่องป๊อปทุกแขนง

Illustrator

บรรณาธิการศิลปกรรม Email: [email protected]

You Might Also Like