น้ำเต้าหู้ปูปลา

การสร้างแบรนด์ของ ‘น้ำเต้าหู้ปูปลา’ ที่อยากพาน้ำเต้าหู้เข้าห้างและยกระดับตลาดให้มีมาตรฐาน

เคยสงสัยกันไหมว่าเมืองไทยมีทั้งคาเฟ่และแบรนด์ชา กาแฟในห้างสรรพสินค้ามากมายแต่ทำไมเรามักพบร้านน้ำเต้าหู้ส่วนใหญ่แค่ตามร้านรถเข็นหรือร้านข้างทางเท่านั้น  ทำไมไม่ค่อยเห็นใครพาน้ำเต้าหู้เข้าห้างสรรพสินค้าหรือสร้างแบรนด์ดิ้งอย่างจริงจังทั้งๆ ที่เป็นเมนูสุดคุ้นเคยตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย

น้ำเต้าหู้ปูปลา’ เป็นคาเฟ่ของแนท–ภัณฑิรา ตรงชูเกียรติ Co-founder และทีมผู้ร่วมก่อตั้งที่มองเห็นโอกาสจากช่องว่างทางตลาดในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้น้ำเต้าหู้ด้วยคุณภาพและแบรนดิ้ง นอกจากเครื่องน้ำเต้าหู้แน่นๆ ที่เลือกท็อปปิ้งได้ตามใจแล้ว น้ำเต้าหู้ของที่นี่ยังมีกลิ่นหอมและเอกลักษณ์ของรสชาติที่หลายคนคุ้นเคยในตอนเด็ก มีชื่อแบรนด์ที่สะดุดหูและบรรยากาศในร้านที่สมกลิ่นอายความเก่าแก่แต่มีความสะดวกสบายแบบโมเดิร์น 

แนทเล่าว่าทีมลงมือศึกษาสูตรเองทั้งหมดในทุกกระบวนการจนทุกวันนี้น้ำเต้าหู้ปูปลาขยายเติบโตจนมีสาขาที่เปิดให้บริการทั้งหมด 5 สาขาคือสแตนด์อโลนที่ประตูผี สาขาป๊อปอัพที่เซ็นทรัลลาดพร้าว และสาขาในห้างอื่นๆ ที่ เมกาบางนา, สยามพารากอน และสามย่านมิตรทาวน์ ที่เพิ่งเปิดใหม่ล่าสุดสดๆ ร้อนๆ และยังมุ่งสร้างแบรนด์ต่อไปให้เป็นน้ำเต้าหู้ที่มีคนจดจำแบรนด์ได้     

จากประสบการณ์ส่วนตัวของแนทที่เคยทำมาทั้งแบรนด์กระเป๋าแฟชั่นและแบรนด์ข้าว เธอบอกว่าไม่ว่าสินค้าจะเป็นอะไร เคล็ดลับสำคัญคือทำสินค้าที่ดี แตกต่างแบบมีคุณภาพ ลงมือทำจริงและลงลึกในการรีเสิร์ชตลาด ถ้าสินค้าดี สร้างแบรนด์โดดเด่น ลูกค้าก็จะถูกใจและกลับมาอุดหนุนซ้ำเองเหมือนที่น้ำเต้าหู้ปูปลามีคนมากมายสนใจรีวิวร้านเองจนเป็นกระแสให้คนติดตามมากินอีกมากมาย  

ทุกวันนี้มีร้านขายน้ำเต้าหู้เยอะมาก ทำไมคุณถึงยังอยากเปิดร้านน้ำเต้าหู้

พอเราเห็นว่าคนทานเยอะ ไม่ว่าจะไปตลาดไหนก็มีขาย นั่นแปลว่าคนกินน้ำเต้าหู้ แต่เรายังไม่เคยเห็นแบรนด์น้ำเต้าหู้ที่ขายในห้างเลย ร้านที่เราเห็นเป็นหลักจะมีแค่คาเฟ่ชาหรือกาแฟ แต่เรายังไม่เคยเห็นคาเฟ่ร้านน้ำเต้าหู้เท่าไหร่ อันนี้ก็เป็นหนึ่งพอยต์หลักๆ ที่ทำให้เราอยากทำ

อีกสิ่งหนึ่งที่ทีมเห็นเหมือนกันคือถึงน้ำเต้าหู้จะมีขายทั่วไป แต่จริงๆ แล้วมันทำยากและเราก็ยังหารสชาติที่เราต้องการไม่เจอ ก็เลยอยากปรับจนได้แบบที่ต้องการและอยากยกระดับตลาดน้ำเต้าหู้ขึ้นมา อยากทำให้คนเห็นความสำคัญของมัน เพราะคนไทยไม่ค่อยให้ค่ากับน้ำเต้าหู้เท่าไหร่ แต่กระบวนการทำหรือว่าการเลือกวัตถุดิบต่างๆ มันจะมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ จริงๆ การทำน้ำเต้าหู้มันยากนะ ไม่ง่ายเลย

น้ำเต้าหู้ดูเป็นเมนูคลาสสิกที่หาทานได้ง่าย ทำไมคุณถึงมองว่าทำยาก  

เราพยายามคิดค้นสูตรที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเองที่แตกต่างจากคนอื่นแล้วยังถูกปากลูกค้าด้วย เลยไปค้นหาสูตรน้ำเต้าหู้ยาวนานกว่า 40 ปีจนได้ออกมาว่ารสชาติแบบนี้แหละที่พ่อเคยทานทุกวันแล้วพ่อยังชอบอยู่

เราคิดถึงความรู้สึกตอนเด็กๆ ที่ได้กินรสชาติเข้มข้น ไม่เจือจาง คล่องคอเลยอยากได้สูตรที่ทำให้หวนนึกถึงน้ำเต้าหู้ที่คุ้นเคยตอนเด็กๆ ซึ่งการทำน้ำเต้าหู้ให้เข้มข้นอยู่ที่องค์ประกอบทั้งหมดรวมกันเลย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเมล็ดถั่ว เพราะถั่วก็มีหลายชนิดตั้งเยอะตั้งแยะ เราจึงเริ่มตั้งแต่การคัดเลือกเมล็ดถั่วเลย คือต้องพิถีพิถันประมาณหนึ่ง เราต้องแช่ถั่วในน้ำ พอได้เวลาก็ต้องนำเข้าสู่กระบวนการถัดไป ต้องใช้อุณหภูมิคงที่ อย่างน้ำที่เราใช้ก็จะเป็นน้ำดื่ม ไม่ใช่น้ำประปา มันเป็นความพิถีพิถันที่ทำเองในทุกกระบวนการ

ทำไมถึงต้องลงมือทำเครื่องน้ำเต้าหู้

เราจะรู้ได้ไงว่าแปะก๊วยจะดีและไม่ขม มันก็ต้องเริ่มจากลองทำเองหลายทีมาก ถามคนนั้น ถามแม่ ถามเคล็ดลับต่างๆ วัตถุดิบที่ทำเองก็จะมีทับทิมกรอบที่เลือกสีเองด้วย อย่างลูกเดือยสุกไปหรือแข็งไปไหม มันต้องทดสอบทุกๆ อย่างว่าแบบนี้มันดีหรือยัง แล้วคนชอบไหม ไม่ใช่ไม่ใส่ใจแล้วแค่ต้มๆ ไปให้มันสุก มันจะมีรายละเอียดในวัตถุดิบ รวมถึงน้ำเต้าหู้ว่าเราต้องตั้งอุณหภูมิที่เท่าไหร่ ใช้กี่นาทีถึงจะได้สี รสชาติ กลิ่น ตามที่เราต้องการ 

สิ่งที่เราแตกต่างจากคนอื่นเลยคือฟองเต้าหู้ของเราที่ทำค่อนข้างใหญ่ เราไม่ได้ซื้อฟองเต้าหู้สำเร็จรูปมาทำ จะสัมผัสได้ถึงเทกซ์เจอร์ที่กินแล้วรู้ความแตกต่างเลย อย่างเผือกเราก็จะทำขนาดค่อนข้างใหญ่และมีคุณภาพ แตกต่างจากคนอื่นจริงๆ  ปาท่องโก๋เราก็ทำสดใหม่เองทุกวัน อันนี้คือจุดเล็กๆ น้อยๆ ที่แตกต่าง

ดังนั้นอีกจุดเด่นหนึ่งของเราคือเครื่องที่ใส่ให้เยอะมากแบบจัดเต็มเลย เมนูขายดีที่คนชอบก็จะเป็นเมนู ‘เลิฟเวอร์ งาดำ’ เพราะเราใส่ฟองเต้าหู้ที่ทำเองเป็นก้อนใหญ่ที่หาที่อื่นไม่ได้รวมกับน้ำเต้าหู้ เต้าฮวย และงาดำ ทุกคนจะชอบ ลูกค้ายังสามารถเลือกใส่เครื่องแบบ DIY เองได้ มีท็อปปิ้ง 30-40 อย่างให้เลือกมิกซ์แอนด์แมตช์ ชอบอันไหนก็ใส่ได้ แต่ถ้าสมมติคนที่ไม่อยากเลือก เราก็มีคิดเมนูร้อน-เย็นให้ว่ากินอันไหนแล้วเข้ากัน

กว่าจะได้สูตรที่พอใจ คุณผ่านอะไรมาบ้าง

เราศึกษาหาข้อมูล ทำรีเสิร์ชและทำการบ้านเยอะมาก เวลาเพื่อนบอกร้านนี้อร่อย ชอบร้านนี้ร้านนั้นร้านโปรด เราก็จะไปตามหาและทดลองทำน้ำเต้าหู้ทุกเสาร์-อาทิตย์ ทั้งแจกให้คนอื่นลองชิม หรือเททิ้งเวลาที่ออกมาไม่ดี เราลองมาหลายแบบมากๆ ทั้งแบบทดลองทำเองเล็กๆ ปั่นเอง นั่งบีบเอง แล้วก็ค่อยๆ ขยายเป็นซื้อเครื่องมาจนทำได้เยอะขึ้น ก็เริ่มจากให้คนใกล้ตัวชิมก่อน พ่อ แม่ ป้า แล้วก็ทำ blind taste ไปเรื่อยๆ ว่าชอบรสแบบไหนกันเพื่อที่จะได้ไม่ bias

การเตรียมตัว 1 ปีก่อนเปิดร้านที่ทำมาตลอดทั้งน้ำเต้าหู้ สังขยา ทั้งหมดนี้ระหว่างทางมันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ บางสิ่งที่เราชอบและที่บ้านเราเห็นพ้องต้องกันแล้วว่าอยากทำแบบนี้แต่พอเปิดร้านมาบางครั้งก็สังเกตเห็นว่าทำไมเมนูนี้เหลือ ช่วงแรกเราจะมาเสิร์ฟและมาดูกันเองเลยว่าจะแก้อะไรได้บ้าง แล้วก็มีการปรับเปลี่ยนระหว่างทาง คือมันไม่ได้ทำปุ๊บแล้วดีปั๊บเลย แต่มันคือการ test and learn ไปด้วยระหว่างทาง

ถึงจุดไหนที่คุณมั่นใจว่าพร้อมเปิดร้าน

ถามว่ามั่นใจไหมก่อนเปิดร้านก็ไม่ได้มั่นใจขนาดนั้น แต่ในทีมคุยกันว่ามันน่าจะไปได้  เพราะเราเชื่อว่าเราทำของที่มีคุณภาพดี เราเลือกแต่สิ่งดีๆ ถ้าคนลองกิน แล้วของดีมีคุณภาพ คนก็กลับมาซื้อซ้ำเราอยู่แล้ว เป็นสิ่งที่เราไม่ได้มองเลยว่าจะปังตั้งแต่แรกแน่ๆ เราแค่คิดว่าลองทำดูก่อนแล้วค่อยปรับไปเรื่อยๆ จริงๆ อยากบอกว่าในการชิม แต่ละคนมีความชอบที่ไม่เหมือนกัน เราพยายามทำให้เมนูของเรามีเอกลักษณ์แบบที่เราชอบก่อน พอเราทำในสิ่งที่ชอบออกมาได้ดีและลูกค้าเชื่อในสิ่งที่เราทำ เขาก็จะทานในสิ่งที่เราทำ

แล้วคุณออกแบบเมนูยังไงให้ถูกปากคนส่วนมาก 

คนยุคใหม่อยากกินอะไรที่มีสุขภาพดี อะไรที่หวานปรี๊ดคนเริ่มไม่ชอบและชอบอะไรที่หวานน้อย เมนูของเราเลยจะทำเป็นแนวสุขภาพนิดนึง คือหวานน้อยและคิดมาให้ตอบโจทย์คนหลายกลุ่มคือเลือกระดับความหวานได้ ทั้งน้ำเต้าหู้ นมสด น้ำขิง สามารถเลือกความหวานได้หมดเลย มีเมนูรวมธัญพืชของเราที่จะรวมธัญพืชหลายประเภทเลย คนที่ทานเจก็สามารถทานได้เลย กินแล้วมีประโยชน์แน่นอน ดีต่อสุขภาพ

หรือบางทีเวลาพาครอบครัวมา บางคนชอบน้ำเต้าหู้แต่บางคนไม่ชอบ บางคนชอบนมสดแต่บางคนกินนมไม่ได้ เราก็มีน้ำลำไยเป็นเครื่องดื่มหวานเย็นที่คลาสสิกอย่างเมนูเต้าทึงน้ำลำไย ถ้าอยากกินแบบสดชื่นก็มีสเลอปี้ที่เป็นลำไยเกล็ดหิมะ เพราะอากาศร้อน เลยคิดว่าควรจะมีเมนูที่ทำให้สดชื่นด้วย

ก่อนเปิดร้าน คุณมีหลักการตั้งราคาและเพิ่มมูลค่าสินค้ายังไง

เราทำ feasibility study (การประเมินความเป็นไปได้) ว่าราคามันควรจะเป็นเท่าไหร่ เราก็ดูต้นทุนเป็นหลักแล้วก็ดูตลาดด้วย ซึ่งจริงๆ ราคาเราก็ไม่ได้หนีจากตลาดมาก อย่างที่เห็นคือเราก็เริ่มต้นที่ 25 บาท แล้วพวกเครื่องก็ 6 บาท จริงๆ ก็ราคาพอๆ กัน แต่เราพยายามทำให้แตกต่างด้วยการใส่แบรนดิ้งและสตอรีเข้าไป เพิ่มมูลค่าด้วยการ DIY ได้ซึ่งตรงนี้มันเป็นการเพิ่มมูลค่าของสินค้าด้วย เราอยากจะทำให้น้ำเต้าหู้ของเราได้มาตรฐานและที่สำคัญคือเราทำสดใหม่ทุกวัน นี่เป็นหัวใจสำคัญเลย คีย์หลักคือเราอยากให้ทุกคนได้กินของที่มีคุณภาพ 

จากโจทย์แรกที่เห็นว่าไม่ค่อยมีน้ำเต้าหู้ในห้าง แล้วทำไมถึงเลือกเปิดคาเฟ่สาขาแรกเป็นสแตนด์อโลนที่ประตูผี

จริงๆ เราตั้งใจว่าเราจะเปิดร้านข้างนอกก่อนที่เราจะเข้าห้างอยู่แล้ว เพราะเราต้องเทสต์ก่อน คือถ้าเรายังเป็น nobody ยังไงห้างเขาก็ไม่เอาเรา ซึ่งแถวประตูผีดังเรื่องสตรีทฟู้ด เราก็จะรู้จักผัดไทประตูผีแล้วก็เจ๊ไฝ มันเป็นสตรีทฟู้ดย่านดังแถวฝั่งพระนคร พอเราได้โลเคชั่นตรงนี้จึงถือว่าเป็นโอกาสดีที่จะมาจอยน์ในย่านนี้ 

พอเปิดจริงแล้ว คุณรู้สึกว่าการเปิดสาขาสแตนด์อโลนก่อนขยายเข้าห้างมีข้อดียังไงอีกไหม  

ถ้าเป็นสแตนด์อโลน เราจะได้กลิ่นอายของ corporate identity (CI) ต่างๆ ที่เราสร้างขึ้นมา จะเห็นแบรนดิ้งที่เราอยากให้มีชัดเลย ไม่ว่าจะเป็นถ้วยที่เราคิดมาแล้วว่ามันต้องเป็นถ้วยแบบนี้ วางแบบนี้ ถ่ายรูปแบบนี้ อยู่ในถาดแบบนี้ แต่ว่าสมมติเวลาอยู่ในห้าง เนื่องจากว่าเราได้เป็นที่เล็กๆ ไม่มีที่นั่ง ดังนั้นเราไม่สามารถใช้ถ้วยเหมือนที่ร้านได้และเพราะที่นั่งมีน้อย 2-3 ที่นั่ง ฉะนั้นถ้วยที่เราใช้ก็จะเป็นถ้วยกระดาษสำหรับ Grab and Go มันก็จะมีข้อจำกัดบางอย่างด้านการสื่อสารแบรนดิ้ง

คอนเซปต์ของร้านย่านประตูผีที่ทำให้คนจดจำแบรนด์ได้คืออะไร

พอเราทำรสชาติที่ทำให้นึกถึงวัยเด็กแล้วก็อยากทำให้บรรยากาศร้านมีกลิ่นอายความเก่าแก่และทำให้นึกย้อนถึงวัยเด็กเหมือนกัน และเนื่องจากเราตั้งชื่อว่า ‘น้ำเต้าหู้ปูปลา’ ที่จริงๆ มันมาจาก ‘น้ำเต้าปูปลา’ แต่เราเติมคำว่า ‘หู้’ เข้าไป มันเลยมีกลิ่นอายความสนุกเข้ามาด้วย

เราอยากทำให้ร้านมีกลิ่นอายความเก่าแต่ยังน่ารัก มีความโมเดิร์น เข้าถึงง่าย ดูอบอุ่น มีความเฟรนด์ลี่ ดูจากเก้าอี้ที่ใช้จะมีความจีนเล็กน้อยและมีพร็อพที่สื่อถึงน้ำเต้าปูปลา เช่น ไฟ รูปภาพก็จะมีความเก่าและเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งเป็นแบรนดิ้งให้คนจำได้ 

พอขยายสาขาเข้าห้างแล้ว การบริหารระบบหลังบ้านต้องปรับยังไงบ้าง

เมื่อก่อนเราเปิดแค่ตอนเย็น ตอนนี้พอเราขึ้นห้างและปิดตามเวลาห้างตั้งแต่เช้าถึงกลางคืน ดังนั้นก็เลยต้องทำ 24 ชั่วโมง เราจึงเริ่มมีครัวกลางที่มีมาตรฐาน เพราะอยากทำสดใหม่ทุกวันและยกระดับตลาดน้ำเต้าหู้ให้มีมาตรฐาน

มีเคล็ดลับอะไรในการทำการตลาดให้เป็นที่รู้จัก 

จริงๆ ไม่มีกลยุทธ์อะไรเลย ช่วงแรกๆ เป็นไวรัลเพราะมีเพจมารีวิว หลังจากนั้นก็มีกระแสขึ้นมา เราก็มีโปรโมตทำการตลาดในฝั่งของเราบ้าง แต่ด้วยเมนู ชื่อร้าน และแบรนดิ้งก็ทำให้มันไปของมันเอง อย่างตอนก่อนโควิด-19 ช่วงที่ร้านยังไม่เปิดก็มีรายการหนึ่งที่ผ่านร้านเราแล้วเห็นว่า เฮ่ย ชื่อร้านคือน้ำเต้าหู้ปูปลา ชื่อและแบรนด์ของเราก็ดึงดูดไปคู่กับคุณภาพสินค้าแบบนี้มากกว่า

แล้วพอคนเริ่มรู้จักแล้ว ทุกวันนี้คุณต้องปรับแผนการตลาดและคอนเทนต์ยังไงบ้างไหม

ก่อนหน้านี้เราอาจจะลองทำคอนเทนต์เองแบบเล่นไปก่อน แต่หลังๆ เราคิดว่าควรให้ความสำคัญกับแบรนดิ้งให้คนมีภาพจำมากขึ้น เราก็ตบการลงคอนเทนต์ของเราให้เข้าที่เข้าทางมากขึ้น จะเห็นว่าฟอนต์ที่เราใช้ก็จะมีการคิด identity ของแบรนด์และมีการเล่าเรื่องแบบใหม่ อยากเน้นทำแบรนดิ้งให้ดีเพราะแบรนดิ้งเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ต่างจากน้ำเต้าหู้ทั่วไป 

สิ่งสำคัญในการทำแบรนดิ้งให้สำเร็จคืออะไร 

ทุกขั้นตอนมีรายละเอียดของมัน ต้องใส่ใจทุกรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่คนอาจจะมองข้าม ไม่เว้นการถ่ายรูป กว่าจะถ่ายรูปต้องตักเมนูนี้ให้ออกมาดูน่ากิน มันใช้ความพยายามและความทุ่มเทในการทำ เราทำการบ้านเยอะมาก จริงจังมาก การเลือกชามก็เลือกอย่างจริงจังมาก ไม่ใช่ชอบแล้วซื้อเลย แต่คิดว่าซื้อมาแล้วจะใช้ได้ดีหรือเปล่า อย่างเมนูเย็นเราจะใช้ชามปากอ้า เมนูร้อนใช้ชามปากแคบ เพราะเราอยากให้เมนูร้อนยังคงความร้อนอยู่ เราคิดด้วยว่าถ้าใส่ท็อปปิ้งสีต่างๆ ลงไปแล้วจะดูน่ากินไหม ถ่ายรูปออกมาจะสวยไหม ซื้อแล้วลองนำมาแมตช์กันว่าเราจะนำเสนอออกมายังไง ทุกเมนูที่คิดมา เราก็ศึกษามาจริงๆ ถ้าเราทำดี แรงกระเพื่อมมันค่อนข้างเยอะ พอลูกค้าเห็นว่ามันดีเขาก็ซัพพอร์ต บอกต่อกันไปเรื่อยๆ

แล้วปัจจัยในการทำธุรกิจให้สำเร็จคืออะไร  

ในองค์รวมก็คือต้องศึกษาตลาดเป็นอย่างดี ไปทดลอง ไปดูตลาดจริงๆ ให้รู้จริง อันนี้คือแก่นเลย ประกอบกับใช้ความทุ่มเทในการทดลองทำมัน

ทุกวันนี้มีความท้าทายอะไรและอยากขยายธุรกิจไปถึงไหน 

การเป็น top-of-mind คือความท้าทายที่สุด เพราะเราไม่อยากเป็นแค่กระแสแต่อยากเป็น top-of-mind อยากให้พอนึกถึงน้ำเต้าหู้แล้วนึกถึงเรา ว่าไปห้างนี้สิ มีแบรนด์เราอยู่และคนบอกต่อกันไปเรื่อยๆ ว่ามาลองสิ อร่อยนะ ตอนนี้เราก็มองที่อนาคตอันใกล้ก่อนคือขยายไปในกรุงเทพฯ และสร้าง top-of-mind ให้ได้

เพราะเราไม่รู้หรอกว่าอนาคตอันยาวไกลมันจะเป็นแบบไหน ระหว่างทางของเราก็มีปรับเปลี่ยนแผนไปบ้างเหมือนกัน ตอนแรกก็ไม่คิดว่าเราจะเปิดเร็วกว่าที่คิดขนาดนี้ เวลาได้โอกาสมา เราก็คว้าทุกโอกาสไว้ถ้าคิดว่าเราไปไหวและทำได้ แต่บางโอกาส เราก็ปฏิเสธเหมือนกัน หลายคนจะมาถามบ่อยมากว่าเราเปิดแฟรนไชส์ด้วยไหม แต่ ณ ปัจจุบันยังอยากขยายเองอยู่เพราะอยากควบคุมคุณภาพให้ดีจริงๆ ให้ทุกคนที่มากินมั่นใจว่าดีมีคุณภาพ  

ถ้าอนาคตมีแฟรนไชส์แบรนด์น้ำเต้าหู้เกิดใหม่ในห้างเยอะมากเหมือนที่คนฮิตชานมไข่มุก อะไรคือสิ่งที่ทำให้ ‘น้ำเต้าหู้ปูปลา’ ยังเป็น top-of-mind   

รสชาติและคุณภาพที่ไม่สามารถก๊อบปี้กันได้

1. Find Market Opportunity : สิ่งสำคัญสุดที่ทำให้เกิดน้ำเต้าหู้ปูปลาคือการมองเห็นโอกาสทางธุรกิจว่าในตลาดยังไม่ค่อยมีใครสร้างแบรนด์น้ำเต้าหู้ ในบางครั้งตลาดอาจมีสินค้ามากมายอยู่แล้ว แบรนด์ไม่จำเป็นต้องคิดค้นสินค้านวัตกรรมใหม่ตั้งแต่แรกเสมอไป แค่หยิบสูตรโบราณมาปรับและเพิ่มมูลค่าด้วยการสร้างแบรนด์

2. Learning By Doing : เคล็ดลับการทำสินค้าที่ถูกใจผู้บริโภคและตอบโจทย์ตลาดคือการลงมือทำจริงและปรับตามฟีดแบ็กหน้างาน

3. Catchy Presentation : การตั้งใจออกแบบตั้งแต่ชื่อร้านไปจนถึงบรรยากาศทำให้คนจดจำแบรนด์ได้ง่ายและมีส่วนทำให้คนอยากรีวิวและบอกต่อกัน

Writer

Craft Curator, Chief Dream Weaver, Lifestyle Columnist, Editor-in-Cheese, Design Researcher 'Instagram : @rata.montre'

You Might Also Like