Make Cool

รวมลิสต์ Twisted Mooncake ขนมไหว้พระจันทร์รสชาติโมเดิร์นจาก 10 ร้านทางเลือกในปีนี้

‘ขนมไหว้พระจันทร์’ ถ้าไม่ได้ทำมาจากไส้ดั้งเดิมอย่างเม็ดบัว ไส้ไข่แดงเค็มหรือไส้รวมถั่ว 5 ชนิดอย่างที่รู้จักกันในชื่อของไส้ธัญพืชแล้วนั้น หลายๆ คนก็คงนึกถึงไส้งาดำและไส้ทุเรียนหมอนทองที่ก็ฮิตไม่แพ้กัน แต่เท่าที่สังเกตในปีนี้เราเห็นความเป็นไปได้สนุกๆ ของเมนูขนมไหว้พระจันทร์มากมาย หลายร้านสามารถรังสรรค์ออกมาให้เป็นรสชาติโมเดิร์นได้หลากหลาย

เทศกาลไหว้พระจันทร์ในปีนี้จะตรงกับวันศุกร์ที่ 29 กันยายน 2566 ตรงกับคืนเพ็ญเดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติ ซึ่งในวัฒนธรรมจีนถือเป็นการบ่งบอกว่าเราได้เข้าสู่ช่วงกลางฤดูใบไม้ร่วงแล้ว (Mid-Autumn Festival) และเพื่อเป็นการฉลองฤดูกาลเก็บเกี่ยวที่มาถึงนี้ ในค่ำคืนของวันไหว้พระจันทร์ บ้านเรือนก็จะถูกตกแต่งด้วยโคมไฟสีแดง ก่อนจะไหว้ดวงจันทร์และกินขนมไหว้พระจันทร์ด้วยกันนั่นเอง

ถึงแม้ประเพณีการกินขนมไหว้พระจันทร์นั้นจะมาพร้อมกับความหมายที่เป็นมงคลของแต่ละไส้ดั้งเดิม แต่ด้วยยุคสมัยและวัฒนธรรมที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าขนมไหว้พระจันทร์จะถูกทวิสต์ออกมาให้เป็นรสชาติหรือไส้ไหนๆ แต่ก็ยังคงรูปทรงกลมคล้ายดวงจันทร์ไว้ ก็ถือว่าเป็นการเฉลิมฉลองให้กับเทศกาลนี้อยู่ดี

ก่อนจะถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ในวันพรุ่งนี้ เราขอชวนดูขนมไหว้พระจันทร์หลากรสชาติทางเลือกที่ผสมผสานความครีเอทีฟจากกว่า 10 ร้านกัน

Ampersand Gelato
Flavour : Dark Chocolate & Salted Egg, Salted Egg & Dark Chocolate, Raspberry Sorbet & Yuzu Sorbet, Strawberry Cheesecake & Lychee Raspberry, Coffee & Vanilla

Ampersand Gelato คือแบรนด์เจลาโต้ฝีมือคนไทยที่ตัวชื่อแบรนด์นั้นมีที่มาจากสัญลักษณ์ ‘&’ หมายถึงการเชื่อมรสชาติของแต่ละชาติเข้าด้วยกัน โดย Ampersand Gelato ยังได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 25 ร้านเจลาโต้ยอดเยี่ยมจากทั่วโลกในบทความ ‘The World’s greatest ice-cream stores’ ของ Financial Times ในปี 2565 อีกด้วย

ความน่าสนใจของขนมไหว้พระจันทร์ในสไตล์ของ Ampersand Gelato นั้น คือการตั้งใจฉีกกรอบขนมไหว้พระจันทร์ในรูปแบบเดิมที่เป็นตัวเนื้อแป้งให้กลายมาเป็นเจลาโต้กว่า 4 คู่รสชาติมาให้เลือกลิ้มลอง

ไม่ว่าจะเป็นเจลาโต้ดาร์กช็อกโกแลตคู่กับไข่เค็ม หรือจะสลับเป็นรสชาติไข่เค็มขึ้นมาเป็นพระเอกคู่กับดาร์กช็อกโกแลตแทน ทั้งยังมีเชอร์เบตที่จับคู่รสชาติหวานซ่อนเปรี้ยวของราสป์เบอร์รีและยูซุ หรือใครที่ชอบรสชาติคลาสสิก รสชาติวนิลลาจับคู่กับกาแฟก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดี สำหรับขนมไหว้พระจันทร์รสชาติมาตรฐานจะอยู่ที่ราคา 220 บาทต่อชิ้น ขณะที่รสชาติพรีเมียมนั้นจะอยู่ที่ 280 บาทต่อชิ้น

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อินสตาแกรมแบรนด์ ampersandgelato

Araksa Tea Room
Flavour : Earl Grey, Joy Tea, Thai Tea, White Peony

จากไร่ชาออร์แกนิกในจังหวัดเชียงใหม่ ‘Araksa Tea Garden’ ได้พัฒนาสู่ห้องน้ำชา ‘Araksa Tea Room’ โลเคชั่นใหม่ล่าสุดในย่านตึกเก่าโซนบางรักหรือซอยเจริญกรุง 38 ของกรุงเทพมหานครฯ 

ปีนี้ทาง Araksa ได้จัดเซต ‘ARAKSA Mooncake’ เซตขนมไหว้พระจันทร์ไส้ชาออร์แกนิกของทางไร่ให้ได้กินคู่ไปกับการดื่มชาร้อนๆ ด้วยเช่นกัน โดยเราสามารถเลือกจับคู่มาในกล่อง 2 รสชาติ ราคา 680 บาท หรือใครที่อยากลิ้มลองทั้ง 4 รสชาติ เขาก็มีกล่องคละ 4 รสชาติ ราคา 1,360 บาท ที่จะมีทั้งเซตขนมไหว้พระจันทร์ไส้ชาเบลนด์ระหว่างชาดำและจำปาแห้งอย่าง ‘Joy Tea’ คู่กับชาดำยามเช้า ‘English Tea Breakfast’ เซตขนมไหว้พระจันทร์ไส้ชาไทย ‘Thai Tea’ การันตีด้วยรางวัลเหรียญเงินจาก AVPA Paris Contest ในหมวดหมู่ ‘Teas of the World’ ปี 2563 จับคู่มากับชาดำ ‘Black Tea’ รสนุ่มๆ อีกสักตัว และสำหรับใครที่เป็นสายชาขาว เราขอแนะนำเป็นเซตขนมไหว้พระจันทร์ไส้ชา ‘White Peony’ หอมกลิ่นน้ำผึ้ง-ดอกไม้อ่อนๆ

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อินสตาแกรมแบรนด์ araksatearoom

Baker x Florist
Flavour : Red Velvet, Hazelnut, Banana Honey Cream Cheese, Intense Chocolate

Baker x Florist คือคาเฟ่ที่รวมเอาสองความชื่นชอบอย่างขนมเบเกอรีและร้านดอกไม้เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งด้วยสโลแกนของทางร้านอย่าง ‘In good butter we trust’ ทำให้เรารับรู้ได้เลยว่าจุดเด่นของ Baker x Florist คือการเลือกสรรวัตถุดิบที่ดีในการทำทุกๆ เมนูขนมเบเกอรีของทางร้านนั่นเอง

สำหรับเทศกาลไหว้พระจันทร์ในปีนี้ Baker x Florist ตั้งใจรังสรรค์ขนมไหว้พระจันทร์ให้ออกมาในรูปแบบของ ‘Mini Cake Mooncake’ เค้กไหว้พระจันทร์ชิ้นเล็กๆ ที่ผสานไปด้วยเนื้อเค้ก 4 รสชาติ มาพร้อมคอนเซปต์ของความหมายมงคลอย่าง ‘ฮก (โชคลาภ)’ เนื้อเค้กรสชาติ Red Velvet  ต่อด้วยเนื้อเค้กรสชาติ Hazelnut ในความหมายมงคลอย่าง ‘สุข’ ก่อน ‘รวย’ จะมาในรสชาติเค้ก Intense Chocolate  และปิดท้ายเซตนี้ไปด้วยเนื้อเค้กรสชาติ Banana Honey Cream Cheese อย่าง  ‘ซิ่ว (อายุยืน)’ บรรจุพร้อมเพรียงมาในแพ็กเกจจิ้งแบบกล่อง 4 ชิ้น ราคา 1,168 บาทให้เล

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อินสตาแกรมแบรนด์ bakerxflorist

CHAEN TEA Experience
Flavour : Uji Matcha Roasted, Yame Matcha x Azuki, Hojicha Durian Monthong with Salted Egg

บาร์น้ำชาร่วมสมัยแห่งนี้เปรียบเสมือนอีกก้าวหนึ่งของร้านป๊อปอัพ ‘ChaEn Matcha’ แบรนด์ชาเขียวของคนไทย ผลผลิตจากการปลูกชาในไร่ที่จังหวัดเชียงราย ประเทศไทย สู่การพัฒนาตัวแบรนด์ให้ออกมาเป็น ‘CHAEN TEA Experience’ ที่จะไม่ได้มีเพียงแค่ชาเขียว แต่ยังนำหลากหลายชาท้องถิ่นออกมารังสรรค์ให้เป็นเมนูใหม่ๆ ร่วมไปกับมัทฉะจากประเทศญี่ปุ่นและชาไต้หวันอีกด้วย

ถึงแม้ขนมไหว้พระจันทร์จะเป็นประเพณีของชาวจีน แต่ด้วยความเป็นบาร์น้ำชาร่วมสมัยที่ผสมผสานการตกแต่งในสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ขนมไหว้พระจันทร์ของ CHAEN TEA Experience นั้น จึงออกมาในคอนเซปต์ 4 ช่วงเวลาของวันกับ 4 รสชาติในสไตล์ญี่ปุ่นด้วยชื่อ ‘CHAEN Kichi Mooncake’ ที่ไล่เรียงชื่อรสชาติตั้งแต่ช่วงเช้าของวัน

ไล่ตั้งแต่ ‘โอฮาโยะหมอนทอง’ ขนมไหว้พระจันทร์ที่สอดไส้ทุเรียนหมอนทองและไข่แดงเค็ม ช่วงกลางวัน หรือ ‘โอสึอูจิมัทฉะ’ ไส้มัทฉะเบลนด์สามสายพันธุ์เดี่ยวจากเมืองวาซูกะ จังหวัดเกียวโต ก่อนยามเย็นของวันจะมาในชื่อ ‘คอมบังวะอะซูกิ’ ที่สอดไส้มัทฉะจากเมืองยาเมะ จังหวัดฟุกุโอกะ โดยจะให้คาแร็กเตอร์ของชาที่แตกต่างกันออกไป มาพร้อมถั่วแดงที่จะช่วยเพิ่มเทกซ์เจอร์ของชิ้นนี้ จบท้ายด้วยการส่งทุกคนเข้านอนไปกับ ‘โอยาสึมิโฮจิฉะ’ ขนมไหว้พระจันทร์สอดไส้ชาเขียวคั่วไหม้คาเฟอีนต่ำหรือที่เรียกกันว่าโฮจิฉะ (Hojicha) ในราคารวมรสกล่องละ 788 บาท

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อินสตาแกรมแบรนด์ chaen.tea.ex

HOLIDAY PASTRY
Flavour : Hongkong Golden Custard, Fresh Durian Mornthong Custard, Black Truffle Custard, Durian Mornthong Salted Egg, Jujube & Date Palm, Lotus Seed & Almond

จากร้านขายขนมออนไลน์กลายมาเป็นหน้าร้านขนมสไตล์ all-day dining ที่พร้อมเสิร์ฟทั้งเมนูหมวดหมู่เบเกอรี อาหารและเครื่องดื่ม ในทุกมื้อตลอดวันย่านเจริญนคร สู่ HOLIDAY PASTRY เวอร์ชั่นใหม่ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 7 อีกก้าวสำคัญของแบรนด์ที่พร้อมเปิดตัวในเดือนตุลาคมนี้ โดยมาในคอนเซปต์ใหม่ของร้านอย่าง The Dining Room ที่นำเอาความชื่นชอบ-ความทรงจำของการท่องเที่ยวมาบอกเล่าเรื่องราวผ่าน ‘อาหาร ‘ และ ‘ขนม’ นอกจากความโดดเด่นในความคิดสร้างสรรค์ และรสชาติขนมของ HOLIDAY PASTRY แล้ว การตกแต่งภายในร้านสาขาใหม่อย่างสไตล์อาร์ตเดโค ที่จำลองบรรยากาศโรงแรมใจกลางมหานครนิวยอร์ก ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน

ก่อนที่เราจะได้ยลโฉมสาขาใหม่ของ HOLIDAY PASTRY ในเทศกาลไหว้พระจันทร์ในปีนี้ ทางร้านยังชวนให้เรามาฟังเรื่องราวของเซตขนมไหว้พระจันทร์ ‘The Golden Box’ ที่มีให้เลือกสั่งกว่า 6 รสชาติ ไม่ว่าจะเป็นไส้ดั้งเดิมตามสูตรฮ่องกงต้นตำรับที่มีส่วนประกอบของเนยจากฝรั่งเศสอย่างคัสตาร์ดไข่เค็ม คัสตาร์ดทุเรียนหมอนทอง และรสชาติลิมิเต็ดอย่างคัสตาร์ดทรัฟเฟิล ส่วนในไลน์สูตรต้นตำรับเองก็มีไส้ทุเรียนหมอนทองไข่เค็ม พุทราจีนและอินทผาลัม รวมไปถึงไส้เม็ดบัวและอัลมอนด์ในราคา 8 ชิ้น เริ่มต้นที่ 1,088 บาท บรรจุในแพ็กเกจจิ้งสีเหลืองทองอร่ามและลวดลายสไตล์ Luxury Modern Chinese ที่สื่อถึงความมั่งคั่งอีกด้วย

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อินสตาแกรมแบรนด์ holidaypastry

Kyo Roll En
Flavour : Satsuma Imo, Black Forest, Thai Tea, Homemade Fish Floss, Yuzu Lava, Durian Salted-Egg, Matcha Mont Blanc

Kyo Roll En คือร้านขนมหวานญี่ปุ่นส่งตรงจากเกียวโต ที่หลายๆ คนคงคุ้นหูคุ้นตากันดีกับเมนูโรลเค้ก นามะช็อกโกแลต และซอฟต์เสิร์ฟอย่างรสชาติชาโคล (Sumi) กับรสชาติมัทฉะกันอยู่แล้ว ก่อนที่ไม่นานมานี้ทาง Kyo Roll En เอง จะเพิ่งแตกไลน์แบรนด์ขนมหวานญี่ปุ่นสุดฮิตอย่างมัทฉะมองบลังค์ (Matcha Mont Blanc) ภายใต้ชื่อ ‘Mont Blanc by Kyo Roll En’ มาไว้ที่ชั้น 3 ของห้างเกษรวิลเลจอีกด้วย

ด้วยกระแสของมัทฉะมองบลังค์ที่ยังไม่หยุดนิ่ง หนึ่งในรสชาติขนมไหว้พระจันทร์ไลน์คลาสสิกของ Kyo Roll En ในปีนี้ ก็คงหนีไม่พ้นไส้เกาลัดผสมมัทฉะ (Matcha Mont Blanc) คละไปกับรสชาติดั้งเดิมอย่างทุเรียนไข่เค็ม (Durian Salted-Egg) รสชาติญี่ปุ่นอย่างไส้มันหวาน (Satsuma Imo) และไส้ยูซุ (Yuzu Lava)

ไม่หมดเพียงเท่านี้ แต่ Kyo Roll En ยังมีเซตขนมไหว้พระจันทร์ในไลน์ ‘รวมดารา’ ที่เสมือนการร่วมรังสรรค์ไส้ขนมไหว้พระจันทร์ทั้งหมด 4 รสชาติไปกับ 4 ร้านดังที่ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ อาทิไส้เค้ก ‘Black Forest’ จากร้าน Sühring, ไส้ชาไทย ‘Thai Tea’ จาก Le Du, ไส้ปั้นขลิบไส้ปลา ‘Homemade Fish Floss’ จากร้าน POTONG และไส้มันหวานญี่ปุ่น ‘Satsuma Imo’ ในนามของ Kyo Bar บาร์ขนมหวานไลน์พรีเมียมจากทาง Kyo Roll En เอง โดยขนมไหว้พระจันทร์ในไลน์นี้จะถูกบรรจุลงกล่องสีแดงแรงฤทธิ์ตัดกับสีทองของรูปทรงกระต่ายบนหน้ากล่องที่สื่อถึงปีเถาะอย่างปี 2566 นี้

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อินสตาแกรมแบรนด์ kachabros

Maison Bleue
Flavour : Vanilla Custard, Salted Egg Lava Custard, Durian with Salted Egg, Black Sesame Ginger Heritage, Tuiteries, Jadounette, Ispahan

ร้านอาหารฝรั่งเศสแบบ all-day dining หลังสีฟ้าใจกลางสุขุมวิทแห่งนี้ตั้งใจเสิร์ฟอาหารและขนมหวานฝรั่งเศสแบบร่วมสมัย ถือเป็นโปรเจกต์ต่อจากร้านก่อนอย่างคาเฟ่ขนมหวาน ‘Let Them Eat Cake’ ของหนึ่งในพาร์ตเนอร์ร้าน Maison Bleue หรือ ‘มู่–จักรทอง อุบลสูตรวานิช’ ส่วนอาหารคาว จะเป็นพาร์ตของ ‘เชฟกันน์–สรวิศ แสงวณิช’

เช่นนั้นแล้ว ขนมไหว้พระจันทร์ของ Maison Bleue จึงเป็นการใช้เทคนิคการทำขนมแบบฝรั่งเศส

ทั้งยังสอดแทรกวัฒนธรรมฝรั่งเศสไว้ในทุกรายละเอียดของตัวขนม โดยนอกจากไลน์คลาสสิกไส้ดั้งเดิมกว่า 4 รสชาติที่ถูกรวมในหนึ่งเซตราคา 788 บาทแล้ว ยังมีอีกหนึ่งไลน์ที่เราควรจะต้องเอ่ยถึงเลย ก็คือ ‘MB’s Favorite Set’ ที่ประกอบไปด้วยไส้น้ำตาลมะพร้าวจากอัมพวาในชื่อ ‘Heritage’, ไส้พิสตาชิโอกับราสป์เบอรีอย่าง ‘Jadounette’, ส่วน ‘Tuileries’ คือไส้เกาลัดเชื่อมกับชาไทย จบท้ายด้วยรสชาติซิกเนเจอร์ของร้านอย่าง ‘Ispahan’ ส่วนผสมของกลีบกุหลาบ ลิ้นจี่ และราสป์เบอรี

สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นและแปลกใจไปกับเซตขนมไหว้พระจันทร์ของ Maison Bleue คือกล่องแพ็กเกจจิ้งที่ได้ศิลปินชื่อดังอย่าง ‘นักรบ มูลมานัส’ มารังสรรค์ลวดลายบนกล่องและถุง  ชวนเราให้อยากเก็บสะสมแบบครบทั้งเซต โดยคอลเลกชั่นนี้นักรบได้แรงบันดาลใจมาจาก 6 หญิงสาวที่มีอิทธิพลในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสและอาณาจักรจีนโบราณนั่นเอง

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อินสตาแกรมแบรนด์ maisonbleue_bkk

Scene Bangkok
Flavour : Salted Egg Lava, Coffee Horlick, Earl Grey Dulcey, Yuzu Strawberry Matcha, Passion Fruit, Osmanthus

Scene Bangkok Pâtisserie & Brasserie เป็นอีกหนึ่งคาเฟ่สไตล์ฝรั่งเศสที่เสิร์ฟเมนูเบเกอรี พาทิสเซอรี ครัวซองต์ ควบคู่ไปกับเมนูอาหารแบบ all-day brunch ย่านพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 

สำหรับเทศกาลไหว้พระจันทร์ในปีนี้ Scence Bangkok มาพร้อมกับแพ็กเกจจิ้งในรูปแบบกล่องลิ้นชักสีน้ำเงิน สีประจำของทางร้าน ฉลุด้วยลวดลายของพระจันทร์และดวงดาว ถือเป็นไอเดียดีๆ ที่สามารถนำกล่องไปใช้ซ้ำอีกได้ อย่างการเป็นอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและใส่ของ

ด้านในของกล่องจะบรรจุไปด้วยขนมไหว้พระจันทร์ทั้งหมด 8 ชิ้น รวม 5 รสชาติและ 5 ความหมายมงคล อาทิ ‘LUCK’ ไส้ชาเอิร์ลเกรย์ผสมด้วยวอดก้าและช็อกโกแลต ‘FORTUNE’ ที่สอดไส้ยูซุ มัทฉะ และสตอว์เบอรี หรือจะเป็น ‘MONEY’ ขนมไหว้พระจันทร์ไส้เสาวรส มะนาว และกลิ่นชาหมื่นลี้ ก็ดูแปลกใหม่สุด

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อินสตาแกรมแบรนด์ scenebangkok.th

Sarnies Bangkok
Flavour : Pineapple with Salted Egg Egg Yolk, Lemon Szechuan Peppercron, Chocolate Orange Mocha, Durian with Salted Egg Yolk

Sarnies Bangkok คือแบรนด์กาแฟสัญชาติสิงคโปร์ มี Sarnies Roastery โรงคั่วกาแฟที่เป็นฐานที่มั่น ส่งเมล็ดกาแฟให้กับ Sarnies ทุกๆ สาขา ก่อนจะเปิด ‘Sarnies Sourdough’ ร้านเบเกอรีโฮมเมดที่เน้นขนมปังอย่างซาวร์โดว์ และร้านพิซเซอเรียย่านเจริญกรุง 42/1 โดยตอนนี้ Sarnies Sourdough ก็ได้กลายมาเป็นครัวกลางของทั้ง Sarnies Roastery และ ‘Sarnies Bangkok’ คาเฟ่ที่เน้นเสิร์ฟเมนูสไตล์คอมฟอร์ตฟู้ดในสาขาแรกสุดอย่างเจริญกรุง 44 (ก่อนหน้านี้ สาขาแรกจริงๆ จะใช้ชื่อ ‘A Stimulant by Sarnies’ ตั้งอยู่แถวสุขุมวิทก่อนปิดตัวลง) และสาขาล่าสุดอย่างสาขาหลังสวน ในช่วงสุดสัปดาห์จะมีเซสชั่นดนตรีสดให้ได้รับฟังกันด้วย นอกจากนั้นคาเฟ่ในเครือ Sarnies ยังมี ‘Sarnies カフェ Sukhumvit’ คาเฟ่กลิ่นอายสไตล์ญี่ปุ่นที่ล้อไปกับย่านพร้อมพงษ์ และ ‘Pimp My Salad’ ร้านอาหารเพื่อสุขภาพย่านสาทรอีกด้วย

ถึงแม้ตัวแบรนด์ Sarnies จะมีสัญชาติสิงคโปร์ แต่เซตขนมไหว้พระจันทร์ของ Sarnies Bangkok นั้นถูกรังสรรค์จากหลากวัตถุดิบท้องถิ่นให้ออกมาเป็น 4 รสชาติพิเศษในราคา 1,188 บาท ไม่ว่าจะเป็น ‘Pineapple with Salted Egg Yolk’ ไส้สับปะรดกวนจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถั่วกวนและไข่แดงเค็ม,  ‘Lemon Szechuan Peppercorn’ ไส้ขนมไหว้พระจันทร์ที่ทำมาจากพริกไทยเสฉวน ผิวเลมอน เปลือกมะนาวและถั่วกวน, ‘Chocolate Orange Mocha’ ที่ประกอบไปด้วยไส้ถั่วกวนรสมอคค่า ผงโกโก้ ส้มเชื่อม โมจิรสกาแฟกับช็อกโกแลตชิป และจะขาดไส้ดั้งเดิมอย่าง ‘Durian with Salted Egg’ ไปไม่ได้ ซึ่งทางร้านได้เลือกใช้ทุเรียนกวนจากจังหวัดจันทบุรี ถั่วกวน และไข่แดงเค็ม

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อินสตาแกรมแบรนด์ @sarnies.bkk

Yellow Spoon Pastry
Flavour : Golden Night Marmalade, Shadow of Harmony, Lunar Salted Treats, Blessing Sour, Vanilla Moon’s Charm Moonbeam Matcha

ร้านขนมเบเกอรีและเค้กโฮมเมดโลโก้รูปช้อนกับพื้นหลังสีเหลืองพาสเทลโดดเด่นสมชื่อ ‘Yellow Spoon’ ยึดหลักคอนเซปต์ Honest & Artisan มาตั้งแต่วันแรกของการทำร้าน นั่นคือ ‘ความซื่อสัตย์ในการทำขนมสไตล์โฮมเมด’ ด้วยการเลือกเปิดเผยทุกวัตถุดิบที่เน้นใช้จากธรรมชาติและปราศจากไขมันทรานส์ โดย ‘Yellow Spoon Pastry’ นั้น เริ่มต้นมาจากการเปิดร้านขายขนมในแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อทำขนมเบเกอรีต่างๆ ส่งให้คาเฟ่ในกรุงเทพฯ ก่อนจะเปิดหน้าร้านเล็กๆ ในห้างสรรพค้า แล้วจึงขยับขยายมาเป็นแฟล็กชิปสโตร์คาเฟ่สาขาเอกมัย ก่อนล่าสุดจะเพิ่งเปิดหน้าร้านสาขาใหม่แถวสุรวงศ์นั่นเอง

สำหรับปี 2566 นี้ นับเป็นปีแรกของ Yellow Spoon Pastry กับการรังสรรค์ขนมไหว้พระจันทร์ที่ทางร้านตั้งใจอยากให้ตัวขนมนั้นแตกต่างออกไปจากสไตล์ดั้งเดิมในทุกสัมผัส โดยเริ่มจากการเปลี่ยนเนื้อแป้งของขนมไหว้พระจันทร์ให้กลายมาเป็น ‘Snowskin Mooncake’ ที่ทั้งยืดและนุ่มคล้ายไดฟูกุ เหมาะกับการกินแบบแช่เย็นๆ ก่อนจะมาพร้อมกับ 6 รสชาติสไตล์โมเดิร์นทวิสต์ อย่าง ‘Blessing Sour’ ไส้เลมอนทาร์ต, ‘Vanilla Moon’s Charm’ ไส้แอปเปิลวนิลลาคัสตาร์ด หรือจะเป็นไส้ถั่วทองกวนกับแยมส้ม ‘Golden Night Mamarlade’ ไปจนถึงไส้ไข่เค็มมันม่วงกวนอย่าง ‘Lunar Salted Treats’

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อินสตาแกรมแบรนด์ @yspastry

Writer

นักเขียน ผู้ซึ่งมี ‘มัทฉะ’ เป็นส่วนหนึ่งของการดำรงชีวิต

Illustrator

บรรณาธิการศิลปกรรม Email: [email protected]

You Might Also Like