Art of Retail Start Up 

Mediums รีเทลสตาร์ทอัพที่ได้แรงบันดาลใจการออกแบบอุปกรณ์ศิลปะจากเมคอัพ

จะมีร้านเครื่องเขียนและอุปกรณ์ศิลปะสักกี่แบรนด์ที่นิยามตัวเองว่าเป็นรีเทลสตาร์ทอัพ ลงทุนออกแบบร้านกึ่งไลฟ์สไตล์ใจกลางเอกมัย นำเมคอัพมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบขวดสีและพู่กันสไตล์โมเดิร์นมินิมอล ที่สำคัญคือเป็นแบรนด์ไทย

พีท–กษิดิศ ประสิทธิ์รัตนพร มีความชื่นชอบงานด้านศิลปะโดยเฉพาะวิจิตรศิลป์ (Fine Arts) เช่น การระบายภาพสีน้ำมันและศิลปะจัดวาง (installation art) ในฐานะศิลปินที่ชอบใช้เวลาเดินเล่นช้อปปิ้งอุปกรณ์ศิลปะเพื่อความผ่อนคลาย เขากลับพบว่าในประเทศไทยยังไม่ค่อยมีร้านรีเทลที่บรรยากาศดี จึงก่อตั้งธุรกิจตั้งแต่อายุ 16 ภายใต้บริษัท Apostofi ที่แตกแบรนด์ในเครือออกเป็น Mediums ร้านจำหน่ายอุปกรณ์ศิลปะและเครื่องเขียน, ร้านกาแฟ Ve/la และคอมมิวนิตี้ศิลปะ Makespace

Mediums ได้รับกระแสตอบรับค่อนข้างดีทันทีที่เปิด แต่หลังจากธุรกิจดำเนินมาได้ระยะหนึ่งพีทมองว่าร้านค้าปลีกแห่งนี้เป็นได้มากกว่าแค่ร้านขายเครื่องเขียนทั่วไปเลยตัดสินใจปรับโมเดลธุรกิจทั้งหมดในปีที่ผ่านมา จากการนำเข้าสู่การเป็นผู้ผลิตด้วยตัวเอง ขยายหมวดสินค้าเป็นหมวดไลฟ์สไตล์ที่มีทั้งเครื่องครัวและเทียนหอม พร้อมเตรียมขยายสาขา flagship เพิ่มอีกหนึ่งสาขาและขายออนไลน์ทั่วโลก 

เราชวนพีทมาพูดคุยถึงการปรับโฉมแบรนด์ครั้งใหม่ ตั้งแต่แนวคิดไปจนถึงเป้าหมายต่อไปในอนาคตของ Mediums

New Role of Mediums : From Importer to Designer 

พีทก่อตั้ง Mediums เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2021 นับเป็นระยะเวลา 2 ปีในการทำธุรกิจ ความตั้งใจแรกของเขาคือการออกแบบร้านอุปกรณ์ศิลปะและเครื่องเขียนให้มีบรรยากาศน่าเดิน  “ถ้าไปญี่ปุ่นเราจะอยากไปเดินเล่นตามย่านต่างๆ ของโตเกียว เดินแล้วสนุกและเกิดไอเดียไปคิดงานต่อ แต่ร้านหมวดศิลปะที่มีในไทยไม่ค่อยน่าเดินเลย” 

ด้วยเหตุนี้พีทจึงคิดคอนเซปต์ของ Mediums เป็นรีเทลอุปกรณ์ศิลปะและเครื่องเขียนน้องใหม่ที่มีบรรยากาศเหมาะแก่กาฮอปปิ้งซึ่งฉีกออกจากร้านอุปกรณ์ศิลปะทั่วไปแบบเดิม ตั้งแต่การออกแบบและตกแต่งภายในที่เน้นความโมเดิร์น การดิสเพลย์สินค้าแบบมีคอนเซปต์เหมือนห้างสรรพสินค้า  มีโซนกิจกรรมสำหรับระบายสีและคาเฟ่กาแฟ Ve/la ให้นั่งพัก  “ถามว่าทำร้านเครื่องเขียนอุปกรณ์ศิลปะต้องลงทุนขนาดนี้ไหม ปกติคนอื่นเขาก็ไม่ทำแบบนี้กัน แค่รู้สึกว่าเราชอบเดินเลือกซื้อมากแต่ไม่มีที่ไหนน่าเดิน”

ขวบปีแรกของ Mediums เริ่มจากการขายสินค้านำเข้าจากต่างประเทศมากกว่า 100 แบรนด์ มีสินค้ากว่า 5,000 SKU (Stock Keeping Unit– รหัสสินค้าที่มีการจำแนกประเภทสินค้าอย่างละเอียดที่สุด) เป็นอุปกรณ์ศิลปะเฉพาะทางสำหรับสายอาร์ตที่ลงลึกในงานศิลป์ เฉพาะสีหนึ่งประเภทก็นำเข้าถึง 8 แบรนด์ แต่ละแบรนด์มี 3 เกรด รวมแล้วกว่า 100 เฉดสี 

พีทใช้จุดแข็งที่มีองค์ความรู้และคอนเนกชั่นจากธุรกิจโลจิสติกส์ของครอบครัวในการนำเข้าสินค้า “อุปกรณ์ศิลปะแบรนด์ต่างประเทศที่พบในไทยจะอัพราคากันมาแล้วรอบหนึ่งทำให้ราคาสูง แต่เราไม่อยากขายแพงแบบนั้นเลยหาวิธีซิกแซ็กที่ลดค่าใช้จ่ายในการนำเข้า เช่น หาพาร์ตเนอร์ตรง พยายามดื้อหาหลายวิธีให้สามารถนำเข้าแบรนด์ที่หายากเข้ามาได้” 

แม้จะได้ผลตอบรับเป็นไวรัลทางโซเชียลมีเดียเมื่อคนถูกใจบรรยากาศของรีเทลที่มีมุม instagrammable เป็นดิสเพลย์อลังการจากหลายเฉดสีของสินค้าที่นำเข้ามาแต่พีทกลับบอกว่า 

“เมื่อต้นปีที่แล้วเรากลับมาดูโมเดลธุรกิจและเริ่มเห็นปัญหาหลายจุด เลยเปลี่ยนโมเดลธุรกิจใหม่และรีโนเวตร้าน” เขาตัดสินใจโละสต็อกเก่าที่เป็นอุปกรณ์ศิลปะเฉพาะกลุ่มทิ้งทั้งหมดแล้วเปลี่ยนมาทำสินค้า everyday essentials ที่คนใช้ประจำในชีวิตประจำวันในนามแบรนด์ Mediums โดยยังคงบรรยากาศของรีเทลที่สวยงามเอาไว้ 

หลังจากเปลี่ยนทิศทางครั้งใหญ่ ฟีดแบ็กที่ได้กลับมาเป็นไปในทางที่ดี “หลายคนอาจมองว่าก่อนหน้านี้สำเร็จแล้วในแง่การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าวงกว้าง แต่คนที่เดินเข้ามาซื้อสินค้าจริงๆ คิดเป็น 0.5 ใน 10 พอเปลี่ยนมาทำสินค้าของตัวเอง ตอนแรกลูกค้าเก่าก็หายไปเยอะ แต่ได้ลูกค้าใหม่ที่กว้างขึ้นกว่าเดิมมาก เราได้ลูกค้ากลุ่มที่เป็นมือใหม่ในด้านศิลปะ คนที่หัดวาดรูปมาเพิ่ม ตอนนี้ถ้าเดินเข้าร้าน 10 คน มีอย่างน้อย 7 คนที่ซื้อสินค้ากลับไป” 

“สินค้าที่เรียบง่ายอย่างปากกาหรือโพสต์อิท เริ่มได้รับรีวิวทางบวก บางคนบอกว่าเป็นปากกาที่ดีที่สุดที่เคยใช้ สิ่งนี้จึงตอกย้ำว่าการเปลี่ยนแปลงในสิ่งเล็กๆ ทำให้ดีขึ้นได้”

เพียงผลิตสินค้าคุณภาพดีที่ครอบคอนเซปต์ด้วยแบรนด์ดิ้งอย่างปากกามินิมอลที่เขียนแล้วหมึกไม่เลอะ โพสต์อิทที่ดีไซน์สีกระดาษและแพ็กเกจให้โมเดิร์นก็ทำให้ลูกค้าชื่นชอบได้ เป็นสิ่งที่พีทได้เรียนรู้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาว่า ‘คุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ’ 

Thoughtful Design Behind Simplicity  

แล้วสินค้าที่ผลิตเองในนาม Mediums ต้องการแก้ปัญหาอะไร 

พีทเล่าถึงสิ่งที่เขารู้สึกว่าเป็นอีกหนึ่ง pain point สำหรับศิลปินให้ฟังว่าอุปกรณ์ศิลปะในไทยมักไม่ได้ถูกวางให้เป็นสินค้าไลฟ์สไตล์ที่ตั้งใจออกแบบให้มีความสวยงามและไม่มีตัวเลือกมากมายนักเหมือนสินค้าไลฟ์สไตล์หมวดอื่นๆ 

“พีทไม่ชอบช้อปปิ้งอุปกรณ์ศิลปะในไทยเลยเพราะรู้สึกว่ามีตัวเลือกแค่ไหนก็มีอยู่แค่นั้น ตั้งแต่เราอยู่อนุบาลจนตอนนี้ก็ยังมีเท่าเดิมแต่ราคาสินค้าแพงขึ้น เวลาไปต่างประเทศเลยชอบไปกวาดซื้อมาคราวละมากๆ เพราะของไทยตัวเลือกน้อยและราคาสูง สิ่งที่ตั้งคำถามมาตลอดคือ ทำไมอุปกรณ์ศิลปะในไทยถึงไม่เคยสวยเลยทั้งที่เป็นอุปกรณ์ที่ทำมาเพื่อคนที่ใส่ใจเรื่องรูปลักษณ์และความสวยงาม”

เมื่อซีอีโอวัย 18 ปีเริ่มลองรีเสิร์ชตลาดด้วยการหาเรเฟอเรนซ์อ้างอิงจากวงการอุปกรณ์ศิลปะก็พบว่าไม่มีรูปแบบที่ตรงใจแต่กลับได้แรงบันดาลใจจากหมวดสินค้าอื่นที่ไม่ใช่เครื่องเขียน เช่น เครื่องสำอางและของใช้ในครัว

“ขวดสีอะคริลิกของเราได้แรงบันดาลใจมาจากขวดรองพื้นที่มีหลายเฉดสี รองพื้นส่วนใหญ่จะอยู่ในขวดใสทำให้เห็นสีจริงข้างใน ถ้าเป็นสีอะคริลิกทั่วไปมักจะอยู่ในขวดอะลูมิเนียมหรือพลาสติกทึบโดยมีฉลากระบุสีไว้ ปัญหาคือเมื่อบีบสีออกมาแล้ว บางทีสีไม่ตรงกับบนฉลาก เข้มไปหรืออ่อนไปบ้าง แต่สินค้าของเราเลือกใช้ขวดใสทำให้มองเห็นสีจริงพร้อมบีบออกมาใช้ได้เลย ป้องกันความผิดเพี้ยนเรื่องสีซึ่งเป็นเรื่องสำคัญของคนทำงานศิลปะ”

นอกจากนี้พู่กันและแพ็กเกจยังมีดีไซน์เรียบง่ายน่าใช้เหมือนแปรงบรัชแต่งหน้า กล่องดินสอสีมีความโมเดิร์นคล้ายพาเลตต์ดินสอเขียนคิ้ว

พีทบอกว่าหากสังเกตวงการเครื่องสำอางจะพบว่ามีแบรนด์ขนาดเล็กเกิดใหม่ขึ้นเยอะมาก แต่ละแบรนด์มีการดีไซน์ภาพจำที่โดดเด่นเพื่อให้เข้าถึงคนง่ายขึ้นซึ่ง Mediums ก็อยากเป็นแบรนด์แบบนั้นจึงดีไซน์รูปลักษณ์ให้มีความซิมเปิลและมินิมอล “เราอยากให้สินค้าของเราดูเป็นมิตร ให้ศิลปะเป็นสิ่งที่เข้าถึงง่าย เป็นสินค้าที่ใครก็ซื้อได้ เข้าถึงได้ ด้วยรูปแบบที่น่าใช้” 

เบื้องหลังความเรียบง่ายคือการผ่านกระบวนการออกแบบที่คิดมาอย่างละเอียด คิดเยอะแทนความต้องการลูกค้า ซึ่งพีทเล่าถึงแนวคิดการออกแบบสินค้าให้ฟังว่า “เราจริงจังในการทำแล็บเพื่อให้คุณภาพเทียบเท่าหรือดีกว่าสินค้าที่ตลาดมีอยู่ จะไม่ปล่อยให้รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ คลาดสายตา นี่คือมาตรฐานที่เราทำมา ถ้าเป็นกระดาษวาดภาพก็จะค้นคว้าตั้งแต่ไฟเบอร์ คำนึงถึงระดับการละลายสีบนกระดาษเวลาระบายสี การสัมผัสเวลาพื้นผิวสัมผัสกับปากกาและดินสอ ถ้าเป็นสีก็จะปรับสูตรเคมีเรื่องเม็ดสี สินค้าแต่ละชิ้นจะมีต้นแบบ (prototype) เยอะมาก อย่างที่วางเทปก็ทำต้นแบบออกมา 80 อัน เพราะเทสต์แล้วไม่โอเคในมุมต่างๆ ทั้งฟอร์มและฟังก์ชั่น ต้องพัฒนาและปรับเปลี่ยนมาเรื่อยๆ บางคนคิดว่าการออกแบบและผลิตทำไม่นาน แต่ที่จริงค่อนข้างใช้เวลา” 

ความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อนของพีทยังหมายถึงการนำเสนอตัวเลือกของรุ่นสินค้าที่เรียบง่ายอย่างสีอะคริลิกที่มีตัวเลือก 12 สี กระดาษ paper pad ที่คิดมาให้แล้วว่าควรมีกระดาษแบบไหนบ้าง 

“เวลาออกแบบ เรื่องหลักที่เราคำนึงถึงคือ product ecosystem ว่าทำยังไงให้ลูกค้าที่ไม่มีความรู้ในอุปกรณ์ศิลปะเลยเดินเข้ามาแล้วเลือกหยิบใช้ได้ง่าย จากที่เมื่อก่อนศิลปินมีเซตอุปกรณ์เยอะแยะมากมายเดี๋ยวนี้เราอาจมีเซตเดียวได้ เราคิดมาให้แล้วว่าสีประเภทนี้ควรใช้กับกระดาษชนิดใดถึงจะเมคเซนส์ที่สุด ถ้าเรามีตัวเลือกสินค้าที่ดีจะทำให้ไม่เกิดการสะดุดในการเปรียบเทียบเวลาทำงานศิลปะว่าควรใช้อุปกรณ์ตัวไหน ไปโฟกัสเรื่องงานได้เต็มที่ เป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีในการใช้อุปกรณ์ศิลปะอย่าง seamless มากที่สุด” 

Creative Concept Wins 

พีทนิยามสินค้าของ Mediums ว่าเป็นสินค้าไลฟ์สไตล์สร้างสรรค์ที่อยากผลักดันวงการศิลปะ นอกจากเครื่องเขียนและอุปกรณ์ศิลปะแล้ว เขาจึงเพิ่มสินค้าหลายหมวดทั้ง Living, Ambiance, Kids มีทั้งเครื่องครัว เทียนหอม diffuser ของใช้ในบ้าน  โดยการออกแบบสินค้าทุกหมวดจะนำด้วยคอนเซปต์และแบรนด์ดิ้ง  

“พีทคิดว่าลูกค้ามองเราเป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์ตั้งแต่แรก พอกลุ่มเป้าหมายชอบการดีไซน์และพื้นที่ของเราก็ตั้งใจออกแบบมาให้สวยทำให้ขยายสินค้าไปหมวดอื่นง่าย เพราะเวลาลูกค้าซื้อสินค้าเขาไม่ได้ซื้อแค่คุณภาพสีหรือแพ็กเกจ เขาซื้อคอนเซปต์ของแบรนด์”  

แม้จะมีหลายหมวดที่ไม่เกี่ยวข้องกันโดยตรง แต่ทุกอย่างมีคอนเซปต์ของศิลปะแฝงอยู่ 

เทียนหอม diffuser เป็นกลิ่นที่สร้างสรรค์ด้วยแรงบันดาลใจจากภาพวาด อย่างกลิ่น Château Noir ที่มาจากชื่อภาพวาดของ Paul Cézanne เป็นกลิ่นป่าไม้จากภาพวาดปราสาทในป่า กลิ่น Flowers on a Window Ledge จากภาพวาดของ John La Farge และกลิ่น 10/1 จากบ้านเลขที่ของ Mediums สาขาสุขุมวิท 42 ที่เป็นกลิ่นของการเริ่มต้นใหม่ 

ส่วนกาแฟ Ve/la มาจากการค้นพบว่าคนที่ไม่ใช่คอกาแฟสเปเชียลตี้อย่างจริงจังมักรู้สึกว่าการเลือกกาแฟแต่ละสายพันธ์ุนั้นเข้าใจยากเลยออกแบบคอนเซปต์ง่ายๆให้คนสนใจด้วยการเอาเวลามาเล่นกับกาแฟ ตั้งชื่อเป็น Morning, Midday, Dawn, Dusk, Midnight เพื่อให้คนเข้าใจ taste note ของกาแฟง่ายขึ้น  

นอกจากกลุ่มลูกค้าไลฟ์สไตล์ทั่วไปแล้ว ยังมีหมวด Mediums for Education จำหน่ายสีปลอดสารพิษ (non-toxic) ที่ปลอดภัยสำหรับเด็กเล็กรวมถึงอุปกรณ์ศิลปะอื่นๆ อย่างพู่กันไซส์จิ๋วเหมาะสำหรับขนาดมือเด็ก ด้วยดีไซน์เรียบง่ายทำให้ภาพลักษณ์สินค้ามีความอนามัย ดึงดูดกลุ่มลูกค้าเฉพาะกลุ่มอย่างนักเรียน ครู และพ่อแม่

“มีโรงเรียนนานาชาติหลายแห่งที่สนใจ ล่าสุดเพิ่งไปออกบูทที่ธรรมศาสตร์ เพราะเขากำลังมองหาแบรนด์ด้านอาร์ตและครีเอทีฟ ซึ่งได้รับการตอบรับดีมาก น้องๆ รู้สึกว่าสินค้าแบรนด์เราสวย เข้าถึงง่าย” พีทกล่าว 

ผลตอบรับของสินค้าแต่ละหมวดต่างประสบความสำเร็จ ทั้งเทียนหอมที่ขายดีกว่าที่คาดคิด ร้านกาแฟที่ขยายสาขาตามห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พารากอน เอ็มโพเรียมอย่างต่อเนื่อง อุปกรณ์ศิลปะที่กำลังมีกลุ่มลูกค้าหลากหลายเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งโรงเรียน องค์กร และคนทั่วไป 

ทั้งหมดนี้สำเร็จได้เพราะเขาออกแบบทุกอย่างโดยใช้คอนเซปต์เป็นตัวนำ 

Aesthetics in Store   

หากใครเคยไปเยือน Mediums ภาพที่นึกถึงคงเป็นสตูดิโอสีขาวโปร่งซึ่งพีทบอกว่าตั้งใจให้สาขานี้เป็นพื้นที่รีทรีตสำหรับพักผ่อนของคนเมือง

“เราอยากให้ลูกค้ามีประสบการณ์หน้าร้านที่ได้มาพักผ่อน เดินเล่น ดูงานศิลปะ มีโซน Makespace สำหรับทำกิจกรรมเวิร์กช็อปที่สอนศิลปะง่ายๆ โดยใช้สินค้าของเราเองทั้งหมด ตอนนี้คนให้ความสนใจสูงมาก มีตั้งแต่คุณพ่อพาลูกมา ลูกหลานพาอาม่ามาทำกิจกรรมด้วยกัน ที่โซนกาแฟร้าน Ve/la ก็มีเค้กที่เพนต์แต่งหน้าเค้กเองได้ที่ได้รับความนิยมจากลูกค้ามาก การได้ใช้เวลาในร้านจะทำให้ลูกค้าเข้าใจคอนเซปต์ของแบรนด์เพิ่มขึ้น ช่วยเพิ่มโอกาสที่เขาจะซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นด้วย”

นอกจากการสร้างบรรยากาศที่ดีแล้ว บริการก็เป็นสิ่งที่ธุรกิจรีเทลต้องให้ความสำคัญ พีทมองว่าร้านขายเครื่องเขียนและอุปกรณ์ศิลปะไม่ต่างจากร้านเครื่องสำอางที่ลูกค้าอยากได้คำแนะนำเวลาเลือกซื้อสินค้า 

“พนักงานในร้านของเราได้แรงบันดาลใจมาจาก BA (beauty advisor) แบบร้านเครื่องสำอาง ต้องผ่านการเทรนนิ่ง 6 สัปดาห์เพื่อทำความรู้จักสินค้าทุกหมวด มีคู่มือ 500-600 หน้าที่ต้องอ่านและสอบ เพื่อสามารถให้คำแนะนำและช่วยเหลือลูกค้าได้ถูกต้อง ศิลปะเป็นเรื่องเฉพาะทางมาก พนักงานจึงต้องมีความรู้” 

นอกจากสาขาหลักที่ตั้งอยู่ที่สุขุมวิท 42 แล้ว ที่ผ่านมา Mediums ยังเปิดป๊อปอัพสโตร์ที่เซ็นทรัลเอ็มบาสซีและเซ็นทรัลลาดพร้าวเพื่อการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มากขึ้น โดยวางแผนเปิดป๊อปอัพสโตร์แบบฮอปปิ้ง 2-3 เดือนในแต่ละที่ และเตรียมเปิดสาขา flagship อีกที่หนึ่งปลายปีนี้ 

พีทแอบบอกว่าเหตุผลที่ต้องมีสาขา flagship อีกที่เพราะมีคอนเซปต์คนละแบบกัน สำหรับสาขาใหม่จะมีความเป็นคอนเซปต์สโตร์น้อยลง แม้สินค้าที่วางขายเป็นแบบเดิมแต่เน้นการ grab & go ที่มาเร็วไปเร็วมากขึ้น ไม่ได้มีบรรยากาศที่ออกแบบมาเพื่ออยากให้ใช้ละเลียดเวลาผ่อนคลายหลายชั่วโมงเหมือนสาขาเดิม

Exponential Growth of Retail Start Up 

นับตั้งแต่วันแรกที่เริ่มธุรกิจจนถึงปัจจุบัน Mediums เติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งหากย้อนกลับไปในจุดเริ่มต้นเมื่อ 2 ปีที่แล้วพีทเล่าว่าตัวเขาในวัย 16 ปีเข้าไปพิตช์กับนักลงทุนและมองตัวเองเป็นสตาร์ทอัพตั้งแต่แรก 

“ในไทยส่วนใหญ่สตาร์ทอัพจะไปทางสายเทคโนโลยี แต่เราเป็นรีเทลสตาร์ทอัพ เราชนะใจนักลงทุนด้วยการขายคำว่า empathy (ความเข้าอกเข้าใจลูกค้า) และแพสชั่นที่คู่แข่งเราไม่ได้เน้นตรงนี้ บางคนขายเครื่องเขียนเพื่อขายแต่ถามว่ามันเริ่มมาจากความเข้าใจลูกค้าจริงๆ หรือปล่า บางครั้งตัวเลือกสินค้าที่เขาเลือกมาก็อาจไม่ได้ตรงกับสิ่งที่คนต้องการจริงๆ แต่เราใช้การทำความเข้าใจลูกค้าเอามาเป็นตัวตั้งของตัวเอง”  

สตาร์ทอัพแปลว่าธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด สำหรับรีเทล วิธีเติบโตอย่างรวดเร็วคือการสร้างช่องทางการขายหลายช่องทาง (omnichannel) และมีหลายยูนิตหลายแบรนด์ในบริษัทเดียว “เรายังบอกนักลงทุนว่าบริษัทเรามีหลายช่องทาง สามารถเติบโตทั้งหน้าร้านและ e-Commerce มีคาเฟ่ มีช่องทางออนไลน์ที่กำลังจะขยายต่อไปในอนาคต มองว่าประเทศไทยยังไม่มีแบรนด์เครื่องเขียนที่ทำแบบนี้” 

นอกจากขยายหลายช่องทางแล้ว Mediums ยังขยายกลุ่มลูกค้า หลังจากทำรีเทลที่ได้รับความสนใจจากลูกค้า B2C ทั่วไป (business-to-consumer) สำเร็จในระดับหนึ่ง ก็ขยายไปยังกลุ่มลูกค้า B2B (business-to-business)

“ความเรียบง่ายของดีไซน์ที่มีความคลาสสิกทำให้การทำ B2B ไปได้ดีมาก เพราะสินค้าเราไม่ได้ตะโกนจนกลบแบรนด์อื่น เรามีพื้นที่ให้แบรนด์ที่เราทำงานด้วยได้เป็นตัวเขา เข้าได้กับแทบทุกแบรนด์” ซึ่งที่ผ่านมา Mediums ได้ร่วมงานกับแบรนด์ที่โด่งดังหลายแบรนด์ไม่ว่าจะเป็น Stella McCartney, Soho House, Fujiflim, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา องค์กรต่างชาติจากทั้งอังกฤษและอเมริกา ฯลฯ 

พีทเล่าขั้นต่อไปของ Mediums ว่าอีกไม่นานจะเปิดขายออนไลน์ทั่วโลก โดยเริ่มจากประเทศในโซนเอเชียก่อน “คาดว่าเร็วๆ นี้จะเริ่มขายออนไลน์ทั่วโลกเป็น worldwide shipping เริ่มแรกจะเน้นในเอเชียอย่างสิงคโปร์เป็นหลักก่อน ที่เหลือจะค่อยๆ ปล่อยสินค้าทีละเฟสแล้วดูกระแสตอบรับจากลูกค้าว่าเป็นยังไง ลูกค้ามาจากประเทศโซนไหน” 

ทั้งนี้การสร้างตลาดในไทยและต่างประเทศมีความแตกต่างกัน พีทมองว่าในไทย คนยังใช้อุปกรณ์ศิลปะและเครื่องเขียนไม่มากเท่าลอนดอนกับนิวยอร์ก “ที่ต่างประเทศมีสถาบันสอนศิลปะเยอะกว่า มีคนเรียนศิลปะที่ต้องใช้อุปกรณ์ เครื่องเขียนต่างๆ เยอะ ถ้าเข้าตลาดต่างประเทศเราต้องไปในฐานะแบรนด์ใหม่ไปต่อสู้กับแบรนด์ที่มีอยู่ก่อนแล้ว ส่วนในประเทศไทยเราต้องสร้างตลาดขึ้นมาเอง การตลาดก็จะเป็นคนละแบบ” พีทกล่าว

แน่นอนว่าพฤติกรรมของลูกค้าก็แตกต่างกัน พีทบอกว่าคนไทยชอบมาแวะมาหน้าร้านก่อน ถ้ารู้จักแบรนด์แล้วค่อยตามไปซื้อของออนไลน์ ส่วนในต่างประเทศจะมีผู้ที่อยากลองสั่งสินค้าครั้งแรกผ่านช่องทางออนไลน์มากกว่า 

สำหรับนักธุรกิจวัย 18 อย่างพีท รายละเอียดในการสเกลธุรกิจเหล่านี้เรียนรู้ได้นอกตำรา “เชื่อว่าเรื่องธุรกิจเป็นสิ่งที่เรียนไม่ได้ แม้จะแน่นทฤษฎีมาแค่ไหน พอลงมือทำจริงอาจไม่เหมือนในตำรา ทุกอย่างไม่ได้เป็นเส้นตรง ไม่ใช่สิ่งที่สอนกันได้”  

Business that Supports Art Ecosystem 

แผนธุรกิจของพีททั้งหมดมาจากการคิดใหญ่ที่คิดแตกต่างจากคนอื่น ความกล้าหาญคือการลงทุนทำธุรกิจในตลาดเฉพาะกลุ่มซึ่งพีทเล่าความตั้งใจไว้ว่า  

“ตลาดศิลปะในไทยถือว่า niche มากๆ แต่ก็เป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตในตัวของมันเอง แค่โตช้ามาก ตอนที่กลับมาดูโมเดลธุรกิจเมื่อต้นปีเราก็มีคำถามนะว่าวงการศิลปะจะตายหรือเปล่า แต่พอมาดูจริงๆ แล้วคนไทยยังฟังเพลงไวนิล ใช้กล้องฟิล์ม คนยังอยากกลับมาหาสิ่งที่จับต้องได้ ถึงแม้ว่าเราติดมือถือกันมากขึ้นแต่ก็ยังอยากอยู่กับสิ่งของที่จับต้องได้และทำกิจกรรมออฟไลน์ เวลาเบรนสตอร์มคนก็ยังอยากใช้กระดาษแผ่นกันอยู่ โลกยังต้องการเครื่องเขียน เป็นสิ่งที่ไม่ตาย เลยอยากทำแบรนด์นี้” 

นอกจากดีไซน์ของสินค้าทุกชิ้นที่คิดมาอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว พีทยังกล่าวถึงความตั้งใจในการสนับสนุนการสร้างงานในไทยโดยพยายามใช้ซัพพลายเออร์ไทยให้ได้มากที่สุด แม้สินค้าบางรุ่นไม่ได้ผลิตในไทย ก็ออกแบบและคุมคุณภาพที่แล็บของ Mediums ทุกชิ้นดังที่เขียนบนฉลากสินค้าบางรุ่นว่า Design in Bangkok, Made in Italy 

“อยากให้คนไทยรู้สึกว่าเครื่องเขียนเหล่านี้ทำขึ้นเพื่อเขานะ ไม่ง่ายเลยที่จะผลิตในไทย แต่เราก็ยังมีส่วนที่เลือกซัพพลายเออร์ไทยอยู่เพราะอยากสนับสนุนโครงสร้างวงการดีไซน์ในประเทศตั้งแต่โครงสร้างการผลิตก่อนจะมาเป็นสินค้า” 

สำหรับพีทที่เป็นทั้งนักธุรกิจและศิลปิน เขามองว่าปัญหาของวงการศิลปะในไทยคือโครงสร้างของอุตสาหกรรมที่ขาดการสนับสนุนนักสร้างสรรค์  

“เกิดคำถามบ่อยว่าศิลปินที่อยู่ในไทยทำอะไรได้ คำตอบคือมันยังไม่มีหนทางในการเติบโต เด็กที่เรียนจบศิลปะมาไม่มีงานทำ จะสังเกตว่าประเทศเราไม่มีศิลปินที่ดังมากเยอะ ศิลปินไทยหลายคนที่เราชื่นชมเขาก็ไม่ได้เริ่มดังจากที่ไทย กว่าคนไทยจะชื่นชมงานเขากลายเป็นต้องไปแสวงหาโอกาสที่ต่างประเทศก่อน”    

ทั้งนี้พีทมองว่าสิ่งที่ธุรกิจอย่าง Mediums ช่วยผลักดันได้คือเป็นประตูที่เชื่อมต่อผู้คนเข้ากับศิลปะให้เป็นสิ่งที่เข้าถึงง่าย กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวที่อยู่ในชีวิตประจำวัน

“เราอยากทำให้คนสนใจการวาดรูปให้ได้ก่อน ถ้าคนทั่วไปให้คุณค่ากับการวาดรูปทุกวันเสาร์ได้ สิ่งนี้จะทำให้เขาชื่นชมงานของศิลปินคนอื่นได้ง่ายขึ้น เวลาเห็นงานศิลปะราคาแพงก็จะเข้าใจมากขึ้นว่าราคาไม่ได้เว่อร์เพราะงานศิลปะไม่ได้ง่าย เราถึงอยากให้สินค้าของเราดูเป็นมิตร เป็นสินค้าที่ใครก็ซื้อได้ เข้าถึงได้ ด้วยรูปแบบที่น่าใช้ อยากให้คนมีความเข้าใจในคุณค่าของศิลปะมากขึ้นก่อนเราถึงจะสร้างคอมมิวนิตี้หรือผลักดันสังคมศิลปะให้ไปไกลขึ้นได้”  

Add to Cart
5 สินค้าแนะนำที่ออกแบบเองโดย Mediums

1. ดินสอเบอร์ 0
เรามักคุ้นหูกับดินสอแรเงาที่มีระดับความเข้ม 2B 3B 4B
แต่ Mediums คิดค้นสูตรใหม่ของตัวเองที่มีความเข้มให้เลือกตั้งแต่ 0-10
มีเนื้อนุ่มพิเศษจากชาร์โคลและแกรไฟต์ผสมกัน

2. Gel BallPoint Pen 
ปากกาเจลที่เขียนแล้วน้ำหมึกแห้งเร็วทันใจ ไม่เลอะง่าย
แก้ปัญหาหมึกเลอะที่คนใช้ปากกามักพบเจอ

3. Acrylic Paint 
สีอะคริลิก 12 สี ที่ออกแบบขวดให้มองเห็นสีและยังสวยงามน่าใช้

4. Coloured Pencil
ดินสอสี oil-based ที่เนื้อนุ่ม เม็ดสีแน่นในราคาเข้าถึงได้

5. Art Paper Pad 
กระดาษสำหรับงานศิลปะซึ่งแตกออกเป็นกระดาษหลายประเภทแล้วแต่
การใช้งานของแต่ละคน ทั้งสำหรับวาดรูปและระบายสี แบบม้วน 

Writer

Craft Curator, Chief Dream Weaver, Lifestyle Columnist, Editor-in-Cheese, Design Researcher 'Instagram : @rata.montre'

Photographer

ช่างภาพที่สนุกกับการแต่งตัว อยู่กับเสียงเพลง และหลงรักในความทรงจำ Ig : mocfirst

You Might Also Like