Inspiring experiences,
creating places for good.

Frasers Property Thailand กับเบื้องหลังการสร้าง ‘พื้นที่สมดุล’ เพื่อชีวิตที่ดีของผู้คน

ชีวิตที่ดีเริ่มต้นจากอะไร? สุขภาพที่ดี การงานที่มั่นคง มีครอบครัวที่น่ารัก ฯลฯ เชื่อว่าแต่ละคนมีคำตอบในใจที่ต่างกันไปตามเงื่อนไขในชีวิต

แต่หนึ่งในคำตอบที่น่าจะใจตรงกันมากที่สุดลำดับต้น ๆ คงมีเรื่องของ ‘ที่อยู่อาศัย’ เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะในรูปแบบบ้านหรือคอนโด ล้วนเป็นปลายทางที่ควรค่าแก่การเอนตัวทิ้งกายปล่อยใจ และพักผ่อนให้หายเหนื่อยล้าจากเรื่องราวที่ต้องเผชิญตลอดวัน 

อย่างไรก็ดี โจทย์ของคนที่คิดจะซื้อที่อยู่อาศัยทุกวันนี้ เชื่อว่ามีมากกว่าแค่เรื่องความสวยงามหรือเดินทางสะดวก แต่ต้องเป็นพื้นที่ที่สามารถตอบโจทย์และยกระดับมาตรฐานการใช้ชีวิตได้ครบถ้วน รวมไปถึงสร้างความรู้สึกปลอดภัย อบอุ่น และสัมผัสได้ถึงมวลแห่งความสุข

ยกตัวอย่าง ‘เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย (Frasers Property Thailand)’ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำนั้นเชื่อว่าคุณภาพชีวิตที่ดีเริ่มต้นจากการมี ‘พื้นที่ที่ดี’ ไม่ใช่แค่การเป็นที่อยู่อาศัยหรือสำนักงานเท่านั้น แต่หมายถึงการสร้าง ‘พื้นที่’ ที่สมดุลทุกมิติ ทั้งในแง่ของพื้นที่ใช้ชีวิต การเดินทาง และความยั่งยืน ดังแนวคิด Inspiring experiences, creating places for good.

สำหรับ Inspiring experiences, creating places for good. ที่ว่า เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ได้ถ่ายทอดผ่านการดำเนินงานของ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก นั่นคือ Residential, Industrial, Commercial ซึ่งเราอยากชวนไปทำความรู้จักแต่ละกลุ่มอย่างลงลึก

1. Residential as a Service
มากกว่าบ้าน แต่เป็นพื้นที่อยู่อาศัยที่ ‘ห่วงใย’ และ ‘เข้าใจ’ ถึงชีวิต

พื้นที่อยู่อาศัย (Residential) คือหัวใจสำคัญประการแรกที่เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย คำนึงถึง ผ่านโครงการที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมภายใต้หลัก ESG (Environmental, Social and Governance) ที่ดีต่อทั้งลูกบ้านและต่อโลกใบนี้ ภายใต้คำนิยามที่ว่า ‘บ้านที่ออกแบบมาเพื่อรองรับทุกช่วงชีวิต

ถามว่าบ้านที่ออกแบบมาเพื่อรองรับทุกช่วงชีวิตหน้าตาเป็นยังไง คงต้องยกตัวอย่างโครงการ ‘เดอะ แกรนด์ ริเวอร์ฟร้อนท์ ราชพฤกษ์ – พระราม 5’ ที่เพิ่งได้รับเครื่องหมายมาตรฐานอาคารเขียว LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) สำหรับที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวในระดับ Gold ไปเมื่อช่วงต้นปี 2568 และหากลงลึกรายละเอียดถึงภายในบ้านของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย อย่างแบรนด์ Grandio, The Grand ก็มีการออกแบบที่น่าสนใจ ตั้งแต่ห้องกระจกที่แม่บ้านและพ่อบ้านต้องหลงรัก เพราะสามารถทำการซักรีดและตากผ้าภายในบ้าน ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องฝุ่นหรือในวันที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ และระบบ Clean & Cool Air ที่สามารถกรองฝุ่น PM2.5 และมลพิษภายนอก พร้อมเพิ่มค่าออกซิเจนภายในบ้าน 

ส่วนวัสดุที่นำมาใช้ก่อสร้างยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและปลอดภัยต่อผู้อยู่อาศัย เช่น ปูนคาร์บอนต่ำ, ไฮโดรลิกซีเมนต์, สีทาบ้านที่ปล่อย VOC (Volatile Organic Compounds) หรือสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่ายในปริมาณที่ต่ำ รวมไปถึงการติดตั้งโซลาร์เซลล์ทั้งที่บ้านและส่วนคลับเฮาส์

ภายในโครงการยังมีการจัดกิจกรรมเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างลูกบ้าน เช่น วิ่ง เวิร์กช็อปต่างๆ หรือกิจกรรมพิเศษอย่างการพาไปดูหนัง หรือคอนเสิร์ต เพื่อสร้างความผูกพันกลมเกลียวในฐานะชุมชนที่ดีไปพร้อมกัน

2. Industrial as a Service
เชื่อมโยงและสนับสนุนระหว่างธุรกิจกับชุมชนบนพื้นที่อุตสาหกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม

ไม่เพียงแต่การสร้างพื้นที่สำหรับการอยู่อาศัย เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทยยังพัฒนาพื้นที่อุตสาหกรรมที่ให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดี ด้วยการเชื่อมโยงภาคธุรกิจและชุมชนโดยรอบเข้าด้วยกัน 

ภายในเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ เป็นทั้งพื้นที่ที่เสริมสร้างศักยภาพทางธุรกิจครบวงจร ด้วยโรงงานและคลังสินค้าแบบ Ready-Built, Built-to-Suit, Built-to-Function ที่พัฒนาตามมาตรฐานอาคารเขียว LEED, EDGE, TREES พร้อม business support services มีทีมงานประสบการณ์สูงในการช่วยดูแลทรัพย์สิน และให้คำปรึกษาแก่ผู้เช่าในการติดต่อกับภาครัฐ
ที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ ในโครงการมีการจัดสรรพื้นที่ออกกำลังกายให้แก่พนักงาน ลู่วิ่ง สนามฟุตซอล ไปจนถึงโรงอาหาร เพื่อมอบความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิตที่ดี พร้อมด้วยการพัฒนาชุมชนผ่านการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมรูปแบบต่าง ๆ เพื่อยกระดับสังคมที่เป็นแวดล้อมส่วนหนึ่งของการดำเนินกิจการธุรกิจ

3. Commercial as a Service
‘ศูนย์กลางของชีวิตเมือง’ ที่ผสมผสานและโอบรับความเป็นเมืองอย่างเข้าใจ

กลุ่มธุรกิจสุดท้ายคือการสร้างพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่มากกว่าแค่การเป็นอาคารสำนักงานหรือศูนย์การค้า แต่เป็น ‘ศูนย์กลางของชีวิตเมือง’ ที่เข้าใจ เชื่อมโยงผู้คน เพิ่มโอกาส และตอบรับไลฟ์สไตล์คนทำงานได้อย่างชาญฉลาด 

ยกตัวอย่างศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ โครงการ mixed-use ที่ออกแบบให้สอดคล้องกับเอกลักษณ์ของผู้คนย่านดังกล่าว ภายใต้แนวคิด ‘Urban Life Library’ หรือ ‘คลังแห่งอาหารและการเรียนรู้’ ที่ผสมผสานระหว่างพื้นที่ที่รวบรวมร้านอาหารและโซนพื้นที่เพื่อการเรียนรู้อย่าง C asean Samyan CO-OP ซึ่งเป็น co-learning space ที่มีการจัดกิจกรรมเวิร์กช็อป หรือ edutainment ต่างๆ 

นอกจากนี้ ยังเป็นพื้นที่ที่โอบรับผู้คนทุกมิติ โดยมี event space ที่สนับสนุนผู้ประกอบการระดับ SME ผ่านกิจกรรมการจัดตลาดนัดที่มีให้เห็นเป็นประจำ พร้อมด้วยการเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้า MRT สามย่านผ่านอุโมงค์เชื่อมมิตร ที่ทำให้เข้าสู่พื้นที่ได้ง่ายอย่างไร้รอยต่อ

หรือในส่วนของอาคารสำนักงาน Sathorn Square ที่ภายในถูกออกแบบให้เชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ด้วยการผนวก Smart Grade-A Office ที่รองรับการทำงานแบบไฮบริด และมีบริการ PromptMove ที่ตกแต่งภายในพร้อมเข้าใช้งานได้ทันที พร้อม flexible leasing หรือสัญญาเช่าที่ยืดหยุ่น

จากธุรกิจทั้ง 3 กลุ่มที่กล่าวถึงเบื้องหลังมุมคิดและการออกแบบของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ทำให้เราได้เห็นว่า ‘พื้นที่ที่เข้าใจ’ ต้องเป็นแบบไหน ผ่านโครงการที่อยู่อาศัย อุตสาหกรรม และพาณิชยกรรม ซึ่งกระจายแยกย่อยอยู่ในหลากหลายพื้นที่ สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย บริษัทอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรที่เป็นมากกว่าผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง แต่ได้สร้างเมืองที่เข้าใจ สร้างชีวิตที่ดี และเชื่อมโยงผู้คนเข้าไว้อย่างแท้จริงในทุกมิติ

Writer

นักเขียนผู้หลงใหลโลกของฟุตบอล สนีกเกอร์ และกันพลา

Illustrator

บรรณาธิการศิลปกรรม Email: [email protected]

You Might Also Like