Bus-siness Class

บทเรียนของ 5 บริษัทรถทัวร์ยอดนิยมที่อยู่คู่ชาวไทยทุกเทศกาล

ปีใหม่ สงกรานต์ หรือเทศกาลไหนๆ นอกจากรถไฟ รถตู้ เครื่องบินแล้ว รถทัวร์ก็ยังคงเป็นพาหนะคู่ใจใครหลายคน เพราะถือเป็นการเดินรถที่ครอบคลุมหลายเส้นทาง บางเส้นทางจุดหมายปลายทางถึงหน้าบ้านก็ได้ และราคายังเข้าถึงง่ายที่สุด

แต่ในช่วงหลายปีมานี้ ตั้งแต่สายการบินโลว์คอสต์เพิ่มขึ้น ผู้คนหันมาซื้อรถส่วนตัวเพื่อเดินทางกันเอง รวมถึงปัญหาด้านความปลอดภัยที่ออกข่าวให้ผู้โดยสารหวั่นใจอยู่เสมอ ปริมาณผู้โดยสารรถทัวร์จึงลดน้อยถอยลงอย่างปฏิเสธไม่ได้ 

ธุรกิจรถทัวร์ยังเผชิญกับปัญหาหลากหลายรูปแบบ ทั้งการควบคุมค่าโดยสารโดยภาครัฐเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงตั๋วโดยสารอย่างเท่าเทียม นั่นแปลว่ารายได้ย่อมเท่าเดิมหรือน้อยลง ขณะที่ต้นทุนน้ำมันพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยิ่งเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 ที่ธุรกิจรถทัวร์เป็นด่านแรกที่ได้รับผลกระทบ บริษัทรถทัวร์หลายเจ้าจึงขาดทุนติดต่อกันหลายปี หลายเจ้าเผชิญปัญหาหนักจนไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ขณะที่หลายเจ้ายังคงพยุงตัวเองขึ้นมาได้ และทำกำไรสวนทางความกังวลว่ารถทัวร์กำลังจะตาย

ทางออกหนึ่งในการเพิ่มรายได้ของกิจการรถทัวร์หลายเจ้าคือการหันมาเพิ่มบริการขนส่งพัสดุซึ่งกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นหลายเจ้ายังขยายธุรกิจอื่นๆ ในเครือเพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มรายได้จากหลายทาง แต่ปัจจัยเหล่านี้เป็นเพียงจุดร่วมหนึ่งเท่านั้น น่าสนใจว่าทำไมบางบริษัทรถทัวร์จึงสามารถสร้างความแตกต่างและสร้างรายได้มากกว่าเจ้าอื่นๆ 

ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผู้คนเดินทางกลับบ้านนี้ Capital จะพาไป recap บทเรียนสำคัญของ 5 ธุรกิจรถทัวร์ไทย

***ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมษายน 2567

บขส. 
ก่อตั้ง : 2473
บทเรียนสำคัญ : การมองหาช่องว่างในธุรกิจและการปรับตัวให้สอดคล้องกับความนิยมของคนในสังคม 

รถทัวร์ที่หลายคนน่าจะเคยขึ้น รถทัวร์ที่อยู่คู่คนไทยมานานที่สุด ต้องยกให้บริษัทรถทัวร์รายแรกของไทยอย่าง บขส. หรือบริษัท ขนส่ง จำกัด ที่แต่เดิมเคยดูแลทั้งการบินพาณิชย์รวมถึงการเดินเรือ ก่อนจะแยกออกมาดูแลแค่กิจการเดินรถภายใต้รัฐวิสาหกิจ และจดทะเบียนเมื่อปี 2490 

เส้นทางการเดินรถโดยสารสายแรกคือกรุงเทพฯ – ลพบุรี และกรุงเทพฯ – ปราจีนบุรี แต่ปัจจุบัน บขส.มีสายรถครอบคลุมการเดินทางทุกภาค ถือเป็นจุดเด่นสำคัญของ บขส.ทีเดียว และนั่นอาจเป็นที่มาของรายได้รวมในปี 2566 ที่สูงกว่าใครเพื่อนถึง 1,887,460,120 บาท (เป็นรองนครชัยแอร์) แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าจำนวนเงินที่สูงขนาดนั้น บริษัทยังคงขาดทุนสุทธิกว่าสอยร้อยล้านบาท 283,186,412 บาท 

หนึ่งในการปรับตัวครั้งสำคัญของ บขส.เพื่อให้บริษัทเดินหน้าต่อไปได้ คือการพยายามลดค่าใช้จ่ายด้วยการลดการให้บริการเดินรถในบางเส้นทางที่มีการแข่งขันสูง และเพิ่มความถี่ไปยังจังหวัดท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นยังเพิ่มบริการขนส่งพัสดุแบบ Hib to Hub ไปรษณีย์จะรับพัสดุจากสถานีขนส่งเพื่อไปส่งตามบ้านอีกทอด ทำให้ปี 2566 ที่ผ่านมา บขส.มีรายได้จากการขนส่งสินค้ากว่า 200 ล้านบาทต่อปี 

คาดว่าเมื่อเพิ่มบริการขนส่งพัสดุเพิ่มขึ้น บขส.น่าจะมีรายได้อีกประมาณ 200 ล้านบาท ภายในปี 2567-2568 ประกอบกับเมื่อจำนวนผู้โดยสารไต่ระดับกลับสู่สถานการณ์ปกติก่อนโควิด-19 อาจทำให้ บขส.มีรายได้เพิ่มขึ้น

สมบัติทัวร์
ก่อตั้ง : 2485
บทเรียนสำคัญ : การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างรอบคอบและการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าแบบครบวงจร

บริษัท เทพสมบัติ จำกัด หรือในชื่อที่หลายคนเรียกติดปากว่า ‘สมบัติทัวร์’ ถือเป็นบริษัทเดินรถเอกชนที่มีอายุอานามมากกว่าบริษัทอื่นๆ แต่นั่นไม่ได้ทำให้สมบัติทัวร์หยุดตัวเองไว้ แต่กลับปรับเปลี่ยนบริษัทให้ทันกับผู้บริโภคอยู่เสมอ และยังเน้นทำการตลาดที่ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม 

เช่น การมีสายรถที่ครอบคลุมทั่วทุกภาคของไทย ระบบการจองตั๋วล่วงหน้าผ่านหลายช่องทางเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร การมีรถทัวร์ซูเปอร์วีไอพี 20 ที่นั่งอย่างเวียงพิงค์บัส ที่ลบภาพจำการนั่งรถทัวร์ที่ดูไม่สบายและไม่ปลอดภัยออกไป นอกจากนั้นผู้โดยสารหลายคนก็เลือกนั่งสมบัติทัวร์ด้วยเพราะมีจุดแวะพักระหว่างทางที่ตอบโจทย์การเดินทางไกลอันแสนเหนื่อยล้า  

ในช่วงโควิด-19 ซึ่งเป็นช่วงวิกฤตสำหรับบริษัทรถทัวร์ทุกบริษัทเนื่องจากจำเป็นต้องหยุดการเดินรถเพื่อลดการแพร่ระบาด รัฐบาลมีนโยบายให้บริษัทรถทัวร์คืนเงินค่าตั๋วโดยสารกับผู้โดยสาร นั่นหมายความว่าเงินหมุนเวียนที่มีจะต้องลดน้อยถอยลง 

สิ่งหนึ่งที่สมบัติทัวร์แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีคือการนำเสนอโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าที่เลือกเก็บตั๋วไว้ โดยการมอบตั๋วเดินทางฟรีอีก 1 ใบซึ่งใช้งานได้ใน 1 ปี เพราะผู้บริหารมองเห็นแล้วว่ากลุ่มลูกค้าที่จำเป็นต้องเดินทางยังมีอีกมาก แม้ลูกค้าจะได้เงินกลับไปจากการคืนตั๋ว เมื่อถึงเวลาจำเป็นต้องเดินทาง ลูกค้าก็จะต้องเสียเงินซื้อบัตรโดยสารใหม่อยู่ดี

นี่อาจเป็นเหตุผลที่แม้รายได้รวมจะยังไม่กลับมาสูงเท่าช่วงโควิด-19 แต่สมบัติทัวร์ก็ยังทำกำไรได้ในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้

เชิดชัยทัวร์
ก่อตั้ง : 2506 
บทเรียนสำคัญ : การปรับตัวและการน้อมรับเสียงวิจารณ์คือสิ่งที่ทำให้ธุรกิจหนึ่งๆ ไม่กลายเป็นตำนานที่ไร้ลมหายใจ

เชิดชัยทัวร์ หรือที่หลายคนจดจำได้ในฐานะบริษัทรถทัวร์ของเจ๊เกียว ต่อยอดจากอู่ต่อรถจนกลายเป็นธุรกิจรถโดยสารที่แต่เดิมเน้นวิ่งแค่ในโคราชและมีรถเพียง 1 คันเท่านั้น ก่อนขยายกิจการจนเชิดชัยทัวร์มีรถโดยสารประจำทางระหว่างจังหวัดกว่า 1,200 คัน 

ส่วนใหญ่เป็นเส้นทางระยะไกลในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และยังเน้นให้บริการระยะกลางระหว่างกรุงเทพฯ และนครราชสีมา และมีจุดหมายปลายทางทางตะวันออกบางแห่ง ขณะที่หลายเจ้าไม่มี สิ่งที่ทำให้เจ๊เกียวประสบความสำเร็จมากในช่วงแรกก็ด้วยคู่แข่งที่ยังน้อยราย ชนิดที่ถ้านึกถึงรถทัวร์ก็ต้องนึกถึงเชิดชัย

แต่ด้วยความที่อยู่มานาน อาจทำให้เชิดชัยทัวร์มีจุดด้อยที่ทำให้หลายคนจดจำชื่อนี้ในภาพลบ ทั้งในแง่การบริการ ความทันสมัยต่างๆ ก็ยังตามหลายบริษัทที่ปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ถึงอย่างนั้น เชิดชัยทัวร์ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและพยายามพัฒนาบริการหลายด้าน ทั้งการปรับให้ซื้อตั๋วผ่านช่องทางออนไลน์ได้ การขยายไปสู่การรับ-ส่งผู้โดยสารให้กับสนามบินและสายการบินในไทยและต่างประเทศ ซึ่งยังมีคู่แข่งน้อย

สิ่งหนึ่งที่สร้างเสียงฮือฮาคือเมื่อปี 2565 เจ๊เกียวได้ออกมาประกาศขายกิจการเชิดชัยทัวร์ เพื่อปิดจบหนี้สินทั้งหมด ปัจจุบันเชิดชัยทัวร์ยังคงให้บริการเดินรถและในปี 2566 ที่ผ่านมาก็กลับมาทำกำไรได้ แม้เพียงน้อยนิดก็ถือเป็นอีกหนึ่งเฮือกของการทำธุรกิจรถทัวร์ไม่น้อย

กรีนบัส
ก่อตั้ง : 2507
บทเรียนสำคัญ : การสร้างระบบที่ดีคือพื้นฐานของการธุรกิจ

ถ้าจะบอกว่าสายรถเจ้าไหนที่ชาวเหนือคุ้นชินเป็นอันดับต้นๆ ก็ขอยกให้กรีนบัส นอกจากชื่อกรีนบัสแล้ว อีกชื่อที่หลายคนเอ่ยจนติดปากคือเมล์เขียว ด้วยเพราะรถโดยสารรุ่นแรกมีลักษณะคล้ายรถบรรทุกที่ด้านข้างรถเป็นสีเขียวนั่นเอง 

ช่วงเริ่มต้นกิจการ กรีนบัสได้รับสัมปทานเส้นทาง ลำปาง – เชียงราย เป็นเส้นทางเเรก นอกจากเน้นเดินทางข้ามจังหวัดในแถบภาคเหนือแล้ว กรีนบัสยังมีบริการเส้นทางเดินรถข้ามภูมิภาคระหว่างภาคเหนือ กลาง และใต้ และจากการร่วมทุนกับบริษัท ปิยะรุ่งเรืองทัวร์ จำกัด ซึ่งให้บริการเดินรถในภาคใต้  จึงทำให้กรีนบัสมีเส้นทางเดินรถที่ยาวที่สุดในไทย นั่นคือเส้นทางหมวด 3 สายที่ 877 แม่สาย – ด่านนอก  

หนึ่งในความท้าทายของธุรกิจเดินรถที่ ‘สมชาย ทองคำคูณ’ ผู้บริหารรุ่นที่สองของกรีนบัสเคยให้สัมภาษณ์กับ Capital คือการทำกำไร หลักสำคัญคือการปรับเปลี่ยนระบบให้จัดการง่ายเพื่อควบคุมต้นทุนตั้งแต่การยกเลิกนโยบายรถ 1 คัน มีคนขับประจำรถ 1 คน แล้วเปลี่ยนเป็นรถ 10 คัน ต่อคนขับ 14 คน โดยแต่ละคนไม่ประจำรถ เพื่อให้คนขับชุดเดิมได้พักผ่อน แต่รถก็พร้อมให้บริการทันทีเพราะมีคนขับอีกชุดรออยู่แล้ว ซึ่งสร้างรายได้ให้กรีนบัสมากขึ้นถึง 50% 

นอกจากนั้นกรีนบัสยังบังคับให้พนักงานต้องมีวันหยุด ไม่เน้นการทำรอบเพื่อเพิ่มรายได้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้โดยสาร ตัวคนขับเอง และทำให้คนขับได้มีชีวิตส่วนตัวและครอบครัวที่ดีขึ้น รวมถึงยังแตกไลน์ธุรกิจอีกมากเพื่อสร้างรายได้หลายทาง

แม้เทียบกับบริษัทรถทัวร์ชื่อดังอีกหลายเจ้า กรีนบัสจะยังทำรายได้และกำไรทิ้งห่างจากพี่ใหญ่ไปมาก แต่กรีนบัสก็ยังคงเป็นที่รักของชาวเหนืออยู่เสมอ

นครชัยแอร์
ก่อตั้ง : 2529
บทเรียนสำคัญ : การเป็นผู้นำในวงการและการปรับตัวเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคคือเกมสำคัญที่ทำให้สร้างกำไรมหาศาล และนำหน้าทุกคนในวงการ ทั้งที่ใครๆ ต่างก็บอกว่าธุรกิจรถทัวร์กำลังจะตาย

ในบรรดาสายรถชื่อดังทั้งหลาย นครชัยแอร์ถือเป็นน้องใหม่ด้วยอายุอานามเทียบเท่าวัยกลางคน แต่เด็กใหม่คนนี้กลับนำหน้าบริษัทรถทัวร์อื่นๆ ไปได้ไกล จากการเปิดให้บริการ 2 เส้นทาง คือ กรุงเทพฯ – ขอนแก่น และกรุงเทพฯ – อุบลราชธานี ด้วยรถโดยสารเพียง 20 คัน ปัจจุบันเปิดให้บริการ 106 สาขา ในภาคเหนือ อีสาน ตะวันออก และกรุงเทพฯ รวมกว่า 487 จุดหมายปลายทาง 

ด้วยปกติบริษัทรถทัวร์อื่นๆ จับตลาดแมสเพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนให้ได้มากที่สุด แต่นครชัยแอร์กลับเลือกจับตลาด niche ที่ค่าตั๋วสูงขึ้นแต่แลกมาด้วยความสะดวกสบายที่บริษัทรถทัวร์อื่นๆ ให้ไม่ได้  นั่นคือนครชัยแอร์หันมาเลือกออกแบบรถโดยสารเอง ปรับลดที่นั่งลงเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย เลือกทำเบาะนั่งแบบแคปซูลเพิ่มความเป็นส่วนตัว มีเบาะนวดไฟฟ้า มีจอทีวีส่วนตัวระบบทัชสกรีน 

นอกจากนั้นยังเป็นบริษัทแรกที่เปิดสำรองที่นั่งและจำหน่ายตั๋วด้วยระบบคอมพิวเตอร์ และมีโซนเฉพาะผู้หญิงเพื่อเพิ่มความรู้สึกปลอดภัยให้ผู้โดยสารด้วย  อีกความแตกต่างคือการบริการและการเพิ่มความปลอดภัย ที่รถทุกคันมีจีพีเอสเพื่อจับความเร็วและเส้นทางเดิน มีศูนย์ควบคุมที่คอยตักเตือนพนักงาน มีการเทรนพนักงานขับรถ และพนักงานให้บริการที่ทำให้ผู้โดยสารรู้สึกเหมือนได้รับบริการบนเครื่องบิน

อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้นครชัยแอร์โดดเด่นคือการสื่อสารในช่องทางโซเชียลมีเดียของตนเองอย่างเข้าถึงลูกค้ารุ่นใหม่ๆ ทั้งประชาสัมพันธ์ทั่วไป และการทำคอนเทนต์ที่สร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า ที่ผ่านมายังเปิดให้ผู้โดยสารออกแบบชุดพนักงานบริการบนรถด้วย ไม่แปลกใจหากนครชัยแอร์จะได้รับรางวัล Best Brand Performance on Social Media กลุ่มธุรกิจบริการขนส่งสาธารณะ (Mass Transit) ในงานประกาศรางวัล Thailand Social Awards ครั้งที่ 12 ด้วย

แม้จะเผชิญสถานการณ์โควิด-19 ไม่ต่างจากเจ้าอื่นๆ แต่นครชัยแอร์ก็พลิกเกมกลับมาได้อย่างรวดเร็ว ทำรายได้รวมสูงถึง 2 พันล้านบาท ทั้งยังสร้างกำไรหลักครึ่งล้านได้ ถือเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้นครชัยแอร์ไม่เก่าแต่เก๋าเกม 

อ้างอิง

Writer

กองบรรณาธิการไลฟ์สไตล์ที่มีแมวเป็นแรงผลักดันในการทำงาน

Illustrator

บรรณาธิการศิลปกรรม Email: [email protected]

You Might Also Like