บ้านหลังแลก
‘Love Home Swap’ ธุรกิจสลับบ้านกันอยู่ช่วงเทศกาลที่ต่อยอดจากหนัง The Holiday
ช่วงส่งท้ายปีเก่าแบบนี้ กิจกรรมที่คุณผู้อ่านชอบทำในทุกๆ ปีคืออะไรคะ?
ถ้าถามฉัน หนึ่งในสิ่งที่ชอบเป็นพิเศษจนแทบจะเรียกได้ว่าเป็น ‘พิธีกรรมช่วงสิ้นปี’ (ฮา) คือการขดตัวอยู่ในผ้าห่มผืนหนา มีเครื่องดื่มอุ่นๆ ในมือสักแก้ว ปิดไฟให้ทั้งห้องมืดสนิท แล้วเปิดหนังที่เป็น comfort movie ของตัวเองดูสักเรื่อง
อาจเพราะบรรยากาศเป็นใจ หนังที่ฉันมักจะเปิดดูบ่อยมักจะเป็นหนังโทนอบอุ่นที่เกี่ยวกับเทศกาลคริสต์มาสเสียส่วนใหญ่ พวก Love Actually, รักแห่งสยาม หรือถ้าเป็นแอนิเมชั่นก็ The Polar Express ใดๆ เหล่านั้น
![](https://capitalread.co/wp-content/uploads/2022/12/1390038295.jpg)
หนึ่งในเรื่องที่หยิบมาดูซ้ำบ่อยพอๆ กัน คือ The Holiday หนังโรแมนติกคอเมดี้ที่ขายพลังดาราอย่าง คาเมรอน ดิแอซ (Cameron Diaz) และเคต วินสเลต (Kate Winslet) สองตัวแม่ฮอลลีวูด กำกับโดย แนนซี่ เมเยอร์ส (Nancy Meyers) ผู้กำกับหญิงที่เคยกำกับหนังเด็กแฝดตัววุ่นอย่าง The Parent Trap หรือเรื่องที่หลายคนน่าจะเคยดูคือ The Intern ที่เล่าเรื่องราวของชายวัยเกษียณที่ไม่อยากเกษียณเลยไปสมัครเป็นเด็กฝึกงานรุ่นเก๋าในออฟฟิศแฟชั่น เพราะฉะนั้นใครยังไม่เคยดู The Holiday บอกเลยว่าห้ามพลาด เพราะมันเปี่ยมไปด้วยความน่ารัก อบอุ่น และอารมณ์ขันเฉพาะตัวของแนนซี่ไม่ต่างจากอีก 2 เรื่องที่ฉันพูดถึง
The Holiday เล่าเรื่องราวของไอริส (เคต วินสเลต) นักเขียนประจำคอลัมน์งานแต่งงานของหนังสือพิมพ์หัวหนึ่งในลอนดอน ต่างจากไฟต้นคริสต์มาสที่กำลังสว่างไสว–เธอกำลังอยู่ในความสัมพันธ์ติดๆ ดับๆ กับแจสเปอร์ เพื่อนร่วมงานผู้นั่งตำแหน่งแฟนเก่าที่เลิกกันไปนาน แต่ต่างฝ่ายต่างมูฟออนกันเป็นวงกลม ในงานเลี้ยงเทศกาลของออฟฟิศ ไอริสเซอร์ไพรส์แจสเปอร์ด้วยการให้ของขวัญเขา แต่กลับเจอแจสเปอร์เซอร์ไพรส์กลับด้วยการขอผู้หญิงอีกคนแต่งงานต่อหน้าเธอ
![](https://capitalread.co/wp-content/uploads/2022/12/holiday-long.jpg)
ข้ามไปฝั่งลอสแอนเจลิส อะแมนด้า (คาเมรอน ดิแอซ) เจ้าของบริษัทตัดตัวอย่างหนังก็เพิ่งจับได้ว่าสามีนอกใจมาหมาดๆ เลยไล่เขาออกจากบ้าน เธอเสียใจมากแต่ร้องไห้ไม่ออกเพราะมีอดีตฝังใจกับการร้องไห้ตั้งแต่เด็ก หญิงสาวเลยอยากเปลี่ยนบรรยากาศเพื่อรีเฟรชความรู้สึกใหม่ และเปิดเน็ตไปเจอประกาศให้เช่ากระท่อมหน้าตาน่ารักที่ตั้งอยู่ในชนบทเงียบสงบของไอริสพอดี
โชคดีที่อะแมนด้าตัดสินใจส่งข้อความไปขอเช่า เพราะเสียงแจ้งเตือนของข้อความนั้นดึงสติไอริสที่กำลังคิดจบชีวิตตัวเองในบ้านพอดี และนั่นคือจุดเริ่มต้นเรื่องราวของหญิงสาวแปลกหน้า 2 คนที่แลกบ้านกันอยู่ชั่วคราว โดยที่ไม่รู้เลยว่านั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นความรักครั้งใหม่ที่ชวนฝันไม่ต่างจากปาฏิหาริย์วันคริสต์มาส
![](https://capitalread.co/wp-content/uploads/2022/12/cameron-diaz-the-holiday-trivia-facts-1608298519-1024x511.jpeg)
The Holiday ถือเป็นหนังของแนนซี่ เมเยอร์ส ที่ป๊อปปูลาร์ที่สุดเรื่องหนึ่ง เพราะตั้งแต่ออกฉายในปี 2006 เราก็เห็นกระแสจากแฟนคลับที่ส่งเสียงเรียกร้องให้ทำภาคต่ออยู่เรื่อยๆ ยังไม่นับว่าหนังเรื่องนี้เป็นแรงบันดาลใจให้คนดูหลายคนตัดสินใจ ‘แลกบ้าน’ กับคนแปลกหน้า อย่างเมื่อปีที่แล้วก็มีติ๊กต็อกเกอร์คนหนึ่งจากบอสตันทำคลิปประกาศหาคนในอังกฤษที่ยินดีจะแลกบ้านกันอยู่ชั่วคราวในช่วงคริสต์มาส แล้วใส่สกอร์จาก The Holiday เป็นฉากหลัง
“ฉันจริงจังนะ” เกรซ แก็กนอน (Grace Gagnon) ติ๊กต็อกเกอร์คนดังกล่าวบอกในแคปชั่น ก่อนจะเล่นมุกที่ลิงก์ไปยังคาแร็กเตอร์ของจู๊ด ลอว์ ในหนังต่อท้ายว่า “ให้คะแนนพิเศษเลยถ้าคุณมีพี่ชายที่โสดและเป็นหนุ่มฮอต”
![](https://capitalread.co/wp-content/uploads/2022/12/thumb_9F83140E-C468-4E09-816F-7EF06B237160-1.jpg)
แรงบันดาลใจจาก The Holiday ยังพาแฟนคลับบางคนให้ไปไกลกว่านั้น อย่างลิซซี่ เฟรนนีเออร์ (Lizzie Frainier) ผู้สื่อข่าวจาก The Telegraph ที่หยิบไอเดียจากหนังมาเปิดธุรกิจ ‘แลกบ้าน’ ของตัวเองในชื่อ ‘Love Home Swap’ ก่อตั้งในปี 2011 ด้วยความตั้งใจว่าอยากสร้างประสบการณ์แบบในเรื่อง The Holiday อีกครั้งผ่านการแลกบ้านในลอนดอนของเธอกับคนนิวยอร์ก
ลิซซี่ไม่ใช่คนแปลกหน้าของวงการนอนบ้านคนแปลกหน้า เธออธิบายว่าการไปใช้ชีวิตต่างที่ในบ้านคนอื่นทำให้เธอรู้สึกแปลกประหลาด ในขณะเดียวกันก็ตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ๆ รอบตัว และรู้สึกเหมือนได้สนิทกับอีกคนผ่านประสบการณ์พักอาศัยในบ้านของคนคนนั้น เธอคิดว่าแฟนหนังคนอื่นๆ หรือแม้แต่คนที่ไม่เคยดูหนังเลยน่าจะรู้สึกพิเศษแบบนี้เช่นกัน จึงเปิดเว็บไซต์ Love Home Swap ขึ้นมาเพื่อชวนให้เจ้าของบ้านทั้งหลายมาแลกบ้านกันอยู่
เธอคิดถูกทีเดียว เพราะตั้งแต่ปล่อยเว็บไซต์ออกไปก็มีนักท่องเที่ยวชาวสหราชอาณาจักรหลายคนหลั่งไหลกันเข้ามาเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีการแลกบ้านก็กลายเป็นรูปแบบหนึ่งของการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และทำให้ Love Home Swap กลายเป็นเว็บไซต์ยอดนิยมที่ผู้คนจะคิดถึงเมื่ออยากแลกเปลี่ยนบ้านกัน ยิ่งช่วงหลังโควิดที่เราโหยหาการท่องเที่ยวกันสุดๆ มีรายงานว่าช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2021 มีผู้ใช้เว็บไซต์ในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นมากถึง 45% เมื่อเทียบกับปี 2022
แล้วอะไรล่ะที่ทำให้เว็บไซต์อย่าง Love Home Swap รวมถึงธุรกิจแลกบ้านเว็บอื่นๆ ได้รับความนิยมขนาดนี้ อาจเป็นเพราะ Love Home Swap มีระบบการแลกบ้านที่ง่าย ซึ่งอันที่จริงมันก็แทบจะไม่ต่างจากเว็บไซต์แมตช์คู่เดตทั่วไปด้วยซ้ำ ขั้นตอนเริ่มจากการสมัครสมาชิกแบบ Free Trail ลงข้อมูลบ้านของตัวเอง แล้วไปแอบส่องบ้านของคนอื่นในฐานข้อมูลที่มีกว่า10,000 หลังใน 100 ประเทศทั่วโลก หากถูกใจหลังไหนก็ทักไปหาเจ้าของบ้านหลังนั้นได้เลย
Love Home Swap ยังเพิ่มความพิเศษด้วยการมีชอยส์การแลกให้เลือกหลายแบบ โดยแบ่งเป็น Classic Swap คือการแลกบ้านธรรมดาระหว่างเจ้าของบ้านสองหลังที่ตกลงปลงใจกัน กับอีกแบบคือ Points Swap ที่ให้แลกบ้านผ่านพอยต์ที่เป็นสกุลเงินเฉพาะบนเว็บไซต์ ซึ่งใช้สำหรับในกรณีที่ชอบบ้านหลังหนึ่งมาก แต่เจ้าของบ้านติดภารกิจทำให้แลกกันไม่ได้สักที เราก็สามารถใช้พอยต์แทนเงินในการไปเช่าบ้านเขาอยู่ โดยที่เขาไม่ต้องมาอยู่บ้านเราก็ได้
![](https://capitalread.co/wp-content/uploads/2022/12/the-holiday-5-1024x682.jpg)
และหากหันมาถามฝั่งผู้บริโภคบ้างว่าทำไมเขาถึงเลิฟ Love Home Swap กันหนักหนา พวกเขาให้เหตุผลว่าการแลกบ้านนั้นช่วยให้นักเดินทางประหยัดเงินค่าที่พักไปได้มากโขเมื่อเทียบกับการพักในโรงแรมทั่วไป (ค่าเฉลี่ยบอกว่าเซฟเงินได้มากกว่าพันปอนด์สำหรับการพัก 7 วันเลยทีเดียว)
มากกว่านั้น นักแลกบ้านยังจะได้ใช้ชีวิตในสวนของคนแปลกหน้า ได้ว่ายน้ำในสระน้ำส่วนตัว ได้ไปกินไปดื่มในร้านที่ชาวบ้านไปกันจริงๆ ไหนจะประสบการณ์การใช้ชีวิตแบบ ‘คนบ้านนั้น’ ที่หาไม่ได้จากที่ไหน เพราะบางครั้ง พวกเขาไม่ได้แลกแค่บ้านกัน แต่ยังแลกเมมเบอร์ฟิตเนส แลกคอร์สสปา แลกกันเลี้ยงน้องหมา และสารพัดการแลกเพื่อให้อีกฝ่ายได้มาใช้ชีวิตแบบตัวเองจริงๆ
“Love Home Swap อนุญาตให้ผู้คนได้สำรวจโลกผ่านพลังของการแบ่งปัน” ซีเลีย พรอนโต (Celia Pronto) Managing Director ของ Love Home Swap เปิดเผย
“มันไม่ใช่แค่การแลกบ้านกัน แต่มันคือการแลกประสบการณ์ชีวิตกันชั่วคราว”
อ้างอิง