Consent Consultant
Poor Things กับอาชีพ Intimacy Coordinator ที่ปรึกษาฉาก 18+ ที่อยากให้นักแสดงทุกคนสบายใจ
เวลาดูหนังแล้วเห็นฉากเซ็กซ์ทีไร เคยสงสัยไหมว่าลิมิตการเข้าฉากนี้อยู่ตรงไหน แล้วนักแสดงเขาจะเขินกันหรือเปล่า
นับตั้งแต่อายุก้าวข้ามหลัก 20 เราก็สามารถก้าวเท้าเข้าโรงหนังที่ฉายหนังเรต 20+ ได้แบบไม่ขัดเขิน แต่ถึงจะเห็นน้องจู/น้องจิมของนักแสดงมาเรื่องแล้วเรื่องเล่า เราก็อดรู้สึก ‘อื้อหือ’ ไม่ได้ตอนดูฉาก(ที่เรามองว่า)ค่อนข้างแรง ตามมาด้วยคำถามว่า เขาถ่ายกันยังไงนะ?
ล่าสุด หนังเรื่องนั้นคือ Poor Things งานกำกับของยอร์กอส ลานธิมอส ที่พาให้เอ็มม่า สโตน คว้าออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมเป็นตัวที่ 2 มาหมาดๆ เปรียบเทียบง่ายๆ Poor Things เป็นเรื่องราวของแฟรงเกนสไตน์เวอร์ชั่นผู้หญิง หนังเล่าเรื่องของผู้หญิงท้องคนหนึ่งที่พยายามฆ่าตัวตาย แต่โดนนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องช่วยชีวิตไว้ด้วยการผ่าตัดสมองของเด็กในครรภ์ใส่ในหัวเธอ ‘เบลล่า แบกซ์เตอร์’ จึงถือกำเนิดขึ้นในฐานะเด็กในร่างผู้ใหญ่ผู้ใคร่รู้ สนใจเกี่ยวกับทุกความเป็นไปของชีวิต นั่นนับรวมถึงเรื่องความสุขทางเพศด้วย
ในหนังเรื่องนี้ นอกจากจะได้เห็นเอ็มม่า สโตน โชว์ทักษะการแสดงเต็มที่ในฐานะเด็กในร่างผู้ใหญ่ เราจึงได้เห็นเธอเข้าฉากที่ต้องโชว์เรือนร่างเปลือยเปล่า และเสพสังวาสกับนักแสดงคนอื่นอย่างถึงพริกถึงขิง เผ็ดร้อนที่สุดเท่าที่เคยเห็น
แน่นอนว่า คำถามว่า ถ่ายกันยังไงนะ? ลิมิตการเข้าฉากนี้อยู่ตรงไหน? แล้วนักแสดงเขาจะเขินกันหรือเปล่า? ผุดขึ้นมาในหัวเรา
Entretainment ตอนนี้อาจไม่ได้เล่าเรื่องธุรกิจเสียทีเดียว แต่เราอยากชวนมารู้จักบุคคลที่เป็นดั่งที่ปรึกษา ผู้ช่วย และจุดเชื่อมระหว่างผู้กำกับและนักแสดงในการถ่ายทำฉากเหล่านี้ให้เป็นไปอย่างราบรื่น ได้ฟุตเทจเซ็กซ์ซีนที่ดี บนพื้นฐานว่านักแสดงทุกคนจะต้องสบายใจ
ใช่ เรากำลังพูดถึงตำแหน่งในกองถ่ายที่เรียกว่า Intimacy Coordinator
ถ้าต้องแปลเป็นไทยในฉบับของเรา ขอใช้คำว่า ‘ผู้ประสานงานการถ่ายทำฉากลึกซึ้ง’
นั่นเพราะหน้าที่หลักของ Intimacy Coordinator (หรือบางคนก็เรียกว่า Intimacy Director) ไม่ได้มีเพียงการคิดท่าทางฉากเข้าได้เข้าเข็มของตัวละคร หรือหาอุปกรณ์เซฟน้องจู/น้องจิมไม่ให้ล่วงล้ำกันเกินไป แต่พวกเขาคือคนที่สื่อสารระหว่างผู้กำกับ นักเขียนบท และนักแสดงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อหาจุดตรงกลางที่นักแสดงจะเข้าฉากอย่างสบายใจ เล่นตามที่ได้ซ้อมไว้ และไม่รู้สึกว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศ
Intimacy Coordinator ถือเป็นอาชีพใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่กี่ปีมานี้ ด้วยแรงกระเพื่อมของมูฟเมนต์ #MeToo และคดีเปิดโปงฮาร์วีย์ ไวน์สตีน ที่ทำให้คนทั้งนอกและในวงการฮอลลีวูดให้ความสำคัญกับการถูกล่วงละเมิดทางเพศมากกว่าที่เคย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกองถ่ายที่นักแสดงอายุน้อยมักไม่มีอำนาจมากพอจะต่อรองเรื่องการถ่ายฉากล่อแหลมกับผู้กำกับหรือโปรดิวเซอร์
อีทา โอไบรอัน (Ita O’Brien) นับว่าเป็น Intimacy Coordinator คนแรกของวงการ ก่อนจะสถาปนาตัวเองเป็นผู้ประสานงานด้านการถ่ายทำฉากลึกซึ้ง เธอเคยเป็นทั้งนักเต้น นักแสดง และครูสอนมูฟเมนต์มาก่อน ในงานหลังนี้เองทำให้เธอได้โฟกัสกับเรื่องการทำให้นักแสดงรู้สึกปลอดภัยเมื่อพวกเขาต้องเข้าฉากที่ใกล้ชิดกัน ทำให้อีทามีไอเดียในการทำไกด์ไลน์สำหรับการเข้าฉากลึกซึ้ง (Intimacy on Set Guidelines) ซึ่งภายหลังกลายมาเป็นมาตรฐานที่เหล่าคนบันเทิงหยิบมาใช้
Sex Education คือซีรีส์เรื่องแรกที่อีทาได้ถูกจ้างให้เป็นผู้ประสานงานการถ่ายทำฉากลึกซึ้ง เธอยังทำงานเดียวกันให้กับโปรเจกต์ใหญ่ที่ล้วนมีฉากวาบหวิว ทั้ง Normal People (2020), The Great (2020), Watchmen (2009) ไปจนถึงซีรีส์ช่อง HBO อย่าง I May Destroy You (2020)
บริบทของฉาก คอนเซนต์ การสื่อสาร ท่าทาง และการปกปิดให้มิดชิด คือ 5 องค์ประกอบหลักที่ผู้ประสานงานการถ่ายทำฉากลึกซึ้งจะโฟกัส ทว่าพ้นไปจากนั้น อีทาบอกว่างานของเธอคือการให้เกียรติบทภาพยนตร์และซีรีส์รวมถึงวิสัยทัศน์ของผู้กำกับ ก่อนถ่ายทำ เธอและเหล่านักแสดงต้องเข้าใจฉากนั้นลึกซึ้งไปถึงดีเทล ความสำคัญที่มันมีต่อเรื่อง จากนั้นเธอจะนำไปสู่คำถามว่านักแสดงจะแตะต้องกันตรงไหนได้หรือไม่ได้บ้าง และคำถามคอนเซนต์เหล่านี้จะถูกถามย้ำเสมอตั้งแต่ตอนก่อนถ่ายไปจนถึงถ่ายทำจริง
ใน Poor Things ก็เช่นกัน แอลล์ แม็กอัลไพน์ (Elle McAlpine) ผู้เคยทำงานร่วมกับอีทาและเป็น Intimacy Coordinator ของโปรเจกต์นี้ เธอบอกว่างานของเธอคือการเข้าใจโทนและความลึกซึ้งของเรื่อง และการเข้าใจว่าฉากลึกซึ้งเหล่านั้นจะส่งผลต่อการสร้างคาแร็กเตอร์ยังไง ซึ่งหากมองตามเนื้อเรื่อง เบลล่า แบกซ์เตอร์ นั้นค้นพบว่าเซ็กซ์คือความสุขสมที่เธออยากสำรวจ และส่งผลต่อวิธีมองโลกของเธออย่างมาก ความท้าทายของฉากเซ็กซ์ในเรื่องคือการเข้าใจว่าตัวละครเบลล่านั้นมีความต้องการที่ซับซ้อน เธอเคยให้คอนเซนต์ จนถึงจุดที่เธอไม่คอนเซนต์อีกต่อไป
สิ่งที่ว้าวกว่าก็คือ Intimacy Coordinator ไม่ได้ถูกเรียกใช้สำหรับฉากเซ็กซ์เท่านั้น แต่ยังนับรวมไปถึงฉากลึกซึ้งทุกรูปแบบ แม้กระทั่งการจูบกัน อีทามองว่าการจูบนั้นไม่ใช่แค่จูบเฉยๆ จูบแล้วจบๆ แต่มันยากยิ่งกว่าฉากมีเซ็กซ์กันเสียอีก เพราะในเซ็กซ์ซีนนักแสดงอาจแกล้งร่วมรักกัน แต่จูบคือการนำปากไปประกบปาก บางครั้ง ผู้กำกับก็ต้องการให้ซีนแนบแน่นยิ่งขึ้นด้วยการใช้ลิ้น ซึ่งจำเป็นต้องขอคอนเซนต์จากนักแสดงในฉากนั้นด้วย
ปัจจุบัน สตูดิโอผลิตหนังและซีรีส์ใหญ่ๆ อย่าง Netflix, Amazon Prime, HBO ไปจนถึงละครบรอดเวย์นั้นมีการจ้างตำแหน่ง Intimacy Coordinator เป็นเรื่องปกติ จน Intimacy Coordinator หลายคนสามารถทำอาชีพนี้เป็นงานหลัก มีรายได้งาม และสร้างธุรกิจ Intimacy Coordinator ของตัวเองได้ อย่างแอลล์ แม็กอัลไพน์ ผู้ทำงานให้ Poor Things ก็เป็นหนึ่งในนั้น เธอเปิดแบรนด์ชื่อ EK Intimacy เพื่อดูแลงานด้านนี้โดยเฉพาะเลยทีเดียว
น่าสนใจว่าในอนาคต ธุรกิจเกี่ยวกับ Intimacy Coordinator จะเติบโตยังไงได้อีก และเมื่อไหร่ที่ตำแหน่งนี้จะกลายเป็นมาตรฐานสำหรับกองถ่ายทั่วโลกได้ ยิ่งในบ้านเราที่อาจยังไม่มีกองถ่ายไหนเรียกใช้งานตำแหน่งนี้อย่างจริงจัง
บางทีการจะได้มาซึ่งฉากลึกซึ้งที่ยอดเยี่ยมสักฉาก นอกจากวิสัยทัศน์ที่ดีของผู้กำกับ ความสบายใจของนักแสดงก็นับเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน เพราะสุดท้ายแล้วนักแสดงก็คือมนุษย์คนหนึ่งที่ควรได้รับความเคารพอย่างเท่าเทียมกัน
ภาพ : SearchlightPictures, Netflix
อ้างอิง