รู้จัก ‘Tinder Leave’ เมื่อความรักกลายเป็นสวัสดิการองค์กร เทรนด์ใหม่ที่น่าลองหรือแค่กระแส?
สวัสดิการบริษัทแบบไหนที่คนรุ่นใหม่กำลังมองหา?
เวิร์กฟรอมโฮม, ประกันสุขภาพ, อาหารกลางวัน, สมาชิกฟิตเนสฟรี ลางานได้ไม่อั้น, ลาปวดประจำเดือน, ของขวัญวันเกิด, คอร์สเรียนพิเศษฟรีสำหรับพัฒนาตนเอง หรือเอาต์ติ้งต่างประเทศ? ทั้งหมดนี้ยังไม่น่าขิงเท่าพนักงานที่ได้ ‘ลางานไปหาคู่’ ซึ่งเป็นสวัสดิการที่เริ่มมีการนำไปใช้จริงในองค์กรเพื่อให้พนักงานมี work love balance
Future of Work: #ความรักและงานไปด้วยกันได้
ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้นอกจากความเติบโตก้าวหน้าในองค์กร คนรุ่นใหม่ยังให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวมากขึ้น องค์กรสมัยใหม่เริ่มมองว่าการสนับสนุนด้านความสัมพันธ์และความรักเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของพนักงาน (well-being) และช่วยให้พนักงานมีความสุขกับการทำงานได้ องค์กรที่อยากริเริ่มสวัสดิการใหม่ๆ จึงนำนโยบายที่น่าสนใจอย่าง Tinder Leave หรือการลาออกเดตมาใช้
ลองไปดูตัวอย่างสวัสดิการลาออกเดตว่าทำไมการมีความรักของพนักงานถึงกลายเป็นสิ่งที่องค์กรรุ่นใหม่หันมาให้ความสำคัญ
It’s a Match! : #การจับมือของ Tinder x Gushcloud มอบสวัสดิการให้พนักงานตามหาคนที่ใช่
ไม่นานมานี้ Gushcloud International บริษัทด้านความบันเทิง อินฟลูเอนเซอร์ และผู้ผลิตคอนเทนต์ระดับโลกได้มอบสิทธิประโยชน์ในการเป็นสมาชิกแอพฯ หาคู่เดต Tinder และสิทธิ Tinder Leave ลาหยุดไปออกเดตแบบรับค่าจ้างสำหรับพนักงาน Gushcloud ใน 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย
การเป็นพาร์ตเนอร์ระหว่าง Gushcloud และ Tinder ในครั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้พนักงานสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมายนอกเหนือจากการทำงานและสนับสนุนให้พนักงานมีชีวิตทางสังคมที่ดี Gushcloud เป็นบริษัทที่มีอินฟลูเอนเซอร์ในสังกัดกว่าหนึ่งหมื่นคนและเชื่อว่าการสนับสนุนให้เหล่าอินฟลูเอนเซอร์กับพนักงานมีความสัมพันธ์ส่วนตัวท่ีดีจะช่วยสนับสนุนให้พนักงานดึงศักยภาพของตัวเองออกมาใช้ในการทำงานได้อย่างเต็มที่
นโยบาย Tinder Leave ของ Gushcloud ในครั้งนี้เป็นข่าวไปทั่วโลกเพราะก่อนหน้านี้สวัสดิการออกเดตมักพบเห็นได้จากเฉพาะบริษัทแอพฯ หาคู่เท่านั้น บริษัทรายใหญ่เหล่านี้ต่างนิยมมอบ free supscription ในแอพฯ ให้พนักงานเพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจถ่ายทอดวิสัยทัศน์ของธุรกิจที่อยากให้ความสำคัญกับการสร้างสายสัมพันธ์และเชื่อมโยงผู้คนให้รู้จักกัน
เหล่านี้คือตัวอย่างสวัสดิการด้านความรักความสัมพันธ์สุดปังของบริษัท dating app
เพราะการได้ออกเดตคือสิทธิพิเศษ
Match Group ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ในเครืออย่าง Tinder, Hinge, OkCupid ฯลฯ ได้มอบสิทธิ์ให้พนักงานไปออกเดตในรูปแบบที่ต่างกัน เช่น พนักงาน Tinder สามารถใช้ Tinder Gold ได้ฟรี, พนักงานของ Hinge ได้โบนัสพิเศษ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือนสำหรับไปออกเดตซึ่งเป็นสวัสดิการที่เริ่มนำมาใช้ตั้งแต่ปี 2018 เพื่อสนับสนุนให้พนักงานเข้าสังคมนอกออฟฟิศและกลายเป็นสวัสดิการที่ได้รับความนิยมจนถึงทุกวันนี้
เรื่องของใจใครว่าไม่สำคัญ
ในฝั่ง Bumble แอพฯ เดตติ้งคู่แข่งของ Tinder ซึ่งให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายเลือกเดตก่อนก็มีสวัสดิการพิเศษที่ให้ พนักงานเข้าถึงแอพฯ Bumble Premium และ Badoo Premium แบบฟรีได้ตลอดระยะเวลาที่เป็นพนักงาน โดยพนักงานยังลาแบบรับเงินเดือนได้อีกหากกำลังมีปัญหาความสัมพันธ์ส่วนตัว และยังมีสวัสดิการสนับสนุนไมล์สโตนสำคัญของครอบครัวไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ทั้งลาแบบรับเงินเดือนได้หากคู่ชีวิตกำลังเผชิญเรื่องเครียดหนักๆ และมีเงินสนับสนุน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับครอบครัวที่วางแผนมีบุตรซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การฝากไข่จนถึงทำแท้ง
มากกว่าสวัสดิการคือวิสัยทัศน์และการใส่ใจพนักงานในทุกด้าน
หากเข้าไปในเว็บไซต์ของบริษัทเหล่านี้จะเห็นว่าสวัสดิการออกเดตนั้นสัมพันธ์กับวิสัยทัศน์ของบริษัท เช่น Bumble ที่อยากให้ความสัมพันธ์ที่ดีเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้ (create a world where all relationships are healthy and equitable) และ Hinge ที่มีความตั้งใจอยากช่วยให้ทุกคนได้เจอคนของตัวเอง (help more people find their person)
หลายคนอาจคิดว่าการมีสวัสดิการออกเดตเหล่านี้เป็นเพราะบริษัทเหล่านี้เป็นธุรกิจ dating app ที่แค่มีบริการในแอพพลิเคชั่นอยู่แล้วเลยนำมาให้พนักงานใช้และอาจหลงลืมสวัสดิการด้านอื่น แต่ความจริงแล้วก่อนจะคำนึงถึงการออกเดต บริษัทระดับโลกเหล่านี้ได้มอบสวัสดิการด้านอื่นๆ ที่คำนึงถึงพนักงานอย่างครบถ้วนแทบทุกมิติเช่นกัน
เช่น Bumble ที่อนุญาตให้พนักงานลางานได้แบบไม่จำกัดวัน, มีวัน focus friday ที่ให้ทุกคนงดส่งอีเมลและแชตเพื่อให้พนักงานได้ดีทอกซ์และฝึกโฟกัสกับงาน, ได้รับสิทธิ์ premium news subscription จากสำนักข่าวระดับโลก และอีกมากมายไปจนถึงได้โบนัส 100 ดอลลาร์สหรัฐถ้าแสดงให้เห็นว่าเป็นพนักงานที่ปฏิบัติตาม mission, vision และคุณค่าองค์กรของบริษัทได้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าสวัสดิการออกเดตเป็นเพียงหนึ่งในสิ่งที่จะขาดไปไม่ได้เมื่อคำนึงถึงความสุของค์รวมของพนักงาน
Swipe Right with The Right Company
สวัสดิการลาออกเดตยังเป็นเรื่องใหม่จึงยังไม่มีผลสำรวจที่แน่ชัดว่าการได้โอกาสออกตามหาคนที่ใช่ส่งผลให้พนักงานมีความสุขและมีศักยภาพมากขึ้นจริงไหม แต่ที่แน่ๆ บริษัทที่คำนึงถึงสวัสดิการที่ครอบคลุมในทุกด้านสามารถสร้างความพึงพอใจและความผูกพันของพนักงานต่อบริษัทได้มากขึ้น ผลสำรวจจากบริษัท Hinge ที่มีสวัสดิการทั้งเรื่องสุขภาพ ออกเดต สัตว์เลี้ยง อาหาร การพัฒนาตนเอง ฯลฯ พบว่า 93% ของพนักงานรู้สึกว่าบริษัทมีความใส่ใจอย่างแท้จริงและ 94% มีความภูมิใจที่ได้ทำงานที่นี่
การพบปะหรือออกเดตผ่านแอพพลิเคชั่นหาคู่เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยลดความกดดันในสังคมยุคใหม่ที่มีโอกาสเจอคู่ยาก การสนับสนุนจากบริษัทจะช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าสังคมและเจอคนที่ใช่ในชีวิตจริงซึ่งเป็นการช่วยสนับสนุนปัจจัยในชีวิตของพนักงานรูปแบบหนึ่ง ต้องติดตามต่อไปว่าบริษัทรายต่อไปที่พาร์ตเนอร์กับ dating app เพื่อพนักงาน จะเป็นเจ้าไหน ซึ่งถ้าองค์กรยุคใหม่อยากให้พนักงาน swipe right กับบริษัท รู้สึกว่าบริษัทเป็นองค์กรที่ใช่ อาจถึงเวลาแล้วหรือไม่ที่ต้องคำนึงถึงสวัสดิการพื้นฐานแบบองค์รวมมากขึ้นที่ครอบคลุมไปถึง work love balance ของพนักงาน