1512
March 6, 2024

‘THE POWER BAND 2024 SEASON 4’

โปรเจกต์ที่คิง เพาเวอร์ร่วมมือกับพันธมิตรทางดนตรี เพื่อขยายโอกาสให้เยาวชนเติบโตสู่อุตสาหกรรมเพลงไทย

THE POWER BAND คือเวทีประกวดวงดนตรีสากลคุณภาพระดับประเทศที่เยาวชนที่ติดตามวงการประกวดดนตรีน่าจะคุ้นหูกันดีเพราะจัดต่อเนื่อง ก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 ภายใต้โครงการเพื่อสังคม ‘คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย’ ของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ความพิเศษของปีนี้คือการจัดร่วมกับองค์กรหลากหลายที่เป็นกูรูตัวจริงในวงการดนตรี ทั้งองค์กรการศึกษาอย่างวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ 6 ค่ายเพลงดัง Muzik Move, LOVEiS Entertainment, Smallroom, What The Duck, Warner Music Thailand, XOXO Entertainment ซึ่งนับเป็นโอกาสอันดีสำหรับนักดนตรีมือใหม่ที่อยากก้าวเท้าเข้าไปในวงการ

อภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ด้านปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เล่าว่าเป้าหมายสำคัญของโครงการ THE POWER BAND คือการสนับสนุน และจุดประกายให้นักดนตรีได้พัฒนาฝีมือ ต่อยอดความฝันของตนเอง และได้รับโอกาสในการแสดงความสามารถอย่างเต็มที่ด้วยการสร้างพื้นที่แสดงพลังทางดนตรีเพื่อนักดนตรีไทยที่มองหาเวทีประกวดที่มีคุณภาพสูง โดยเวที THE POWER BAND 2024 SEASON 4

จะช่วยขยายโอกาสสู่วงกว้างให้ผู้ที่มีความสามารถด้านดนตรีที่หลากหลายได้เข้าใกล้ความฝันไปอีกขั้น ซึ่งตรงกับคอนเซปต์ของโครงการคือ ‘Let The Music Power Your World เป็นได้สุด เป็นไปได้ ด้วยพลังแห่งดนตรี’

สิ่งที่โดดเด่นของเวทีประกวดแห่งนี้คือประสบการณ์อันล้ำค่าที่ไม่อาจหาได้ง่ายๆ จากที่ไหนที่จะช่วย upskill ให้เหล่าผู้สมัครเข้าร่วมประกวด เช่น กิจกรรม THE POWER BAND MUSIC CAMP ที่ผู้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศจะได้รับการถ่ายทอดประสบการณ์จากคนที่อยู่ในวงการจริง โดยรวบรวมมิวสิกกูรูระดับประเทศกว่า 20 คน มาถ่ายทอดความรู้ต่างๆ และความเชี่ยวชาญทางด้านดนตรีทุกแขนง

ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่าการเข้าแคมป์เป็นการต่อยอดนักดนตรีที่มีฝันสู่เส้นทางการเติบโตสู่ระดับโปรเฟสชันนอล ซึ่งไม่ใช่แค่การส่งเสริมทักษะด้านดนตรีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสอนการพัฒนาบุคลิกภาพบนเวทีและการจัดการชีวิตตัวเอง ซึ่งถึงแม้ผู้เข้าร่วมแข่งขันจะไม่ชนะ แต่ก็จะได้เรียนรู้วิธีพัฒนาตัวเองและได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกันอย่างแน่นอน

ที่ผ่านมานอกจาก THE POWER BAND จะช่วยพัฒนาทักษะและส่งเสริมอุตสาหกรรมดนตรีแล้วเวทีนี้ยังเป็นเวทีประกวดที่ได้รับการยอมรับทั้งจากผู้ปกครอง คณาจารย์ ตลอดจนผู้มีประสบการณ์ทางด้านดนตรีมากมาย ทั้งในเรื่องมาตรฐานและคุณภาพ เห็นได้จากคณะกรรมการผู้มีส่วนร่วมในการตัดสินการประกวดครั้งนี้ล้วนเป็นผู้คร่ำหวอดจากแวดวงดนตรีทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ได้แก่ อัคราวิชญ์, พิริโยดม หัวหน้าสาขาวิชาดนตรีสมัยนิยม วิทยาลัยดุริยางคศิลป์, พล–คชภัค ผลธนโชติ ผู้บริหารค่าย Boxx Music และ Zircle Muzik, ติ๊ก–กฤษติกร พรสาธิต ผู้บริหารค่าย Home Run Music และ เป้ – ไพสิฐ คำกลั่น Music Director ค่าย Melodic Corner เป็นต้น

ในมุมของผู้บริหารค่ายเพลง ชลากรณ์ ปัญญาโฉม หนึ่งในพันธมิตรที่จะมาช่วยค้นหานักดนตรีที่มีฝีมือได้กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจค่ายเพลงยังมีเพิ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ นั่นแปลว่ายังมีโอกาสเพิ่มเสมอสำหรับทุกคนที่อยากก้าวขึ้นมาเป็นนักดนตรีมืออาชีพ โอกาสในการเข้าร่วมประกวดคือโอกาสในการเติบโต วันหนึ่งคุณอาจจะเป็นอีกคนหนึ่งที่อยู่ในอุตสาหกรรมเพลงและร่วมผลักดันธุรกิจเพลงให้เติบโตขึ้นไม่ว่าจะในบทบาทโปรดิวเซอร์ หรือ music director ก็ล้วนเป็นไปได้

โดยที่ผ่านมามีวงดนตรีเข้าร่วมโครงการกว่า 600 วง รวมเป็นนักดนตรีมากกว่า 4,000 คนจากทั่วประเทศและยังมีจำนวนผู้สมัครเพิ่มขึ้นทุกปี กรรมการจากค่ายเพลงต่างๆ ให้ความเห็นว่าอยากเห็นผู้เข้าแข่งขันที่มีความพร้อมทั้งร่างกาย ทักษะ และหัวใจ นอกจากทักษะทางดนตรีแล้วยังแนะนำให้ผู้เข้าร่วมแข่งขันเตรียมพร้อมในการซ้อมอย่างเข้มข้นเพื่อให้ชินกับเวที

ดนุภพ กมล รองกรรมการผู้จัดการ จากบริษัท มิวซิกมูฟ จำกัด ซึ่งเป็นค่ายเพลงที่พร้อมอ้าแขนต้อนรับผู้ชนะเลิศให้มาทำซิงเกิลเพลงและมิวสิกวิดีโอร่วมกัน ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า สำหรับในมุมมองของค่ายเพลงอย่าง Muzik Move แล้ว คุณสมบัติที่จำเป็นที่สุดที่นักดนตรีหน้าใหม่ผู้มีฝีมือและอยากเป็นศิลปินต้องมีคือ ‘เอกลักษณ์เฉพาะตัว’ ซึ่งหมายถึงความโดดเด่นและแตกต่าง สามารถทำให้ผู้ฟังจดจำได้ อยากติดตามและมี ‘เสน่ห์’ ที่จะดึงดูดคนดูในแง่มุมใดแง่มุมหนึ่ง หากมีคุณสมบัติเหล่านี้ เมื่อเข้ามาทำงานกับค่ายเพลงแล้วก็จะสามารถต่อยอดให้เดินไปได้ไกลในเส้นทางของศิลปิน

สำหรับรายละเอียดในการประกวดในปีนี้มีการแบ่งกลุ่มการแข่งขันออกเป็น 2 รุ่น คือ ‘รุ่นมัธยมศึกษา สุดยอดวงดนตรีระดับมัธยม (High School Class)’ และ ‘รุ่นบุคคลทั่วไป เส้นทางสู่ศิลปินมืออาชีพ (Professional Class : Road to Artist)’ โดยมีการลงพื้นที่ในรอบโซนนิ่งแสดงสด เพื่อคัดผู้ท้าชิงจาก 5 สนามแข่งขันทั่วประเทศมาประชันฝีมือในรอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ

สำหรับผู้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ จะยังได้ชิงรางวัลรวมกว่า 2 ล้านบาท พร้อมร่วมทำซิงเกิลกับโปรดิวเซอร์มืออาชีพและโอกาสในการร่วมแสดงในเทศกาลดนตรีระดับประเทศ ผู้ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมประกวดและติดตามรายละเอียดได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 2 สิงหาคม 2567 ผ่านทางเว็บไซต์ www.music.mahidol.ac.th/thepowerband

You Might Also Like