นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการใช้คุกกี้

บริษัท ทุนดี จำกัด (“บริษัท”) มีความจำเป็นต้องใช้คุกกี้ในการทำงานหลายส่วนของเว็บไซต์เพื่อรับประกันการให้บริการของเว็บไซต์ที่จะอำนวยความสะดวกในการใช้บริการเว็บไซต์ของท่าน โดยบริษัทรับประกันว่าจะใช้คุกกี้เท่าที่จำเป็น และมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลของท่านโดยสอดคล้องกับกฎ หมายที่เกี่ยวข้อง และจะไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้แก่บุคคลอื่น เว้นแต่เป็นกรณีการใช้คุกกี้บางประเภทที่อาจดำเนินการโดยผู้ให้บริการภายนอก ทั้งนี้ เมื่อท่านเข้าใช้บริการเว็บไซต์ บริษัทจะถือว่าท่านรับทราบและตกลงนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้แล้ว โดยบริษัทสงวนสิทธิ์ในการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ตามแต่ละระยะเวลาที่บริษัทเห็นสมควร โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวผ่านทางเว็บไซต์นี้... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customized advertisements based on the pages you visited previously and to analyze the effectiveness of the ad campaigns.

2277
February 28, 2023

เหตุผลที่ The Pizza Company ตัดสินใจรีแบรนด์ในรอบ 22 ปี แม้จะยังเป็นเบอร์ 1 ในตลาดพิซซ่า

ปกติแล้วการรีแบรนด์มักจะเป็นกลยุทธ์ที่ถูกใช้กับแบรนด์ที่ยังเป็นรองในตลาด แบรนด์ที่มีปัญหากับภาพลักษณ์หรือยอดขาย เพื่อทำการปรับเปลี่ยนแบรนด์ใหม่ให้ได้รับความสนใจจากผู้คนมากขึ้น 

แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แบรนด์พิซซ่าอันดับหนึ่งที่ครองมาร์เก็ตแชร์กว่า 60% ของตลาดพิซซ่าในไทยอย่าง The Pizza Company กลับออกมาประกาศรีแบรนด์ครั้งใหญ่ เปลี่ยนหมดทั้งดีไซน์หน้าร้าน ชุดพนักงาน หรือแม้กระทั่งภาพจำสำคัญของแบรนด์อย่าง ‘โลโก้’ 

คำถามที่หลายคนอาจสงสัยเหมือนกัน 

อะไรคือสิ่งที่ทำให้ The Pizza Company ตัดสินใจรีแบรนด์ในครั้งนี้

อันที่จริงแล้วตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา The Pizza Company มีการปรับเปลี่ยนตัวเองไปทีละนิดละหน่อย อย่างช่วงแรกก็มีการปรับเฉดสีลดสัดส่วนสีแดงซึ่งเป็นสีของคู่แข่งแล้วเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับแบรนด์มากขึ้น มีการปรับรายละเอียดเล็กน้อยในโลโก้ที่เราอาจไม่ทันได้สังเกตเห็น เป็นการเปลี่ยนแบบ minor change ปรับโฉมเพียงบางส่วนเท่านั้น

ส่วนครั้งนี้เป็นเหมือนการปรับแบบ major change ที่พลิกโฉมแบรนด์ครั้งใหญ่ ใช้สีที่แบรนด์เรียกว่า ‘กรีนไอคอนิก’ ซึ่งเป็นโทนอ่อนลงและสดใสมากขึ้นจากสีเขียวที่เคยใช้ในครั้งก่อน มาผสมกับโลโก้รูปสามเหลี่ยมที่ต้องการสื่อไปถึงตัวอักษร A และเป็นเหมือนชิ้นของพิซซ่า รวมถึงการปรับปรุงสาขาให้ดูมีความร่วมสมัยมากขึ้น

ปัทม์ พงษ์วิทยาพิพัฒน์ ผู้จัดการทั่วไปของ The Pizza Company บอกถึงเหตุผลที่ทำให้ต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ว่า ตลอด 22 ปีที่ผ่านมากลุ่มลูกค้าหลักของแบรนด์คือกลุ่มครอบครัว และในวันที่กลุ่มลูกค้าหลักเติบโตตามวัย แบรนด์จึงต้องค่อยๆ หาลูกค้าที่เป็นคนเจเนอเรชั่นใหม่ทั้งวัยรุ่นและวัยทำงานมาเติมเต็มเพื่อให้แบรนด์ยังมีลูกค้าหมุนเวียนเข้ามาอยู่เสมอ

อีกมุมหนึ่ง ในวันที่ร้านพิซซ่าเล็กๆ ที่ดูมีความคราฟต์ได้เข้ามาแย่งชิงพื้นที่ในกระเพาะอาหารของลูกค้าไปมากขึ้น The Pizza Company จึงมีความจำเป็นที่จะต้องรีแบรนด์ครั้งใหญ่ เพื่อจะได้เข้าไปอยู่ในชีวิตของกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้

ซึ่งต้องบอกว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ The Pizza Company พยายามทำให้ตัวเอง ‘เด็กลง’ อย่างในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาก็มีการเอาดาราวัยรุ่นมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแบรนด์, ทำพิซซ่าไซส์ XXL, ทำพิซซ่าขนาดยาว 1 เมตร, แตกซับแบรนด์ไก่ทอดที่ชื่อว่า Chick A Boom และอีกหลายๆ เมนูเพื่อสร้างกระแสให้คนอยากกินและไปถ่ายรูปตาม

การปรับที่มากมายขนาดนี้ ไม่เพียงสะท้อนให้เห็นว่าการเป็นผู้นำต้องไม่หยุดนิ่ง แต่ยังรวมไปถึงการที่พิซซ่าที่เป็นแบรนด์เล็กๆ ได้เข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้คน จนสร้างผลกระทบให้กับ The Pizza Company ต้องหมั่นปรับตัวเองอยู่เสมอ

โดยผลจากกลยุทธ์การรีแบรนด์ใหญ่ในครั้งนี้จะทำให้เราได้เห็นร้าน The Pizza Company ที่มีความโมเดิร์นมากขึ้น ได้เห็นการไปจับมือทำ collaboration กับแบรนด์อื่นทั้งที่เป็นร้านอาหารด้วยกันเอง แบรนด์แฟชั่น หรือแบรนด์ไลฟ์สไตล์ เพื่อจะทำให้ The Pizza Company เข้าไปอยู่ในชีวิตผู้คนได้มากกว่าเดิม

และพวกเขาก็ตั้งใจว่าการรีแบรนด์ครั้งใหญ่นี้จะช่วยปรับภาพลักษณ์ให้แบรนด์ดูทันสมัยขึ้นจนทำให้มีลูกค้ากลุ่มใหม่เข้ามาเพิ่มอีก 20% 

เห็น The Pizza Company ลุกขึ้นมาขยับปรับตัวแบบนี้ ก็น่าติดตามว่าผู้เล่นรายอื่นๆ ในสนามพิซซ่าจะมีมูฟเมนต์ยังไงต่อไป 

เพราะเมื่อเจ้าตลาดขยับตัวก็ย่อมสร้างแรงกระเพื่อมไปยังแบรนด์อื่นที่อยู่ในสนามเดียวกันตามไปด้วย

Writer

บรรณาธิการธุรกิจ มีความสนใจเรื่องกลยุทธ์ธุรกิจ-การตลาด และชื่นชอบการเข้าโรงงานเพื่อดูเบื้องหลังการผลิตเป็นอย่างยิ่ง

You Might Also Like