เล่นของสูง

ThaiEffect ร้านขายพลุออนไลน์ที่ปรับแต่งได้ตามใจลูกค้ากับวิธีเอาตัวรอดในช่วงรอยต่อเทศกาล

ดอกไม้ไฟที่แต่งแต้มสีสันให้ท้องฟ้าตอนเที่ยงคืนในวันปีใหม่

เสียงประทัดยามเช้าตรู่ในวันตรุษจีน

ประกายไฟน่าตื่นตาตื่นใจจากพลุโอ่งในวันลอยกระทง

พูดถึงพลุและดอกไม้ไฟ ภาพที่หลายคนคุ้นเคยอาจเป็นสิ่งเหล่านี้ แต่เคยสงสัยไหมว่านอกจากช่วงเทศกาลซึ่งนับเป็นเวลาทองของแสง สี เสียง คนทำธุรกิจพลุและดอกไม้ไฟอยู่ได้อย่างไรในช่วงรอยต่อระหว่างวันสำคัญ

ถ้าจะมีใครสักคนที่ตอบคำถามนี้ได้ หนึ่งในนั้นน่าจะเป็น ThaiEffect แบรนด์จัดจำหน่ายพลุและดอกไม้ไฟที่ยืนระยะในวงการมานานกว่า 10 ปี จากการปลุกปั้นของ เอ–บดินทร์ สุขเกื้อ ชายที่ไม่ได้เรียนจบด้านการทำพลุ ไม่ได้รับช่วงต่อจากธุรกิจของที่บ้าน แต่จุดไฟสร้างแบรนด์ของตัวเองด้วยความชอบและความทุ่มเทล้วนๆ

ThaiEffect

หลังจากเรียนจบปริญญาตรี เอเริ่มทำงานเป็น AE ในบริษัทออร์แกไนเซอร์ที่พาให้เขาไปคลุกคลีกับคนในแวดวงอีเวนต์ผู้อยู่เบื้องหลังการทำฉาก เวที และเอฟเฟกต์ดอกไม้ไฟ ตอนนั้นเองเขาได้รู้จักรุ่นพี่คนหนึ่งที่เปิดร้านขายพลุอยู่ เอมองเห็นโอกาสในการขายออนไลน์ซึ่งตอนนั้นยังเป็นสิ่งใหม่ เขาจึงใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมาจากสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์เปิดเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซแล้วรับพลุมาขายต่อ ปรากฏว่ายอดขายปังกว่าที่คิด เอจึงตัดสินใจลาออกจากงานแล้วกระโดดเข้าวงการมาเป็นพ่อค้าพลุเต็มตัว

รู้ตัวอีกที เอก็อยู่กับแสงประกายสดใสและเสียงตูมตามมานานกว่า 10 ปี ทำให้ ThaiEffect กลายเป็นแบรนด์พลุที่ถึงจะขายแค่บนเว็บไซต์ แต่ก็เต็มไปด้วยสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ ครบวงจร สร้างรายได้แม้ในช่วงที่ไม่ใช่เวลาทองของมัน

เขาทำได้อย่างไร เอพร้อมให้คำตอบเราใน 5 4 3 2 คิว!

ThaiEffect

รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง

“พลุเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ต้องมีโอกาสพิเศษก่อนคนถึงจะซื้อ และลูกค้าต้องมีงบประมาณพอสมควรสำหรับความอลังการ บางคนก็บอกว่าเหมือนเอาเงินไปเผาเล่น แต่พอได้แลกกับภาพที่เกิดขึ้นก็คุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่ายไป”  

เออธิบายเอกลักษณ์ของพลุและดอกไม้ไฟที่แตกต่างจากสินค้าประเภทอื่นๆ ให้ฟัง แล้วเล่าต่อว่าหนึ่งในความเข้าใจผิดที่คนทั่วไปมีต่อมันคือพลุเป็นสินค้าอยากจะจุดก็ซื้อไปจุดเองได้ ซึ่งแท้จริงแล้วไม่ใช่ 

เหตุผลข้อแรก พลุคือวัตถุระเบิด ต้องสั่งผ่านบริการรับจุดดอกไม้ไฟ ซึ่งจะไปดีลตัวแทนนำเข้าที่มีใบอนุญาตถูกต้องจากกรมวิทยาศาสตร์อีกที

“ต้นทุนของพลุไม่ได้มีแค่ค่าวัตถุดิบแต่บวกความเสี่ยงไปด้วย ถ้าเป็นพลุลูกเล็กๆ ที่ลูกค้ารู้วิธีเล่น อยากซื้อไปจุดเองก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเป็นพลุดอกไม้ไฟที่อาจเกิดอันตรายได้ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญจุดให้ เพราะพลุบางตัวมีโอกาสที่จะเกิดปัญหา”

เหตุผลอีกข้อคือนับตั้งแต่ คสช.เข้ามา รัฐไม่อนุญาตให้มีการเปิดหน้าร้านขายสินค้าประเภทพลุและดอกไม้ไฟ ก่อนจุดทุกครั้งยังต้องขออนุญาตกับนายอำเภอหรือผู้อำนวยการเขต โดยมีข้อบังคับคือต้องทำในพื้นที่ปลอดภัย อยู่ห่างจากปั๊มน้ำมันและวัตถุไวไฟ แถมยังจุดในกรอบเวลาที่กำหนด ไม่ใช่เวลาพักผ่อนของคนทั่วไป (ทั้งนี้ทั้งนั้น เอบอกเราว่ารัฐอาจมีการอนุโลมให้จุดได้เป็นบางช่วง เช่น เทศกาลสำคัญ)

“อาชีพช่างพลุต้องอาศัยประสบการณ์ ต้องมีการเช็กว่าเออเร่อยังไงได้บ้าง งานพลุเป็นงานที่ลุ้น ผิดพลาดไม่ได้ และความปลอดภัยต้องมาอันดับหนึ่ง ก่อนทำงานทุกงานเราจะคุยกับลูกค้าก่อนว่าทำอย่างไรถึงจะปลอดภัย ห้ามจุดแบบไหน”

ThaiEffect
ThaiEffect

รู้ว่าเหนื่อยถ้าอยากได้ของที่อยู่สูง

เอเล่าว่า วงการพลุเป็นวงการที่แคบมาก ถึงขนาดที่ว่าถ้าตอนไหนที่พลุถูกยิงขึ้นฟ้า คนในวงการจะรู้ทันทีเลยว่าเป็นช่างพลุเจ้าไหน

“พลุเหมือนงานศิลปะ งานแต่ละงานมีลายเซ็นของช่างพลุแต่ละคน แทนที่จะวาดบนแผ่นกระดาษ เรานำลูกพลุที่มีลวดลาย สีสันต่างๆ ไปวาดไว้บนฟ้าแทน ซึ่งช่างพลุแต่ละคนก็จะมีจังหวะการให้พลุที่ไม่เหมือนกัน

“อย่างของ ThaiEffect สิ่งที่ไม่เหมือนคนอื่นเลยคือดีไซน์ เราจะไม่ใช้พลุเปลือง ความหมายของพลุเปลืองคือยิงซ้อนขึ้นไปปึ้มๆๆๆ  ดูอลังการก็จริง แต่มันเปลือง ยิงขึ้นไปสิบลูกพร้อมกันตู้มเดียวก็หมดแล้ว

“สมมติมีพลุร้อยลูก เราจะทำยังไงก็ได้ให้เกิดการมองเห็นทุกลูกให้ได้มากที่สุด พลุแต่ละดอกสวยของมันอยู่แล้ว แทนที่จะยิงบ้าระห่ำให้เต็มฟ้า เราจะยิงซ้ายบ้าง ขวาบ้าง เฉียงบ้าง ให้ลูกค้าได้เห็นดีเทลเต็มที่ แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับว่าเขาต้องการอะไร สมมติมีบัดเจ็ต 100,000 บาท ถ้าอยากยิงให้หมดภายใน 2 นาทีพลุก็จะอลังการ แต่ถ้า 5 นาทีก็ได้ดูไปเรื่อยๆ”

ThaiEffect

ชายหนุ่มขยายความต่อว่า จริงๆ แล้วงบประมาณในการจุดพลุไม่ได้เริ่มที่หลักแสน แค่หลักพันก็จ้างได้ “เราสามารถทำไฟคล้ายๆ ไฟจากพลุโอ่ง ให้มันฟลู่ขึ้นมา เป็นซีนเซอร์ไพรส์ซีนหนึ่งได้เหมือนกัน” เพราะว่ากันตามตรง ความคาดหวังที่เรามีต่อพลุไม่ได้มีอะไรมากกว่าเซอร์ไพรส์และการแสดงความยินดี

ถึงอย่างนั้น การทำงานกับ ThaiEffect ไม่ใช่แค่ยื่นงบแล้วจบเลย เพราะพวกเขาไม่ได้ขายพลุเป็นลูกๆ ตามราคา แต่จะออกแบบพลุที่เหมาะกับรูปแบบงาน สถานที่ คนดู ไปจนถึงขนาดของพลุที่มีทั้งไซส์เล็ก กลาง ใหญ่ ยิงสูง ยิงต่ำ ผ่านโปรแกรมจำลองการจุดพลุที่ทำให้ลูกค้าเห็นภาพที่สุด

“จุดเด่นของเราคือเอาความต้องการของลูกค้าเป็นที่ตั้ง แล้วตีโจทย์กันต่อว่าจะออกแบบยังไงเพื่อให้ลูกค้าประทับใจในเงินที่เขาจ่าย” เอเน้นย้ำ

ThaiEffect

รู้ว่าเราแตกต่างกันเท่าไร

นอกจากพลุที่ยิงตูมตามขึ้นฟ้า ThaiEffect ยังมีพลุสายธาร (คล้ายพลุน้ำตกที่เรามักเห็นในงานแต่งงาน) ไพโร (พลุไฟเย็นที่เรามักเห็นได้ตามงานคอนเสิร์ต) และพลุกระดาษแบบบิดซึ่งมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ไหน เพราะมันเป็นพลุกระดาษที่ปรับแต่งเองได้!

“เราเป็นเจ้าแรกและอาจจะเจ้าเดียวที่ทำพลุกระดาษแบบ customize โดยทั่วไปแล้วพลุกระดาษจะขายรวมกับของเล่นอื่นๆ กระดาษข้างในจะเป็นกระดาษย่นๆ แหลกๆ ซึ่งเกะกะ เก็บยาก เราก็คิดว่าทำไมเราไม่ทำเป็นสินค้า made to order ขึ้นมาล่ะ แก้ปัญหาให้ลูกค้าโดยการสั่งทำแบบเส้นๆ และกระดาษทรงสี่เหลี่ยมอย่างเดียวเลย ไม่มีเศษเล็กๆ และปรับแต่งสีไปตามงานที่เขาอยากได้”

หนึ่งในเทรนด์ของพลุกระดาษที่กำลังมาแรงคืองาน Baby Shower ที่ลูกค้าจะสั่งพลุกระดาษพิเศษเพื่อทายเพศลูก “5 4 3 2 ปึ้ง สีฟ้าก็ผู้ชาย สีชมพูก็ผู้หญิง หรือถ้าลูกค้าบางคนอยากเล่นใหญ่กว่านั้นก็ชวนแฟนไปกินข้าวริมแม่น้ำเจ้าพระยาแล้วเฉลยเพศลูกด้วยการยิงดอกไม้ไฟขึ้นฟ้าไปเลย”

ฟังดูอาจเป็นสิ่งที่บางคนมองว่ามันไม่ได้พิเศษถึงขนาดจะต้องจุดพลุขนาดนั้น แต่เอยอมรับกับเราว่า วาระพิเศษที่ไม่พิเศษนี่แหละที่ทำให้ ThaiEffect อยู่ได้ในช่วงรอยต่อของเทศกาล

“ช่วงเทศกาลเป็นช่วงที่ทำเงินมากที่สุดจริงๆ สมมติตีรายได้ทั้งปีเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ เทศกาลปีใหม่ ลอยกระทง ตรุษจีนเอาไปแล้ว 70 เปอร์เซ็นต์ อีก 30 เปอร์เซ็นต์ มาจากทั้งปี เดือนธรรมดาอาจจะนั่งนิ่ง ตบยุงก็มี” เขาหัวเราะ แล้วไล่เรียงให้เราฟังถึงโอกาสพิเศษอื่นๆ ที่มีลูกค้าจ้างงานให้ฟัง

ไล่ตั้งแต่ปาร์ตี้วันเกิด พิธีเปิด อีเวนต์ฉลองยอดขาย คอนเสิร์ตโร้ดโชว์ งานแต่งงาน ไปจนถึงการล่องเรือดินเนอร์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเฉยๆ แล้วอยากดูพลุก็มี

“จะมีลูกค้ากลุ่ม luxury ที่กินข้าวแป๊บเดียวดูพลุสองนาที 100,000 บาท ซึ่งอาจไม่ได้มีวาระพิเศษอะไรเลย แต่เขามีกำลังเงินจะใช้ในจุดนั้น ซึ่งเราก็พยายามเกาะลูกค้ากลุ่มนี้เหมือนกัน เพราะอย่างที่บอกว่าพลุเป็นสินค้าสิ้นเปลืองที่ใช้หรือไม่ใช้ก็ได้ คนที่มีกำลังซื้อเขาก็ใช้”

อยากรักก็ต้องเสี่ยง

เพราะอยู่ในวงการพลุและดอกไม้ไฟมาสิบกว่าปี ธุรกิจก็เติบโตขึ้นตามเวลา แต่เอบอกเราว่าสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงแน่ๆ คือความรู้สึกตื่นเต้นที่ได้จุดพลุ

“จะมีเคสสนุกๆ ที่เราเคยเจอคือต้องไปจุดพลุให้คู่รักคู่หนึ่งที่ฝ่ายชายกำลังจะขอฝ่ายหญิงแต่งงาน ซึ่งก่อนหน้านี้เขาไม่มีแพลนจะแต่งงานกันเลย เราก็นัดแนะกับฝ่ายชายว่าถ้าเขาคุกเข่า ให้แหวน แล้วฝ่ายหญิงเซย์เยสแล้วค่อยจุดพลุได้ แต่ปรากฏว่าพอขอจริงๆ แล้วผู้หญิงนิ่งมาก จากนั้นเขาก็คุยกันอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง ระหว่างรอเขาคือทุกอย่างเงียบมาก ทั้งทีมกล้อง ทีมเพื่อนก็นิ่งไปหมด เราก็คิดว่าเอาแล้ว ไม่ได้ตังค์แล้วไหมงานนี้” เอหัวเราะ

“แต่สุดท้ายเขาก็โอเค เซย์เยส ตอนเราจุดพลุขึ้นฟ้าก็คิดว่าเราทุกคนมีสิทธิจะเดินกลับบ้านโดยไม่มีใครแฮปปี้เลยก็ได้นะ เพราะเราคงไม่กล้าเก็บตังค์ลูกค้าแน่นอน อันนี้เป็นความสนุกอย่างหนึ่งในอาชีพนี้

“อีกเรื่องที่ตื่นเต้นคือกลัวพลุแป้ก มันเป็นความตื่นเต้นทุกครั้งไม่ว่าคุณจะจ้างเรา 30,000 หรือ 300,000 โดยเฉพาะตอนเคานต์ดาวน์นี่ตื่นเต้นสุด ถ้าสมมติคนนับ 5 4 3 2 1 แล้วพลุมันแป้ก ยิงไม่ออกขึ้นมา อะไรจะเกิดขึ้นอะ”

“มีงานที่เคยแป้กไหม” เราอยากรู้

“มีแน่นอน ช่างพลุทุกคนต้องเคยมี” เอยอมรับ “เราเคยแป้กกับงานคอนเสิร์ตใหญ่ที่หนึ่ง เหตุการณ์คือดนตรีเล่นจบแล้วจะมีพลุจุดอลังการ แต่พอกดคิว! เฮ้ย มันเงียบอะ ศิลปินงง ลูกค้างงกว่า แต่คนดูไม่รู้นะว่าซีนนี้จะมีพลุออก มีแค่เรากับลูกค้า

“สรุปว่างานนั้นมันผิดพลาดทางเทคนิค คือสายของอุปกรณ์ที่ต่อกับพลุมันหลุด ถามว่าแป้กแล้วทำยังไงต่อ เราก็ทำอะไรไม่ได้อะ ตัวนี่หดเหลือนิดเดียว โอ้โหเครียดมาก จบแล้วชีวิต” เอหัวเราะสิ้นหวัง แต่สุดท้ายงานนั้นเขาก็เคลียร์กับลูกค้าจนเข้าใจ

“ธงที่เราตั้งไว้ในใจตั้งแต่วันแรกคือเราอยากได้คำชมของลูกค้า ยิ่งลูกค้าชมเรามากเท่าไหร่เราก็ยิ่งภูมิใจ เพราะเราไม่ได้รับช่วงธุรกิจนี้มาจากที่บ้าน ไม่ได้เป็นช่างพลุมาตั้งแต่เกิดเหมือนพี่ๆ ช่างพลุบางคน แต่การมีลูกค้าที่ไว้วางใจให้เราทำงานระดับประเทศหลายๆ งาน เราว่าเราก็โอเคเหมือนกันนะ มันทำให้เราอยากทำต่อไปเรื่อยๆ”

นับตั้งแต่เปิด ThaiEffect มากว่าสิบปี เอบอกว่าโควิด-19 คืออุปสรรคใหญ่ที่สุดของเขา หลายครั้งที่คิดจะปิดร้านเพราะรายได้เป็นศูนย์ และมีอีกหลายธุรกิจที่ต้องดูแล แต่ท้ายที่สุดเอก็ตัดใจปิดไม่ได้สักที 

“ThaiEffect มันสำคัญกับเรา อาจเพราะมันเริ่มจากความชอบตั้งแต่เด็ก เราคิดว่าคนที่ทำธุรกิจที่ตัวเองชอบ ยังไงเราก็ทิ้งมันไม่ได้หรอก ถึงแม้จะเจออุปสรรคอะไร สุดท้ายเราก็ต้องทำให้มันรอดไปให้ได้” ชายหนุ่มย้ำด้วยแววตามุ่งมั่น

Writer

นักอยากเขียนผู้รักทะเลและฤดูหนาวพอๆ กับหนังสุขซึ้ง สนใจประเด็น gender และเรื่องป๊อปทุกแขนง

Photographer

ชีวิตต้องมีสีสัน

Photographer

ช่างภาพที่สนุกกับการแต่งตัว อยู่กับเสียงเพลง และหลงรักในความทรงจำ Ig : mocfirst

You Might Also Like