The Pioneer of Luxury Luggage

126 ปีของ RIMOWA แบรนด์กระเป๋าเดินทางลักชูรีที่ได้แรงบันดาลใจการออกแบบจากเครื่องบิน

หากคุณอยากออกแบบกระเป๋าเดินทาง แรงบันดาลใจที่มองหาในการออกแบบกระเป๋าจะเป็นอะไร

RIMOWA (ริโมว่า) แบรนด์กระเป๋าเดินทางสัญชาติเยอรมันมีแรงบันดาลใจในการออกแบบเป็นเครื่องบินแอร์คราฟต์ ทำให้กลายเป็นจุดกำเนิดของกระเป๋าจากวัสดุอลูมิเนียมที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการทั้งในแง่ฟังก์ชั่น ความทนทาน และดีไซน์

จากธุรกิจครอบครัวเล็กๆ ที่เยอรมนี ตอนนี้ RIMOWA เป็นแบรนด์อายุ 126 ปีและกลายเป็นผู้นำด้านการบุกเบิกนวัตกรรมในการผลิตกระเป๋าจนกลายเป็นแบรนด์ลักชูรีที่อยู่ในเครือ LVMH และบางคอลเลกชั่นพิเศษที่คอลแล็บกับแบรนด์ชื่อดัง เช่น Supreme ก็มีราคาพุ่งสูงถึงหลักแสนบาทโดยยังมีคำกล่าวว่าหากจะมีกระเป๋าเดินทางสักใบที่เป็นไอเทมแฟชั่น กระเป๋าแบรนด์นั้นก็คงจะเป็น RIMOWA

เบื้องหลังราคาที่สูงของแบรนด์คือความพิถีพิถันและการพัฒนานวัตกรรมในการผลิตอย่างไม่หยุดยั้ง รายละเอียดเล็กๆ เป็นสิ่งที่ RIMOWA ไม่เคยปล่อยผ่าน ทั้งล้อที่ต้องหมุนได้ 360 องศาเพื่อความสะดวกในการเดินทาง วัสดุกันน้ำได้ ช่องเก็บของข้างในกระเป๋า การ customize ดีไซน์กระเป๋าได้ ฟังก์ชั่นต่างๆ เหล่านี้กลายเป็นมาตรฐานที่ทำให้แบรนด์ต่างๆ ยึดถือตามกัน โดยลาย Groove ที่มักพบเห็นได้ทั่วไปในกระเป๋าเดินทางแบรนด์ต่างๆ ในทุกวันนี้ก็ยังมีที่มาจาก RIMOWA อีกด้วยเช่นกัน

เบื้องหลังการสร้างตำนานมากมายเหล่านี้คือการใช้ศาสตร์ทางศิลปะผสมกับวิศวกรรมทั้งในแง่การออกแบบและคิดโมเดลธุรกิจใหม่ๆ เพื่อปรับตัวกับโลกยุคใหม่อยู่เสมอ และ Biztory ตอนนี้ก็อยากชวนทุกคนย้อนไปดูวันแรกของแบรนด์และเส้นทางอันยาวไกลที่ทำให้ RIMOWA กลายเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงจนถึงทุกวันนี้

1. เริ่มจากผลิตกระเป๋า Trunk ด้วยไม้และหนัง

RIMOWA ก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1898 โดยชาวเยอรมันชื่อ Paul Morszeck และ Heinrich Görtz โดยเริ่มจากการเป็นบริษัทขายอานม้าจากหนังก่อนจะเปลี่ยนมาผลิตกระเป๋าช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ในยุคนั้นยังไม่มีการคิดค้นการผลิตรถยนต์และเครื่องบิน ผู้คนยังคงเดินทางท่องโลกด้วยเรือและรถไฟ กระเป๋าเดินทางใบแรกของแบรนด์จึงเป็นกระเป๋าทรง trunk ที่ทำจากหนังและไม้สำหรับนักเดินทางที่ร่ำรวย

ถึงแม้กระเป๋ายุคบุกเบิกจะทำจากไม้ แต่ RIMOWA ขึ้นชื่อเรื่องการทำกระเป๋าให้มีน้ำหนักเบาและแข็งแรงทนทานตั้งแต่ยุคแรก แถมยังสร้างข้อแตกต่างจากกระเป๋าแบรนด์อื่นๆ ในยุคนั้นคือภายในกระเป๋าถูกออกแบบมาให้สามารถจัดระเบียบได้เพื่อให้สามารถหาของได้ง่ายขณะท่องเที่ยวและเก็บของได้เรียบร้อย

จุดเริ่มต้นของแบรนด์เริ่มจากการเป็นธุรกิจครอบครัวเล็กๆ ที่เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี โดยชื่อ RIMOWA เป็นชื่อย่อของ Richard Morszeck ลูกชายของพอล ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งคนแรก ตามบันทึกในประวัติแบรนด์ที่ไม่มีการยืนยันแน่ชัดนั้นว่ากันว่าต่อมาในช่วงค.ศ. 1937 ธุรกิจพบกับวิกฤตครั้งใหญ่คือเกิดไฟไหม่ที่โรงงานทำกระเป๋า เมื่อวัสดุหลักที่ใช้เป็นไม้ ทุกอย่างก็หายไปพร้อมกับกองเพลิง เหลือเพียงโครงกระเป๋าจากอลูมิเนียม ทำให้ริชาร์ดและเหล่าวิศวกรของ RIMOWA เริ่มสังเกตเห็นความทนทานของอลูมิเนียมนับตั้งแต่นั้น

2. มีแรงบันดาลใจในการใช้วัสดุอลูมิเนียมจากเครื่องบินแอร์คราฟต์

หลังจากที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบดูราลูมิน โลหะผสมหรืออลูมิเนียมอัลลอยที่ทนทานและมีน้ำหนักเบาภายนอกเมืองโคโลญก็เริ่มมีการนำวัสดุนี้มาใช้ในการผลิตเครื่องบินแอร์คราฟต์ที่เยอรมนีอย่างแพร่หลาย และเครื่องบินในยุคนี้เองที่เป็นแรงบันดาลใจต้นแบบให้ RIMOWA เริ่มนำอลูมิเนียมมาผสมในวัสดุสำหรับผลิตกระเป๋าตั้งแต่ ค.ศ. 1927 และพัฒนาเรื่อยมาจนในที่สุดก็ผลิตกระเป๋ารุ่นไอคอนิกจากอลูมิเนียมทั้งหมดสำเร็จ

เครื่องบินในตำนานลำที่เป็นแรงบันดาลใจของ RIMOWA คือรุ่น Junkers F 13 ซึ่งเป็นเครื่องบินแอร์คราฟต์ลำแรกของโลกที่ทำจากโลหะทั้งลำ ประดิษฐ์โดยวิศวกรชื่อ Hugo Junkers ใน ค.ศ. 1919 โดยดีไซน์ของเครื่องบินมีผิวสัมผัสแบบ Groove เพื่อให้น้ำสามารถไหลผ่านพื้นผิวได้สะดวกเวลาเดินทาง นับว่าวิศวกรของ RIMOWA เป็นแบรนด์แรกที่นำดีไซน์ Groove ไปจนถึงวัสดุอลูมิเนียมน้ำหนักเบาของเครื่องบินมาใช้กับการออกแบบกระเป๋าเดินทาง จนทุกวันนี้ลาย Groove กลายเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ที่กระเป๋าหลายแบรนด์นำไปใช้อย่างแพร่หลาย อีกทั้งราวครึ่งหนึ่งในยอดขายทั้งหมดของ RIMOWA ในทุกวันนี้ก็ยังคงมาจากกระเป๋าเดินทางอลูมิเนียมอีกด้วย

นอกจากนี้การใช้วัสดุอลูมิเนียมยังทำให้ RIMOWA ขึ้นชื่อว่าเป็นแบรนด์ที่มีความทนทานอย่างมาก แม้เมื่อกาลเวลาผ่านไป กระเป๋าจะเริ่มมีรอยบุ๋มและขีดข่วน แต่องค์ประกอบเหล่านี้กลับกลายเป็นส่วนหนึ่งของกระเป๋าที่เล่าเรื่องราวการเดินทางอันยาวไกลเหมือนเครื่องบินแอร์คราฟต์ ที่มีรอยขีดข่วนจากการบินมาหลายน่านฟ้าซึ่งแสดงให้เห็นถึงความทนทานแข็งแกร่งและคุณภาพที่ไว้ใจได้

3. พัฒนาฟังก์ชั่นให้พร้อมลุยท่องโลกกับกระเป๋าได้ ทั้งกันน้ำได้ ไปขั้วโลกได้ แถมล้อหมุนได้ 360 องศา

RIMOWA ยังเป็นผู้นำการพัฒนาฟังก์ชั่นของกระเป๋าเดินทางหลายอย่าง โดยรุ่น Tropicana Case ใน ค.ศ. 1976 เป็นกระเป๋ากันน้ำรุ่นแรกที่ออกแบบมาสำหรับช่างภาพและทีมถ่ายทำภาพยนตร์ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางไปทำงานในที่อากาศหนาวเย็นหรือมีความชื้นและต้องขนอุปกรณ์การถ่ายทำไปมากมาย โดยกระเป๋ารุ่นนี้จะมีคุณสมบัติทนทานและปกป้องของที่ใส่ข้างในได้เป็นพิเศษไม่ว่าจะบุกเข้าป่าหรือท่องขั้วโลกจึงได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ช่างภาพ

การออกแบบฟังก์ชั่นเฉพาะที่จับลูกค้าเฉพาะกลุ่มยังถือเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งของ RIMOWA ที่ผ่านมาแบรนด์ยังเคยออกแบบกระเป๋าสำหรับให้นักไวโอลินใส่เครื่องดนตรีโดยเฉพาะ ไปจนถึงกระเป๋าสำหรับใส่ขวดไวน์สำหรับ sommelier (ผู้แนะนำไวน์) ด้วยความตั้งใจอยากให้ลูกค้าได้พกพาของมีค่าระหว่างเดินทางแบบไร้กังวลว่าของจะเสียหาย

นอกจากนี้ RIMOWA ยังถือเป็นแบรนด์แรกที่นำโพลีคาร์บอเนต พลาสติกคุณภาพสูงที่มีน้ำหนักเบากว่ากระเป๋าเดินทางรุ่นก่อนและทนทานในหลายสภาพอากาศมาใช้ผลิตกระเป๋า และตลอดศตวรรษที่ 20 แบรนด์ยังบุกเบิกการยกระดับนวัตกรรมในการผลิตกระเป๋าอย่างต่อเนื่องมากมาย ตัวอย่างเช่น การจดสิทธิบัตรระบบ multiwheel หรือล้อรถที่หมุนได้ 360 องศาในปี 2001 และร่วมมือกับสายการบินลุฟต์ฮันซาของเยอรมนีเพื่อพัฒนาแถบชิปอิเล็กทรอนิกส์ให้ผู้โดยสารสามารถเช็กอินกระเป๋าเดินทางผ่านแอพพลิเคชั่นได้เพื่อลดขั้นตอนการต่อคิวติดสติ๊กเกอร์บนกระเป๋าที่เคาน์เตอร์

4. เป็นแบรนด์กระเป๋าเดินทางลักชูรีที่เคยคอลแล็บกับ Supreme, Off-White และแบรนด์ไฮเอนด์นับไม่ถ้วน

ในปี 2016 เครือ LVMH ที่ประกอบด้วยแบรนด์ลักชูรีระดับโลกมากมายอย่าง Louis Vuitton, Celine, Christian Dior, Givenchy, Fendi ได้ซื้อหุ้นของ RIMOWA ถึง 80% หรือเทียบเป็นเงินมูลค่าราว 705.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และผู้ที่รับตำแหน่ง CEO คือ Alexandre Arnault ที่มีอายุเพียงยี่สิบปลายในช่วงที่เริ่มต้นดูแล RIMOWA

การย้ายเข้ามาอยู่ในเครือ LVMH ทำให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น ทั้งสามารถชักชวนเหล่านักกีฬาชื่อดัง เช่น Roger Federer, LeBron James มาปรากฏในแคมเปญโฆษณาของแบรนด์และยังคอลแล็บกับแบรนด์ไฮสตรีทมากขึ้นหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Supreme, Fendi, Dior ฯลฯ

การคอลแล็บครั้งสำคัญครั้งหนึ่งของแบรนด์คือคอลเลกชั่นที่ทำร่วมกับ Supreme ซึ่งสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ช่วงปี 2017-2018 ด้วยทั้ง RIMOWA และ Supreme เป็นแบรนด์มีชื่อเสียงที่เปิดตัวสินค้าอะไรก็ป๊อปทั้งคู่ ทำให้คอลเลกชั่น RIMOWA Topas Multiwheel รุ่นสีแดงและดำที่นำโลโก้ Supreme มาไว้บนกระเป๋าขายหมดภายในเวลาไม่กี่นาทีด้วยราคาขายปลีกที่สูงลิบลิ่วในยุคนั้น โดยช่วงราคาอยู่ระหว่าง 1,600-1,800 ดอลลาร์สหรัฐ จากราคากระเป๋าทั่วไปของ RIMOWA ที่มีราคาตั้งแต่ 1,070-1,340 ดอลลาร์สหรัฐ โดยในปัจจุบันกระเป๋ารุ่นนี้มีการขายต่อในราคาที่พุ่งสูงขึ้นมากกว่า 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ

อีกหนึ่งคอลแล็บกับแบรนด์สตรีทแวร์ชื่อดังคือคอลเลกชั่นที่ทำร่วมกับ Off-White ของ Virgil Abloh ในปี 2018 โดยนำเอกลักษณ์ของแบรนด์ Off-White เช่น ลายลูกศรและลายทาง สายรัดสีเหลือง มาอยู่บนกระเป๋าและออกแบบกิมมิกให้เป็นกระเป๋าเดินทางแบบโปร่งใสที่มองเห็นสัมภาระข้างใน โดยเปรียบกระเป๋าเป็นงานอาร์ตที่จัดแสดงข้าวของที่ใส่ข้างในกระเป๋า

เหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งเท่านั้นของการคอลแล็บและคอลเลกชั่นเหล่านี้ก็เจาะกลุ่มลูกค้าอายุน้อยที่มีกำลังซื้อสูง โดยเฉพาะกลุ่ม Hypebeast หรือผู้ที่หลงใหลในป๊อปคัลเจอร์ที่นิยมซื้อสินค้าแฟชั่นในราคาสูงและกระเป๋าเดินทางแบรนด์ RIMOWA ก็กลายเป็นไอเทมแฟชั่นและ status symbol ของเหล่าคนรักแฟชั่นผู้อยากส่งเสริมสไตล์ของตัวเองให้มีลุคสุดคูล

5. ไม่ได้ขายแค่กระเป๋าเดินทางแต่เพิ่มหมวดสินค้าในชีวิตประจำวันตามการใช้ชีวิตในโลกยุคใหม่

นอกจากการคอลแล็บแล้ว LVMH ยังเปลี่ยนทิศทางจากที่ RIMOWA เป็นแบรนด์สินค้าสำหรับนักเดินทางล้วน ไปเป็นแบรนด์ที่เชื่อมโยงกับการเดินทางในชีวิตประจำวันทุกรูปแบบมากขึ้น นั่นหมายถึงการขยายไลน์สินค้าเป็น personal bag หรือกระเป๋าสำหรับใช้ส่วนตัว เช่น เคสใส่นาฬิกา เคสโทรศัพท์ไอโฟน คอลเลกชั่นแว่นกันแดด ไปจนถึง soft product อย่างเป้แบ็กแพ็กสะพายหลังและกระเป๋าเดินทางสำหรับสุดสัปดาห์ที่สามารถใช้ได้ทุกวันในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่แค่ในโอกาสเดินทางไกล

การเปลี่ยนทิศทางนี้เป็นเพราะแบรนด์มองว่าทุกวันนี้แทบจะไม่เห็นใครถือแค่กระเป๋าเดินทางอย่างเดียวในสนามบินอีกต่อไป ผู้คนมักถือกระเป๋าถือหรือเป้สะพายหลังใบเล็กขึ้นเครื่องด้วย และการเดินทางในทุกวันนี้ก็มีหลายรูปแบบมากขึ้นนอกเหนือจากการเดินทางไกล ทั้งการเดินทางไปทำงาน ไปเที่ยว ไปเยี่ยมเพื่อนฝูงและครอบครัว

อเล็กซองดร์ อาร์โนลต์ ผู้เป็น CEO หนุ่มได้เคยกล่าวไว้ว่าถึงแม้ RIMOWA จะเป็นแบรนด์ที่แข็งแรงแต่เมื่ออยู่ภายใต้ LVMH ก็มีหลายส่ิงในภาคธุรกิจที่ต้องทรานส์ฟอร์มใหม่แทบจะทั้งหมด จากแต่ก่อนที่แบรนด์ขายหนักไปทาง B2B ค่อนข้างมากก็ปรับการขายเข้าหากลุ่มลูกค้าที่เด็กลง สร้างสรรค์สินค้าที่มีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นและขายในช่องทางรีเทลอย่าง specialty store ที่มีความเอกซ์คลูซีฟมากขึ้น

แต่ไม่ว่าจะขยายไลน์สินค้าหรือเปลี่ยนโมเดลธุรกิจแค่ไหน สิ่งหนึ่งที่ RIMOWA แทบไม่แตะเลยคือกระบวนผลิตในโรงงานที่สืบทอดมาหลักศตวรรษ โดยในบรรดาหมวดหมู่สินค้าที่มีเพิ่มขึ้นมากมายจะเห็นได้ว่าเอกลักษณ์ของแบรนด์อย่างลาย Groove ก็ยังคงความโดดเด่นนี้ไว้ในหลายคอลเลกชั่นหลักของแบรนด์

6. สร้าง personality และเรื่องราวให้กระเป๋า

สำหรับแบรนด์ RIMOWA มีคำกล่าวที่วิศวกรและ craftsman ผู้ทำกระเป๋าของแบรนด์มักพูดกันคือ ‘aluminium has Persönlichkeit’ โดยคำว่า Persönlichkeit เป็นภาษาเยอรมันที่แปลว่า personality นั่นเอง ความหมายคือยิ่งใช้กระเป๋าอลูมิเนียมไปนานเท่าไหร่ก็ยิ่งมีเรื่องราวมากขึ้นและกระเป๋านั้นจะสะท้อนตัวตนของเจ้าของและกลายเป็นบันทึกการเดินทางท่องเที่ยวคู่ใจตลอดเส้นทางการเดินทาง

คำกล่าวนี้ไม่ใช่เพียงคำกล่าวลอยๆ เพราะกระเป๋าแต่ละใบของ RIMOWA สามารถสั่งซื้อแบบ customize ตามความชอบส่วนตัวของแต่ละคนได้ ทั้งสามารถเลือกสีล้อและสีของที่ถือกระเป๋า สั่งทำป้ายกระเป๋าเป็นสีและชื่อของตัวเองหรือคำที่อยากใส่ได้ ไปจนถึงมีหมวดสติ๊กเกอร์รูปเมืองต่างๆ ขายสำหรับติดสะสมว่าเคยเดินทางไปที่ไหนมาแล้วบ้าง ซึ่งแบรนด์บอกว่าการติดสติ๊กเกอร์เหล่านี้เป็นการเพิ่ม personal touch ที่ใส่เรื่องราวของผู้เดินทางทำให้กระเป๋าแต่ละใบไม่เหมือนกันเลย

ทั้งนี้หากใครที่ใช้กระเป๋ามาเนิ่นนานแล้วอยากซ่อมหรืออยากขาย ทางแบรนด์ก็มีโครงการชื่อ Re-Crafted ซึ่งมีทางเลือกคือสามารถนำกระเป๋า RIMOWA ที่ผ่านการใช้งานมาอย่างหนักมาให้ทีมผู้เชี่ยวชาญของแบรนด์ซ่อมแซมให้เหมือนใหม่ได้ หรือหากกระเป๋าใบโปรดกลายเป็น pre-loved ที่อยากขายต่อก็สามารถเอากลับมาขายที่ร้านของ RIMOWA เพื่อรับ voucher ส่วนลดสำหรับซื้อกระเป๋าของแบรนด์ใบใหม่ได้เช่นกัน

พิเศษกว่านั้นคือในเว็บไซต์ของแบรนด์ระบุไว้ว่ามี lifetime guarantee สำหรับทุกคนที่ซื้อกระเป๋าเดินทาง RIMOWA ตั้งแต่ 25 กรกฎาคม 2022 เป็นต้นไปซึ่งครอบคลุมการซ่อมแซมฟังก์ชั่นในทุกส่วนของกระเป๋า ซึ่งการที่แบรนด์หนึ่งจะการันตีขนาดนี้ได้แปลว่าต้องมั่นใจในคุณภาพของสินค้าที่ผลิตมากๆ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมผู้คนถึงรู้สึกคุ้มค่าที่จะลงทุนในการซื้อกระเป๋าเดินทางคุณภาพดีแบบ RIMOWA

ภาพ :

อ้างอิง :

Tagged:

Writer

Craft Curator, Editor-in-Cheese, Chief Dream Weaver, Wicker Expressionist, Design Researcher, Entrepreneur Crybaby 'Instagram : @rata.montre'

You Might Also Like