Nakhon Phanom Model
ส่องเทรนด์เมืองรอง กรณีศึกษานครพนม เมืองที่โตจากแรงศรัทธา อาหาร การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
การพัฒนาเศรษฐกิจของไทยสมัยก่อนพุ่งเป้าไปที่การพัฒนาศักยภาพของเมืองหลวงและปลดล็อกศักยภาพเมืองท่องเที่ยวหลัก แต่ในปัจจุบันที่ ‘เทรนด์เมืองรองกำลังโต’ (High Growth City) ทั้งในแง่ของศักยภาพทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว
ถึงขนาดมีการคาดการณ์ว่าสัดส่วนคนไทยเที่ยวเมืองรองในปี 2568 จะเพิ่มขึ้นเป็น 41.4% และโตขึ้นกว่า 32.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 หรือช่วงก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19 เพราะผู้คนต้องการหลีกเลี่ยงความแออัดของสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต คนเริ่มคิดมองหาสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ไปจนถึงนิยมท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมกันมากขึ้น
หลายธุรกิจเริ่มหันมาเจาะตลาดเมืองรอง เพื่อครองใจคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวกันมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีสัญชาติไทยอย่าง LINE MAN ที่ในช่วง 3 ปีให้หลังเริ่มหันมาขยายบริการในระดับอำเภอของเมืองรองมากยิ่งขึ้น ซึ่งจังหวัดที่มีการเติบโตโดดเด่นที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือคือ ‘นครพนม’ มีอัตราการเติบโตของยอดขายรวมหรือ GMV สูงถึง 16% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของอีสานอยู่ที่ 14 โดยจำนวนออร์เดอร์ทั่วประเทศเติบโต 12% ในขณะที่อีสานเติบโตเฉลี่ยกว่า 10%
Recap ตอนนี้จึงพาบินลัดฟ้ามาแลนดิ้งที่นครพนม ส่องปัจจัยที่ทำให้เมืองเล็กๆ ริมแม่น้ำโขง ที่มีประชากรเพียง 7 แสนคนกลับโตวันโตคืน เพื่อเป็นกรณีศึกษาในการผลักดันเมืองรองให้ไม่เป็นสองรองใคร
เมืองสายมูชูให้นครพนม เปลี่ยนจากเมืองผ่านสู่เมืองพัก
ชนนท์ กุลตั้งวัฒนา ประธาน YEC (Young Entrepreneurs Chamber of Commerce หรือกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่) ของจังหวัดนครพนม เล่าถึงปัจจัยที่ทำให้นครพนมมีศักยภาพทางเศรษฐกิจและการค้าชายแดนสูงมาก จากที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ซึ่งเป็นประตูการค้าสำคัญเชื่อมไทยกับ สปป.ลาว เวียดนาม และจีนตอนใต้ ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3
ปัจจุบันมูลค่าการค้าชายแดนของนครพนมสูงกว่า 120,000 ล้านบาท แต่นั่นก็ยังทำให้นครพนมถูกมองเป็นเมืองผ่านมากกว่าเมืองที่คนจะมาแวะพัก เพราะนักท่องเที่ยวมักมาไหว้พระธาตุพนม แล้วเลือกปักหมุดไปพักในจังหวัดใกล้เคียงอย่างมุกดาหารและสกลนครมากกว่า
จวบจนปี 2559 ได้เกิดแลนด์มาร์กแห่งใหม่คือพญาศรีสัตตนาคราชและถ้ำนาคีนาคา ทำให้นครพนมขึ้นแท่นเป็น ‘เมืองสายมู’ ผ่านการชูจุดเด่นเรื่องการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และยกระดับประสบการณ์ท่องเที่ยวริมโขงด้วยแลนด์มาร์กใหม่ล่าสุดอย่างชิงช้าสวรรค์ Mekong River Eye สูง 50 เมตร ที่กำลังจะเปิดให้บริการปีนี้
เศรษฐกิจในพื้นที่เติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเกิดเทรนด์ธุรกิจที่กำลังมาแรงในนครพนม คือธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญ เช่น งานไหลเรือไฟ หรือวันหยุดยาว ที่มียอดจองเยอะจนห้องพักไม่เพียงพอ
ชูของดีท้องถิ่น กินอาหารแซ่บ ดันฟู้ดเดลิเวอรีให้โตในเมืองรอง
วิศรุต สร้อยคำ เจ้าของร้าน Chewa Cafe By SK Sroikham ได้เล่าเสริมอีกว่าผู้ประกอบการท้องถิ่นมีบทบาทสำคัญในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและเศรษฐกิจของจังหวัด ด้วยการนำ ‘ของดีท้องถิ่น’ มาต่อยอดให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่มากขึ้น เช่น การนำกาละแม ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของนครพนม มาครีเอตเป็นเมนูเครื่องดื่มอย่างสมูทตี้ กาแฟ และไอศครีมกาละแม ช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่ายขึ้น พร้อมสร้างการรับรู้เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวกลับไปซื้อต้นตำรับกาละแมเป็นของฝาก เกิดการหมุนเวียนรายได้กลับคืนสู่ชุมชน
ในแง่พฤติกรรมผู้บริโภค อิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์ รองประธานฝ่ายนโยบายสาธารณะและรัฐกิจสัมพันธ์ LINE MAN Wongnai ได้เปิดเผยอินไซต์ว่าเมนูยอดนิยมของคนอีสานที่สั่งบนแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีของ LINE MAN มากที่สุด ได้แก่ ส้มตำ โดยเฉพาะตำป่าและตำปูปลาร้า ส่วนประเภทอาหารที่เติบโตเร็วในปีนี้ ได้แก่ เพียวมัทฉะ สตรอว์เบอร์รีซันเดย์ พรีเมียมมัทฉะลาเต้ รามยอนเผ็ดเกาหลี x ไก่เกาหลี และขนมปังเกลือหรือ Shio Pan ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคในภูมิภาคนี้เริ่มเปิดรับเมนูใหม่ๆ ที่มีความหลากหลายมากขึ้น
นอกจากนี้ยังพบว่า เมืองรองในภาคอีสานเติบโตได้ดีมาก โดย Top 5 เมืองรองที่มีการเติบโตสูงสุดบน LINE MAN ได้แก่ สุรินทร์ อุบลราชธานี กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และมุกดาหาร รวมถึงอำเภอขนาดเล็กที่แพลตฟอร์มเข้าไปให้บริการแล้ว เช่น ด่านซ้าย จังหวัดเลย, ขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ, บรบือ จังหวัดมหาสารคาม และธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด
ก้าวสู่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและเมืองแห่งศิลปวัฒนธรรม
การท่องเที่ยวของนครพนมในปัจจุบัน ยังคงมีความกระจุกตัวอยู่เฉพาะช่วงเทศกาลใหญ่ๆ เช่น งานไหลเรือไฟ และช่วงวันหยุดยาว ถึงแม้จะสร้างรายได้จำนวนมาก แต่ก็มาพร้อมกับปัญหาความแออัดและการบริหารจัดการที่ยากลำบาก ส่งผลต่อประสบการณ์ของนักท่องเที่ยวและความยั่งยืนของธุรกิจในระยะยาว
ดังนั้นแนวทางการกระจายนักท่องเที่ยวให้มาเยือนตลอดทั้งปี ผ่านการสร้างอีเวนต์ย่อยหรือกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมในแต่ละช่วง เช่น งานเทศกาลริมโขง กิจกรรมวิ่งมาราธอน งานศิลปะร่วมสมัย ไปจนถึงการโปรโมตจุดขายของนครพนมในมุมที่แตกต่าง เช่น ความสงบ วิถีชีวิตเรียบง่าย และเสน่ห์ของวัฒนธรรมท้องถิ่น สิ่งเหล่านี้จะช่วยดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนเชิงคุณภาพมากกว่าการท่องเที่ยวแบบเร่งรีบในช่วงเทศกาล
พร้อมผลักดันการเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพหรือ Wellness Tourism สามารถต่อยอดจากบรรยากาศสงบและธรรมชาติที่สมบูรณ์ของเมือง รวมถึงสมุนไพรและภูมิปัญญาพื้นบ้าน ซึ่งแผนงานเหล่านี้ไม่เพียงช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและภาคเอกชน แต่ยังเป็นแรงส่งสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดให้เติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาวอีกด้วย
นครพนมถือเป็นตัวอย่างของเมืองรองที่รู้จักต่อยอดจากจุดเด่นของตัวเอง จากเดิมที่คนนิยมมาไหว้พระธาตุพนม แต่ไม่แวะพัก จึงสร้างแลนด์มาร์กใหม่เอาใจสายมู พร้อมยกระดับอาหารท้องถิ่นด้วยการครีเอตเป็นเมนูต่างๆ และทำให้คนมาเที่ยวอยู่ได้นานขึ้นด้วยการวางแผนจัดอีเวนต์และเน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งเมืองรองอื่นๆ ก็สามารถนำไปปรับใช้และดึงจุดเด่นตัวเองมาดันเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เติบโตขึ้นได้เช่นกัน
#Capital #Recap #LINEMAN #ไลน์แมน #เศรษฐกิจเมืองรอง #นครพนม