นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการใช้คุกกี้

บริษัท ทุนดี จำกัด (“บริษัท”) มีความจำเป็นต้องใช้คุกกี้ในการทำงานหลายส่วนของเว็บไซต์เพื่อรับประกันการให้บริการของเว็บไซต์ที่จะอำนวยความสะดวกในการใช้บริการเว็บไซต์ของท่าน โดยบริษัทรับประกันว่าจะใช้คุกกี้เท่าที่จำเป็น และมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลของท่านโดยสอดคล้องกับกฎ หมายที่เกี่ยวข้อง และจะไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้แก่บุคคลอื่น เว้นแต่เป็นกรณีการใช้คุกกี้บางประเภทที่อาจดำเนินการโดยผู้ให้บริการภายนอก ทั้งนี้ เมื่อท่านเข้าใช้บริการเว็บไซต์ บริษัทจะถือว่าท่านรับทราบและตกลงนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้แล้ว โดยบริษัทสงวนสิทธิ์ในการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ตามแต่ละระยะเวลาที่บริษัทเห็นสมควร โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวผ่านทางเว็บไซต์นี้... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customized advertisements based on the pages you visited previously and to analyze the effectiveness of the ad campaigns.

MarTech for You

ล้วงกลยุทธ์ Personalization Marketing แบบไหนถึงรู้ใจคุณด้วย Martech จากงาน MarTech Expo 2025

โลกธุรกิจ ณ ปัจจุบัน เปรียบเสมือนการวิ่งมาราธอนที่ผู้เข้าแข่งขันต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ใครช้าหรือชะล่าใจอาจถูกแซงหน้าโดยไม่รู้ตัว เช่นเดียวกับการทำการตลาดในตอนนี้ ที่ไม่เพียงต้องเสิร์ฟความต้องการให้กับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ยังหมายถึงในรูปแบบ ‘เฉพาะบุคคล’ ที่ผู้ประกอบการต้องพิถีพิถัน ต้องรู้ว่าผู้บริโภคแต่ละคนชอบอะไร เพื่อทำให้ลูกค้าจดจำและประทับใจแบรนด์ดุจรักแรกพบ 

ในโลกของ ‘MarTech’ (Marketing Technology) วิธีการทำการตลาดรูปแบบดังกล่าวถือเป็นเรื่องปกติที่มีการทำมาตั้งแต่อดีต ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุด คือข้อความเชิญชวนสะสมแต้มหรือร่วมแคมเปญโปรโมชั่นเด็ดจากห้างดังที่ส่งมาทางโทรศัพท์ของเราๆ ซึ่งวิธีการนั้นเรียกรวมกันว่า ‘Personalized Marketing’ หรือการนำเทคโนโลยี data มาช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค และนำข้อมูลที่ได้มาประมวลผลเพื่อนำเสนอกสินค้าหรือบริการกลับไป

ในเมื่อผู้ประกอบการต่างใช้ personalized marketing เป็นหัวหอกลุยสมรภูมิการตลาด คำถามคือแล้วจะทำอย่างไรให้มีประสิทธิภาพได้มากที่สุด? คำถามดังกล่าวได้ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยกันในเซสชั่น ‘personalized marketing trend in 2025’ ที่เป็นไฮไลต์ส่วนหนึ่งในงาน MarTech Expo 2025 โดยมีสองกูรูอย่าง ‘ณัฐพล ม่วงทำ’ เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน และพล วรรณชนะ Chief Operating Officer บริษัท STEPS Training ชวนวิเคราะห์หาคำตอบ โดยคอลัมน์ Key Note ได้สรุปสาระสำคัญมาฝากคุณผู้อ่านไว้เรียบร้อยที่ด้านล่าง

• วิวัฒนาการของ personalized marketing  

ในช่วงแรกของวงเสวนา พลได้ชวนทำความเข้าใจเรื่องวิวัฒนาการ personalized marketing ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยแบ่งออกเป็น 3 ยุค คือ

1.ยุคข้อมูล demographic >  ยุคที่วิเคราะห์ข้อมูลการทำการตลาดจากข้อมูลของลูกค้าที่เข้ามาลงทะเบียน เช่น เพศ อายุ อาชีพ และวันเกิด ซึ่งเครื่องมือที่ใช้นำเสนอผู้บริโภคคือ อีเมลมาร์เก็ตติ้งและ SMS เป็นหลัก เช่นการส่ง SMS นำเสนอโปรโมชั่นของค่ายโทรศัพท์ 

2.ยุคข้อมูลเชิง behavior > ยุคที่ผู้ประกอบการเก็บข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภคผ่านการเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ ควบคู่กับการนำเสนอโปรโมชั่นหรือแคมเปญต่างๆ ผ่านป็อปอัปเมื่อผู้บริโภคกดคลิกเข้ามาที่หน้าเว็บไซต์

3.ยุคข้อมูล transaction > เป็นยุคที่ผู้ประกอบการแบ่งประเภทผู้บริโภคที่ละเอียดและลงลึกเฉพาะบุคคล ผ่าน CDP (Customer Data Platform) ซึ่งทำหน้าที่รวบรวมพฤติกรรมผู้บริโภคจากแพลตฟอร์มต่างๆ ไม่ว่าจะ Line, Shopee, Facebook หรือเว็บไซต์ของแบรนด์ เพื่อนำไปวิเคราะห์เป็น personalized marketing

เช่น ลูกค้าคนหนึ่งเคยซื้อเสื้อผ้ากับแบรนด์ก่อนจะห่างหายไประยะเวลาหนึ่ง เมื่อเป็นแบบนั้น แบรนด์ก็จะใช้ข้อมูลที่มีอยู่ในมือส่งโปรโมชั่นที่น่าสนใจหรือคูปองส่วนลดผ่านช่องทางที่สามารถติดต่อได้ เพื่อเชิญชวนผู้บริโภคให้กลับมาอีกครั้ง

4.ยุคข้อมูล AI > เป็นยุคที่ผู้ประกอบการใช้เครื่องมือ AI (artificial intelligence) วิเคราะห์ข้อมูลผู้บริโภคแบบเรียลไทม์ ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงเรื่องการทำ content marketing เพื่อดึงดูดให้ผู้บริโภคหันมาสนใจแบรนด์ หรือสนใจในผลิตภัณฑ์และบริการที่กำลังเปิดตัว รวมไปถึงการแบ่งประเภท จำแนกลักษณะของผู้บริโภคได้จำนวนมากในคราวเดียวกัน 

ในยุคปัจจุบันที่กำลังดำเนินอยู่นั้น คาบเกี่ยวอยู่ระหว่างยุค 3 และยุค 4 ที่น่าสนใจกว่านั้น คือเทคโนโลยีเครื่องมือในการทำ personalized marketing เองยังจับต้องง่าย แม้กระทั่งคนที่เริ่มต้นทำธุรกิจก็ใช้ได้เช่นกันหากมีความเข้าใจที่มากพอ 

อย่างไรก็ดีณัฐพลได้เสริมว่า การจะตั้งต้นทำ Personalized Marketing ให้ราบรื่นในระยะยาว จำเป็นต้องทำ ‘Lead Scoring’ หรือกระบวนการประเมินความพร้อมและความเเป็นไปได้ในการซื้อของลูกค้า เช่นจากระบบสมาชิกสะสมแต้มที่เป็นเครื่องบ่งชี้ความสนใจต่อแบรนด์ ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยวางแผนกลยุทธ์การตลาด การปรับปรุงรูปแบบแคมเปญและโปรโมชั่นในอนาคต ไปจนถึงการใช้ทรัพยากรที่มีทั้งหมดในมือให้มีประสิทธิภาพ 

ณัฐพลยกตัวอย่างแอพพลิเคชั่นช็อปปิ้งออนไลน์เจ้าหนึ่งที่ตั้งระบบให้ตอบสนองพฤติกรรมของลูกค้า เช่นลูกค้าคนหนึ่งเข้าไปดูสินค้าครีมทาผิวแต่ยังไม่ได้กดซื้อ คล้อยหลังจากพับหน้าจอเพียงไม่กี่นาที แอพพลิเคชั่นก็ส่งข้อความโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดใจลูกค้าให้ซื้อครีมดังกล่าว หรือในกรณีของ duolingo แอปพลิเคชั่นสอนภาษา ที่ตั้งข้อความนำเสนอสิทธิพิเศษให้แก่ผู้เรียนทันทีที่ปลดล็อกบทเรียนเลเวลใหม่แบบอัตโนมัติ 

ทว่าการทำ Marketing Automation ก็มีข้อควรระวังเช่นกัน ณัฐพลยกตัวอย่างกรณีที่มีการทำ marketing automation แต่ไปได้ไม่สุดซึ่งตัวเองประสบ นั่นคือเหตุการณ์หลังจากที่ตนเองสมัครประกันรถยนต์ไฟฟ้า แต่บริษัทประกันที่ทำด้วยกับส่ง sms เชิญชวนเป็นบัตรเติมน้ำมันมาแทน ดังนั้นสิ่งที่จำเป็นมากๆ ในกลยุทธ์ personalized marketing คือผู้ประกอบการจำเป็นต้องรู้ว่าฐานลูกค้าของเราเป็นใคร พฤติกรรมการบริโภคของลูกค้าเป็นอย่างไร โดยเฉพาะการแข่งขันในยุคนี้ที่เป็นแบบเรียลไทม์ ยิ่งผู้ประกอบการมอบความเป็น ‘คนพิเศษ’ ให้กับลูกค้าได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งได้เปรียบในการสร้าง brand loyalty

• personalized marketing คือการทำงานที่ไม่มีวันจบ

การทำ personalized marketing คืองานที่ไม่มีวันจบ หลายครั้งผู้บริหารหรือเจ้าของแบรนด์มักจะคิดว่ามีเครื่องมือช่วยแล้วจะจบ แต่การทำ personalized marketing จำเเป็นต้องทำแล้ว ทำซ้ำ ทำอีก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ segment หรือประเภทลูกค้าที่ดีที่สุด อาจจะมี 100 segment จนถึง 1,000 segment”  ณัฐพลกล่าวถึง key takeaway ที่สำคัญที่สุดในการทำ personalized marketing

การทำ personalized marketing จึงเป็นเหมือนการทำธุรกิจที่ต้องมีการอัพเกรดแบรนด์เป็นเวอชั่นต่างๆ ที่ดีขึ้น ซึ่งไม่สามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียวหรือปล่อยให้ระบบจัดการด้วยตัวเอง จำเป็นจะต้องมีการจัดการหลังบ้านร่วมกับทีมอย่างเป็นระบบเสมือน ‘funnel’ (marketing funnel หรือการวางแผนข้อมูลทางการตลาดเพื่อให้เข้าใจลูกค้า) ในแต่ละจุด ที่เชื่อมโยงสอดประสานข้อมูลของลูกค้าที่เข้ามาจากแต่ละแพลตฟอร์มได้เป็นระบบระเบียบ และการเลือกใช้เครื่องมือ cdp ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญ โดยควรเลือกผู้ให้บริการที่ตอบโจทย์การทำงานและเข้าใจ ‘ตัวตน’ ของแบรนด์ให้ได้มากที่สุด

สุดท้ายนี้ Chief Operating Officer บริษัท STEPS Training ได้เน้นย้ำว่า การทำ personalized marketing คือการสื่อสารระหว่างแบรนด์ไปยังลูกค้ารายบุคลลในสเกลใหญ่ ฉะนั้นแบรนด์ต้องมีมากกว่าแค่ ‘business goal’ แต่ต้องมี ‘brand goal’ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เช่นแบรนด์ที่เชื่อในเรื่องของความยั่งยืน ก็สามารถนำกลยุทธ์ personalized marketing มาใช้งานร่วม สื่อสารให้ลูกค้าเห็นว่าเป้าหมายความยั่งยืนของเราเป็นแบบไหน และทำต่อไปเรื่อยๆ จนกิดเป็นภาพจำ

Writer

นักเขียนผู้หลงใหลโลกของฟุตบอล สนีกเกอร์ และกันพลา

Illustrator

แล้วแต่จะคิด ชีวิตคนละแบบ

You Might Also Like