ดื่มชาอร่อยสไตล์ลุง

รสชาติชีวิตของ ‘ลุงชงชา’ แห่ง ‘ตามใจคาเฟ่’ ร้านที่มีใบชาจากทั่วโลกและเบลนด์ชาจนคว้ารางวัล 

หากใครเป็นคนในแวดวงโฆษณา อาจคุ้นหน้าคุ้นตาชายคนนี้ในฐานะผู้กำกับโฆษณาที่คร่ำหวอดในวงการมากว่า 40 ปี และเป็นเจ้าของโปรดักชั่นเฮาส์ ทศกัณฐ์ ​ฟิล์ม

หากใครเป็นสายจัดอีเวนต์หรือจัดงานแต่ง อาจรู้จักเขาในฐานะเจ้าของบ้านวรรณกวี

หรือหากใครเป็นสายดื่มชา เชื่อว่าจะเคยเห็นหน้าค่าตาคุณลุงใจดีในฐานะลุงชงชา เจ้าของร้านตามใจคาเฟ่

เรากำลังพูดถึง เอ๊ง–สาโรจน์ สุวัณณาคาร ชายผู้เผชิญทั้งวิกฤตต้มยำกุ้ง ดิจิทัล ดิสรัปชัน และวิกฤตช่วงโควิด จนต้องพลิกเกมจากผู้กำกับโฆษณาปรับตัวมาสู่โลกธุรกิจ ด้วยการเปิดร้านตามใจคาเฟ่ ที่หยิบความชอบดื่มชามาตั้งแต่เด็กและสะสมชาจากทั่วทุกมุมโลก มาเสิร์ฟให้ผู้คนได้ชิมตามสโลแกนของร้านที่ว่า ‘ดื่มชาอร่อยสไตล์ลุง’ ถ้าลุงว่าไม่อร่อยก็จะไม่เสิร์ฟ

เสน่ห์ของตามใจคาเฟ่คือที่การลุงชงชาสามารถทายนิสัยผู้คนได้จากชาที่เลือกดื่ม และได้ชาเบลนด์เป็นของตัวเองทั้งชาอบควันเทียนและชาสปาจนไปคว้ารางวัลระดับโลก อีกทั้งยังมีแฟนคลับจากหลากหลายประเทศทั่วโลกยอมข้ามน้ำข้ามทะเลมาลิ้มลองรสชาติชาของคุณลุง

ช่วงโพล้เพล้จวบจะได้เวลาที่ตามใจคาเฟ่กำลังจะปิดให้บริการในวันนั้น เราถือโอกาสไปเยือนย่านห้วยขวาง ขับรถลัดเลาะรอบต้นไม้อันร่มรื่นที่เหมือนหลุดมาอยู่อีกโลก เพื่อลิ้มรสชาติชาที่ชายผู้นี้แนะนำว่ารสชาตินี้แหละอร่อยสไตล์ลุง 

พร้อมกันนั้น เราขอพาไปลิ้มรสชาติชีวิตของเอ๊งที่ผ่านร้อน ผ่านหนาว จนมีรสชาติขมปนหวานไม่ต่างจากรสชาติชาที่เขารัก

ชาถ้วยที่ 1 รสชาติขมปนหวาน ในวันที่ต้องปรับตัวตามโลก

“โลกมันเปลี่ยนแปลง เราต้องยอมรับ และปรับตัวตาม” เป็นประโยคแรกๆ ที่ลุงชงชาพูดกับเรา ก่อนจะเล่าถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผู้กำกับโฆษณามือฉมัง ผันตัวมาเปิดร้านชาเป็นของตัวเอง

ย้อนไปก่อนหน้านี้เขาทำงานเป็นก๊อบปี้ไรเตอร์อยู่ที่ Ogilvy เอเจนซี่โฆษณาระดับโลก ก่อนจะลาออกมาเป็นผู้ช่วยไดเรกเตอร์ของผู้กำกับชื่อดัง และก่อตั้งบริษัททศกัณฐ์ ​ฟิล์ม เพื่อรับทำงานโฆษณา แต่หลังจากก่อตั้งบริษัทได้เพียง 1 ปีก็เจอเข้ากับวิกฤตต้มยำกุ้ง

“ตอนนั้นผมเหลือเงินอยู่ 200,000 บาทสุดท้าย ซื้อฟิล์มมาลองเทสต์งานโฆษณาแชมพู หลังจากนั้นลุงก็กลายเป็นผู้กำกับโฆษณาเกี่ยวกับผมและผิวไปโดยไม่ตั้งใจ เพราะมีลูกค้าชาวญี่ปุ่นเขาชอบผลงานเราก็เลยให้ไปถ่ายเฉพาะโฆษณางานผมกับงานผิว”

หลังจากนั้นก็เจอกับดิจิทัล ดิสรัปชัน ที่ทำให้ทุกอย่างถูกลง แม้แต่ค่าโฆษณา ทำให้วงการโฆษณามาตัดราคากันเอง งานก็น้อยลง ทำให้เขาตัดสินใจรับงานทำโฆษณาให้กับธุรกิจ SMEs เพียงตัวละ 8,000 บาท ก่อนที่โชคจะเข้าข้างทำให้ได้ทำโขนภาพยนตร์ ตามสิ่งที่ชายผู้นี้ฝันอยากจะทำมาตั้งนาน เขาย้ำว่าสิ่งนี้เป็นมากกว่าหนัง แต่คือการถ่ายทอดความมหัศจรรย์ของโขนในแง่มุมต่างๆ ให้ผู้คนได้สัมผัส

“ผมว่าช่วงที่แย่ที่สุดจริงๆ คือช่วงโควิด จะถ่ายหนังทำโปรดักชั่นก็ไม่ได้ เลยไปปลูกกล้วยด่างที่บ้านเพื่อนแถวนครปฐม แล้วไลฟ์สดขายกล้วยด่าง บางต้นขายได้ถึงต้นละ 8,000 บาท แล้วเราเห็นว่าเทรนด์ wellness กำลังมาแรง ก็เลยปลูกผักออร์แกนิคขายด้วย ให้ลูกน้องที่ทำโฆษณาอยู่ด้วยขี่มอไซต์ไปส่งผักให้ลูกค้า

“ช่วงที่เขาขี่รถออกไปนี่เราน้ำตาซึมเลยนะ เพราะรู้ว่าพวกเขาต้องลำบากขึ้น แต่ทำยังไงได้ งานโฆษณามันน้อยลง เราต้องทำเพื่อความอยู่รอด และดึงให้ลูกน้องอยู่กับเราได้มากที่สุด เงินเดือนบางส่วนที่จ่ายเขาผมก็ควักมาจากกระเป๋าตังค์ตัวเอง หมดไปประมาณ 10 ล้าน แต่ทุกคนในออฟฟิศยังอยู่กับผมหมด ไม่เอาใครออกสักคน เพราะผมรู้สึกเหมือนเป็นพ่อของพวกเขาจริงๆ”ฃ

ชาถ้วยที่ 2 รสชาติแห่งความหวัง ในวันที่กลายมาเป็นลุงชงชา

พื้นที่แห่งนี้รายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่อันสงบและร่มเย็น เหมือนหลุดมาอยู่อีกโลกนึงที่ไม่ใช่เมืองความวุ่นวายอย่างห้วยขวาง พื้นที่ถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งคือบ้านเรือนไทยในชื่อ ‘บ้านวรรณกวี’ เป็นสถานที่จัดงานแต่งและอีเวนต์ต่างๆ ส่วนอีกฝั่งข้างๆ กันคือ ‘ตามใจคาเฟ่’

“คาเฟ่นี้เกิดในช่วงเวลาที่ผมต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง ผมก็มาคิดว่าเราชงชาได้นี่ เพราะชอบกินชากับที่บ้านมาตั้งแต่เด็ก มีชาในสต็อกประมาณนึง ก็เอามาชงขายดีกว่า พนักงานในร้านก็เป็นคนทำโปรดักชั่นของเราทั้งหมด มีผู้กำกับ โปรดักชั่นเมเนเจอร์ คนแคสติ้งโฆษณา และตากล้องก็มาเป็นบาริสต้า มาช่วยเสิร์ฟ มาช่วยโบกรถบ้าง สลับๆ หน้าที่กันไป”

ช่วงแรกที่เปิดตามใจคาเฟ่บางวันไม่มีลูกค้าเลย บางวันมีคนมาสั่งชาแค่ 1 แก้วเท่านั้น เพราะเมื่อก่อนคนมักจะเดินเข้าคาเฟ่เพื่อไปดื่มกาแฟกันมากกว่าการเข้าคาเฟ่เพื่อไปดื่มชา

@capitalreadco

6 ชาที่คว้ารางวัลระดับโลกของลุงชงชา #Capital#SmallTalk#ลุงชงชา#ชา

♬ original sound – capitalreadco – capitalreadco

“ผมก็เลยทำคลิปพูดเรื่องชามันทุกวัน ลงวันละ 2-3 คลิป แต่ยอดวิวช่วงแรกๆ ไม่ค่อยไป เพราะมันอยากให้เราจ่ายตังค์ เราก็สู้กับอัลกอริทึมลงวันนึง 4 คลิปไปเลย ตอนนั้นเราก็ถ่ายเอง ตัดเอง เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่เราทำได้อยู่แล้ว เพราะการถ่ายหนัง ทำโปรดักชั่นมันอยู่ในสายเลือด แต่ขอถ่ายแค่เทคเดียวเท่านั้น เพราะแค้นใจเวลาถ่ายโฆษณาต้องถ่ายหลายเทคกว่าลูกจะชอบ”

เอ๊งยังบอกอย่างตรงไปตรงมาว่าคลิปที่ลงในเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมยอดไม่ค่อยดีนัก แต่คนดูใน TikTok เริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเวลามีใครมาขอสัมภาษณ์คุณลุงจะให้สัมภาษณ์หมดทุกที่ และยังพูดอย่างติดตลกว่าเป็นผู้กำกับโฆษณามา 40 ปี ไม่เคยยอมให้ใครสัมภาษณ์มาก่อน แต่อยากให้คนรู้จักตามใจคาเฟ่ถึงให้สัมภาษณ์ 

ชาถ้วยที่ 3 รสชาติอร่อยสไตล์ลุง ที่คนทั่วโลกอยากลิ้มลอง

สิ่งที่จุดพลุให้ตามใจคาเฟ่เป็นที่รู้จักมากขึ้น เกิดจากพลังแห่งการรีวิว ที่มีคนถ่ายคลิปลุงชงชาไปลงในโซเชียลมีเดีย จนทำให้คนแห่มาร้าน เพราะอยากพบเจอและพูดคุยกับคุณลุง

“คนมาถ่ายรีวิวว่าลุงสามารถทายนิสัยจากการดื่มชาได้ เพราะผมเป็นผู้กำกับมานาน พูดคุยกับคนมาทุกเจนเนอเรชั่น เวลาผมกำกับการแสดงของใครก็จะมองตาเขา จะดู movement และบรีฟเพื่อให้เขาแสดงตามคาแรคเตอเร์ที่ผมอยากได้

“เพราะฉะนั้นเวลามีใครมาสั่งชา ผมก็จะดูว่าคนที่เลือกชาแบบนี้จะเป็นนิสัยประมาณนี้ ดูคาแรกเตอร์รวมๆ ของเขา และผมจะมองเข้าไปในตาเขาด้วยว่ารู้สึกอะไรอยู่ในตอนนี้ อย่างมีคนนึงเลือกชากุหลาบ ทั้งที่ภายนอกเขาดูห้าวหาญ แต่ข้างในเขาเป็นคนอ่อนโยน เวลาเราทายนิสัยแบบนี้คนจะชอบบอกว่าเรารู้ได้ไง แล้วมันก็กลายเป็นอีกความสนุกนึงเวลาคนมาร้านเรา”

อีกหนึ่งเสน่ห์ที่ทำให้ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาที่ตามใจคาเฟ่ คือการที่ลุงมีชาจากทั่วทุกมุมโลกมาให้ลูกค้าได้ชิม เขาเริ่มจากชาฝรั่งเศลที่ตนหลงรัก ก่อนจะเริ่มขยับไปสั่งชาติจากประเทศอื่นๆ มามากมาย โดยมีหลักเกณฑ์ง่ายๆ คือต้องเป็นชาที่เขาดื่มแล้วชอบ อันไหนไม่ชอบจะไม่เอามาขายเลย

“สโลแกนร้านผมคือ ‘ดื่มชาอร่อยสไตล์ลุง’ มาจากที่โลกใบนี้ โดยเฉพาะตอนนี้ที่ทุกอย่างอยู่ในโลกออนไลน์ ถ้าทำอะไรที่ผิดแปลกไปจากประเพณีเขาก็จะโดนด่า ผมเลยบอกทุกคนว่าเราทำร้านชาสไตล์เรา ไม่ได้มีพิธีรีตองอะไร ชาก็เป็นชาที่เราดื่มแล้วชอบ คิดว่ามันอร่อย

“เหตุผลที่ผมมีชาหรือมีเมนูให้เลือกเยอะมาก ขนาดที่ถ้าร้านอื่นทำเมนูเยอะขนาดนี้อาจจะเจ๊งได้เลย แต่ผมอยากให้ลูกค้าเข้ามาคุยกันว่าจะสั่งอะไรดี บางทีถ้าลูกค้ามาแล้วสั่งเมนูเลย ถ้าเรารู้สึกไม่ชอบก็จะไปถามเขาว่าเปลี่ยนเป็นตัวอื่นได้มั้ย ตัวอื่นอร่อยกว่านี้ ชาบางอย่างเหมาะชงแบบลาเต้ (ชาที่ชงผสมกับนม) ถ้ามาชงแบบ Clear มันไม่อร่อย (ชงที่ชงผสมกับน้ำ) พอเราแนะนำแบบนั้นเขาก็เปลี่ยนตามคำแนะนำนะ”

ลุงเล่าด้วยรอยยิ้มว่าแฟนคลับลุงชงชามีอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก พวกเขาต่างยอมข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อให้ได้ลิ้มลองรสชาติอร่อยสไตล์ลุง ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าที่มาไกลจากสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย สแกนดิเนเวีย แอฟริกาใต้ ประเทศแถบตะวันออกกลาง หรือแม้แต่ประเทศต้นตำรับเรื่องชาอย่างจีนและญี่ปุ่นก็เดินทางมาหาคุณลุง

“มีชาวต่างชาติมาขอถ่ายลุง ถ่ายบรรยากาศร้าน แล้วไปลงรีวิวในโซเชียลว่า The place you should go for matcha in Thailand คือบอกว่าถ้ามาไทยควรมาดื่มมัทฉะที่ร้านนี้ แต่ผมว่ามัทฉะในไทยที่ดีกว่าร้านผมมีเยอะแยะ แต่เขาอาจจะมาดื่มมัทฉะร้านเราแล้วชอบ ทำให้หลังๆ มานี้ใครมาก็สั่งแต่มัทฉะ”

ชาถ้วยที่ 4 รสชาติความเป็นไทย ที่ไปคว้ารางวัลระดับโลก

“ผมทำงานเป็นผู้กำกับโฆษณามา 40 ปี แล้ววันนี้มาขายชา ผมไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องเสียหายหรือเป็นเรื่องน่าอายอะไร วันนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองก็ยังทำงานเป็นผู้กำกับอยู่ แค่ไม่ได้กำกับโฆษณา แต่มากำกับชีวิตตัวเอง มันก็ขึ้นอยู่กับว่าผมอยากกำกับตัวเองให้คนอื่นเห็นแบบไหน ก็ได้ข้อสรุปว่าผมอยากทำแบรนด์ชาของคนไทยให้มันดัง”

นั่นเป็นจุดเริ่มต้นให้ลุงชงชาเริ่มเบลนด์ชาเป็นของตัวเอง เขาสังเกตว่าชาค่อนข้างดูดกลิ่นต่างๆ ได้ดี แล้วเห็นคนไทยชอบทำขนมหรือสินค้าอบควันเทียน เลยอยากลองทำชาอบควันเทียนดูบ้าง ลุงเล่าอย่างติดตลกว่าตอนนั้นเขาเหมือนคนบ้าที่กว้านซื้อเทียนทั้งหมดเท่าที่จะหาได้มาเป็นร้อยๆ แพ็ก และลองอบควันเทียนจนทิ้งชาไปมากมาย จนได้ชาอบควันเทียนมาถึง 8 รสชาติ

“มีคนแนะนำเราว่ามีการประกวดชานานาชาติ Les Thés Du Monde’ AVPA Paris 2024 ที่ฝรั่งเศส เราก็เอาชาส่งไปประกวดดู ปรากฏว่าฝรั่งดันชอบแล้วให้รางวัลมา 3 ตัว คือทศกัณฐ์ ตีความว่าเขาเป็นยักษ์ที่ดูซื่อสัตย์ เลยใช้ชาเขียวชั้นดีมาผสมกับใบเตย เพราะใบเตยเป็นวัตถุดิบที่ดูซื่อที่สุดของการทำขนม เหมือนเวลาจะทำขนมอะไรก็ชอบหยิบใบเตยไปใส่

“อีกตัวที่ได้รางวัลคือพระนารายณ์ เป็นผู้ปกป้องกับผู้กอบกู้โลกและมีผิวกายเป็ยสีม่วง เราเลยใช้ชาขาวชั้นดี มาเติมอัญชันและลาเวนเดอร์เข้าไป ลูกเล่นอยู่ตรงที่ผมใส่มะนาวลงไปด้วย พอชงชากับน้ำอัญชันจะลองอยู่ข้างบน มะนาวจะอยู่ข้างล่าง ทำให้น้ำดูเป็นสีน้ำเงิน แต่พอยกดื่มแล้วอัญชันผสมกับมะนาว สีในแก้วจะเปลี่ยนเป็นสีม่วง

“ตัวสุดท้ายคือพระลักษณ์ มักจะโดนพระรามใช้ให้ทำโน่นนี่บ่อยๆ และมีผิวกายเป็นสีเหลือง เราเลยอยากให้เป็นชาที่ดื่มได้ตลอด 24 ชั่วโมง เลยใช้ชารอยบอสที่ไม่มีคาเฟอีน มาผสมกับเก๊กฮวยนิดหนึ่ง เพราะรสชาติของชารอยบอสจะคล้ายชาแดง ซึ่งรสชาติของชาแดงกับเก๊กฮวยเป็นรสชาติที่ไปด้วยกันได้”

นอกจากชาที่ได้รับรางวัลแล้ว ชาอบควันเทียนชุดนี้ยังมีพระราม นางสีดา หนุมาน สุครีพ และพระอุมาเทวี ถ้าสังเกตดูจะเห็นว่าชาเหล่านี้มีชื่อ และลวดลายบนกระป๋องชามาจากตัวละครในเรื่องรามเกียรติ์ ซึ่งเชื่อมโยงกับทศกัณฐ์ ฟิล์ม ชื่อบริษัทโปรดักชั่นเฮาส์ของคุณลุงนั่นเอง

ชาชุดต่อมาที่เขาส่งประกวดมาจากไอเดียที่ว่าประเทศไทยมีสปาที่ดีและในต่างประเทศไม่ได้มีสมุนไพรเหมือนบ้านเรา จึงนำไอเดียนี้มาทำเป็นชาสปาซีรีส์ และส่งไปประกวดในงาน Great Taste Award 2025 ที่ประเทศอังกฤษ ถึง 7 รสชาติ และคว้ารางวัลมาได้ 2 รสชาติ

“ตัวแรกคือ Signature Tea Spa มาจากเวลาคุณเข้าไปในสปาไทยจะเห็นอ่างน้ำที่มีกลีบดอกกุหลาบและดอกมะลิโรยอยู่ เราเลยใช้ชาขาวมาอบกับดอกมะลิ ตอนนั้นดอกมะลิกิโลฯ ละพัน แต่เราอยากทำมากก็เลยไปซื้อมาแล้วศึกษาว่าต้องอบตอนกลางคืนแล้วรีบเก็บตอนเช้า ไม่งั้นมะลิจะช้ำ แล้วเราน้ำมาเบลนด์กับดอกกุหลาบ และดอกครีกเมาน์เทน

“อีกตัวเป็น Good Night Tea Spa เป็นชารอยบอสออร์แกนิกที่ไม่มีคาเฟอีน แล้วเวลาคนนึกถึงชาที่กินก่อนนอนจะนึกถึงชาคาโมมายล์ แต่ผมไม่ชอบเพราะกลิ่นแรงไป เลยใส่ลงไปนิดเดียว แล้วก็ใส่เลมอน เวอร์บีน่า มะตูม ตะไคร้ และใส่หญ้าหวานลงไปให้มีรสหวานกลมกล่อมนิดหนึ่ง ให้อารมณ์เหมือนดื่มชาหลังจากนวดเสร็จหรือดื่มชาก่อนนอน”

ชาถ้วยที่ 5 รสชาติแห่งชีวิต ที่อยากให้ทุกทิศมีแต่ลุงชงชา

ณ ปัจจุบันตามใจคาเฟ่เปิดมาได้เป็นปีที่ 2 แล้ว แต่ลุงชงชาพูดกับเราแบบติดตลกว่าจริงๆ ลุงชงชาเกิดขึ้นมา 60 กว่าปี นับตั้งแต่เขาลืมตาดูโลก เพราะเขาชอบชิมชากับพ่อมาตั้งแต่เด็ก เวลาไปต่างประเทศก็มักจะไปตะเวนชิมชาทั่วสารทิศ

“ผมดีใจที่ทุกวันนี้ตลาดชาโตขึ้น เพราะจริงๆ แล้วชาเป็นเครื่องดื่มอันดับ 2 ของโลก รองมาจากน้ำ ไม่ใช่กาแฟ ดีใจที่คนรุ่นใหม่มีตัวเลือกในการดื่มชาเพิ่มมากขึ้น ถ้าใครจะมาเปิดร้านแข่งกับลุงก็เปิดไป ไม่เป็นไร”

เขายังบอกว่าหากวันใดวันหนึ่งที่ตามใจคาเฟ่จะขยายสาขาใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการไปเปิดสาขาด้วยตัวเองหรือแฟรนไชส์ สิ่งสำคัญคือต้องหาลุงประจำสาขานั้นๆ ให้ได้ก่อน ลุงที่มีความเป็นอาร์ทิสต์ มีความคิด positive ถ้าดีไปกว่านั้นคือสามารถฮีลใจผู้คนได้ด้วย

“นึกดูว่ามันสนุกแค่ไหน ถ้าคุณไปเที่ยวทุกจังหวัด และมีลุงชงชาคาแร็กเตอร์แปลกๆ อยู่ทุกจังหวัด แล้วผมอยากให้เป็นคนในพื้นที่ด้วย เขาจะได้รู้ว่าคนแถวนั้นเป็นยังไง คนจะได้มาคุยกันรู้เรื่อง คิดดูว่าวันหนึ่งมีลุงติสต์ๆ นั่งตีกลองอยู่หน้าร้าน ใครอยากดื่มชารอลุงตีกลองก่อนเดี๋ยวไปชงให้ อีกที่หนึ่งมีลุงนั่งวาดรูปอยู่ ถ้าอยากดื่มชาไปให้คนอื่นชงก่อนอะไรแบบนี้ มันดูกวนตีนดีนะ

“แล้วคาแร็กเตอร์ลุงไปได้ทั่วโลกเลย เพราะสังคมผู้สูงอายุเยอะขึ้น อาร์ทิสต์ในไทยก็มีไม่น้อย และสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว AI ตามไม่ได้คือคาแร็กเตอร์ลุงที่ชอบพูดคุยกับผู้คน ซื่อสัตย์ อยากเสิร์ฟของที่มีคุณภาพให้คนได้ชิม นี่แหละคือตัวตนของลุงชงชา”

Writer

นักเขียนที่อยากเปลี่ยนเรื่องธุรกิจให้เป็นเรื่องสนุก และมีแมวกับกาแฟช่วยฮีลใจในทุกวัน

Photographer

ทำงานให้งานมันท้อเรา ig : chinnakanc

You Might Also Like