นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการใช้คุกกี้

บริษัท ทุนดี จำกัด (“บริษัท”) มีความจำเป็นต้องใช้คุกกี้ในการทำงานหลายส่วนของเว็บไซต์เพื่อรับประกันการให้บริการของเว็บไซต์ที่จะอำนวยความสะดวกในการใช้บริการเว็บไซต์ของท่าน โดยบริษัทรับประกันว่าจะใช้คุกกี้เท่าที่จำเป็น และมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลของท่านโดยสอดคล้องกับกฎ หมายที่เกี่ยวข้อง และจะไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้แก่บุคคลอื่น เว้นแต่เป็นกรณีการใช้คุกกี้บางประเภทที่อาจดำเนินการโดยผู้ให้บริการภายนอก ทั้งนี้ เมื่อท่านเข้าใช้บริการเว็บไซต์ บริษัทจะถือว่าท่านรับทราบและตกลงนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้แล้ว โดยบริษัทสงวนสิทธิ์ในการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ตามแต่ละระยะเวลาที่บริษัทเห็นสมควร โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวผ่านทางเว็บไซต์นี้... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customized advertisements based on the pages you visited previously and to analyze the effectiveness of the ad campaigns.

Hip Hip HooRay!

เปิดส่วนผสมที่ทำให้ HooRay! แบรนด์โปรตีนพร้อมดื่มแบรนด์แรกของไทยยืนหยัดมากว่า 10 ปี

ในตู้ขายน้ำของยิมที่เราเข้าประจำ นอกจากน้ำเปล่าที่กดซื้อบ่อยๆ อีกหนึ่งโปรดักต์ที่จ่ายเงินให้บ่อยไม่แพ้กัน คือโปรตีนพร้อมดื่มของ HooRay!

ขวดสีสันสดใสที่ล่อตาล่อใจก็เป็นแรงจูงใจหนึ่ง แต่เหตุผลสำคัญคือปริมาณโปรตีนกว่า 30 กรัมที่ถือว่ามากถ้าเทียบกับโปรตีนพร้อมดื่มเจ้าอื่น ไม่นับรสชาติหวานกลมกล่อม ทานง่าย นับแต่ได้ลองครั้งแรก เราก็เป็นแฟนคลับของ HooRay! เสมอมา

วันนี้เลยตื่นเต้นเป็นพิเศษ เพราะคอลัมน์ Product Champion รอบนี้บุกมาถึงออฟฟิศถึง HooRay! คุยกับคู่สามีภรรยา ต้น–วงษ์เดช เอี่ยวสานุรักษ์ และ เจน–ชัชณี พฤกษ์ศลานันท์ ผู้ที่ก่อตั้งแบรนด์ร่วมกับพาร์ตเนอร์ เอก พฤกษ์ศลานันท์ และ ปิติภัทร พฤกษ์ศลานันท์ เมื่อราว 10 ปีก่อน

เรื่องน่าทึ่งคือ พวกเขาไม่ได้จบด้านโภชนาการใดๆ แต่ตั้งต้นจากการเป็นคนที่ชอบออกกำลังกายและทานโปรตีนเหมือนเรานี่แหละ ติดแต่ 10 ปีก่อน การจะหาโปรตีนอร่อยๆ ในตลาดนั้นทำได้ยาก ไม่ต้องพูดถึงโปรตีนพร้อมดื่มในไทยที่มีแต่สินค้านำเข้า สี่ผู้ก่อตั้งจึงแท็กทีมกันศึกษาเรื่องโปรตีนจนเชี่ยวชาญ เข้มข้นกับการพัฒนาสูตร จนได้โปรตีนพร้อมดื่มขวดแรกออกมาวางขาย

ที่สำคัญ HooRay! ไม่ได้เชื่อว่าโปรตีนมีไว้สำหรับคนที่ออกกำลังกายบ่อยเท่านั้น แต่เป็นสิ่งสำคัญที่คนทุกเพศทุกวัยจะต้องการ 

“โจทย์ของเราคือทำให้ลูกค้าสุขภาพดี HooRay! จึงเป็นเหมือนเชียร์ลีดเดอร์ที่คอยเชียร์อัพให้คุณไปถึงจุดหมายปลายทางด้วยกัน” เจนเล่าความตั้งใจ และเริ่มแนะนำสินค้าแต่ละตัวให้เราฟัง

ส่วนผสมใน Hooray! ทุกสูตร

  1. อินไซต์ของผู้บริโภค 1 ช้อนโต๊ะ
  2. ความรู้และนวัตกรรมเกี่ยวกับโปรตีน 1 ถ้วยตวง
  3. ความใส่ใจ 1 สกู๊ป
  4. การไม่หยุดพัฒนา 10 ช้อนชา (ใส่เพิ่มได้ตามแต่ใจผู้ปรุง)

เมนูประจำตู้

โปรตีนพร้อมดื่ม 

โปรตีนผงกระปุกใหญ่บิ๊กเบิ้ม หน้ากระปุกสกรีนรูปนักกล้ามกำลังเบ่งกล้ามเหมือนแรมโบ้ พร้อมกราฟิกรูปสายฟ้าฟาดแสดงพลัง นี่คือรูปแบบของโปรตีนที่เห็นได้ทั่วไปในท้องตลาดเมื่อ 10 ปีก่อน

“หนึ่ง มันดูเข้าถึงยาก สอง รสชาติไม่อร่อย กินยาก” เจนที่เคยเป็นผู้บริโภคมาก่อนรีวิวให้ฟัง

ย้อนกลับไปก่อนจะมาเปิดแบรนด์โปรตีน HooRay! คุณต้นกับคุณเจนเคยเปิดธุรกิจ private fitness ของตัวเองมาก่อน พวกเขาขายคอร์สเทรนให้สมาชิกพร้อมวางแผนโภชนาการ และแน่นอนว่าต้องมีการวางแผนการกินโปรตีนต่อวันให้ถึงเกณฑ์

อ่านมาถึงตรงนี้ ใครที่เคยโดนเทรนเนอร์บังคับว่าต้องกิน ‘ให้ถึง’ คงเข้าใจ ส่วนคนที่งงว่าคืออะไร ขออธิบายคร่าวๆ ว่า โดยปกติสำหรับคนที่ไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำ เราควรจะบริโภคโปรตีนในอัตราเทียบเท่ากับน้ำหนักตัวอยู่แล้ว (สมมติน้ำหนัก 60 กิโลกรัมก็ควรบริโภค 60 กรัมต่อวัน) ไม่ต้องพูดถึงคนที่ออกกำลังกายบ่อยๆ ที่ต้องการให้มากกว่านั้น 

ว่าง่ายๆ คือ การกินโปรตีนให้ถึงทุกวันเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความพยายามอย่างสูง

“คอร์สที่เราขายให้กับลูกค้าคือเราต้องจ่ายโปรตีนให้เขาด้วย ซึ่งแน่นอนว่าโปรตีนผงมันไม่อร่อย ลูกค้าบางคนจ่ายตังค์แล้วก็ยังหาข้ออ้างที่จะไม่กิน เพราะเขาต้องฝืนกิน เราเลยเปิดปิ๊งไอเดียว่า ทำไมในไทยเราไม่มีเครื่องดื่ม ready-to-drink protein ที่รสชาติอร่อยบ้าง” หญิงสาวบอก

เมื่อลองดูตลาดสินค้าสุขภาพเวลานั้น ในไทยยังไม่มีเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเลย สามีภรรยาจึงยิ่งมองเห็นโอกาส จากไอเดียวันแรก พวกเขาใช้เวลากว่า 2 ปีในการเก็บข้อมูล ศึกษา ทดลอง เพื่อพัฒนาโปรตีนพร้อมดื่มของตัวเอง 

“เราใช้เวลานานเพราะศึกษาว่าการจะทำเครื่องดื่มหนึ่งขวดให้ได้โปรตีนสูงนั้นใช้เทคโนโลยีอะไรบ้าง ตอนนั้นก็ไปร่างโครงการให้นักวิจัยในมหาวิทยาลัยต่างๆ วิจัยให้แต่ไม่มีใครตอบรับเลย สุดท้ายเรามีโอกาสติดต่อกับองค์กรที่อเมริกา เขาซัพพอร์ตข้อมูลให้เรา เราก็บินไปดูงานที่อเมริกาจนได้เปิดโลกทัศน์” เจนเล่า

เดือนพฤศจิกายนปี 2015  โปรตีนขวดแรกของพวกเขาก็ถูกเข็นออกมาขายได้สำเร็จ นั่นคือ HooRay! รสช็อกโกแลต ซึ่งถือเป็นโปรตีนพร้อมดื่มแบรนด์แรกที่เปิดตลาดในไทย ก่อนที่ไม่กี่สัปดาห์ให้หลัง แบรนด์นมยักษ์ใหญ่ก็วางจำหน่ายโปรตีนพร้อมดื่มของตัวเองบ้าง เพราะพวกเขาก็ซุ่มทำอยู่เช่นกัน 

ถึงอย่างนั้น สองสามีภรรยาก็ออกปากว่าไม่หวั่นใจ “เรามีวิชชั่น ที่มองเห็นในตลาดนี้เหมือนกัน แต่โพซิชั่นเราต่างกันอย่างชัดเจน เพราะเราโฟกัสเฉพาะโปรตีน ไม่ได้ทำสินค้าเมนสตรีมอื่นๆ จนถึงวันนี้” คุณเจนย้ำด้วยน้ำเสียงมั่นใจ 

โปรตีนพร้อมดื่มของ HooRay! ยังสร้างจุดยืนของตัวเองอย่างแข็งแรงมาตั้งแต่ day 1 ทั้งเรื่อง function (ประสิทธิภาพ) และ emotion (ความรู้สึกตอนทาน) 

“เครื่องดื่มของเรามีโปรตีนสูงที่สุดในตลาด นั่นคือฟังก์ชั่นหลัก สอง–เราพบผลวิจัยว่าจริงๆ แล้ว 98% ของคนไทยมีอาการแพ้แลคโตส ซึ่งอาการอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน เราเลยตั้งต้นตั้งแต่แรกเลยว่าเราจะเป็นโปรตีนที่ lactose-free ที่คนแพ้นมวัวทานได้ 

“สาม–เราเป็นเจ้าแรกที่ทำสูตรไม่เติมน้ำตาล ถึงเราจะรู้ว่าคนไทยติดกินหวาน กินอร่อย แต่เราจะทำยังไงให้นมมีรสชาติดีและได้คุณประโยชน์ไปพร้อมกัน เราเลยใช้นวัตกรรมและกระบวนการที่นานกว่าแต่ละรสชาติจะออกมา” คุณเจนบอก

HooRay! ให้ความสำคัญกับคุณภาพและความสดใหม่ ใช้นมวัวที่เลี้ยงในทุ่งหญ้าธรรมชาติอย่างน้อย 350 วันต่อปี เป็นนมจากวัวอารมณ์ดี (Happy Cow) ทำให้มีสารอาหารที่ดีบรรจุอยู่ทุกขวด ในทุกฤดูกาล พวกเขายังขยันออกรสชาติใหม่เพื่อสร้างความตื่นเต้นให้กับลูกค้า อย่างในวันที่เราคุยกัน รสชาติใหม่ประจำฤดูกาลคือช็อกโกแลตมินต์รสหวานหอมสดชื่น 

ส่วนด้าน emotion จะสังเกตว่าบรรจุภัณฑ์ของ HooRay! ใช้สีและกราฟิกสุดแสนจะเป็นมิตร นั่นเพราะพวกเขาอยากให้คนทุกเพศทุกวัยถือโปรตีนของพวกเขาได้ มากไปกว่านั้น แพ็จเกจจิ้งนม HooRay! ยังเป็นมิตรต่อโลกมากเท่าที่จะทำได้ 

ในเวอร์ชั่นแรกพวกเขาใช้กล่องกระดาษที่นำมารีไซเคิลได้ 95% ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นขวดพลาสติกเพราะคุณภาพในการเก็บรักษานม  ในอนาคต พวกเขามีแผนจะปรับเทคนิคการผลิตให้สามารถลดจำนวนฟอยล์ลง เพื่อลดการผลิตขยะอีกด้วย

สำหรับต้นและเจน โปรตีนของพวกเขาไม่ใช่แค่สินค้าแต่เป็นไลฟ์สไตล์ นอกจากยิมต่างๆ พวกเขาจึงตั้งใจวาง HooRay! ไว้ในร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 เพราะอยากให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่าย ด้วยความหวังว่า HooRay! จะเป็นเพื่อนที่คนทั่วไปนึกถึง ไม่ว่าจะเวลากินข้าว ตอนทานอาหารว่าง ก่อน-หลังออกกำลังกาย หรือเวลาไหนก็ตาม

“มันเป็นเรื่องยากในการทำธุรกิจที่สร้างผลกำไร ขณะเดียวกันก็สร้างคุณประโยชน์ให้สังคมด้วย เราอยากทำธุรกิจที่ทำให้ 2 เรื่องนี้สมดุลกัน เพราะจริงๆ มันคือการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน เพราะฉะนั้น เวลาเราคิดโปรดักต์ออกมา เราไม่ได้คิดด้วยกำไรแต่คิดว่าคนกินจะได้ประโยชน์อะไร จะซื้อที่ไหนได้สะดวก นี่เป็นหัวใจของการทำธุรกิจของเรา” 

โปรตีนจากพืช

HooRay! นิยามตัวเองว่า Protein Expert  ที่เชื่อว่าโปรตีนเป็นสารอาหารหลักของมนุษย์แต่จะบริโภคแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน 

“เราไม่คิดว่าโปรตีนคือเทรนด์ที่จะมาระยะสั้นๆ เหมือนอาหารเสริมอื่น แต่เป็นสารอาหารที่อยู่ในเนื้อ นม ไข่ที่เราทานอยู่แล้ว แต่ในอนาคต คนอาจจะต้องการโปรตีนรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเขา นี่คือ mega trend ไม่ใช่แค่ circle trend เราเลยอยากโฟกัสตรงนี้ให้ดีที่สุด พอระยะเวลาผ่านไปมันก็พิสูจน์แล้วว่าเทรนด์ตรงนี้มันมาจริงๆ เพราะทุกวันนี้ตลาดโปรตีนพร้อมดื่มโตขึ้นเยอะมาก” ต้นบอก

เพราะเชื่อแบบนั้น หลังจากประสบความสำเร็จกับโปรตีนพร้อมดื่มทำจากนม พวกเขาก็หันไปจับตลาดใหม่ดูบ้าง และปฏิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งในตลาดที่มาแรงสุดๆ คือสินค้า plant-based

อันที่จริงพวกเขาทำโปรตีนจากพืชก่อนกระแส plant-based จะมาเสียอีก ราวช่วงก่อนโควิด-19 จะระบาด พวกเขาทำโปรตีนสกัดจากธัญพืช ที่ใส่วิตามินนับสิบชนิดลงไปในขวด ภายใต้ชื่อแบรนด์ว่า Nutri Shake ทว่าตลาดยังเล็กเกินไป ผลตอบรับจึงไม่ได้ดีเท่าที่ควร

ภาพตัดมาที่ปี 2023 HooRay! อยากลองใหม่อีกสักตั้ง เพราะสินค้าจากพืชกลายเป็นเมกะเทรนด์ของโลก “ในฐานะที่เราเป็น Protein Expert เราต้องไม่ตกขบวนนี้” เจนหัวเราะ นำไปสู่การผลิต HooRay! โปรตีนพร้อมดื่มจากพืชที่เสิร์ฟสายมังสวิรัติและคนไม่กินนมวัว โดยออกมา 2 รสชาติคือช็อกโกแลตกับสตรอว์เบอร์รี

“ตลาด plant-based ยากกว่าโปรตีนปกติ เพราะต้องบอกตามตรงว่า สารอาหารในโปรตีนจากพืชไม่สามารถเทียบเท่านมวัวได้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราก็ต้องทำสูตรให้ใกล้เคียงกับนมวัวที่สุด จึงกลายเป็นสูตรโปรตีน 30 กรัม มีอะมิโนครบ 9 ชนิด มีวิตามินและแร่ธาตุอีก 20 ชนิด” หญิงสาวอธิบาย

“ความยากถัดมาคือรสชาติ สำหรับคนที่ไม่คุ้นชินกับโปรตีนพืชเขาอาจจะได้กลิ่นเหม็นเขียว ซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะเป็นธรรมชาติของมัน เราจะทำยังไงให้อร่อย กินง่าย ไม่ฝืดคอแต่ยังคงธรรมชาติของมันอยู่ ก็ใช้เวลานานเหมือนกันกว่าจะได้ออกมาอร่อย”

เมื่อปล่อยสินค้าออกไป ฟีดแบ็กที่ชาว HooRay! ได้รับก็น่าชื่นใจไม่น้อย ยอดขายของโปรตีน plant-based เติบโตไปพร้อมตลาด และยังขายอยู่อย่างต่อเนื่องจนถึงวันนี้

โปรตีนผง

จากจุดเริ่มต้นที่ทำโปรตีนพร้อมดื่มเพราะอยากแก้ pain point ของโปรตีนผงที่ทานได้ไม่สะดวก หลายคนอาจสงสัย ทำไม HooRay! จึงกลับมาทำโปรตีนผงอีกล่ะ

“จะมีกลุ่มลูกค้าที่ซีเรียส คือเขามีจุดประสงค์ในการกินโปรตีนแต่ละชนิด เพราะฉะนั้น โปรตีนผงของเราจะไม่เหมือนโปรตีนหรืออาหารเสริมทั่วไป เราทำสูตรเพื่อตอบโจทย์เฉพาะของลูกค้า” เจนตอบ

กลุ่มลูกค้าที่ว่ากลุ่มแรกคือกลุ่มผู้หญิงที่ต้องการลดน้ำหนัก HooRay! จึงพัฒนาโปรตีนผงรุ่น Shape ที่มีส่วนผสมของ Creatine และ L-Carnitine กินแล้วอยู่ท้อง ช่วยการเผาผลาญไขมัน

กลุ่มที่สองคือคนที่ต้องการพัฒนาความสามารถในการออกกำลังกาย สร้างกล้ามเนื้อ HooRay! ออกสูตร Strong มาเพื่อตอบโจทย์ สูตรนี้จะมีส่วนผสมหลักเป็น Whey Protein Isolate ที่ร่างกายจะดูดซึมไปใช้ได้ทันทีตอนออกกำลังกาย นอกจากนี้ยังมี Creatine ที่ช่วยลดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้ออีกด้วย

“สำหรับโปรตีนผง เราทำทั้งแบบกระปุก ถุงใหญ่ ถุงเล็ก เพื่อตอบความต้องการของลูกค้าทุกแบบ และจะพัฒนาสูตรใหม่ต่อมาอีกในอนาคต ต้องรอติดตาม” หญิงสาวยิ้ม และบอกต่อว่าในอนาคต ทิศทางของ HooRay! ก็เหมือนกับคนที่ลุกขึ้นมาดูแลสุขภาพที่ดีนั่นแหละ

“เราพยายามไม่เอาตัวเองไปอยู่ในคอมฟอร์ตโซนพยายามกล้าที่จะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง เหมือนกับโปรดักต์ของเราที่พยายามกระตุ้นให้ผู้บริโภคลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง” 

โปรตีน HooRay!

หลายคนอาจสงสัย อะไรคือเคล็ดลับทำให้ HooRay! เติบโตอย่างยั่งยืนมาตลอดสิบปี 

“เราคิดว่าเราใส่ใจ ตั้งใจ และจริงใจกับรายละเอียดในสินค้าทุกอย่างไปจนถึงแพ็กเกจจิ้ง จนผู้บริโภคที่กินสินค้าของเรารับรู้ได้ นี่คือสิ่งที่รู้สึก” เจนวิเคราะห์

“อีกอย่างคือโมเดลธุรกิจ โจทย์คือเราจะทำยังไงให้อยู่รอดได้ท่ามกลางการแข่งขันที่สูงและผู้เล่นแบรนด์ยักษ์ใหญ่ คำตอบคือความรวดเร็วและความยืดหยุ่น เราสามารถปรับตัวและพัฒนาโปรดักต์ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ทันเวลา” 

นั่นอธิบายได้ว่าทำไม Everyday Better จึงเป็นสโลแกนประจำแบรนด์ของพวกเขา ทีม HooRay! เชื่อในนวัตกรรมที่ไม่มีวันหยุดทำงาน พวกเขาคอยคิดพัฒนาและแก้ปัญหาให้ลูกค้าที่มีความต้องการเปลี่ยนแปลงไปตลอด

“หัวใจสำคัญของธุรกิจอีกข้อคือความซื่อสัตย์” ต้นเสริม “ซื่อสัตย์กับผู้บริโภค ซื่อสัตย์กับสินค้า ซื่อสัตย์กับตัวเองมากเพียงพอที่จะส่งสินค้าของคุณให้คนที่คุณรักกินได้บ่อยๆ 

“อีกอย่างที่ทำให้เราต่างจากแบรนด์อื่นคือเราคิดว่า HooRay! เป็นเพื่อนที่เชียร์ให้คุณกล้าลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่าง เป็นเพื่อนที่สร้างทางเลือกใหม่ให้คุณเวลาที่คุณเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ เป็นเพื่อนที่คอยทำให้คุณดีขึ้นทุกวัน”

10 ปีที่ผ่านมา HooRay! จึงสามารถสร้างคอมมิวนิตี้ของ ‘เพื่อน’ ที่เห็นความจริงใจของแบรนด์ และนั่นแหละคือเคล็ดลับที่ทำให้โปรตีนของพวกเขากลายมาเป็นของติดตู้เย็นของใครหลายคนไม่เปลี่ยนแปลง

“บทเรียนที่ได้รับจากประสบการณ์ 10 ปีที่ทำ Hooray! คือถ้าเรากล้าที่จะฝันใหญ่ ฝันดี ฝันมีประโยชน์ และลุกขึ้นมาทำวันต่อวัน คิดว่าวันนี้เราจะทำดีกว่าเมื่อวานหรือ Everyday Better มันก็จะเริ่มมีสิ่งดีๆ เข้ามา” ชายหนุ่มตกตะกอน

“ผมมองว่าธุรกิจมันเป็น long run เราไม่ได้วิ่งแค่แป๊บเดียวจบแต่วิ่งมาราธอน จริงๆ แล้ว 10 ปีที่ผ่านมามันอาจจะเป็นแค่เพซเดียวก็ได้นะ เราแค่อยู่ในเฟสแรก และเรา keep on moving ไปเรื่อย ผมว่ามันก็จะทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคง”

Writer

นักอยากเขียนผู้รักทะเลและฤดูหนาวพอๆ กับหนังสุขซึ้ง สนใจประเด็น gender และเรื่องป๊อปทุกแขนง

Photographer

ช่างภาพที่สนุกกับการแต่งตัว อยู่กับเสียงเพลง และหลงรักในความทรงจำ Ig : mocfirst

You Might Also Like