ตลาดหลักทรัพย์

ทำไมคนทำธุรกิจอยากเข้าตลาดหลักทรัพย์? จากเคส ‘ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว’ ที่ไม่อยากให้ลูกทะเลาะกัน

ถ้าถามถึงความใฝ่ฝันของคนทำธุรกิจ คำตอบแรกๆ คงเป็นเรื่องการสร้างผลประกอบการที่ดี มีลูกค้าเข้าไม่ขาดสาย แต่ก็มีอีกเป้าหมายที่เห็นหลายธุรกิจออกมาประกาศ นั่นคือการนำบริษัทมาจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ เพื่อขายหุ้น IPO ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไป

กรณีที่เห็นเมื่อไม่นานมานี้คือ ‘ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น’ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว‘ ได้ประกาศว่าภายในปี 2569-2570 จะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผ่านการขายหุ้น IPO ‘พันธ์รบ กำลา’ ผู้ก่อตั้งบริษัท ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น ได้ให้เหตุผลว่า “เพราะไม่อยากให้ลูกๆ ทะเลาะกัน” การเข้า IPO จะทำให้แบ่งสัดส่วนหุ้นให้ลูกแต่ละคนได้อย่างชัดเจนมากขึ้น 

ปัจจุบันชายสี่ฯ ไม่ได้มีแค่ร้านบะหมี่เกี๊ยวเท่านั้น แต่ยังมีแบรนด์ในเครือถึง 7 แบรนด์ ได้แก่ ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว, ชายสี่พลัส, ชายใหญ่ข้าวมันไก่, พันปี บะหมี่เป็ดย่าง, อาลีหมี่ฮาลาล, ไก่หมุนคุณพัน และลูกชิ้นทอดโอ้มายก๊อด ทั้งยังมีกิจการที่ซื้อมาอีก 2 แบรนด์คือ ก๋วยเตี๋ยวเรือเสือร้องไห้ และแบรนด์เบเกอรี BRIX ที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติ และใช้การขยายสาขาผ่านโมเดลแฟรนไชส์  

รวมทุกแบรนด์แล้วปัจจุบันจึงมีกว่า 4,500 สาขาทั่วประเทศ ในปี 2565 สร้างยอดขายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ อยู่ที่ 1,085 ล้านบาท ส่วนในปี 2566 ก็มีกำไรเติบโตกว่า 121% ที่สำคัญ ตอนนี้มูลค่าของตลาดสตรีทฟู้ดในไทยอยู่ที่ประมาณ 2 แสนล้านบาท ไม่นับร้านคุณพี่ คุณลุง คุณป้า ที่เปิดขายกันเอง ก็น่าจับตามองว่าธุรกิจชายสี่ฯ จะเติบโตขึ้นแค่ไหน เมื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์แล้วจะมีมูลค่าบริษัทเท่าไหร่

การเข้าตลาดหลักทรัพย์คืออะไร

  • ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าการเข้าตลาดหลักทรัพย์เป็นครั้งแรกเรียกว่า IPO หรือที่ย่อมาจาก Initial Public Offering เป็นการที่บริษัทจะจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ เพื่อระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้นใหม่ให้ประชาชนทั่วไปสามารถซื้อได้ แต่นอกจากเหตุผลด้านการจัดการเรื่องเงินทองแล้ว น่าสนใจว่าทำไมเจ้าของธุรกิจจึงอยากนำธุรกิจตนเองเข้าตลาดหลักทรัพย์? 

เหตุผลที่คนทำธุรกิจอยากพาธุรกิจเข้าตลาดกับเขาบ้าง

  • เพิ่มทางเลือกการเข้าถึงแหล่งเงินทุน การขายหุ้น IPO ยังไม่ต้องจ่ายเงินต้นและดอกเบื้ยคืนผู้ปล่อยกู้ แต่จะจ่ายเป็นเงินปันผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นแทน
  • มีความยืดหยุ่นในการปรับโครงสร้างเงินทุนและต้นทุนการเงินให้เข้ากับสภาวะเศรษฐกิจ ฐานะทางการเงิน และการลงทุนของบรษัท
  • เพิ่มแต้มต่อให้บริษัทและสินค้าเป็นที่รู้จักในวงกว้าง เพราะเมื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์จะต้องเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชน ว่าทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร มีมูลค่าบริษัทเท่าไหร่ 
  • เสริมสร้างความน่าเชื่อถือ เพราะบริษัทที่จดทะเบียนจะต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และมาตรฐานต่างๆ มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ จึงทำให้ผู้ลงทุนหรือผู้ที่เข้ามาซื้อหุ้นเกิดความมั่นใจ
  • การเข้าตลาดหลักทรัพย์ทำให้มีเครดิตที่ดี ได้รับการอนุมัติจากสินเชื่อต่างๆ ได้ง่ายมากขึ้น
  • เพิ่มโอกาสการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ โดยการเข้าตลาดหลักทรัพย์จะทำให้กลุ่มธุรกิจอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศได้รู้จักธุรกิจของเรามากยิ่งขึ้น

ข้อพึงระวังเมื่อต้องการเข้า IPO

การเข้า IPO ไม่ได้มีแค่ข้อดีเท่านั้น ยังมีเงื่อนไขที่ผู้ประกอบการควรรู้ประกอบการตัดสินใจ ทั้งการที่ต้องเสียความเป็นส่วนตัว โดยต้องเปิดเผยข้อมูลให้สาธารณชนได้รับรู้ การที่จะต้องแบ่งผลประกอบการหรือกำไรให้แก่ผู้ถือหุ้น ต้องมีกฎระเบียบที่มากขึ้น ทำให้มีค่าใช้จ่ายที่เยอะขึ้นนั่นเอง

ก่อนจะเข้า IPO คนทำธุรกิจจึงควรต้องตอบตัวเองให้ได้ว่าจะเข้าเพื่ออะไร เช่น ต้องการหาเงินทุนมาขยายกิจการ นำมาพัฒนาสินค้าและบริการ ต้องการให้บริษัทมีผลตอบแทนที่ดียิ่งขึ้น หรือผลักดันให้บริษัทเติบโตขึ้น เพื่อให้บริษัทมีเข็มทิศในการวางแผนธุรกิจได้อย่างไม่หลงทาง

Writer

นักเขียนที่อยากเปลี่ยนเรื่องธุรกิจให้เป็นเรื่องสนุก และมีแมวกับกาแฟช่วยฮีลใจในทุกวัน

Illustrator

บรรณาธิการศิลปกรรม Email: [email protected]

You Might Also Like