What’s Business To New World Order

เทรนด์ธุรกิจไหนที่ใช่สำหรับโลกยุคใหม่คำตอบจาก สุธีรพันธ์ุ สักรวัตร หัวเรือ SCBX

เป็นเวลาหลายล้านปีที่วัฏจักรของโลกใบนี้ดำเนินไปด้วยการ disrupt ตั้งแต่การที่เผ่าพันธุ์ไดโนเสาร์ถูกแทนที่ด้วยสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม กระทั่งถูกปกครองด้วยมนุษย์อย่างสมบูรณ์ เฉกเช่นเดียวกับโลกของธุรกิจที่มีการผันผวนและแทนที่กันอยู่เสมอ จากอุตสาหกรรมเหมืองแร่และการเกษตร สู่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

ประเด็นเรื่องของการ disrupt ด้านธุรกิจตามที่เปรยไว้ ณ ข้างต้น ถูกยกขึ้นมาพูดถึงอีกครั้งโดย ‘สุธีรพันธ์ุ สักรวัตร’ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานการตลาด Chief Marketing Officer แห่ง SCBX Group ภายในเซสชั่นที่มีชื่อว่า Chaos or Prospect? Navigating the Uncertainty of Future Business ซึ่งเป็นไฮไลต์ส่วนหนึ่งของงาน Future Trends Ahead Summit 2025

สิ่งที่น่าสนใจในเซสชั่นนี้ คือการฉายให้เห็นความเปลี่ยนแปลงของหน้ากระดานผู้นำในโลกธุรกิจตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน บางบริษัทที่ยิ่งใหญ่กลายเป็นแค่อดีต บางบริษัทใช้เวลาไม่กี่ปีกลายเป็นผู้นำอุตสาหกรรม 

ในมุมหนึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วดูเป็นความโกลาหล แต่ขณะเดียวกันก็แฝงด้วยโอกาส สุธีรพันธ์ุจึงชวนคาดการณ์ต่อว่า หลังปี 2025 ที่เปรียบเสมือนจุดออกสตาร์ทของโลกยุคใหม่ ธุรกิจใดบ้างที่มีแนวโน้มจะมีมูลค่า และสามารถเปลี่ยนโฉมหน้าเศรษฐกิจโลกอีกครั้ง

1. ตลอด 2 ทศวรรษ กับการเปลี่ยนมือผู้นำด้านอุตสาหกรรมจาก ‘พลังงาน’ สู่ ‘เทคโนโลยี’

ช่วงต้นของเซสชั่นสุธีรพันธ์ุเผยให้เห็นถึงผู้นำด้านธุรกิจโลกในปี 2005 โดย 5 อันดับแรกประกอบไปด้วย General Electric, ExxonMobil, Microsoft, citigroup และ BP ซึ่งหากสังเกตจะเห็นว่ากลุ่มอุตสาหกรรมที่เป็นผู้นำธุรกิจส่วนใหญ่ คืออุตสาหกรรมยานยนต์และพลังงาน โดยมีมูลค่าทางการตลาดมากที่สุดอยู่ที่ 382bn

กระทั่งเวลาล่วงเลยถึงปี 2020 ผู้นำตลาดโลกได้เปลี่ยนมือกลายมาเป็น Apple ตามด้วย Microsoft, Amazon, Alphabet และ Saudi Aramco ซึ่งจะเห็นว่านี่คือยุคที่ ‘เทคโนโลยี’ ได้ยึดครองอุตสาหกรรมธุรกิจโลกแทบจะสมบูรณ์ โดยมูลค่าการตลาดที่มากที่สุดอยู่ที่ 1.68tn

และเมื่อปี 2024 ที่เพิ่งผ่านพ้นไปจนถึงตอนนี้ แม้ Apple จะยังครองตลาดอยู่ แต่ที่น่าสนใจคือผู้ตามที่ไล่หลังมาคือบริษัท NVIDIA รวมไปถึง Broadcom และ TSMC หากสังเกตชื่อของบริษัทเหล่านี้จะสอดคล้องทันทีกับการมาของเทรนด์ AI และ semiconductor ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการผลิตนวัตกรรมล้ำยุค

2. อุตสาหกรรมไหนที่ยังอยู่รอดในโลกยุคใหม่

เพียงเวลาแค่ 4 ปี ดูเหมือนว่าอุตสาหกรรมโลกกำลังจะเปลี่ยนอีกครั้ง ซึ่งสุธีรพันธ์ุกล่าวว่า ในความโกลาหลที่เกิดขึ้นนี้ หากเราสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าไว้ได้ก่อน ก็จะกลายเป็นโอกาสล้ำค่าในการต่อยอดทำธุรกิจ

โดยการคาดการณ์ที่ว่านี้ สุธีรพันธ์ุได้หยิบยกงานวิจัยของ McKinsey & Company บริษัทให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์ธุรกิจ สัญชาติสหรัฐฯ ที่เผยให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของ 3,000 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่มีเพียง 12 อุตสาหกรรมที่สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง นั่นคือ Electric Vehicle (EV), Cloud Services, Fintech & Digital Payments, E-commerce, Consumer Internet, Consumer Electronics, Biopharma, Video & Audio Entertainment, Industrial Electronics, Info-enabled Business Services, Software และ Semiconductors

โดยงานวิจัยของ McKinsey & Company ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงผู้นำด้านอุตสาหกรรมนั้นเปรียบเสมือนการ ‘shuffle card’ ที่ยิ่งอุตสาหกรรมไหนอยู่ด้านบนสุดก็มีสิทธิ์ที่จะถูกแรงกดดันจากอุตสาหกรรมที่ตามมาแซงหน้าได้ เสมือนการสับไพ่ที่ไพ่ที่อยู่บนสุดจะถูกสลับไปอยู่ข้างใต้ก่อนเป็นใบแรกๆ 

ทั้งนี้ 12 อุตสาหกรรมที่สามารถอยู่รอดและเติบโตได้นั้น มีคาแร็กเตอร์ที่เหมือนกัน 3 ประการ คือ

• Business Model or Technological Change การใช้เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ๆ มาเพื่อสร้างโปรดักต์ เพื่อเพิ่มโอกาสการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ

• Incentives for Investment อุตสาหกรรมที่นักลงทุนให้ความสนใจในการลงทุน ซึ่งสามารถถือครองเพื่อหวังผลตอบแทนได้ในระยะยาว

• Large or Growing Market เป็นอุตสาหกรรมที่มีตลาดขนาดใหญ่ สามารถเติบโตได้ทั้งในประเทศและนอกประเทศ ทั้งยังเป็นอุตสาหกรรมที่ดึงดูดให้นักลงทุนเข้ามาแข่งขัน

3. สู่ 18 อุตสาหกรรมที่ใช่! สำหรับโลกยุคใหม่

จากข้อมูลของอุตสาหกรรมที่ยังอยู่รอดในยุคปัจจุบัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเทรนด์ของผู้บริโภคกำลังไปในทิศทางใด นำมาสู่การคาดการณ์ที่ว่า อุตสาหกรรมใดที่จะกลายเป็น ‘อนาคต’ ของโลกธุรกิจ โดยสุธีรพันธ์ุระบุว่ามีทั้งหมด 18 อุตสาหกรรม คือ 

• E-commerce ธุรกิจค้าปลีกออนไลน์

• AI Software & Services ปัญญาประดิษฐ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน

• Cloud Services บริการคลาวด์รองรับข้อมูลปริมาณมาก

• Electric Vehicles (EV) ยานยนต์ไฟฟ้า

• Digital Advertising โฆษณาดิจิทัล

• Robotics หุ่นยนต์บริการด้านต่างๆ

• Semiconductors เทคโนโลยีนาโนชิปอัจฉริยะ

• Shared Autonomous Vehicles ยานยนต์ไร้คนขับ

• Space อุตสาหกรรมอวกาศ

• Cybersecurity ผู้ดูแลระบบความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์

• Batteries นวัตกรรมแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูง

• Video Games เกมและอุตสาหกรรมความบันเทิงอินเทอร์แอ็กทีฟ  

• Modular Construction การก่อสร้างสำเร็จรูป  

• Streaming Video แพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่ง  

• Future Air Mobility ยานพาหนะบินได้สำหรับการสัญจรในเมือง

• Drugs for Obesity & Related Conditions ยาและเทคโนโลยีสุขภาพ  

• Industrial & Consumer Biotechnology ชีววิทยาศาสตร์ที่มีประโยชน์ต่อผู้บริโภค  

• Nuclear Fission Power Plants โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ในปริมาณจำนวนมาก  

สุดท้ายนี้ สุธีรพันธ์ุยังกล่าวถึงเทรนด์ผู้บริโภคในอนาคตที่น่าจับตามองและมีแนวโน้มที่จะเติบโตยิ่งขึ้น นั่นคือ wellness economy ซึ่งในประเทศยักษ์ใหญ่อย่างจีน, สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ได้ให้ความสนใจ เช่น Health at Home การบริการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน, Gen AI-Driven Personalization การให้ AI ช่วยวางแผนการใช้ชีวิต และ Biomonitoring & Wearables อุปกรณ์เทคโนโลยีที่ช่วยเก็บข้อมูลทางสุขภาพ

อย่างไรก็ดี สิ่งที่จะต้องควรพึงระวังให้ดี คือการบาลานซ์ระหว่างการให้บริการในมุมออนไลน์และออฟไลน์ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคเจนฯ Z ที่จะเป็นกลุ่มผู้บริโภคสำคัญในอนาคต ที่มักโหยหาความเรียบง่าย เน้นการปฏิสัมพันธ์กับผู้คนมากกว่าในโลกออนไลน์ ดังนั้นการทำธุรกิจไม่ว่าจะในแง่ของการสร้างโปรดักต์หรือการให้บริการยังจำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงการเผชิญหน้ากับผู้บริโภค พร้อมมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดอยู่ดี

Writer

นักเขียนผู้หลงใหลโลกของฟุตบอล สนีกเกอร์ และกันพลา

Illustrator

บรรณาธิการศิลปกรรม Email: [email protected]

You Might Also Like