งามแต๊งามว่า

‘Sukkho’ สตูดิโอเบื้องหลังคอสตูมนางงามทั่วไทยที่เพิ่งคว้ารางวัลบนเวทีนางงามระดับโลก

Sukkho (สุขโข) คือสตูดิโอออกแบบของ สุขโข–นิพพิชฌน์ นิมิตรบรรณสาร ที่อยู่เบื้องหลังเครื่องแต่งกายสุดอลังการของผู้เข้าประกวดนางงามแทบทุกเวทีในประเทศ ทั้งยังเป็นเจ้าของรางวัลการประกวดเครื่องแต่งกายมาแล้วมากมาย รวมถึงได้รับรางวัล Best National Costume 2023 เป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวดบนเวทีมิสเตอร์แกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนลที่สเปน

สตูดิโอของสุขโขโดดเด่นด้วยการสร้างสรรค์องค์ประกอบอันหวือหวาพร้อมกับสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ของเสื้อผ้าหน้าผมให้สอดรับกับแนวคิดและรากทางวัฒนธรรมของจังหวัดต่างๆ–ไม่ใช่แค่ปัง แต่ยังเล่าเรื่องสนุก

สุขโขเริ่มเข้าวงการตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ม.4 ที่โรงเรียนชัยภูมิภักดีชุมพล จังหวัดชัยภูมิ จากความหลงใหลในลายเส้นจิตรกรรมของอาจารย์จักรพันธ์ุ โปษยกฤต นั่นทำให้เขาหัดวาดรูปและต่อยอดด้วยการเข้าร่วมเวิร์กช็อปทำเครื่องประดับโบราณของไทย จนมีโอกาสได้ออกแบบและผลิตศิราภรณ์ (เครื่องประดับศีรษะของนักแสดง) ให้กับแดนเซอร์วงโปงลางของโรงเรียน ซึ่งถือเป็นวงโปงลางมือรางวัลอันดับต้นๆ ของอีสาน 

จากความหลงใหลนั้น เขาตัดสินใจเรียนต่อสาขาศิลปะไทย คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จากองค์ความรู้เรื่องศิลปะบ้านเกิดก็ขยายสู่อาณาจักรล้านนาและศิลปะนานาประเภทอันเป็นพื้นฐานสำคัญในอาชีพของสุขโขในปัจจุบัน

  “พอเรียนจบ ความที่เรามีคอนเนกชั่นงานที่นี่อยู่แล้ว เลยตัดสินใจปักหลักที่เชียงใหม่ โดยเริ่มจากมีคนมาชวนให้ออกแบบเครื่องแต่งกายให้นางงามเด็ก สมัยนั้นเชียงใหม่มีเวทีประกวดความสามารถเด็กเยอะมากๆ ผู้ปกครองก็มักให้ลูกแต่งกายชุดเจ้าหญิงดิสนีย์ กระโปรงสุ่มอะไรแบบนี้คล้ายๆ กัน 

“เราเลยเสนอว่างั้นออกแบบใหม่ให้มันมีคอนเซปต์เชิงวัฒนธรรม หรือมีรูปแบบที่แตกต่างกว่าที่เป็นอยู่ดีไหม เท่านั้นแหละ เราก็ได้งานแบบนี้ต่อเนื่อง จนไปเข้าตาพี่เลี้ยงนางงามเวทีใหญ่ประจำจังหวัดแพร่เข้า ก็เลยเริ่มทำงานนี้ในปี 2560” 

Miss Grand Thailand, Miss Universe Thailand, Miss Supranational Thailand, Miss Trans Thailand, Miss Tiffany’s Universe  คือชื่อของการประกวดนางงามที่สุขโขอยู่เบื้องหลังการออกแบบเครื่องแต่งกายมานับไม่ถ้วน 

“โจทย์ของเราคือการตีความเรื่องเล่าหรือของดีประจำจังหวัดออกมาเป็นเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ แต่ละปีเราจะรับงานเป็นจังหวัดๆ ไป โดยดูแลเสื้อผ้าให้นางงามจังหวัดนั้นๆ ทุกเวทีที่เข้าประกวด อย่างปีที่แล้วเรารับทำให้ 3 จังหวัดคือ ชัยภูมิ ลำพูน และลำปาง” สุขโขเล่า

“มันสนุกนะที่ได้ระเบิดเรื่องเล่าออกมาเป็นเครื่องแต่งกาย บางจังหวัดเขาอยากเล่าเรื่องผีก็มี แต่ทำยังไงให้มันออกมาในเชิงบวก หรืออย่างปีก่อนที่เราทำให้นางงามชัยภูมิ เราเลยคิดถึงความม่วนของคนอีสานที่มาฟังโปงลาง เลยออกแบบให้ชุดมีหุ่นประกบเป็นเหมือนขบวนแถวของคนฟ้อนรำพร้อมกับใส่เครื่องดนตรีประกอบ เหมือนนางงามพาเพื่อนมาฟ้อนในงานบุญ 

“ความสนุกอีกเรื่องคือการได้เรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นในภูมิภาคอื่นๆ ด้วย เพราะเจ้าภาพการประกวดในแต่ละจังหวัดเขาก็มีโจทย์ที่ต่างกัน อย่างเวทีภูเก็ต เขามีโจทย์เครื่องแต่งกายของภาคใต้ ก็ต้องลงไปศึกษาว่าเขามีของดีอะไรบ้าง ก่อนจะได้มาด้วยชุดที่ได้แรงบันดาลใจมาจากว่าวบุหลัน หรือบางเวทีมาธีมไกลตัวอย่างอียิปต์เลยก็มี ชุดธีมอะนูบิส เราก็ทำมาแล้ว” สุขโขเล่าเรื่องราวการออกแบบของตนเองพลางหัวเราะ  

“พอได้เห็นตอนนางงามเขาใส่ชุดเราบนเวที เห็นความมั่นใจของคนใส่ เห็นเพชรประดับแวววาว เห็นท่วงท่าการแสดงออกของนางงาม สำหรับเรามันจบเลยนะ ส่วนกระแสชื่นชมหรือด่าในออนไลน์มันเหนือการควบคุมเราไปแล้ว แค่คิดว่าเราต้องตีโจทย์ออกมาให้ดีที่สุด และทำให้ทีมพี่เลี้ยงและนางงามมีความมั่นใจที่ได้สวมชุดขึ้นเวทีเท่านั้นเลย” สุขโขกล่าว

ปัจจุบันนอกจากออกแบบเครื่องแต่งกาย ตัดชุดพิเศษให้กับผู้ที่สนใจ และให้เช่าชุด งานของสุขโขยังครอบคลุมถึงการออกแบบและประดับรถแห่ในพาเหรดวัฒนธรรมของจังหวัด ทำออร์แกไนเซอร์ (ร่วมกับหุ้นส่วน จิตร์สุภา ชูจิตต์) รวมถึงการขยายกิจการไปยังการทำสปาองค์เทพ! หรือการบูรณะประติมากรรมสายมูและสร้างสรรค์เครื่องประดับของประติมากรรมต่างๆ ให้กลับมาเฉิดฉาย เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีลูกค้าต่อคิวรอไม่น้อย

“จะบอกว่าเงินคือแรงบันดาลใจหลักก็ได้ครับ ทำงานก็เพื่อให้ได้เงินเนอะ” เขายิ้ม 

“แต่หลักใหญ่ใจความคือความสนุกที่ได้ทำงาน การได้ร่างแบบบนกระดาษ และหาวัสดุที่ใช่เพื่อให้แบบนั้นเป็นจริงขึ้นมา ไปจนถึงการทำโจทย์ที่ยากๆ ให้มันเป็นจริงขึ้นมาได้ อย่างบางชุดลูกค้าอยากได้อลังการมากๆ แบบมีเครื่องหัวสูงเป็นเมตร นี่คือความท้าทายของเราในการทำให้นางงามใส่ขึ้นเวทีได้ เดินแล้วไม่หลุด และสวยด้วย 

“ซึ่งนั่นล่ะ สุดท้ายพอเห็นนางงามกับชุดเราบนเวที จะชนะหรือไม่นั่นอีกเรื่อง แต่แค่นี้ก็ฟินแล้ว” สุขโขกล่าวทิ้งท้าย

Writer

นักเขียนและนักแปลอิสระ บางครั้งก็หันมาเขียนวรรณกรรม ทำงานศิลปะ และบทภาพยนตร์บ้าง ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ที่เชียงใหม่

Photographer

ชีวิตผม ชอบการเดินทาง ชอบทำอาหาร และรักการบันทึกความทรงจำด้วยภาพถ่าย

You Might Also Like