ทำงาน 4 วัน พัก 3 วัน 95% ของพนักงานไทยพร้อมมาก แต่ 26% ขององค์กรเท่านั้นที่มีแผนปรับใน 1-2 ปี

ไหนใครทำงาน 5 วัน หยุด 2 วันอยู่บ้าง แล้วใครบ้างที่ได้ทำงานนาน 6 วันแล้วหยุดแค่ 1 วัน? รู้สึกกันใช่ไหมว่าอยากให้วันหยุดยาวนานกว่านี้ เพราะแค่ทำความสะอาดบ้าน ซักผ้า และนอนพักให้เต็มอิ่ม วันหยุดก็แทบจะระเหยหายไปแล้ว ถ้าได้วันพักขึ้นมาอีกสักวันคงดีไม่น้อย  

#ประเทศไหนบ้างที่ทำงานแค่ 4 วัน?

หลายประเทศทั่วโลกทีเดียวที่ได้ปรับนโยบายการทำงานจาก 5 เป็น 4 วันต่อสัปดาห์ ประเทศแรกในยุโรปที่เริ่มใช้กฎหมายนี้คือเบลเยียม ซึ่งเพิ่งประกาศใช้เมื่อปี 2022 ในเวลา 4 วันนี้ ไม่ได้หมายความว่าเวลาทำงานต่อสัปดาห์จะน้อยลง แต่ชาวเบลเยียมกระจายเวลาทำงานในแต่ละวันให้มากขึ้นเพื่อให้ได้หยุดชิลล์ๆ 3 วั

ก่อนหน้านี้กว่า 61 องค์กรในสหราชอาณาจักรได้ทดลองทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์นาน 6 เดือน หลังจากจบการทดลอง บริษัทขนาดใหญ่กว่า 89% ที่เข้าร่วมการทดลองได้ใช้นโยบายทำงาน 4 วัน พัก 3 วันต่อไป ด้วยเหตุผลที่ว่าพนักงานทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น กว่า 82% มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี 50% มีอัตราการลาออกลดลง 

ฟากฝั่งเอเชีย สำนักงาน Microsoft ในญี่ปุ่นยังได้ทดลองทำงาน 4 วัน พัก 3 วัน และพบว่าพนักงานทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นถึง 40% ส่วนเกาหลีใต้ก็เพิ่งเริ่มการทดลองไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา การทดลองที่ว่าทดลองแค่ในเฉพาะจังหวัดคยองกีเท่านั้น 

#แล้วประเทศไทยจะไปถึงฝั่งฝันไหม?

ด้วยคำถามเดียวกันนี้เอง โรเบิร์ต วอลเทอร์ส บริษัทที่ปรึกษาด้านการจัดหางานระดับโลกจึงได้ทำรายงาน ‘The 4-day work week: Is Asia ready for it?’ ขึ้น รายงานฉบับนี้ โรเบิร์ต วอลเทอร์ส ได้สำรวจบุคลากรและองค์กรกว่า 5,000 แห่งใน 11 ประเทศทั่วเอเชีย

– คนทำงานว่าไง?

ด้านคนทำงาน พบว่า 95% ของพนักงานในไทยอยากทดลองทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ 58% ของผู้ที่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ เชื่อว่าการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ดี และ 75% ของพนักงานสนใจสมัครงานกับองค์กรที่ปรับใช้รูปแบบการทำงาน 4 วัน / สัปดาห์ 

มีคนเห็นด้วยก็ต้องมีคนแย้ง พนักงานกว่า 36% กลัวว่าจะเครียดกว่าเดิม เพราะเวลาทำงานน้อยลง แต่งานยังเท่าเดิมหรืออาจมากกว่า อีก 27% มองว่านายจ้างก็อาจลดค่าจ้างลงก็ได้ อีก 18% กลัวว่าเมื่อมีเวลามากขึ้น ก็อาจใช้จ่ายมากขึ้นตามเวลาว่างที่ได้ 

อีกกลุ่มที่น่าสนใจคือ 59% ของพนักงานโอเคมาก หากจะให้ทำงานมากขึ้นวันละ 2 ชั่วโมง และยังต้องได้เงินเดือนเท่าเดิม เพื่อแลกกับการได้พัก 3 วันต่อสัปดาห์ และ 45% พร้อมทำงานที่ออฟฟิศล้วน หากได้หยุดนอนตีพุงสบายๆ ตั้ง 3 วัน  

– องค์กรไทยพร้อมแค่ไหน?

คนที่น่าจะขนหัวลุกที่สุดในนโยบายนี้ก็คงองค์เป็น CEO และบริษัท จากรายงานพบว่ากว่า 90% ขององค์กรในไทยเชื่อว่านโยบาย 4 วันเป็นไปได้ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยภูมิภาคที่ 66% ทั้งองค์กรกว่า 77% มองว่านโยบายนี้จะช่วยรักษาพนักงานให้อยู่กับบริษัทได้นานขึ้น ทั้ง 46% ยังเชื่อว่านโยบายทำงาน 4 วัน พัก 3 วัน จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานสูงขึ้น 

แต่สิ่งที่น่าสนใจคือมีเพียง 26% เท่านั้นที่มีแผนปรับใช้นโยบายนี้ภายใน 1-2 ปีข้างหน้า จากรายงานยังอธิบายเพิ่มเติมว่า ที่องค์กรยังมองว่าการทำงานแค่ 4 วันนั้นอาจยากเกินไป ก็เพราะมองว่าอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อการให้บริการลูกค้า เพราะพนักงานอาจไม่เพียงพอต่อการบริการให้ทันใจและทันความต้องการ กว่า 67% มองว่าอาจทำให้มีรายจ่ายเพิ่มเติมจากโปรเจกต์ที่ต้องล่าช้าออกไปเพราะวันทำงานที่น้อยลง และ 50% มองว่าค่อนข้างเป็นนโยบายที่นำมาปรับใช้ในองค์กรได้ยาก

จากรายงานนี้ น่าสนใจว่าประเทศไทยจะสามารถเปลี่ยนแปลงนโยบายการทำงานได้มากน้อยแค่ไหน รูปแบบไหนที่สร้างประโยชน์มากกว่ากัน เพราะแน่นอนว่าในข้อดีย่อมมีข้อที่ต้องควรระวัง บางธุรกิจอาจไม่เหมาะมากนัก แต่บางธุรกิจก็พร้อมปรับ 

สำหรับผู้ประกอบการไทย อาจเริ่มต้นจากการดูความมั่นคงทางการเงินของบริษัทเป็นที่ตั้ง จากนั้น อาจทดลองทำงาน 4 วันเช่นเดียวกับแนวทางของประเทศที่สำเร็จแล้ว พิจารณารูปแบบการทำงานว่าจะทำงาน 4 วันโดยลดจำนวนชั่วโมงต่อสัปดาห์ลง หรือทำงาน 4 วัน แต่ในแต่ละวันก็ต้องทำงานนานขึ้น นอกจากนั้นยังต้องพิจารณาควบคู่ไปกับวันลาพักร้อน อีกสิ่งที่ต้องเตรียมพร้อม คือระบบในการสื่อสารและตรวจสอบการทำงานเพื่อให้การทำงานนั้นไหลลื่น

หรือหากไม่พร้อมเปลี่ยนปรับในตอนนี้ การสร้างนโยบายการทำงานที่เป็นมิตรกับคนทำงานมากขึ้น ยืดหยุ่นมากขึ้น โดยหาระบบในการตรวจสอบมารองรับ ก็อาจช่วยให้พนักงานก็แฮปปี้ ส่วนบริษัทก็โตไปพร้อมๆ กันได้

อ้างอิง

Writer

กองบรรณาธิการไลฟ์สไตล์ที่มีแมวเป็นแรงผลักดันในการทำงาน

Illustrator

บรรณาธิการศิลปกรรม Email: [email protected]

You Might Also Like