The Product Innovation of TMAN
เบื้องหลังการพัฒนาสินค้านวัตกรรมของ TMAN ที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้ยาสมุนไพร
ยาน้ำแก้ไอไอยรา (IYARA) ที่แก้ปัญหาเรื่องรสชาติขมของสมุนไพร, โพรโพลิซ (Propoliz) ที่ทำให้รักษาอาการเจ็บคอได้สะดวกขึ้นในรูปแบบสเปรย์และเม็ดอม, ยาทา Nevtral Cream สำหรับรักษาอาการผื่นแพ้ทางผิวหนังจากสมุนไพรที่ลดผลข้างเคียงจากสารเคมีประเภทสเตียรอยด์, Polar Spray สเปรย์ปรับอากาศที่คิดค้นสารสกัดเพื่อบรรเทาอาการทางเดินหายใจทั้งต้นเหตุและปลายเหตุ, ยาพาราเซตามอล Para Fast Activ ที่ออกฤทธิ์ได้เร็วขึ้น 2 เท่าและแตกตัวได้ภายใน 21 วินาที
เหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งเท่านั้นในพอร์ตโฟลิโอสินค้านวัตกรรมหลากหลายหมวดของ TMAN ผู้บุกเบิก know-how ในการพัฒนาสูตรยาของคนไทยและมองเห็นโอกาสในตลาดที่มีช่องว่างในการพัฒนากลุ่มยาสมุนไพรให้มีมาตรฐานเทียบเท่ายาแผนปัจจุบัน
เส้นทางการพัฒนานวัตกรรมทั้งหมดนี้เริ่มต้นบุกเบิกภายใต้บริษัท ที.แมน ฟาร์มาซูติคอล จำกัด (มหาชน) ก่อนจะแตกหนึ่งในบริษัทย่อยเป็นบริษัท โนว่า เฮลท์ จำกัดเพื่อสร้างความร่วมมือกับทีมวิจัยตั้งแต่ต้นน้ำในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับจำหน่ายภายใต้ TMAN
โดยการวิจัยเริ่มต้นตั้งแต่การคิดค้นกระบวนการนำสมุนไพรไทย เช่น กระชายขาว มะแว้ง รางจืด ฯลฯ มาพัฒนาเป็นสารสกัดธรรมชาติ Nature Ceutical เพื่อเพิ่มทั้งคุณภาพและประสิทธิภาพของยาสมุนไพรจนมีสินค้านวัตกรรมออกมามากมาย ทุกวันนี้บริษัทมีสินค้าครอบคลุมแทบทุกกลุ่ม ทั้งหมวดหมู่ยาเพื่อการรักษาโดยตรง หรือ ‘ป่วยแล้วค่อยใช้’ และหมวดที่ ‘ยังไม่ป่วยแต่ใช้เพื่อป้องกัน’ มีทั้งยาและเวชภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทุกเจเนอเรชั่นตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูงอายุ
ชวนคุยกับ ธนัท พลอยดนัย ผู้บริหารของบริษัท โนว่า เฮลท์ จำกัด ว่าการวางรากฐานการทำงานวิจัยที่แข็งแกร่งตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงการควบคุมกระบวนการผลิตที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมจนออกมาเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพของ TMAN นั้นทำได้อย่างไร

สร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการยาสมุนไพร
ภาพจำของบริษัทยาในประเทศไทยคือการนำเข้าผลิตภัณฑ์และเวชภัณฑ์ยาของต่างประเทศมาขายและรอก๊อบปี้สูตรจากต่างประเทศ ทำให้อุตสาหกรรมยาในไทยมีภาพลักษณ์ที่ไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นในการพัฒนานวัตกรรมของตัวเองขึ้นมาได้
คุณธนัทบอกว่าสิ่งนี้เป็นเหตุผลที่ทำให้ TMAN ให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้านวัตกรรมในองค์กร “ในการขายสินค้าสิทธิบัตรของต่างประเทศอย่างเดียว มันคงหนีไม่พ้นการทำการตลาดโดยใช้การแข่งขันด้านราคาและโปรโมชั่น ถ้าเกิดว่าเราไม่ทำสินค้าใหม่ขึ้นมา หมายความว่าเราต้องรอวันที่หมดสิทธิบัตรยาก่อนเท่านั้นถึงจะสามารถพัฒนาสินค้าต่อไปได้ เราเลยมองว่าถ้าสามารถพัฒนาสินค้ารวมถึงนวัตกรรมขึ้นมาเอง ประโยชน์อย่างแรกเลยคือสามารถสร้างจุดขายใหม่เพื่อตอบ pain point ใหม่ได้ และยังสามารถทำให้เราสร้างสนามการแข่งขันใหม่ ซึ่งดีกว่าการแข่งขันกับสินค้าเดิมในตลาดเดิม”


จากการที่ TMAN เป็นลีดเดอร์ที่ยืนอยู่ในวงการธุรกิจยาแผนปัจจุบันในไทยมานานจนเป็นผู้เชี่ยวชาญและรักษามาตรฐานตามระดับนานาชาติได้มาตลอดทำให้คุณธนัทบอกว่าบริษัทมองเห็นโอกาสในการยกระดับมาตรฐานของวงการยาสมุนไพรไทย
“ทางผู้ก่อตั้งของเรามีความสนใจมากในการทำยาสมุนไพร แต่จุดอ่อนของยาสมุนไพรคือไม่มีมาตรฐานของตัวเองที่ได้รับการยอมรับมากเท่าไหร่นัก เราเลยพยายามประยุกต์เอาความถนัดในการทำยาแผนปัจจุบันมาใช้กับการทำกลุ่มผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ และสร้างเนเจอร์ ซูติคอล (Nature Ceutical) ขึ้นมา”

Nature Ceutical คือคอนเซปต์การพัฒนาสารสกัดธรรมชาติจากสมุนไพรซึ่ง TMAN ได้คิดค้นสูตรและกระบวนการขึ้นเองจากเทคโนโลยีในการผลิตยาแผนปัจจุบันจนสามารถสร้างมาตรฐานใหม่ให้สามารถตรวจสอบคุณภาพได้ 3 อย่าง
1. คือต้องพิสูจน์ได้ว่าสารตัวไหนคือสารออกฤทธิ์ที่แท้จริงและทำให้สมุนไพรตัวนี้เกิดประสิทธิภาพจริง (Efficacy)
2. ต้องตรวจสอบได้ว่ามีความปลอดภัย ไม่มีสิ่งปนเปื้อน (Safety)
3. คือต้องสามารถรักษาระดับคุณภาพให้เท่าเทียมกันในทุกล็อตที่ผลิตออกมา (Quality)
ทั้งหมดนี้เพื่อยกระดับวงการยาจากสมุนไพรไทยซึ่งเป็นวิสัยทัศน์อันยิ่งใหญ่ของบริษัท



คิดค้นสินค้านวัตกรรมจาก pain point
นวัตกรรมแรกจากสมุนไพรของ TMAN คือยาน้ำแก้ไอไอยราที่คุณธนัทเล่าที่มาที่ไปว่าพัฒนาสูตรมาจากความต้องการจริงๆ ของผู้บริโภคและคุณหมอ
“pain point แรกคือคนส่วนใหญ่จะมีความคิดว่ายาน้ำแก้ไอสมุนไพรมีรสชาติที่ไม่โอเคมากๆ ซึ่งถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากจะทานเท่าไหร่ อีก pain point หนึ่งจะเป็นในมุมของผู้จ่ายยา คือคุณหมอหรือเภสัชกรที่มองว่าการทานยาน้ำสมุนไพรมีประสิทธิภาพสู้กับยาแผนปัจจุบันไม่ค่อยได้”
“เราก็พยายามแก้ pain point ของผู้บริโภคในเรื่องรสชาติให้ออกมาอร่อย ทานง่าย และแก้ pain point ของผู้จ่ายยาในเรื่องของประสิทธิภาพ โดยการพยายามพัฒนา R&D ของสารสกัดมาตลอด เพื่อจะสามารถบอกได้ว่ายาแก้ไอตัวนี้มีสารออกฤทธิ์อยู่เท่าไหร่และมีสารไหนเป็นตัวออกฤทธิ์กันแน่”
จากสมุนไพรไทยที่รู้จักกันดีอย่างมะแว้ง มะขามป้อม บริษัทใช้เทคโนโลยี Nature Ceutical ในการควบคุมปริมาณสารสำคัญในสารสกัดธรรมชาติเพื่อออกมาเป็นสูตรยาไอยราและยังต่อยอดสูตรพิเศษชื่อ ไอยรา ไลท์ สูตรไม่มีน้ำตาล สำหรับผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรังโดยตรงอีกด้วย
นอกจากยาน้ำแบรนด์เก่าแก่ที่หลายคนคุ้นเคยแล้ว สเปรย์พ่นคอชื่อดังอย่างแบรนด์โพรโพลิซ (Propoliz) ก็เป็นสูตรที่ TMAN คิดค้นสารสกัดสแตนดาร์ดไดซ์โพรโพลิซ (Standardized Propolis) ด้วยตัวเองเช่นกัน โดยทำสารสกัดให้ได้มาตรฐานสากลเทียบเท่ายาแผนปัจจุบันและต่อยอดการผลิตยาแก้เจ็บคอ Propoliz หลายรูปแบบทั้งแบบสเปรย์ เม็ดอม เพื่อสะดวกในการใช้หลากหลายวิธีของผู้บริโภค


การนำสมุนไพรมาพัฒนาเป็นยานั้นยังช่วยสร้างทางเลือกใหม่จากธรรมชาติที่ปลอดภัยขึ้นแทนการใช้ยาที่ผลิตจากสารเคมี ตัวอย่างเช่น เนฟทรอล ครีม (Nevtral Cream) ยาทาสำหรับรักษาอาการทางผิวหนัง ผื่นแพ้อักเสบ หรืออาการคันซึ่งสามารถใช้แทนยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ได้
โดยทั่วไปยาจากสเตียรอยด์นั้นเป็นยาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาสูงแต่มีผลข้างเคียงที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะในเด็กที่อาจพบอาการแพ้จากสเตียรอยด์ได้ง่าย ในขณะที่หากใช้สเตียรอยด์แบบอ่อนหรือสารสกัดธรรมชาติชนิดอื่นก็ยังไม่สามารถรักษาอาการได้จริง

คุณธนัทบอกว่าการค้นพบคุณสมบัติพิเศษของสมุนไพรไทยชื่อรางจืดที่สามารถใช้ทดแทนสเตียรอยด์ได้ทำให้ โนว่า เฮลธ์ ริเริ่มการวิจัยร่วมกับคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลเพื่อพัฒนา Nevtral Cream “ปกติแล้วคนเราจะเข้าใจว่ากินรางจืดเพื่อลดไข้ แต่ความจริงแล้วรางจืดมีฤทธิ์ใช้ภายนอกเฉพาะที่มีประสิทธิภาพในการลดผื่นแพ้คันหรือผื่นอักเสบได้เทียบเท่ากับสเตียรอยด์ตัวแรงๆ เลย และยังปลอดภัยเพราะเป็นสารธรรมชาติ เราก็เลยหยิบตัวนี้ขึ้นมาใส่เข้าไปในผลิตภัณฑ์ที่ทำมาสำหรับแก้ผื่นแพ้คัน”

สูตรใหม่ที่ต้องดีกว่าเดิมในท้องตลาด
สำหรับกลุ่มยาแผนปัจจุบัน หากมองตลาดอย่างผิวเผินจะรู้สึกว่าโลกสมัยใหม่ในทุกวันนี้มีการพัฒนายาที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคครบถ้วนทุกอย่างแล้ว แต่สำหรับ TMAN ไม่ว่าจะเป็นยาประเภทใด หากนำมาขายและพัฒนาเอง สินค้ายานั้นต้องแตกต่างและดีกว่าสินค้าอื่นในตลาดที่มีอยู่เดิม
จากสินค้านวัตกรรมตัวแรกของบริษัทคือ ไมด้า-บี ครีม (Myda-B Cream) ยาทาฆ่าเชื้อราซึ่งนับเป็นครีมรุ่นออริจินัลที่พัฒนาได้เป็นเจ้าแรกของไทยและผลิตมายาวนานต่อเนื่องถึง 40 ปี และล่าสุด TMAN ได้พัฒนาสินค้ายาพื้นฐานในชีวิตประจำวันอย่างพาราเซตามอล สูตรใหม่ Para Fast Activ ที่เพิ่งวางขายเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาอีกด้วย
จากคำบอกเล่าของคุณธนัท สูตรนี้ได้พัฒนาให้สามารถดูดซึมได้เร็วที่สุดในท้องตลาดในตอนนี้และมีความสามารถในการแตกตัวได้เร็วกว่ายาต่างประเทศตัวหนึ่งที่เคลมว่าเป็นพาราเซตามอลที่ออกฤทธิ์ได้เร็วที่สุด “ยาพาราของเราเร็วกว่าทางต่างประเทศและสามารถแตกตัวได้ภายใน 21 วินาที ที่สำคัญคือเราทำออกมาแบบมีประสิทธิภาพเหนือกว่าในราคาที่คนไทยเข้าถึงได้”
การมองเห็นโอกาสพัฒนาพาราเซตามอลให้ดีขึ้นนี้มาจากมายด์เซตที่คุณธนัทบอกว่าองค์กรเชื่อในการไม่หยุดพัฒนา “ทีมงาน R&D ของเราไม่เชื่อกับคำว่าดีที่สุด เวลาเราทำสินค้าอะไรสักอย่างออกมาสำเร็จแล้ว เราพยายามที่จะกระตุ้นซึ่งกันและกันว่าจะทำยังไงให้สามารถสำเร็จมากกว่านี้ได้อีก ต่อยอดให้ดีขึ้นกว่านี้อีกได้ไหม สิ่งนี้เป็นมายด์เซตที่เราพยายามผลักดันทีมงานอยู่เสมอ และไม่ใช่แค่กับทีมของเราฝ่ายเดียว เราผลักดันกับฝั่งนักวิจัยด้วยเหมือนกันว่าจะสามารถทำอะไรให้ดีขึ้นไปได้อีกหรือเปล่า”
หัวใจของนวัตกรรมจึงเป็นการพัฒนาสิ่งใหม่และวางภาพจำของสินค้าเดิมที่คนส่วนใหญ่คุ้นชินลง หลายครั้งสินค้าใหม่ยังเกิดขึ้นจากการสังเกตปัญหาเพียงเล็กน้อย ดังเช่น โพลาร์ สเปรย์ (Polar Spray) ที่ริเริ่มคิดค้นจากปัญหาจริงที่ลูกของซีอีโอป่วยบ่อยและมีปัญหาโรคทางเดินหายใจ จึงต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยสำหรับเด็ก
อินไซต์ที่ TMAN ค้นพบคือสูตรยาเดิมจากสมุนไพรที่นิยมใช้กันเวลามีน้ำมูกไหลคือการใช้ยูคาลิปตัสออยล์เพื่อช่วยบรรเทาอาการชั่วคราวให้จมูกโล่งขึ้น หายใจได้สะดวกขึ้น แต่การใช้ยูคาลิปตัสนี้เป็นเพียงการรักษาที่ปลายเหตุเท่านั้น


“จาก pain point ตรงนี้ เราเลยพยายามไปหาสิ่งที่ช่วยรักษาได้ทั้งต้นเหตุและปลายเหตุ ต้นเหตุในที่นี้ก็คืออากาศสกปรกที่มีเชื้อโรคในอากาศ เราก็เลยพัฒนาสารที่มีชื่อว่า Active Polar ขึ้นมา เป็นสารที่สามารถดักจับเชื้อโรคในอากาศ ใช้รักษาร่วมกับกลิ่นยูคาลิปตัสทำให้ทางเดินหายใจโล่งสบายด้วย”
Polar Spray ที่คิดค้นขึ้นมาจึงเป็นสเปรย์ที่มีฤทธิ์ดักจับและฆ่าเชื้อโรค และยังต่อยอดเป็นสินค้าอื่นๆ ในหมวดสินค้าอุปโภคบริโภคหรือเครื่องมือแพทย์ เช่น สเปรย์ดับกลิ่นต่างๆ สบู่ทั้งรูปแบบล้างน้ำออกและไม่ต้องล้างออก และขณะนี้กำลังพัฒนานวัตกรรมสเปรย์ดักจับ PM2.5 ที่ฉีดแล้วดักฝุ่นให้ตกลงมาที่พื้นได้
ไม่น่าเชื่อว่าทั้งหมดนี้ล้วนเป็นนวัตกรรมที่คนไทยคิดค้นและพัฒนาได้เองจากการตั้งต้นคิดว่าจะทำให้สินค้าสูตรใหม่ดีกว่าสูตรปัจจุบันที่มีได้ยังไง



สร้าง ecosystem ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพครบวงจร
เบื้องหลังตัวอย่างสินค้านวัตกรรมทั้งหมดนี้ คุณธนัทบอกว่าจะไม่สามารถพัฒนาได้เลยถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากทีมวิจัยทางการแพทย์
“ต้องบอกว่า TMAN มีความฝันอยากจะสร้างนวัตกรรม แล้วเราก็มีทีม R&D ที่ดูแลด้านนี้อยู่ แต่ว่า R&D ของที.แมนจะไปโฟกัสในการผลิต ซึ่งปัจจุบันเราเองก็อยากทำนวัตกรรม แต่ถ้าถามว่าเรามี know-how เพียงพอที่จะสร้างนวัตกรรมได้ในจำนวนมากหรือยัง ก็ต้องตอบว่ายังไม่ใช่ ทำให้สุดท้ายเราพยายามมองหาหน่วยงานที่เก่งด้านนี้เพื่อจะมาช่วยกันต่อยอดให้ดี

“เรามองเห็นว่าในความเป็นจริงแล้วนักวิจัยไทยที่อยู่ในคณะวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ แพทยศาสตร์ เภสัชศาสตร์ เก่งระดับโลกหลายคนมากๆ แต่งานวิจัยที่ออกมายังไม่สามารถผลักดันเข้าสู่เชิงพาณิชย์ในระดับประเทศหรือระดับโลกได้”
ต้นน้ำคือการริเริ่มงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยภายใต้บริษัท โนว่า เฮลธ์ จำกัด ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ถืองานวิจัย ผู้คิดค้นงานวิจัย จากนั้นส่งต่อให้บริษัทในเครืออย่าง ที.แมน ฟาร์มา ผู้ผลิตยาแผนปัจจุบัน และบริษัท เฮเว่น เฮิร์บ จำกัด ผู้ผลิตยาแผนโบราณและยาจากสมุนไพรในเครือเพื่อทำหน้าที่ในการผลิต จากนั้นสินค้าที่ผลิตเสร็จจะถูกจัดจำหน่ายโดยที.แมน ฟาร์มาซูติคอล ต่อไป


ด้วยกระบวนการทั้งหมดนี้ แต่ละบริษัทในเครือจึงมีหน้าที่ของตัวเองและทำงานร้อยเรียงกันเป็น ecosystem โดยคำนึงถึงความเข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภคเป็นหลัก
นั่นทำให้ TMAN มีหมวดผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มักตั้งต้นจากการวิจัย เกิดผลิตภัณฑ์ที่เชื่อถือได้ทางการแพทย์และไม่เหมือนใคร เช่น หมวดอาหารเสริมและเครื่องสำอางที่มีจุดเริ่มต้นการคิดค้นจากงานวิจัยผ่านทางโนว่า เฮลธ์ และสถาบันวิจัยทางการแพทย์ชั้นนำเช่นกัน
ตัวอย่างเช่น อาหารเสริมที่เน้น functional ingredient อย่าง Anthaplex ซึ่งเป็นคอมเพลกซ์รูปแบบอาหารเสริมและแคปซูลจากงานวิจัยระหว่างโนว่า เฮลธ์กับมหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยค้นพบว่าสามารถป้องกันโรคอัลไซเมอร์ และส่งเสริมความจำได้ หรือ Cento-HAC Complex ที่ทำวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งค้นพบว่าช่วยลดการอักเสบ รอยแดง รอยช้ำ จากการทำศัลยกรรมและเลเซอร์ จึงนำมาทำเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางและกลายเป็นความภาคภูมิใจด้านนวัตกรรมของคนไทยที่ชนะการประกวดด้านผลิตภัณฑ์นวัตกรรมจากโปแลนด์
คำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อม
ในแต่ละครั้งที่ทำงานวิจัยคุณธนัทบอกว่าสองสิ่งสำคัญที่บริษัทคำนึงถึงไปพร้อมกันด้วยเสมอคือผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่แค่ได้ผลลัพธ์ของสินค้าออกมาแต่ยังคำนึงถึงระหว่างทางเพื่อให้เกษตรกรผู้ปลูกสมุนไพรและพืชไทยมีรายได้เลี้ยงชีพและไม่เกิดของเสียที่เป็นมลพิษทำลายสิ่งแวดล้อม
คุณธนัทยกตัวอย่าง เช่น พืชเศรษฐกิจใกล้ตัวอย่างกล้วย “พอเราทำวิจัยเรื่องกล้วย เราก็อยากได้แป้งกล้วยหรือผลกล้วยมาทำงานวิจัยต่อ เราทำวิจัยต่อเนื่องว่าเราจะเอาเปลือกกล้วยไปทำอะไร เอาต้นกล้วยหรือใบกล้วยไปต่อยอดเป็นแพ็กเกจอะไรได้บ้าง พยายามที่จะใช้พืชหนึ่งต้นให้ได้ 100% ทั้งหมด เพื่อให้เกษตรกรขายได้ทั้งต้น มีรายได้สูงขึ้น และไม่ก่อให้เกิดของเสียที่ตกค้างในสิ่งแวดล้อมอีกด้วย”

ในกระบวนการสกัดสารจากธรรมชาติจึงมีการนำกรีนเทคโนโลยี (green technology) เข้ามาช่วยบริการจัดการกระบวนการผลิต “สมมติเราจะสกัดสารมะแว้ง พอเราสกัดออกมาเสร็จปุ๊บ เราก็นำกากมะแว้งกลับมาหมุนเวียนใช้ต่อเป็นปุ๋ย หรือว่าอาจจะนำไปแปรรูปเป็นอาหารสัตว์ต่อได้เหมือนกัน คุณค่าของมะแว้งก็จะไม่ได้เกิดแค่กับคนอย่างเดียว แต่ยังมีคุณค่ากับสัตว์หรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ด้วย เป็นปุ๋ยหรือเป็นอาหารสัตว์ก็ได้ เรื่องน้ำก็เหมือนกัน พอสกัดสารออกมาแล้ว น้ำส่วนเกินเราก็ไม่ได้ทิ้ง เราเอาไปบำบัดต่อแล้วนำน้ำดังกล่าวไปใช้ในสวนสมุนไพรหรือใช้หล่อเลี้ยงเครื่องจักรต่อ เราใช้หลักบริหารแบบ zero waste”

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ขายดีของบริษัทอย่าง Propoliz Spray ก็เปลี่ยนวัสดุของแพ็กเกจจากขวดแก้วเป็นขวดพลาสติก PET ซึ่งทำให้สามารถหลอมขวดสำหรับนำกลับมาใช้ได้ใหม่ สะดวกขึ้นและยังลดการใช้พลังงานในการขนส่ง
และด้วยความที่บริษัทเน้นพัฒนาสินค้านวัตกรรมการจากสมุนไพร การเลือกผลิตสินค้าทางเลือกจากธรรมชาติยังเป็นการสนับสนุนเทรนด์รักษ์โลกทางอ้อมด้วยการลดการผลิตจากสารเคมิคอลต่างๆ และได้สนับสนุนเทรนด์ดูแลสุขภาพด้วยทางเลือกจากธรรมชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ TMAN ทำมาตั้งแต่อดีตและพยายามสนับสนุนสิ่งแวดล้อมให้ชัดเจนขึ้น



ภูมิคุ้มกันต้านความล้มเหลวของผู้ผลิตยา
สิ่งที่คุณธนัทชื่นชอบในองค์กรคือโอกาสในการพัฒนาสิ่งใหม่ แม้อัตราส่วนที่พัฒนานวัตกรรมใหม่สำเร็จจะเป็น 1 ใน 10 จากงานวิจัยทั้งหมดก็ตาม
“ปกติเวลาทำนวัตกรรมขึ้นมา เทียบระหว่างความสำเร็จกับล้มเหลว มักจะมีความล้มเหลวมากกว่าแน่นอน ในการทำนวัตกรรม ถ้ามีแค่มายด์เซตทางนวัตกรรมยังไม่พอ มันต้องกล้าพอที่จะทำด้วย แล้วเจ้าของบริษัทก็ต้องกล้าที่จะให้ลอง ซึ่งองค์กรเรามีทั้งผู้บริหารที่กล้าให้ลอง มีทีมกล้าลงมือทำ และกล้าที่จะล้มเหลว ยิ่งล้มไว ยิ่งลุกขึ้นไว ยิ่งเราพลาดไปแล้ว เราถึงจะรู้ว่าแก้ต่อไปยังไงได้ สิ่งเหล่านี้เป็น key learning ของเรามาตลอดเลยว่า ล้มหนึ่งครั้งก็แค่พบว่าเรามีเส้นทางผิดพลาดเพิ่มอีกครั้ง

ภูมิคุ้มกันต้านความล้มเหลวของผู้ผลิตยาจึงเป็นการกล้าล้มและกล้าลอง ปรับตัวตามเทรนด์โลกอยู่เสมอจนมีผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพครบวงจร ทั้งยาแผนปัจจุบันในโรคกลุ่ม NCDs (non-communicable diseases) เช่น เบาหวาน ความดัน หัวใจ ที่ตอบโจทย์เทรนด์ผู้สูงอายุ, ยาเพื่อแก้ปัญหาโควิด-19 ที่กำลังจะกลายเป็นโรคประจำถิ่นในระยะยาว, ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อบำรุงพฤติกรรมที่ไม่ค่อยเฮลท์ตี้กับสุขภาพในสังคมที่เร่งรีบ
เวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพทุกหมวดทั้งผลิตภัณฑ์ที่ป้องกันโรคและรักษาไม่ว่าจะเป็นยาแผนปัจจุบัน ยาสมุนไพร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพต่างๆ ทั้งหมดนี้ผลิตขึ้นเพื่อคำนึงถึง health span (ช่วงเวลาที่มีคุณภาพชีวิตดี) ที่ดีควบคู่ไปกับ life span (อายุขัย) ที่ยืนยาวขึ้นของคนยุคใหม่

ทุกวันนี้ TMAN ได้รับมาตรฐาน GMP PIC/S (Good Manufacturing Practice for Medicinal Products) ที่เทียบเท่ากับมาตรฐานในประเทศพัฒนาแล้วอย่างยุโรป และคุณธนัทยังเกริ่นว่ายังมีงานวิจัยอีกหลายตัวที่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาเพื่อสร้างสินค้านวัตกรรมใหม่ในอนาคต
ความสำเร็จของ TMAN คือการไม่ยึดติดกับความสำเร็จในอดีตจากนวัตกรรมยาตัวแรกๆ ที่คิดค้นขึ้นมาคือไอยราหรือสินค้าชื่อดังติดตลาดอย่าง Propoliz แต่กล้าเดินหน้าเผชิญกับการทดลองต่อไปเรื่อยๆ ในอนาคตจึงอาจพบแบรนด์ใหม่ สินค้าตัวเด่นและนวัตกรรมล้ำจาก TMAN อีกก็เป็นได้