1400
February 28, 2023

เหตุผลที่ The Pizza Company ตัดสินใจรีแบรนด์ในรอบ 22 ปี แม้จะยังเป็นเบอร์ 1 ในตลาดพิซซ่า

ปกติแล้วการรีแบรนด์มักจะเป็นกลยุทธ์ที่ถูกใช้กับแบรนด์ที่ยังเป็นรองในตลาด แบรนด์ที่มีปัญหากับภาพลักษณ์หรือยอดขาย เพื่อทำการปรับเปลี่ยนแบรนด์ใหม่ให้ได้รับความสนใจจากผู้คนมากขึ้น 

แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แบรนด์พิซซ่าอันดับหนึ่งที่ครองมาร์เก็ตแชร์กว่า 60% ของตลาดพิซซ่าในไทยอย่าง The Pizza Company กลับออกมาประกาศรีแบรนด์ครั้งใหญ่ เปลี่ยนหมดทั้งดีไซน์หน้าร้าน ชุดพนักงาน หรือแม้กระทั่งภาพจำสำคัญของแบรนด์อย่าง ‘โลโก้’ 

คำถามที่หลายคนอาจสงสัยเหมือนกัน 

อะไรคือสิ่งที่ทำให้ The Pizza Company ตัดสินใจรีแบรนด์ในครั้งนี้

อันที่จริงแล้วตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา The Pizza Company มีการปรับเปลี่ยนตัวเองไปทีละนิดละหน่อย อย่างช่วงแรกก็มีการปรับเฉดสีลดสัดส่วนสีแดงซึ่งเป็นสีของคู่แข่งแล้วเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับแบรนด์มากขึ้น มีการปรับรายละเอียดเล็กน้อยในโลโก้ที่เราอาจไม่ทันได้สังเกตเห็น เป็นการเปลี่ยนแบบ minor change ปรับโฉมเพียงบางส่วนเท่านั้น

ส่วนครั้งนี้เป็นเหมือนการปรับแบบ major change ที่พลิกโฉมแบรนด์ครั้งใหญ่ ใช้สีที่แบรนด์เรียกว่า ‘กรีนไอคอนิก’ ซึ่งเป็นโทนอ่อนลงและสดใสมากขึ้นจากสีเขียวที่เคยใช้ในครั้งก่อน มาผสมกับโลโก้รูปสามเหลี่ยมที่ต้องการสื่อไปถึงตัวอักษร A และเป็นเหมือนชิ้นของพิซซ่า รวมถึงการปรับปรุงสาขาให้ดูมีความร่วมสมัยมากขึ้น

ปัทม์ พงษ์วิทยาพิพัฒน์ ผู้จัดการทั่วไปของ The Pizza Company บอกถึงเหตุผลที่ทำให้ต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ว่า ตลอด 22 ปีที่ผ่านมากลุ่มลูกค้าหลักของแบรนด์คือกลุ่มครอบครัว และในวันที่กลุ่มลูกค้าหลักเติบโตตามวัย แบรนด์จึงต้องค่อยๆ หาลูกค้าที่เป็นคนเจเนอเรชั่นใหม่ทั้งวัยรุ่นและวัยทำงานมาเติมเต็มเพื่อให้แบรนด์ยังมีลูกค้าหมุนเวียนเข้ามาอยู่เสมอ

อีกมุมหนึ่ง ในวันที่ร้านพิซซ่าเล็กๆ ที่ดูมีความคราฟต์ได้เข้ามาแย่งชิงพื้นที่ในกระเพาะอาหารของลูกค้าไปมากขึ้น The Pizza Company จึงมีความจำเป็นที่จะต้องรีแบรนด์ครั้งใหญ่ เพื่อจะได้เข้าไปอยู่ในชีวิตของกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้

ซึ่งต้องบอกว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ The Pizza Company พยายามทำให้ตัวเอง ‘เด็กลง’ อย่างในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาก็มีการเอาดาราวัยรุ่นมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแบรนด์, ทำพิซซ่าไซส์ XXL, ทำพิซซ่าขนาดยาว 1 เมตร, แตกซับแบรนด์ไก่ทอดที่ชื่อว่า Chick A Boom และอีกหลายๆ เมนูเพื่อสร้างกระแสให้คนอยากกินและไปถ่ายรูปตาม

การปรับที่มากมายขนาดนี้ ไม่เพียงสะท้อนให้เห็นว่าการเป็นผู้นำต้องไม่หยุดนิ่ง แต่ยังรวมไปถึงการที่พิซซ่าที่เป็นแบรนด์เล็กๆ ได้เข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้คน จนสร้างผลกระทบให้กับ The Pizza Company ต้องหมั่นปรับตัวเองอยู่เสมอ

โดยผลจากกลยุทธ์การรีแบรนด์ใหญ่ในครั้งนี้จะทำให้เราได้เห็นร้าน The Pizza Company ที่มีความโมเดิร์นมากขึ้น ได้เห็นการไปจับมือทำ collaboration กับแบรนด์อื่นทั้งที่เป็นร้านอาหารด้วยกันเอง แบรนด์แฟชั่น หรือแบรนด์ไลฟ์สไตล์ เพื่อจะทำให้ The Pizza Company เข้าไปอยู่ในชีวิตผู้คนได้มากกว่าเดิม

และพวกเขาก็ตั้งใจว่าการรีแบรนด์ครั้งใหญ่นี้จะช่วยปรับภาพลักษณ์ให้แบรนด์ดูทันสมัยขึ้นจนทำให้มีลูกค้ากลุ่มใหม่เข้ามาเพิ่มอีก 20% 

เห็น The Pizza Company ลุกขึ้นมาขยับปรับตัวแบบนี้ ก็น่าติดตามว่าผู้เล่นรายอื่นๆ ในสนามพิซซ่าจะมีมูฟเมนต์ยังไงต่อไป 

เพราะเมื่อเจ้าตลาดขยับตัวก็ย่อมสร้างแรงกระเพื่อมไปยังแบรนด์อื่นที่อยู่ในสนามเดียวกันตามไปด้วย

Writer

บรรณาธิการธุรกิจ มีความสนใจเรื่องกลยุทธ์ธุรกิจ-การตลาด และชื่นชอบการเข้าโรงงานเพื่อดูเบื้องหลังการผลิตเป็นอย่างยิ่ง

You Might Also Like