Sustainability Expo 2025

เบื้องหลัง ‘Third Space’ พื้นที่ยั่งยืนที่โอบรับผู้คนด้วยความเข้าใจในแบบของวัน แบงค็อก

ณ เวลานี้ต้องบอกว่าย่านลุมพินีกลายเป็นแหล่งทำเลทองที่น่าจับตามองลำดับต้นๆ ในประเทศไทย จากความเพียบพร้อมทั้งในแง่ระบบขนส่งสาธารณะ ที่พักอาศัยและอาคารสำนักงาน และศูนย์การค้าขนาดใหญ่ โดยมีแหล่งพื้นที่สีเขียวโอบรับล้อมรอบไว้ เมื่อมองภาพรวมพื้นที่ตรงบริเวณดังกล่าวจึงเหมาะแก่การเป็นเมืองแห่งความยั่งยืนในระยะยาว

หนึ่งในจิ๊กซอว์ที่สร้างความยั่งยืนให้แก่พื้นที่บริเวณลุมพินี คือ ‘วัน แบงค็อก’ โครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ที่พัฒนาโดย บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่นอกจากจะเป็นทั้งศูนย์การค้า อาคารสำนักงานชั้นนำ หรือแลนด์มาร์กที่เป็นหมุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว ขณะเดียวกันยังมุ่งมั่นสร้างคุณค่าให้แก่ผู้คนและชุมชนในวงกว้าง ตามแนวคิด การสร้างเมืองสร้างสรรค์ที่เติบโตอย่างไม่หยุดนิ่ง

ทั้งนี้ วันแบงค็อกได้ชูแนวคิดดังกล่าวผ่านงาน Sustainability Expo 2025 (SX2025) มหกรรมด้านความยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่จัดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ โดยแนวคิดการเป็น ‘Third Space’ หรือ ‘พื้นที่ที่สาม’ ที่เสริมโครงสร้างสังคมเมืองให้แข็งแรงนั้นตรงกับหลัก 3 ประการในการสร้างคุณค่าทางสังคมของ กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ได้แก่

1. ชุมชนที่เปิดกว้าง (Inclusive Community) 

2. สุขภาวะแบบองค์รวม (Holistic Well-being) 

3. การสร้างโอกาส (Enabling Opportunity)

คำถามที่น่าสนใจคือวัน แบงค็อกทำยังไงให้แนวคิดที่กล่าวมาข้างต้นสามารถทำได้จริง ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้เกิดจากกระบวนการทำงานทั้ง 4 ข้อ นั่นคือ

1. สุขภาวะที่ดีสำหรับผู้คนและสถานที่ทำงาน : นิยามพื้นที่ทำงานในแบบของวัน แบงค็อก จะต้องส่งเสริมให้ผู้คนในพื้นที่โฟกัสกับการทำงาน ก่อเกิดความคิดสร้างสรรค์ ดังนั้นจึงมีการจัดกิจกรรมที่ส่ง

เสริมสุขภาวะแบบองค์รวมของคนทำงาน เช่น โยคะ คลับนักวิ่ง และการออกกำลังกายแบบ HIIT (การออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นสูงในระยะเวลาสั้นๆ สลับกับการพัก) เป้าหมายของข้อนี้เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการทำงาน สร้างสมดุลชีวิต ลดความเครียด และสร้างสังคมร่วมกันของคนทำงาน

2. เสริมพลังเยาวชนด้วยโครงการ One Bangkok Football Camp : นับตั้งแต่ปี 2562 วัน แบงค็อก ร่วมมือกับ ThaiBev Football Academy จัดโครงการ One Bangkok Football Camp โดยร่วมมือกับ 6 ชุมชนใกล้เคียง เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเยาวชนด้วยการออกกำลังกาย ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม และสร้างความสัมพันธ์ทางสังคมที่ดีต่อกัน 

โดยปัจจุบัน มีเยาวชนหลายร้อยคนที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว หลายคนมีโอกาสก้าวไปสู่ลีกเยาวชนระดับภูมิภาค เพิ่มโอกาสในการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

3. เพลิดเพลินกับงานศิลปะ เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของพื้นที่ สู่การเชื่อมโยงชุมชนอันหลากหลาย : วัน แบงค็อกได้รังสรรค์ Art Loop เส้นทางเดินระยะทาง 2 กิโลเมตร ที่ผสมผสานศิลปะและวัฒนธรรมให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ผ่านผลงานศิลปะจากศิลปินไทยและต่างชาติ ควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมอันหลากหลายต่อเนื่อง โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ

คอลเลกชั่นงานศิลปะสาธารณะ รวบรวมผลงานศิลปะระดับโลกมากมาย ที่เปิดให้เข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ประกอบด้วย ประติมากรรม ภาพจิตรกรรมฝาผนัง งานศิลปะดิจิทัลที่ล้ำสมัย และเฟอร์นิเจอร์สาธารณะที่ออกแบบอย่างพิถีพิถัน

The Wireless House One Bangkok โครงการอนุรักษ์อาคารสถานีวิทยุโทรเลขแห่งแรกของประเทศไทย ที่สามารถใช้เป็นพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการทางวัฒนธรรมและศูนย์การศึกษา เชื่อมโยงคนรุ่นใหม่สู่อดีตอันรุ่งเรืองของกรุงเทพฯ โดยมีผู้เข้าชมแล้วเกือบ 100,000 คนนับตั้งแต่เปิดทำการ

4. ปอดขนาดใหญ่ใจกลางเมือง พื้นที่เปิดโล่งขนาดใหญ่เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ : วัน แบงค็อก จัดสรรพื้นที่กว่าครึ่งหนึ่งภายในโครงการให้เป็นพื้นที่สีเขียวและพื้นที่เปิดโล่ง รายล้อมด้วยต้นไม้ ดอกไม้นานาพันธุ์ และมุมพักผ่อนตามจุดต่าง ๆ ทั่วทั้งโครงการ เพื่อเชิญชวนผู้คนให้ออกไปเดินสูดอากาศบริสุทธิ์ หรือออกมาออกกำลังกายและทำกิจกรรมสร้างสรรค์ ไปจนถึงทำหน้าที่เป็นสถานที่พักพิงสาธารณะในยามฉุกเฉิน

ทั้งหมดนี้เป็นวิธีที่วัน แบงค็อกสร้างพื้นที่แห่งความยั่งยืนที่พร้อมโอบรับผู้คนและธรรมชาติ ทั้งยังสร้างประโยชน์ต่อสังคมในวงกว้าง ซึ่งจะกลายเป็นโมเดลต้นแบบของคนทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต ที่ต้องพัฒนาชีวิตของผู้คนให้เพรียบพร้อมไม่แพ้งานสถาปัตยกรรมชั้นนำหรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน

Writer

นักเขียนผู้หลงใหลโลกของฟุตบอล สนีกเกอร์ และกันพลา

You Might Also Like