Candle Making

ไอเดียและแพสชั่นของ Summerstuff.marine เครื่องหอมที่แตกต่างด้วยกลิ่นและแพ็กเกจจิ้งที่น่าหยิบใช้

Summerstuff.marine คือแบรนด์เครื่องหอมของสองสาวที่เป็นเพื่อนในรั้วมหาวิทยาลัยอย่าง ปริม–วริศรา จำปาทอง และแมส–นันทิกร อิงครัตน์ ที่เกิดขึ้นอย่างจริงจังเมื่อ 4 ปีก่อน 

ใครจะไปรู้ว่าแค่จากการที่ชวนกันไปขายของเพื่อแบ่งกันหารค่าบูท จะกลายมาเป็นแบรนด์เครื่องหอมที่คนรุ่นใหม่นึกถึง โดดเด่นทั้งเรื่องของกลิ่นหอมที่ไม่เหมือนใคร ลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ และมาพร้อมกับแพ็กเกจจิ้งที่น่าหยิบใช้ 

ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ ในวันที่เทียนหอมไม่ได้บูมเหมือนเมื่อก่อน และยังมาพร้อมกับแบรนด์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมากมาย อะไรทำให้ Summerstuff.marine ยืนระยะและเติบโตได้อย่างทุกวันนี้

เราชวนปริมและแมสมาส่งต่อความสนุก เล่าเรื่องราวการทำแบรนด์ผ่านกลิ่นหอมไปพร้อมๆ กัน 

Summerstuff.marine คือเพื่อน

ไม่รู้เพราะความบังเอิญหรืออย่างไร เพราะแมส และปริม คือเพื่อนร่วมโรงเรียนตั้งแต่ชั้นมัธยม และยังเป็นเพื่อนร่วมรั้วมหาวิทยาลัยเดียวกัน แม้จะต่างกลุ่ม ต่างคณะกัน แมส เรียนคณะศิลปกรรม ส่วนปริม เรียนมัณฑนศิลป์ แต่สิ่งที่เหมือนกันที่เราสัมผัสได้คือความชอบในงานอาร์ต งานศิลปะเหมือนกันของคนทั้งคู่

จุดเริ่มต้นเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่ คือการหารายได้เสริมในช่วงมหาวิทยาลัยที่ทั้งคู่มีกิจการขายของเล็กๆ เป็นของตัวเอง ก่อนที่จะตกลงกันทำแบรนด์เทียนหอมร่วมกันในชื่อ Summerstuff.marine

ปริมค่อยๆ เล่าถึงจุดเริ่มต้นว่า “ตั้งแต่ช่วงมหาวิทยาลัยเราทั้งคู่ทำของขายอยู่แล้ว แมสทำงานวาดลายเส้น ภาพประกอบ ส่วนเราหล่อเรซิ่นเป็นรูปทรงต่างๆ และทำของกระจุ๊กกระจิกไปขาย จุดที่ทำให้ได้มาขายของด้วยกันเริ่มจากการชวนกันไปขายของออกบูทในงานของมหา’ลัย ที่แบ่งกันออกค่าบูทคนละครึ่ง หลังจากเรียนจบเราก็ชวนกันไปออกอีเวนต์ขายของเรื่อยๆ จนรู้สึกว่าอยากจริงจังขึ้นมา อยากทำในสิ่งที่เพิ่มเติมจากการแค่หล่อเรซิ่นขาย สิ่งที่เรานึกถึงขึ้นมาอันดับแรกเลยคืออยากทำเทียนหอม ภาพในหัวตอนนั้นยังไม่มีไอเดียอะไรเลย” 

จากที่ไม่มีไอเดียอะไร แต่รู้แค่ว่าอยากทำเทียนหอม ก่อนที่จะช่วยกันเบรนสตอร์ม หาวัตถุดิบ หาแพ็กเกจจิ้ง ออกมาเป็นเทียนหอมกลิ่นแรก คือ กลิ่นบลูเบอร์รีโยเกิร์ต ที่นอกจากจะทำกลิ่นเหมือนแล้ว หน้าตาของเทียนหอมของแมสและปริมยังเหมือนของกินจริงๆ เป็นเทียนหอมที่บรรจุอยู่ในขวดแก้วที่มีฝาปิด

“ทำออกมาครั้งแรก 20 อัน ขายไม่ได้เลย ไม่มีคนซื้อ และคิดกันว่าไม่ได้ไปต่อแน่ๆ แมสเลยลองเอาเทียนหอมที่ทำนี้ไปโพสต์ขายในไอจีร้านของตัวเองที่ชื่อว่า Summerstuff.marine ที่พอมีฐานลูกค้าจากที่แมสขายของก่อนหน้า ก็ทำให้เทียนหอมของเราพอขายได้ แต่จุดที่เปลี่ยนชีวิตคือช่วงนั้นเริ่มเล่นทวิตเตอร์ แมสลงโพสต์เทียนหอมอันนี้ไป ปรากฏว่าโพสต์นั้นคนรีทวีตเยอะมาก มีคนทักมาสั่งซื้อเทียนหอมมากขึ้น

“เหมือนพลิกชีวิตเราประมาณหนึ่งเลย รอบสองเราไปออกบูสต์อีกรอบ รอบนี้ทำเทียนหอมไป 100 อัน ขายหมดใน  2 ชั่วโมง คนมาจอง made to order จากที่คิดว่าจะไม่ทำต่อกันแล้ว นี่เป็นจุดที่เรารู้สึกว่าแบรนด์ซัมเมอร์จะไปต่อได้ด้วยโปรดักต์นี้ 

“ตัดสินใจโละสินค้าอื่นๆ ที่แมสเคยทำขายในไอจีซัมเมอร์ออกหมด ให้เหลือแต่เทียนหอม และตกลงกันที่จะใช้ไอจีชื่อนี้เลย Summerstuff.marine” ปริมเล่าให้เราฟัง

Summerstuff.marine มีปริมทำหน้าที่ดูหลังบ้าน ดูและควบคุมไลน์การผลิตสินค้าทั้งหมด ส่วนแมสดูในส่วนของงานวาดลายเส้นทั้งหมด รวมถึงการทำตลาดและโซเชียล

ความเป็นเพื่อนยังไม่จบแค่ทั้งปริมและแมสคือเพื่อนกัน ทั้งคู่วางโพซิชั่นของ Summerstuff.marine ให้เป็นเพื่อนกับลูกค้า เพราะถ้าลองเข้าไปไถฟีดในทวิตเตอร์ หรืออินสตาแกรมของร้าน เราจะไม่ได้เห็นแค่โพสต์ขายของอย่างเดียว แต่ Summerstuff.marine ยังแชร์เรื่องราวผ่านการพูดคุยแบบเพื่อนกับลูกค้าเช่นกัน

“เป็นความตั้งใจของเราตั้งแต่แรกที่ไม่ได้อยากวางตัวเป็นร้านขายของกับลูกค้า แต่เราอยากให้ Summerstuff.marine เป็นเหมือนเพื่อนคุยกัน แนะนำกัน บางทีคอนเทนต์ที่ออกไปเลยไม่ได้ขายอย่างเดียว มีคอนเทนต์พูดคุย มีทำเพลย์ลิสต์เพลงที่มีเรื่องราว และพยายามลิงก์กับการขายสินค้าของเราด้วย เราคิดว่ามันทำให้เข้าถึงผู้คนได้ง่ายมากขึ้น” แมสขยายความให้ฟัง

Summerstuff.marine คือของใช้ในชีวิตประจำวัน

ขวบปีถัดๆ มา Summerstuff.marine ไม่ได้มีแค่เทียนหอมแค่อย่างเดียว เริ่มแตกไลน์โปรดักต์เป็นอย่างอื่นมากขึ้น เรียกว่าเป็น grocery store ร้านขายเครื่องหอมก็มีทั้งเทียนหอม ครีมอาบน้ำ ถุงหอม น้ำหอม รูมสเปรย์ แฮนด์ครีม สเปรย์แอลกอฮอล์ และอื่นๆ 

ตรงกับชื่อแบรนด์อย่างคำว่า stuff ที่แมสอธิบายให้เราฟังในช่วงแรกของบทสนทนาว่า ที่ใช้คำว่า stuff ในชื่อแบรนด์นั้นเพราะไม่ได้อยากกำหนดว่าร้านนี้จะต้องขายอะไร หรือขายของเพียงสิ่งเดียว แต่ร้านนี้จะมีของขายที่หลากหลายที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้

“อันที่จริงเหตุผลคือมีคนเริ่มทำตามเยอะ เพราะแต่ก่อนเทียนหอมส่วนใหญ่หลายๆ แบรนด์ก็จะทำแบบขึ้นรูปมาเลย ไม่ค่อยมีคนทำเทียนหอมใส่ขวดแก้วแล้วมีฝาปิดแบบเราเท่าไหร่” แมสอธิบายให้ฟัง

“เราไม่ได้บอกว่าทำตามเราไม่ได้นะ แต่คือเราโดนก๊อบปี้ลายเส้นทุกองค์ประกอบ พอเราไปเจอเราก็รู้สึกแย่มากๆ เลยคุยกันและตัดสินใจว่าเราจะไม่ทำเทียนหอมอย่างเดียวแล้ว เราจะเป็นร้านเครื่องหอมที่มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย” ปริมเล่าเสริม

Summerstuff.marine จึงเปลี่ยนแพ็กเกจจิ้งจากที่เคยสั่งซื้อเป็นตลับที่หาได้ทั่วๆ ไป กลายเป็นสั่งทำเป็นสี รูปทรงของบรรจุภัณฑ์เฉพาะของแบรนด์ที่มีความยูนีกสื่อถึงแบรนด์อย่างที่วางขายอยู่ในทุกวันนี้ พร้อมกับหยิบกลิ่นที่เป็นซิกเนเจอร์ 4 กลิ่น คือ Summer Reminder, A day at home, Thank gosh it’s party time, Sunray on Sunday มาแตกไลน์เป็นสินค้าที่หลากหลายมากขึ้น 

“ตอนนี้พยายามทำโปรดักต์ที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น เพราะบางคนอาจไม่ได้อินกับการจุดเทียน แต่อยากลองใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา เราก็มีสินค้าอื่นๆ เป็นตัวเลือกให้เขา เช่น รูมสเปรย์ ถุงหอม แอลกอฮอล์ล้างมือ มีเกือบ 10 รายการ ที่เยอะสุดคือเทียนหอมที่มีกลิ่นให้เลือกกว่า 30 กลิ่น”

Summerstuff.marine คือกลิ่นที่แตกต่างและโดดเด่นด้วยศิลปะ

เพราะผ่านกระบวนการคิดมาอย่างดีเมื่อ Summerstuff.marine ที่ขายเครื่องหอมต้องการให้ผู้คนหยิบใช้ในชีวิตประจำวัน และเข้าถึงสินค้าได้ง่าย ไอเดียของโปรดักต์ต่างๆ ทั้งเรื่องของกลิ่น และลายเส้นของแบรนด์จึงเป็นการหยิบเล่าเรื่องราวจากสิ่งรอบๆ ตัวในชีวิตประจำวัน ผ่านการตีความของคนทั้งคู่ ที่ตอนนี้กลายมาเป็นจุดแข็งของแบรนด์ไปเรียบร้อยแล้ว

“แพ็กเกจจิ้ง ลายเส้น และกลิ่น คือจุดแข็งของแบรนด์ อย่างสมัยก่อนเราใช้อินสไปร์จากของกิน เดี๋ยวนี้ เราเอาอินสไปร์จากสิ่งรอบๆ ตัวในชีวิตประจำวันมากขึ้น อย่างเช่นกลิ่นที่เป็นซิกเนเจอร์ของเราอย่าง A day at home มันคือกลิ่นที่สื่อสารด้วยความผ่อนคลาย สบายๆ อยู่บ้าน หรืออย่างกลิ่นที่มีอย่าง spring cottage ที่เป็นกลิ่นเปลือกไม้ ป่าๆ ภาพที่เราหลับตาเห็นคือกระท่อม เราไปแคมป์ปิ้งในป่า พอเราทำกลิ่นที่เป็นฟีลลิ่งนี้ เราก็ส่งต่อให้แมสวาดลายเส้น” ปริมแชร์ถึงไอเดียในการคิดกลิ่น

งานถัดไปจากการคิดดีไซน์กลิ่นได้แล้วคือการส่งผ่านมาเป็นลายเส้นที่ต้องใช้จินตนาการของแมสที่แมสบอกว่า “ลายเส้นนึงวาดไม่นาน แต่จะนานตรงที่กว่าเราจะเคาะคอนเซปต์กัน กว่าเราจะวาดออกมาได้คือต้องมีคอนเซปต์ที่ชัดเจนเป็นรูปเป็นร่างแล้ว อย่างคอนเซปต์นี้เราเลือกได้แล้วว่าเป็นแนวอยู่บ้าน เราทำเป็นมู้ดบอร์ดว่าแต่ละองค์ประกอบนั้นมีมู้ดแอนด์โทนของภาพแนวไหน แล้วค่อยเลือกโทนสีให้เข้ากับกลิ่น กับสิ่งที่เราจะสื่อออกไป ทุกผลงานที่ออกไปจะต้องเป็นลายเส้นที่เราทั้งสองชอบมากที่สุด”

เพราะฉะนั้นแล้ว Summerstuff.marine คือเพื่อนที่จะเชิญชวนให้คุณซึมซับวัฒนธรรมการพักผ่อน เพลิดเพลินกับเครื่องหอมผ่านกลิ่นที่แตกต่างเป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมกับแพ็จเกจจิ้งที่น่าหยิบใช้

Summerstuff.marine คือความแฮปปี้ของผู้คน

เมื่อเราถามทั้งแมสและปริมว่าแล้วความเชื่อในการทำแบรนด์ของพวกคุณคืออะไร คำตอบที่ตีความออกมาได้ในมุมของเราคือความแฮปปี้ของผู้คน

แมสบอกว่า “ทำด้วยแพสชั่น เราทำจากความชอบ ทำแบรนด์ด้วยการสนุกและเอนจอยไปกับมัน เวลาวาดงานออกมาต้องเป็นลายเส้น เป็นแบบที่เราชอบจริงๆ ที่จะปล่อยออกมา ถ้าเราไม่ชอบเราจะทำจนกว่าที่จะโอเค เพราะเราทำในฝั่งมาร์เก็ตติ้งด้วย บางทีต้องไปพรีเซนต์ เราก็อยากพราวด์ไปกับมันจริงๆ”

ขณะที่คำตอบของปริมคือ ‘การทำแบรนด์แล้วลูกค้าใช้แล้วรู้สึกมีความสุข และจดจำแบรนด์ของเราได้’

“เอาจริงๆ ต้นทุนเราสูงมาก เพราะทุกดีเทลเราทำใหม่หมดเลย และเราเป็นร้านเล็ก ที่ครั้งนึงเราทำไม่ได้เยอะมาก เราทำหลักร้อยชิ้น แม้ต้นทุนที่แพง เแต่เราคำนวณราคาที่เราแฮปปี้ และคิดว่าลูกค้าก็แฮปปี้ด้วย แล้วสุดท้ายกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เราคือนักศึกษา เราจะขายเกินกว่านี้ไม่ได้ ตั้งแต่วันแรกที่เราขายเทียนหอมไซส์เล็กอันละ 120 บาท เรายังไม่เคยขึ้นราคาเลย แม้ต้นทุนเพิ่มขึ้นตลอดก็ตาม สำหรับเราเราก็ไม่กล้าขึ้นราคา” ปริมย้ำให้เราฟัง

และแน่นอนว่าความสุขของการเปิดร้านค้าคือการได้คุยกับผู้คน และการนั่งแพ็กสินค้ารอเอาไปจัดส่งให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อ แต่อีกสิ่งที่เป็นความสนุกและเป็นแง่งามที่เพิ่มคุณค่าให้กับแบรนด์คือการไปคอลแล็บกับแบรนด์ต่างๆ

Summerstuff.marine เคยคอลแล็บกับแบรนด์แฟชั่นมาแล้วหลายโปรเจกต์ และโปรเจกต์ที่กำลังทำอยู่คือการไปคอลแล็บกับ hello.flashback ตู้ถ่ายรูปที่เป็นแบรนด์แรกๆ ที่ทำให้กระแสการถ่ายรูปกับตู้ออโต้แมตบูมในไทย ที่ไม่ได้ทำเล่นๆ แต่ได้หยิบยกกลิ่นของเทียนหอมที่เป็นจุดเด่นอย่างกลิ่น Movie & Pop Corn มาตีความใหม่เป็นตู้ถ่ายรูปคอนเซปต์เป็นโรงหนัง ที่ทั้งวาด illustration และออกแบบทุก element ใหม่ทั้งหมด ที่รอให้เราและลูกค้าของร้านไปลองประสบการณ์ใหม่ๆ อยู่ในตอนนี้

ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของกลิ่นหอมๆ ชวนหลงใหลของ Summerstuff.marine ที่ปริมกับแมสกำลังวาดฝันในอนาคตถัดไปว่า Summerstuff.marine ต้องการเป็นแบรนด์เครื่องหอมที่ผู้คนจะนึกถึงเป็นแบรนด์แรกๆ และเป็นที่รู้จักในต่างประเทศ ในเอเชียและยุโรปมากขึ้น

และที่สำคัญคือจะเป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์ที่ตอนนี้ทั้งสองกำลังซุ่มทำแบรนด์ใหม่ในชื่อว่า ‘Summer Maker’ เอาลายเส้นมาทำสินค้าไลฟ์สไตล์จะมีทั้งเสื้อยืด กระเป๋า และอื่นๆ ที่กำลังรอให้เราไปสนุกกันภายในปีนี้

Writer

กองบรรณาธิการธุรกิจ

Photographer

ช่างภาพที่สนุกกับการแต่งตัว อยู่กับเสียงเพลง และหลงรักในความทรงจำ Ig : mocfirst

You Might Also Like