ธุรกิจต่างดาว
ภาพถ่ายสิ่งลึกลับบนฟ้าใน Nope สู่ธุรกิจโรงแรม ร้านหนังสือ และแอพฯ ดักจับข่าวลือ UFO ที่ทำกำไรจริง
Jordan Peele เป็นหนึ่งในผู้กำกับที่เราปวารณาตนว่าเขาทำอะไรออกมาก็จะตามดูทุกเรื่องไป หนัง 2 เรื่องของเขาก่อนหน้านี้อย่าง Get Out และ Us ก็ทำให้เราระทึกจนนั่งไม่ติดเก้าอี้ เต็มไปด้วยฉากสยองที่น่ากลัวแบบเวียร์ดๆ และมีเสน่ห์ในเวลาเดียวกัน นั่นทำให้ตอนที่เขาประกาศว่าจะทำ Nope หนังเรื่องที่ 3 ออกมา เราจึงตั้งตารอด้วยใจจดจ่อ
ตอนเห็นโปสเตอร์แรกของ Nope เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเกี่ยวกับอะไร มันเป็นรูปก้อนเมฆตอนกลางคืนที่ดูขรึมขลังไม่เบา ติดที่ก้อนเมฆก้อนนั้นมีธงหลากสี (?) ห้อยลงมา
มีอะไรแปลกๆ บนฟ้า คือความคิดแรกที่เรามีต่อ Nope
ไม่ผิดเสียทีเดียว เพราะ Nope คือหนังที่เกี่ยวกับ ‘อะไรแปลกๆ บนฟ้า’ หรือว่ากันตามตรงคือ UFO หนังเล่าเรื่องราวของ OJ (รับบทโดย Daniel Kaluuya) และ Emerald (รับบทโดย Keke Palmer) สองพี่น้องเจ้าของธุรกิจฟาร์มม้าในชนบทห่างไกลที่เทรนเหล่าอาชาเพื่อไปเป็น ‘ม้าหน้ากล้อง’ ในสื่อบันเทิงโดยเฉพาะ ก่อนหน้านี้พ่อของพวกเขาเคยเป็นเจ้าของฟาร์ม แต่ดันจากไปด้วยสาเหตุประหลาด เขาโดนเศษเหรียญที่อยู่ๆ ก็ตกลงมาจากฟ้าแทงจนเสียชีวิต
โอเจอยู่ในเหตุการณ์ ทำให้เขาฝังใจกับปริศนาการตายของพ่อมาตลอด กระทั่งวันหนึ่งสองพี่น้องก็พบเจอกับเหตุการณ์ประหลาด อย่างไฟฟ้าในบ้านที่ติดๆ ดับๆ และม้าของพวกเขาก็หายตัวไปอย่างลึกลับ เมื่อพยายามหาคำตอบ พวกเขาได้พบความจริงสุดช็อกว่ามันคือวัตถุประหลาดบนฟ้าที่ดูดกลืนสิ่งมีชีวิตขึ้นไปเป็นระยะ และซ่อนตัวอยู่กับเมฆก้อนหนึ่งในละแวกนั้นมานานนับปี
เพราะอยากแก้แค้นแทนพ่อ ประกอบกับอยากรวย อยากดัง สองพี่น้องจึงวางแผนล่อจานบินออกมาเพื่อจะบันทึกภาพมันไว้ โดยไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ทำกำลังจะนำไปสู่เรื่องเลวร้ายและความเหวออีกนานัปการ
การหารายได้จากมนุษย์ต่างดาวไม่ใช่เรื่องใหม่ ยิ่งนอกโลกภาพยนตร์แล้ว แม้ว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะมีการชะลอตัวแค่ไหน แต่ดูเหมือนว่าธุรกิจใดๆ ที่มีคำว่า UFO ไปเกี่ยวข้องจะบูมเอาๆ สวนกระแส ล่าสุดเมื่อรัฐบาลสหรัฐฯ เปิดเผยรายงานลับเรื่องการศึกษา ‘ปรากฏการณ์ทางอากาศที่ไม่สามารถอธิบายได้’ ในช่วงปีก่อน ยืนยันว่าเรื่องจานบินปริศนาไม่ใช่แค่เรื่องไร้สาระหรือทฤษฎีสมคบคิด (แต่จะมาจากนอกโลกจริงไหมก็ต้องรอการพิสูจน์) ความไฮป์เรื่อง UFO ของชาวโลกก็กระเพื่อมเป็นวงกว้างอีกครั้ง และนั่นอาจเป็นสัญญาณที่ดีของคนทำธุรกิจผู้คลั่งไคล้เรื่องนี้
ย้อนมามองในโลกนอกภาพยนตร์ มีธุรกิจมากมายสร้างจุดขายด้วยสินค้าและบริการเกี่ยวข้องกับ UFO ได้อย่างสร้างสรรค์ หนึ่งในนั้นคือ Atomic Inn โรงแรมธีมเอเลี่ยนที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจาก Area 51 ฐานทัพการบินลับที่คนทั่วโลกร่ำลือกันว่าเป็น ‘ที่ซ่อนมนุษย์ต่างดาว’ ทำให้มีหลายทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับ UFO เริ่มต้นที่นี่ พอเป็นโรงแรมธีมมนุษย์ต่างดาว ทุกอย่างในโรงแรมก็สร้างขึ้นจากรากฐานนั้น ไล่ตั้งแต่สบู่ มาสก์หน้า ไปจนถึงโบผูกผมรูปเอเลี่ยน ซึ่งในช่วงโควิดที่ไม่มีนักท่องเที่ยวออกเดินทาง ลูกค้าส่วนมากก็เป็นเจ้าหน้าที่การบินที่ทำงานอยู่ในพื้นที่นั่นแหละ หรืออย่าง Hangar 209 ร้านของฝาก หนังสือ เสื้อผ้า และร้านกาแฟธีมเอเลี่ยนซึ่งตั้งอยู่ในเมืองรอสเวลล์ รัฐนิวเมกซิโก ซึ่งไม่ไกลจาก Area 51 และขึ้นชื่อเรื่องการปรากฏตัวของ UFO ไม่แพ้กัน ก็ได้รับผลกระทบทางบวกจากการรายงานลับ UFO ของสหรัฐฯ เพราะตั้งแต่ที่รัฐบาลเผยแพร่รายงานนี้ออกมา ลูกค้าหลายคนก็เดินเข้าร้านพร้อมคำถามเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวมากมาย ส่งผลให้ยอดขายสินค้าในร้านกระเตื้องไปด้วย
หรือมองกลับมาที่ Nope หากจะมีธุรกิจใดที่เชื่อมโยงกับสิ่งที่โอเจและเอมเมอรัลด์ทำ Enigma Labs อาจเป็นคำตอบ พวกเขาคือสตาร์ทอัพที่พยายามสร้างฐานข้อมูลเกี่ยวกับ UFO บนอินเทอร์เน็ต รวบรวมข้อมูลว่าด้วยจานบินและมนุษย์ต่างดาวที่ผู้คนโพสต์ลงเน็ตมากเท่าที่จะมากได้ ที่สำคัญคือมีระบบคะแนนเพื่อประเมินว่าภาพและวิดีโอนั้นๆ เป็นเรื่องจริงหรือเรื่องจกตา
“อินเทอร์เน็ตเต็มไปด้วยเรื่องหลอกลวง และมันยากมากเลยที่จะหาข้อมูลดีๆ เจอ” Alex Smith ผู้ก่อตั้ง Enigma Labs ให้สัมภาษณ์กับสื่อ Bloomberg ถึงที่มาที่ไปของสตาร์ทอัพดาวรุ่งซึ่งได้รับเงินทุนมหาศาลจากซิลิคอนวัลเวย์
หลังจากพัฒนาระบบจนสำเร็จ Enigma Labs จะปล่อยแอพพลิเคชั่นสู่สาธารณะ ให้เราสามารถกดดูจานบินได้ตามขนาด รูปร่าง และสถานที่ที่มันไปปรากฏได้แบบฟรีๆ ถามว่าแล้วแบบนี้พวกเขาจะหาเงินจากไหน คำตอบคือเซสชั่นถาม-ตอบข้อมูลเชิงลึกให้ผู้ใช้ รวมถึงการขายข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์มาแล้วให้นักวิทยาศาสตร์หรือนักวิจัยไปศึกษาต่อนั่นเอง
แต่ถ้าให้นึกถึงธุรกิจ UFO ที่ทั้งสนุกและยกระดับความเป็นอยู่ของเจ้าของธุรกิจ รวมถึงคนในเมืองได้อย่างสร้างสรรค์ เรานึกถึงร้านสบู่ 1846 House Soaps ที่ตั้งในไพน์บุช หมู่บ้านเล็กๆ ในนิวยอร์ก
แล้วร้านสบู่มันเกี่ยวอะไรกับเอเลี่ยน–คุณอาจสงสัย แต่เปล่าเลย สบู่ของร้านไม่ได้มีธีมเกี่ยวกับเอเลี่ยนด้วยซ้ำ แต่เหมือนกับ Atomic Inn และ Hangar 209 นั่นแหละ ไพน์บุช ที่ตั้งของร้านสบู่นี้เป็นแหล่งพบ UFO ที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งมาตั้งแต่ช่วงปี 60s ถึงขนาดที่ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางของ UFO ในฝั่งอีสต์โคสต์ของอเมริกา ซึ่งไม่ใช่แค่จานบิน UFO เท่านั้น แต่ที่นี่ยังมีรายงานถึงแสงแฟลชบนฟ้า และการปรากฏตัวของ ‘มนุษย์จากนอกโลก’ เลยทีเดียว
ความสนุกสนานคือเมื่อโลกดำเนินมาสู่ช่วงเศรษฐกิจซบเซา Lynn Inglima เจ้าของร้านสบู่ 1846 House Soaps และชาวเมืองไพน์บุชจึงผุดไอเดียดึงแขกให้เข้ามาเที่ยวที่เมืองมากขึ้น และประกาศจัด Pine Bush UFO Festival and Parade เทศกาลและพาเหรดยูเอฟโอที่ชวนผู้คนมาแข่งตัวเป็นเอเลียนกัน
พวกเขายังส่งเสริมภาคธุรกิจชุมชนด้วยกิจกรรม Alien Hide and Seek ที่ชาวเมืองจะช่วยกันซ่อนเอเลี่ยนตัวเขียวชื่อ Alfie ไว้ในมุมใดมุมหนึ่งของร้านรวงต่างๆ ในเมือง หากลูกค้าหาเจ้าอัลฟี่เจอก็จะรับตั๋วพิเศษ ถ้าสะสมตั๋วครบตามจำนวนที่เมืองกำหนดไว้ ลูกค้าสามารถเอามาแลกไอศครีมฟรีได้เลย ในงานยังมีโชว์ที่น่าตื่นตาตื่นใจและมีเลกเชอร์จริงจังเกี่ยวกับ UFO สำหรับสายวิชาการ ซึ่งประสบความสำเร็จระดับที่ทำให้จำนวนร้านค้าในเมือง จากที่เคยนับได้หยิบมือพุ่งขึ้นไปถึง 50 ร้าน!
ไอเดียเหล่านี้ทำให้เราได้เรียนรู้ว่า ธุรกิจบางอย่างก็เหมือน ‘อะไรแปลกๆ บนฟ้า’ นั่นแหละ ครั้งแรกที่ได้ยินมันอาจจะเป็นไอเดียที่พูดไปก็คงไม่มีใครเชื่อเลยว่ามีจริง (ในแง่ธุรกิจคือทำให้สำเร็จได้จริงๆ) การพิสูจน์มันอาจมีแค่หนทางเดียวเท่านั้น
นั่นคือการทำให้คนอื่นเห็น