Climbing the Maw10
ประสบการณ์หน้าร้านและสินค้าระดับ ‘โคตรสุด’ ของ Maw10 ร้านเสื้อผ้าและอุปกรณ์เอาต์ดอร์
ในวันที่เทรนด์การทำกิจกรรมเอาต์ดอร์ได้รับความนิยมมากขึ้น ผู้คนเริ่มใช้วันหยุดสุดสัปดาห์ไปกับการเดินเขา ปีนผา หรือวิ่งในสวนสาธารณะกันอย่างแน่นขนัด ร้านจำหน่ายสินค้าและอุปกรณ์ต่างๆ จึงเพิ่มจำนวนมากขึ้นตาม ขณะเดียวกันก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับกระแสที่ว่านี้ยิ่งขึ้น
เพราะนอกจากคุณภาพของสินค้าที่ต้อง ‘ทนมือ ทนเท้า’ ผู้ใช้งานระหว่างกิจกรรมที่สมบุกสมบันแล้ว เรื่องของความสวยงาม ดีไซน์ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และรสนิยมของผู้สวมใส่ ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อเสื้อผ้าสักชุด รองเท้าสักคู่ หรือสารพัดอุปกรณ์ของคนกลุ่มนี้เช่นกัน
ชาญ เพียรพัฒนาวิทย์ ผู้ที่หลงใหลการทำกิจกรรมเอาต์ดอร์ยิ่งชีพจึงตัดสินใจเปิด Maw10 (อ่านว่า เมา-เท่น ซึ่งพ้องเสียงกับภาษาอังกฤษที่แปลว่า ภูเขา) เพราะอยากนำเข้าสินค้าที่เขาใช้คำว่า ‘โคตรสุด’ ทั้งในแง่คุณภาพ เทคโนโลยี ดีไซน์ และภาพลักษณ์ของแบรนด์ มาให้คนไทยได้ลองสัมผัส ลองสวมใส่
หลังเปิดร้านผ่านช่องทางออนไลน์ไม่นาน ชาญตัดสินใจเปิดหน้าร้าน Maw10 ที่อ่อนนุช 39 อันเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างยิมปีนผา และสวนสาธารณะต่างๆ ภายในร้านตกแต่งโอ่โถง โล่งสบาย มีการเสริมกระจกเพื่อให้ดูโปร่งยิ่งขึ้น ทั้งยังจัดไฟ และใช้วัสดุตกแต่งให้ดูดีมากที่สุด
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อสร้างประสบการณ์ระดับพรีเมียม แบบเดียวกับที่สินค้าเขาคัดสรรเข้ามา โดยหวังว่าลูกค้าที่มาแวะเวียนที่หน้าร้านจะเข้าใจและประทับใจสิ่งที่แบรนด์ระดับโลกและ Maw10 ต้องการส่งมอบ
Climbing Dreams
“เดิมที Maw10 เกิดจากปัญหาในการเลือกรองเท้าปีนผาของเราเลย” ชาญเล่าถึงจุดเริ่มต้นของแบรนด์
“เมื่อก่อนหากอยากได้รองเท้าคุณภาพดี ทางเดียวที่จะหาซื้อได้คือต้องไปสั่งมาจากต่างประเทศเท่านั้น ทว่าครองเท้าปีนผาจะแตกต่างกว่ารองเท้าประเภทอื่น ทั้งในเรื่องขนาดที่ต้องพอดีกับรูปเท้าทุกส่วน ทั้งปลายเท้า ส้นเท้า อุ้งเท้า มันมีรายละเอียดเยอะมาก
“หากจะให้ออนไลน์ จึงเป็นเรื่องที่สุ่มเสี่ยงมากว่าจะได้รองเท้าปีนผาตรงไซส์หรือเปล่า หรือมันจะเข้ากับรูปเท้าเราจริงๆ ไหม เราจึงคิดว่าถ้ามีร้านที่ให้คนลองรองเท้าปีนผาได้ ก็น่าจะตอบโจทย์และช่วยแก้ปัญหาของลูกค้าได้”
สินค้าหลักของ Maw10 ที่เลื่องชื่อคือแบรนด์ Scarpa ซึ่งเป็นแบรนด์สินค้าเอาต์ดอร์จากประเทศอิตาลี และ Satisfy แบรนด์เสื้อผ้าออกกำลังกายจากฝรั่งเศส ชาญเล่าว่าเหตุผลที่นำเข้าทั้งสองแบรนด์นี้ เพราะเขามองว่านี่คือแบรนด์ที่ ‘เป็นที่สุด’ ทั้งในวงการปีนผาและวิ่งเทรล
“คำว่าสุดของเรา หมายถึงการเป็นแบรนด์ที่ทำเสื้อผ้าคุณภาพดีที่สุด มีเทคโนโลยีที่สุด มีการดีไซน์ที่ดีที่สุด รวมถึงทำการตลาดได้อีกด้วย เราว่าทุกคนคงต้องอยากลองสิ่งที่ดีที่สุดในทุกเรื่องอยู่แล้ว เราเลยอยากให้เขาได้ลองสินค้าของทั้งสองแบรนด์นี้ดู”
Feel the Peak
ไม่นานนักหลังนำเข้าสินค้า ชาญตัดสินใจเปิดหน้าร้าน Maw10 ในย่านอ่อนนุช 39 ด้วยมองว่า การมีหน้าร้านเป็นเหมือนปลายทางที่ทำให้คนได้เข้ามาสัมผัสและรู้จัก ทั้งสินค้าและตัวแบรนด์มากยิ่งขึ้น
“ด้วยความที่สินค้าเรานำเสนอ ‘ความสุด’ ทั้งคุณภาพและเทคโนโลยี เราเลยอยากให้ลูกค้าได้เห็น ได้สัมผัสว่าไอ้ความสุดนี้มันเป็นยังไง อย่างเสื้อของแบรนด์ Satisfy จะมีบางรุ่นที่ขาดเป็นรู ซึ่งบางคนเขาไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมีรู แต่ถ้าเข้าได้มาลองจับ ได้มาคุยกับเรา จะได้รู้ว่ามันแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ในตลาดยังไง
“อีกอย่างการมีหน้าร้านยังเป็นเหมือนอีกหนึ่งหมุดหมายที่ทำให้แบรนด์ Maw10 มีความพรีเมียมและไฮเอนด์ ตามสินค้าที่นำเข้ามาจัดจำหน่ายด้วย”
ชาญยังมองว่ามากไปกว่าการเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้เข้ามาสัมผัสสินค้าจริงแล้ว หน้าร้านยังมอบประสบการณ์และอารมณ์ร่วมให้แก่ลูกค้าได้
“ส่วนตัวเรารู้สึกว่าสินค้าที่เกี่ยวกับแฟชั่นมันต้องมีการสัมผัส มีการลองจับเนื้อผ้า ลองสวมใส่ ลองยืนมองตัวเองในกระจก มันถึงจะทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเหมาะกับแบรนด์และสินค้า การมีหน้าร้านจะเข้ามาช่วยเสริมในจุดนี้”
ส่วนโลเคชั่นบริเวณอ่อนนุช 39 ที่ดูเหมือนจะไกลจากตัวเมืองและห่างไกลจากลูกค้า ทว่าชาญกลับเลือกพื้นที่ตรงนี้อย่างถ้วนถี่ด้วยเป็นย่านที่ใกล้กับยิมปีนผาจำลอง เช่น Rock Domain หรือสวนสาธารณะอย่างสวนหลวง ร.9 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กลุ่มลูกค้าของแบรนด์มักเข้าไปใช้บริการเป็นส่วนใหญ่
The Climber’s Haven
เมื่อก้าวเท้าเข้ามาในดินแดนของ Maw10 สิ่งแรกที่สังเกตและรู้สึกได้ทันทีคือความโปร่ง ด้วยดีไซน์ที่ใช้กระจกเป็นองค์ประกอบหลัก การยกเพดานสูง รวมถึงการจัดวางไฟในตำแหน่งต่างๆ จนทำให้กลายเป็นหน้าร้านที่เข้ามาครั้งแรกแล้วรู้สึกสบายและกว้างขวางกว่าพื้นที่จริง
ภายในยังตกแต่งด้วยปูนเปลือย ส่วนบรรดาสินค้าทั้งจากแบรนด์ Scarpa และ Satisfy ต่างถูกจัดวางในจุดที่แสงไฟตกกระทบอย่างสวยงาม ความรู้สึกดีๆ ที่เกิดขึ้นนี้เกิดจากเชื่อของชาญที่ว่าหน้าร้านที่ดีคือหน้าร้านที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกถูกดูดเข้าไปในโลกอีกใบ เพื่อดึงให้ลูกค้าได้ใช้เวลากับสินค้าที่ดี อยู่กับแบรนด์ที่ดี อยู่กับการบริการที่ดี จนทำให้รู้สึกอินกับมันได้มากขึ้น
“ด้วยความที่สินค้าของเราเกี่ยวข้องกับการปีนผาและวิ่งเทรล เราเลยอยากให้มันดูโล่งสบาย รวมถึงจะเห็นได้ว่าเรามีหินจำลองสำหรับปีนผาติดไว้ที่ฝาผนังด้วย แต่ปีนไม่ได้นะ (หัวเราะ)”
มากไปกว่าดีไซน์ที่ให้ความรู้สึก อีกเรื่องสำคัญคือการคำนึงถึงฟังก์ชั่นในการใช้ร้านให้ได้ประโยชน์สูงสุดเพราะนอกจากลูกค้าแล้ว ผู้ประกอบการ และพนักงานก็ต้องทำงานในพื้นที่นี้ด้วย ดังนั้นการจัดการต่างๆ เช่น ห้องเก็บสินค้า การทำโอเปอเรชั่นต้องวางแผนมาอย่างดีเพื่อให้คนทำงานทำงานได้สะดวกที่สุด
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ชาญมองว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญในการทำธุรกิจเกี่ยวกับ retailer หรือ distributor
“การเป็นผู้นำเข้าหรือตัวแทนจำหน่าย สิ่งสำคัญที่สุดเราต้องดูว่าแบรนด์นั้นๆ เขาทำได้ดี ทำได้แตกต่าง และทำได้จริงอย่างที่โฆษณาไหม ทั้งดีไซน์ รวมถึงเทคโนโลยี ไม่ใช่เป็นสินค้าทั่วไปแล้วแค่เอาโลโก้มาแปะสร้างแบรนด์
“มากไปกว่านั้นคือเราต้องดูวิธีการทำการตลาดของเขาด้วย เพราะเราที่เป็นเหมือนตัวแทนของเขาต้องนำตัวตนและเอกลักษณ์ของแบรนด์นั้นๆ มานำเสนอให้กับกลุ่มผู้ซื้อชาวไทย ที่อาจจะไม่รู้จักแบรนด์นี้มาก่อน ถ้าหากตัวแบรนด์ทำได้ไม่ดีพอ ก็ยากที่จะทำให้คนไทยเปิดใจมาลองสินค้าแบรนด์ดังกล่าวได้”
ขณะเดียวกันในฐานะผู้นำเข้าอย่างชาญก็ต้องนำเสนอสินค้าของแบรนด์ให้ดีที่สุด เช่นเดียวกับที่เขาตั้งใจสร้างหน้าร้าน Maw10 แห่งนี้ขึ้นเพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีและตัวตนของแบรนด์ให้ลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติสัมผัสได้นั่นเอง