Cope Notes

‘Cope Notes’ ผู้รอดชีวิตจากภาวะสุขภาพจิตสู่สตาร์ทอัพที่ช่วยเยียวยาจิตใจผู้คนด้วยข้อความ SMS

องค์การอนามัยโลก หรือ WHO (World Health Organization) ได้เผยแพร่ข้อสรุปเกี่ยวกับสุขภาพจิตโลกที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เปลี่ยนผ่านศตวรรษเอาไว้ว่า ในปี 2019 ผู้คนเกือบพันล้านคน รวมถึงวัยรุ่น 14% ของโลก ที่เผชิญกับคาวมยากในการดำเนินชีวิตด้วยสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับสภาวะทางจิตใจ การฆ่าตัวตายนับเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 100 ของการเสียชีวิต และ 58% ของการฆ่าตัวตายเกิดขึ้นกับคนที่อายุน้อยกว่า 50 ปี

การถูกล่วงละเมิดทางเพศในวัยเด็กและการตกเป็นเหยื่อการถูกกลั่นแกล้งเป็นสาเหตุสำคัญของภาวะซึมเศร้า ความไม่เท่าเทียมกันทางสังคมและเศรษฐกิจปัญหาด้านสาธารณสุขที่เลวร้าย สงคราม และวิกฤตสภาพภูมิอากาศเป็นหนึ่งในภัยคุกคามเชิงโครงสร้างระดับโลกต่อสุขภาพจิตใจทั้งสิ้น อัตราของคนที่มีภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวลเพิ่มขึ้นมากกว่าถึง 25% ในปีแรกของการระบาดโควิด-19

แม้เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมทันสมัยมากมายถูกพัฒนาไปได้ไกลแค่ไหน คำมั่นสัญญาว่าสิ่งใหม่ๆ จะช่วยทำให้ชีวิตของทุกคนดีขึ้นกลับไม่ได้เป็นจริงในวงกว้าง คนที่ได้รับผลประโยชน์จากโลกทุนนิยมเป็นเพียงคนกระจุกเล็กๆ เพียงหยิบมือ แต่โดยรวมแล้วโลกกำลังอยู่ในช่วงวิกฤต สภาพแวดล้อมยังคงแย่ลง การรณรงค์เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือความพยายามยับยั้งไม่ให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้นดูไร้ซึ่งความหวัง มนุษย์ที่อาศัยอยู่บนโลกก็ตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก มองไปทางไหนก็เห็นแต่ข่าวร้าย ๆ เต็มไปหมด

จอห์นนี่ โครว์เดอร์ (Johnny Crowder) คือหนึ่งในผู้รอดชีวิตจากการการุณยฆาต เขาเคยถูกทารุณกรรมตอนที่เป็นเด็กและได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคจิตเภทและโรคอารมณ์สองขั้ว รวมถึงโรคย้ำคิดย้ำทำ ซึ่งเป็นโรคจิตเภทหลังเหตุการณ์เลวร้าย และอื่นๆ เขาใช้ทั้งชีวิตกับปัญหาทางสภาพจิตใจและพยายามทุกวิถีทางเพื่อค้นหาวิธีที่อยู่กับมันให้ได้ จากประสบการณ์ส่วนตัวกับความเจ็บป่วยทางจิตเขาเข้าใจเลยว่าปัญหานี้ไม่ควรถูกมองข้ามและคนป่วยที่ต้องการความช่วยเหลือนั้นเปราะบางมากแค่ไหน

โครว์เดอร์ทราบดีว่าปัญหาทางโครงสร้างสังคมและเหตุการณ์ร้ายๆ ในชีวิตสามารถผลร้ายต่อสภาพจิตใจมากแค่ไหน เพราะเขาเองก็รู้สึกแบบเดียวกันมาก่อน ทั้งประสบการณ์ส่วนตัวเกี่ยวกับความเจ็บป่วยทางจิตใจ รวมกับการศึกษาด้านจิตวิทยาที่มหาวิทยาลัย Central Florida และการเป็นอาสาสมัครมาตลอดชีวิต เขาเริ่มคิดถึงวิธีช่วยเหลือคนอื่นๆ ให้มีกำลังใจในการก้าวต่อไปข้างหน้าได้และสร้างสตาร์ทอัพที่ชื่อ ‘Cope Notes’ ขึ้นมาในปี 2018 โดยเป็นบริการส่งข้อความเชิงบวกพร้อมกับวิธีการรับมือกับช่วงเวลาแย่ๆ ของชีวิตทาง SMS ให้กับคนที่สมัครเป็นสมาชิก 

“ถึงจุดหนึ่งผมก็ตระหนักว่าการโดนรบกวนแบบสุ่มๆ ระหว่างวันสามารถกระตุ้นความคิดเชิงบวกของตัวเองได้ การถูกรบกวนด้วยเรื่องดีๆ มีประโยชน์มากตอนที่ต้องจัดการกับความโกรธ ความเศร้า และวิตกกังวล ผมก็เริ่มด้วยการเขียนข้อความเชิงบวกถึงตัวเองด้วยกระดาษโน้ตแล้วทิ้งไว้รอบๆ บ้าน แต่เราก็ยังรู้ว่ามันอยู่ตรงไหน จนผมอยากจะเซอร์ไพรส์ตัวเองจริงๆ นั่นคือจุดที่ไอเดียของข้อความ SMS เข้ามาในหัว”

โครว์เดอร์ทดลองไอเดียโดยการสุ่มส่งข้อความเชิงบวกไปหาเพื่อน 30 คนเพื่อดูเสียงตอบรับว่าทุกคนคิดยังไง ซึ่งส่วนใหญ่ที่ได้รับข้อความก็จะบอกเขาว่า “นายรู้ได้ยังไงว่าฉันกำลังต้องการที่จะได้ยินคำเหล่านี้อยู่พอดี” นั่นเป็นจุดที่เขาเริ่มมั่นใจแล้วว่านี่คือสิ่งที่จะช่วยคนอื่นได้จริง

6 เดือนต่อมาเขาใช้เวลาเพื่อวางระบบและก่อตั้ง Cope Notes ขึ้นมา มันเป็นบริการที่จะส่งข้อความเป็นระยะๆ ในช่วงเวลาที่ต่างกันในแต่ละวัน ข้อความมีทุกอย่างตั้งแต่ข้อมูลทางจิตวิทยาและแบบฝึกหัดเพื่อยกระดับคุณภาพทางจิตใจ ไปจนถึงคำพูดที่สร้างแรงบันดาลใจ วอลเปเปอร์โทรศัพท์ หรือคำถามที่คุณสามารถพิมพ์โต้ตอบได้ เนื้อหาทั้งหมดได้รับการเขียนขึ้นมาจากมนุษย์และประสบการณ์จริงของเขาและทีมงาน มีการตรวจสอบโดยคณะแพทย์ นักบำบัด และผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรบุคคล เพื่อให้แน่ใจว่าข้อความที่ส่งไปแต่ละข้อความจะสร้างผลกระทบที่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ โครว์เดอร์บอกว่าเหตุผลที่ต้องทำเป็นระบบสมาชิกเพราะเรื่องสุขภาพจิตนั้นไม่มียารักษาที่กินแล้วหายเลย แต่มันเป็นกระบวนการที่ต้องทำต่อเนื่องนานมากพอถึงจะเห็นผล

วิตนีย์ โพสส์ (Whitney Poss) หนึ่งในลูกค้าที่ใช้งานมาตั้งแต่ปี 2019 บอกว่า

“คนส่วนใหญ่คิดว่าการรับมือกับอารมณ์หมายถึงการข้ามผ่านมันไป เรามองข้ามอารมณ์ของเราตลอดเวลา จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณลองรู้สึกกับมันจริงๆ? … ฉันทำได้นะ ฉันปล่อยให้ตัวเองร้องไห้ได้เลย ซึ่งไม่เคยทำมาก่อน เป็นประสบการณ์ที่ปลดปล่อยตัวเองอย่างมากเลย”

โพสส์บอกว่าหลังจากที่ได้รับข้อความจาก Cope Notes ก็ช่วยทำให้เธอรับมือกับอารมณ์และความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้ดีมากขึ้น โครว์เดอร์ไม่ได้สร้างบริการนี้ขึ้นมาเพื่อทดแทนการไปพบเจอผู้เชี่ยวชาญ แต่เขาบอกว่ามันจะเป็นเหมือนอาหารเสริมเพื่อช่วยให้แต่ละวันนั้นมีเแรงส่งทางบวกเข้ามาให้คุณไปต่อได้อีก เป็น ‘เครื่องมือป้องกัน’ สุขภาพจิตก่อนที่มันจะเลวร้ายจนเกินไป การฝึกสมองให้มองเชิงบวกจะค่อยๆ ปรับมุมมองของชีวิตและฝึกให้สมองนั้นคิดบวกมากขึ้นไปด้วย โครว์เดอร์บอกว่า

“ทุกข้อความถูกเขียนขึ้นโดยใครสักคนที่มีประสบการณ์โดยตรงในการเอาชนะความบอบช้ำ การเจ็บป่วย การล่วงละเมิด หรือการสูญเสีย จากนั้นข้อความจะถูกตรวจสอบโดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตก่อนที่จะถูกส่งแบบสุ่มเพื่อตัดความคิดเชิงลบที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ เมื่อเวลาผ่านไป ข้อความง่ายๆ เหล่านี้จะฝึกสมองของคุณให้คิดเชิงบวก”

หลังจากเปิดตัวในปี 2018 Cope Notes เติบโตอย่างรวดเร็ว ได้รับการสนับสนุนจากทั้งบุคคลทั่วไปและในรูปแบบขององค์กรบริษัทและโรงเรียนต่างๆ ด้วย เพราะอย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่าปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของสุขภาพจิตใจนั้นกำลังลุกลามอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กวัยรุ่น มหาวิทยาลัย และวัยทำงาน ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนคนวัยนี้จะเป็นช่วงวัยที่เต็มไปด้วยความหวังและมองทางบวกมากกว่าช่วงวัยอื่นๆ

ยิ่งพอโควิด-19 ระบาด บริการของพวกเขายิ่งเป็นที่ต้องการมากยิ่งขึ้น เมื่อคนต้องกักตัวอยู่บ้าน เครียดกับงานที่หายไป เพื่อนฝูงหรือครอบครัวที่เสียชีวิต ฯลฯ บริการสุขภาพและสุขภาพจิตออนไลน์นั้นเติบโตอย่างต่อเนื่องมาเรื่อยๆ ถึงตอนนี้โควิด-19 เริ่มซาลง ผู้คนเริ่มกลับไปใช้ชีวิตประจำวันตามเดิม แต่ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิตนั้นก็ยังไม่หายไปไหน บางคนรู้สึกกังวล หลายคนเครียด ซึมเศร้า 

สื่ออย่าง CNN เขียนเกี่ยวกับ Cope Notes ว่า “ท่ามกลางปัญหามากมาย แหล่งข้อมูลที่นำโดยคนที่มีประสบการณ์อย่าง Cope Notes จำเป็นต่อการสร้างสุขภาพจิต ความแข็งแกร่ง และความยืดหยุ่นที่เราจะต้องมีขึ้นมาใหม่เพื่อให้พร้อมเผชิญกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต”

โครว์เดอร์รู้ดีว่าทรัพยากรทั้งด้านการเงินและบุคลากรที่จะช่วยเหลือในระบบสาธารณสุขของรัฐเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิตใจนั้นไม่เคยเพียงพอ แม้สถิติจะบ่งบอกอย่างชัดเจนว่ามีประชากรจำนวนมากที่เผชิญหน้ากับมันและไม่ได้รับความช่วยเหลืออย่างที่ควรจะได้รับ เขาจึงตั้งบริษัทนี้ขึ้นมาในรูปแบบของบริษัทที่เก็บเงิน แทนที่จะเป็นองค์กรการกุศล เพื่อจะได้นำเงินตรงนั้นมาใช้เพื่อช่วยเหลือให้ได้เยอะที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะจากประสบการณ์เป็นจิตอาสามาตลอดทั้งชีวิตเขาเห็นองค์กรการกุศลหลายแห่งปิดตัวไปเพราะเงินบริจาคไม่เพียงพอ แถมยังมีเรื่องกฎหมายและขั้นตอนอันยุ่งยากสำหรับองค์กรการกุศลเวลาที่ต้องการปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ (จะต้องมีการประชุมกับผู้บริจาคต่างๆ) สุดท้ายการทำให้ออกมาในรูปแบบบริษัทจึงตอบโจทย์มากกว่า

ถึงตอนนี้ Cope Notes ได้แลกเปลี่ยนข้อความโต้ตอบกับสมาชิกไปแล้วกว่า 5 แสนครั้งใน 93 ประเทศทั่วโลก พาร์ตเนอร์กับองค์กรของรัฐ โรงเรียน มหาวิทยาลัย และบริษัทเอกชนต่างๆ และสร้างผลกระทบทางบวกที่ดีให้กับสมาชิกไปแล้วกว่า 16,000 ชีวิต

เราไม่มีทางรู้หรอกว่าคนที่เราพบเจอทุกวันกำลังเผชิญอะไรอยู่บ้าง ปัญหาหรือความรู้สึกที่แบกเอาไว้บนบ่าบางทีไม่ได้แสดงออกมาให้คนอื่นเห็น หลายคนเลือกที่จะเก็บมันเอาไว้เพราะบริบทของสังคมที่มองเรื่องปัญหาทางสุขภาพจิตใจว่าเกิดขึ้นกับคนที่อ่อนแอเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริงเลย ไม่ว่าใครก็สามารถตกอยู่ในสภาวะเศร้า โกรธ​ เสียใจ ผิดหวัง บางครั้งอยากหนีปัญหาไปไกลๆ ให้พ้นๆ จากตรงนี้ นั่นคือเหตุผลที่ว่าการพูดคุยและยอมรับเกี่ยวกับเรื่องนี้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นมาก

Cope Notes ไม่ใช่แพทย์ที่จะจ่ายยาเพื่อลดความกังวลของคุณลง หรือทำให้เคลิ้มแล้วนอนหลับ แต่เป็นเหมือนเพื่อนที่ช่วยปลอบประโลมในวันที่เหนื่อยล้าให้มีแรงลุกขึ้นไปสู้ต่อ หรืออย่างน้อยๆ ก็เปิดพื้นที่ให้คุณได้ร้องไห้อย่างสบายใจ แม้เพียงชั่วขณะหนึ่งก็ตาม 

เพราะทุกคน ไม่ว่าใครล้วนแบกอะไรไว้สักอย่างหนึ่งเสมอ

อ้างอิง

Writer

คุณพ่อลูกหนึ่งจากเชียงใหม่ที่รักการเขียน การอ่าน และการดองหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ หลงใหลเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจและเป้าหมายการทำงานที่เป็นมากกว่าแค่ผลกำไรและทำงานหนักจนลืมความหมายของการมีชีวิตอยู่

You Might Also Like