นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการใช้คุกกี้

บริษัท ทุนดี จำกัด (“บริษัท”) มีความจำเป็นต้องใช้คุกกี้ในการทำงานหลายส่วนของเว็บไซต์เพื่อรับประกันการให้บริการของเว็บไซต์ที่จะอำนวยความสะดวกในการใช้บริการเว็บไซต์ของท่าน โดยบริษัทรับประกันว่าจะใช้คุกกี้เท่าที่จำเป็น และมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลของท่านโดยสอดคล้องกับกฎ หมายที่เกี่ยวข้อง และจะไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้แก่บุคคลอื่น เว้นแต่เป็นกรณีการใช้คุกกี้บางประเภทที่อาจดำเนินการโดยผู้ให้บริการภายนอก ทั้งนี้ เมื่อท่านเข้าใช้บริการเว็บไซต์ บริษัทจะถือว่าท่านรับทราบและตกลงนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้แล้ว โดยบริษัทสงวนสิทธิ์ในการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ตามแต่ละระยะเวลาที่บริษัทเห็นสมควร โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวผ่านทางเว็บไซต์นี้... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customized advertisements based on the pages you visited previously and to analyze the effectiveness of the ad campaigns.

The Go-Getter Guide to Perseverance & Never Giving Up

Cariber คอร์สเรียนออนไลน์กับรุ่นใหญ่ที่คิวเรตโดยคนรุ่นใหม่

ธุรกิจแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์อาจไม่ใหม่นัก 

และคอนเซปต์เรื่องการเรียนรู้จากตัวจริงของแต่ละวงการก็อาจไม่ใหม่มาก

ทว่าการมาถึงของแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์กับตัวจริงของแต่ละวงการอย่าง Cariber ก็สั่นสะเทือนแวดวง Ed Tech เมืองไทยมากพอให้เราหันมอง

เหตุผลส่วนหนึ่งเป็นเพราะชื่อชั้นของผู้สอนแต่ละคนที่ใช่ว่าจะหาโอกาสพบปะพูดคุยได้ง่ายๆ เป็นต้นว่า

มณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ CEO แห่ง SEA ประเทศไทย (บริษัทแม่ของ Garena, Shopee, SeaMoney)

– สาธิต กาลวันตวานิช ผู้ร่วมก่อตั้ง Phenomena และ Propaganda

– บรรจง ปิสัญธนะกูล ผู้กำกับพันล้านเจ้าของผลงานอย่าง ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ, พี่มาก..พระโขนง และร่างทรง

และเหตุผลอีกส่วนเป็นเพราะชื่อชั้นของสองผู้ก่อตั้งอย่าง พี–พีรเดช มุขยางกูร และ ฟิว–ณัฐพนธ์ เมธาภาคย์ ที่เป็นเหมือนด้านกลับของครูผู้สอนโดยสิ้นเชิง

คือพูดชื่อออกไปต้องมีงงว่าสองคนนี้คือใคร

แต่นี่แหละคือหนึ่งในจุดแข็งที่ทำให้สองบัณฑิตจากรั้ว BBA Thammasat ปลุกปั้น Cariber ขึ้นมาได้สำเร็จ

พวกเขาทำได้ยังไง บรรทัดต่อจากนี้มีคำตอบ

EP01 : จาก ‘Career Fact’ สู่ ‘Cariber’

ต้นทุนสำคัญของ Cariber คือ Career Fact

แรกเริ่มเดิมทีพีและฟิวลาออกจากงานประจำมาก่อตั้ง Career Fact สื่อออนไลน์ว่าด้วยเส้นทางสายอาชีพที่โดดเด่นด้วยวิดีโอสัมภาษณ์ผู้คนหลากหลายอาชีพ

“โดยส่วนตัวผมใช้ LinkedIn บ่อยกว่าเฟซบุ๊ก” พีเล่าที่มาที่ไปด้วยรอยยิ้ม “คือชอบเรื่องการงาน การหางาน การสมัครงาน ตอนระหว่างเรียนผมฝึกงาน 4 ที่ และก่อนหน้าที่จะมาทำ Career Fact ก็เคยทำ free career counseling service มาก่อน ช่วยรุ่นน้องปรับเรซูเม่ หาที่ฝึกงาน หางาน แบบไม่คิดตังค์”

ด้วยแพสชั่นอย่างที่ว่า ประจวบเหมาะกับช่องว่างในตลาดที่ยังไม่มีสื่อที่พูดเรื่องการงานอาชีพโดยเฉพาะ ร่วมด้วยฝีมือด้านการเขียนของฟิวผู้มีประสบการณ์เขียนหนังสือข้อสอบมาก่อน สองหนุ่มช่วยกันบิลด์ Career Fact จากยอดไลก์หลักพันสู่หลักแสนภายในเวลาเพียงปีเดียว 

หนึ่งในเคล็ดลับความสำเร็จของพวกเขาน่ะเหรอ? 

คือ LinkedIn

EP02 : ต่อจุดคอนเนกชั่น

อย่างที่พีบอกว่าเขาชอบใช้ LinkedIn มาก หนึ่งในวิธีการได้มาซึ่งซับเจกต์สำหรับสัมภาษณ์ลง Career Fact คือการทักไปหาทางกล่องข้อความของ LinkedIn 

ในบรรดาผู้คนจำนวนมากที่เขาทักไปมี ท็อป–จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้ง Bitkub อยู่ด้วย 

ปรากฏว่าหลังได้ร่วมงานกัน ท็อปถูกชะตาพีและฟิวมาก จนเป็นสปอนเซอร์คนแรกของ Career Fact แถมยังชวนให้ทั้งคู่ไปใช้พื้นที่ออฟฟิศของเขาแบบฟรีๆ อีกต่างหาก

“ทำไมเขาถึงช่วยคุณขนาดนี้” เราอดสงสัยไม่ได้ 

“เขาบอกว่าคล้ายๆ เห็นตัวเองในตอนที่เริ่มต้นอยู่ ตอนแรกเขาก็ไม่มีออฟฟิศเหมือนกัน” พีผู้เคยถามคำถามนี้กับท็อปมาแล้วทวนคำตอบของสตาร์ทอัพรุ่นพี่ให้ฟัง 

(Fun Fact : พีและฟิวกดเปิดตัวเว็บไซต์ Cariber ที่ออฟฟิศของท็อปด้วยนะ)

ไม่ใช่แค่ท็อป แต่ซับเจกต์เกือบๆ 200 คนที่พวกเขาได้สัมภาษณ์ระหว่างการทำ Career Fact ต่างก็พร้อมยื่นมือเข้าช่วยเหลือผู้ประกอบการหน้าใหม่

 “จริงๆ แล้วการได้เจอพี่ๆ หรือคนที่ไปสัมภาษณ์ทุกคนเป็นต้นทุนที่ดีมากๆ หลายคนไม่ได้เป็นผู้สอน แต่แนะนำเราไปหาผู้สอน ช่วยคอนเนกต์ให้ ช่วยโปรโมตให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งเราก็ซึ้งใจมากๆ ต้องยอมรับเลยว่าเราไม่ได้โตขึ้นมาคนเดียว แต่มีพี่ๆ เหล่านี้และ investor ช่วยซัพพอร์ตอยู่ข้างหลัง” พีว่า

และเอาเข้าจริง Cariber ก็เกิดขึ้นจากคำแนะนำของซับเจกต์ที่พวกเขาไปสัมภาษณ์นี่แหละ

EP03 : เปลี่ยนเทรนด์เป็นธุรกิจ

หลังทำ Career Fact มาได้สักพัก พีและฟิวก็เริ่มมองหาโมเดลอื่นๆ ที่จะสามารถต่อยอดธุรกิจไปได้อีก แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นคือการทำแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์

ระหว่างยังไม่ตัดสินใจ ทั้งคู่ทดไอเดียนี้ไว้ในใจก่อน จนกระทั่งวันหนึ่งได้ไปสัมภาษณ์ แอนท์–อัศวิน โรจน์เมธาทวี หนึ่งในผู้ก่อตั้งเทพบาร์ และ Head of Streaming แห่ง GMM Grammy ซึ่งทักพวกเขาว่า “ทำไมไม่ลองทำแบบ Masterclass ล่ะ”

เหมือนได้รับการยืนยันว่าไอเดียนี้เป็นไปได้ พวกเขาจึงเริ่มศึกษาโมเดลธุรกิจและตลาดของแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์อย่างจริงจัง 

ขอแวะเล่าตรงนี้สักนิดว่า เทรนด์หนึ่งที่พาเหล่าสตาร์ทอัพด้านการศึกษาพุ่งทะยานทั้งในไทยและต่างประเทศคือ Lifelong Learning ซึ่งมีคำนิยามแบบหลวมๆ ว่า การเรียนรู้นอกระบบการศึกษาแบบดั้งเดิม โดยผู้เรียนเป็นคนเลือกเองว่าจะเรียนอะไร เพื่ออะไร และผู้เรียนในที่นี้อาจเป็นนักเรียนที่ยังอยู่ในระบบการศึกษาแต่มองหาเนื้อหาที่การศึกษาในระบบให้ไม่ได้ เป็นเหล่าคนวัยทำงานที่อยากเสริมทักษะใหม่ๆ ทั้งเชิงกว้างและเชิงลึก เป็นคนวัยเกษียณที่ยังอยากเท่าทันโลกที่เปลี่ยนแปลงไปทุกวัน ว่าง่ายๆ คือผู้เรียนจะเป็นใครก็ได้นั่นเอง

อย่างไรก็ดี กลุ่มลูกค้าที่น่าเจาะมากๆ ก็คือเหล่าคนวัยทำงานนี่แหละ โดยเฉพาะคนทำงานออฟฟิศ เพราะข้อมูลจาก Pew บอกว่า บริษัทต่างๆ เทรนพนักงานน้อยลงทุกที (แถมหัวข้อที่เทรนก็มักจะเป็นเรื่องอื่นๆ เช่น ความปลอดภัยในที่ทำงาน มากกว่าจะเป็นหัวข้อที่เกี่ยวกับทักษะของตำแหน่งนั้นๆ โดยตรง) และมองหาพนักงานที่มีทักษะและความรู้พร้อมทำงานทันทีโดยไม่ต้องเทรนมากกว่า

กลับมาที่พีและฟิว ทั้งคู่ทำการบ้านอย่างหนักว่าในตลาดของแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์นั้นมีผู้เล่นแบบไหนอยู่บ้างแล้ว ผู้เรียนต้องการอะไรจากการเรียนรู้ออนไลน์ และยังมีช่องว่างไหนบ้างที่พวกเขาสามารถใช้เป็นทางเข้าสู่ตลาดได้

คีย์เวิร์ดสำคัญที่พวกเขาตกตะกอนได้คือ ‘คุณภาพ’

EP04 : ขอแข่งในเกมนี้ด้วย ‘คุณภาพ’ 

Cariber เปิดตัวด้วย 3 คอร์สเรียน ซึ่งหลายคนอาจมองว่าเป็นจำนวนน้อยนิดเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์เจ้าอื่นๆ แถมออกจะสวนทางกับความเชื่อดั้งเดิมในการทำโมเดลธุรกิจแบบสมัครสมาชิก (subscription) ที่ว่า จำนวนคอร์สเรียน (หรือซีรีส์ หรือบทความ) ยิ่งเยอะ ลูกค้าก็จะยิ่งรู้สึกว่าคุ้มค่า น่าสมัคร

พีและฟิวยอมรับว่าจำนวน 3 คอร์สเรียนเป็นความจำเป็นในการบริหารเรี่ยวแรง ทุนทรัพย์ และเวลาอันจำกัด แต่ที่มันจำกัด ก็เพราะพวกเขานำไปลงทุนให้กับ ‘คุณภาพ’ จนหมด

คนที่เคยเรียนกับ Cariber (หรือกระทั่งแค่เคยดูเทรลเลอร์ของคอร์สเรียนต่างๆ) น่าจะสังเกตเห็นได้ว่าคุณภาพของโปรดักชั่นของพวกเขานั้นไม่เป็นสองรองใคร ทั้งสถานที่ถ่ายทำ การจัดไฟ โมชั่นกราฟิก โน้ตประกอบการเรียน ฯลฯ 

อีกทั้งลำดับการเล่าเรื่องของแต่ละคอร์สเรียนก็ผ่านกระบวนการคิดอย่างละเอียด พวกเขาไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวที่หยิบยกมาใช้กับทุกคอร์ส แต่จะค่อยๆ เจียระไนเรื่องราวของผู้สอนแต่ละคนอย่างพิถีพิถัน แล้วถ่ายทอดออกมาให้กระชับและน่าติดตามที่สุด

แต่ความจริงแล้ว ‘คุณภาพ’ เหล่านี้มาทีหลัง เพราะ ‘คุณภาพ’ แรกที่พีและฟิวตั้งใจโฟกัสคือ ‘คุณภาพของผู้สอน’ ซึ่งพอได้ชื่อว่าเป็นตัวท็อปของแต่ละวงการ จึงไม่ได้ชวนมาร่วมงานกันได้ง่ายๆ แต่ต้องอาศัยความพยายามในการทาบทามในเลเวลที่ว่า ติดต่อไป 100 คนได้รับการตอบรับแค่ 3 คน 

“เฮ้ย เอาคนนี้มาสอนได้ไง เราอยากให้ลูกค้ารู้สึกแบบนี้”​ พีอธิบาย

และนั่นเป็นคำถามเดียวกับที่เราสงสัยเป๊ะเลย

EP05 : ชนะใจผู้สอนด้วยความทุ่มเทและความถ่อมตัว

ไม่ว่าจะติดต่อผู้สอนด้วยการทักหาใน LinkedIn หรือด้วยการต่อจุดคอนเนกชั่นไปเรื่อยๆ เมื่อใดก็ตามที่มีโอกาสได้โทรคุยหรือนัดพบกับผู้สอน พีและฟิวจะทำการบ้านเกี่ยวกับพี่ๆ อย่างหนักเพื่อชนะใจเหล่ารุ่นใหญ่ให้ได้ตั้งแต่ครั้งแรก

“first meeting เป็นประชุมที่ชี้ขาดว่าเขาจะทำหรือไม่ทำ เป้าหมายหนึ่งของเราคือ เราต้องรู้จักเขาให้ดีกว่าที่เขารู้จักตัวเอง รู้จักชีวิตเขาครบจริงๆ แบบ เฮ้ย มันมีมุมนี้ด้วย” พีเล่า ก่อนฟิวซึ่งเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักในขั้นตอนนี้จะช่วยเสริมและยกตัวอย่าง

“ผมต้องพยายามถอด DNA ความเป็นเขา ดูว่าคนนี้เด่นตรงไหนจริงๆ อย่างของพี่ต้อง (กวีวุฒิ เต็มภูวภัทร) เขาทำ 8 บรรทัดครึ่ง มาเยอะมากๆ 700-800 ตอน คำถามสำคัญที่เกิดขึ้นคือ แล้วเราจะให้เขาสอนอะไร จุดเด่นของเขาใน 8 บรรทัดครึ่ง คือพนักงานประจำที่เติบโตในบริษัทใหญ่ที่มาเล่าเรื่องนวัตกรรม แต่นั่นเป็นเรื่องที่เขาพูดอยู่แล้ว เราก็ต้องสร้างจุดต่างให้ได้ 

“ตอนแรกผมยอมรับว่าคิดไม่ออกเลยไปส่องเฟซบุ๊กเขา เลยได้เห็นว่าเขาใช้ชีวิตเป็นแพตเทิร์นชัดเจน เลี้ยงลูก ออกกำลังกาย ทำงาน อัดพ็อดแคสต์ วนลูปไป มันทำให้ผมกลับมาคิดว่าเขาเป็นคนที่มีนิสัยที่ดีมากๆ เลยนะ เขาสามารถทำสิ่งนี้เป็นกิจวัตรได้ ถึงงานยุ่งขนาดนี้แต่ก็มีเวลาไปทำสิ่งอื่นมากมาย แล้วช่วงนั้นเป็นช่วงที่หนังสือ Atomic Habits กำลังดัง ก็เลยเกิดเป็นคอร์ส The Secrets of Habit Transformation ที่สอนเรื่องการสร้างนิสัยขึ้นมา”

การทำการบ้านไปเช่นนี้ ไม่ว่าหัวข้อที่นำเสนอจะถูกใจผู้สอนหรือไม่ (ฟิวบอกว่าก็มีเหมือนกันที่ต้องกลับมาคิดใหม่ทั้งหมด) แต่สิ่งหนึ่งที่ฉายชัดจนมัดใจผู้สอนได้คือความทุ่มเท “เราพยายามทำหน้าที่ของเราให้เต็มที่ พอคนตั้งใจทำ พี่ๆ เขาก็เห็นและสัมผัสได้ว่า เราไม่ได้เอาเวลาเขามาทำเล่นๆ นะ เราให้ใจ ให้ชีวิตจริงๆ กับสิ่งนี้ ผมว่าผู้ใหญ่เขาก็อยากช่วย” พีให้ความเห็น และเฉลยอีกเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้พวกเขาจีบเหล่าผู้สอนติดจนได้

“มันอาจฟังดูคลิเช่ แต่อีกต้นทุนสำคัญของเราคือความเป็นเด็กและความไม่รู้ สิ่งนี้ทำให้เราถ่อมตัว เป็นหนึ่งใน core value ของเราเลย”

EP06 : ประสบการณ์ที่สอนกันได้

“ใครว่าประสบการณ์เป็นสิ่งที่สอนกันไม่ได้” คือข้อความที่ปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ของ Cariber

คำถามนี้น่าสนใจ เพราะภายใต้ร่มของประสบการณ์คือการได้ฝึกฝนจนช่ำชองและการสั่งสมชั่วโมงบินด้วยตัวเอง

“ประสบการณ์ที่ว่าสอนกันได้เนี่ย พวกคุณมีวิธีสอนยังไง”​ เราหย่อนคำถามให้ทั้งคู่

“สิ่งที่เราพยายามทำคือการคิวเรตประสบการณ์ของผู้สอนให้คมที่สุด เข้าถึงง่ายที่สุด และเอาไปปรับใช้ได้ง่ายที่สุด”​ พีให้คำตอบ “จุดหนึ่งที่เราชัดเจนมาตั้งแต่ต้นคือ คอร์สที่ดีไม่จำเป็นต้องยาว บางคนอาจคิดว่าคอร์สยิ่งยาว ยิ่งคุ้ม แต่เราเชื่อต่างไป เราอยากทำคอร์สที่สั้นที่สุดให้ได้ครบที่สุด หลังบ้านเราตัดฟุตเทจออกเกือบครึ่งหนึ่งทุกตอน เพราะเราไม่มายด์ที่จะตัดออกให้เหลือเฉพาะของที่จำเป็น นี่เป็นจุดที่ทำให้เราแตกต่างจากที่อื่น” 

สัญชาตญาณของพีและฟิวนั้นสอดคล้องพอดิบพอดีกับอีกหนึ่งเทรนด์ย่อยในแวดวงการศึกษา นั่นคือ microlearning ซึ่งหมายถึงการเรียนรู้อันกระชับสั้น สามารถเรียนหัวข้อหนึ่งๆ จบได้ภายใน 15-20 นาที เหมาะเจาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้เรียนในยุคปัจจุบัน

แนวคิดนี้เวิร์กหรือไม่เวิร์ก เราขอให้ตัวเลขพูดแทน เพราะ ‘คอร์สที่สั้นที่สุดแต่ครบที่สุด’ ของ Cariber นั้นมีอัตราการเรียนจบอยู่ที่ 32-40% เทียบเท่ายักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Masterclass เชียวล่ะ!

EP07 : บทสรุปตลอดการเดินทาง (ที่ยังไม่สิ้นสุด)

ขณะนี้ Cariber เปิดตัวมาได้ราว 1 ปี มีคอร์สเรียนทั้งหมด 19 คอร์ส (และจะมีคอร์สใหม่เพิ่มในทุกๆ เดือน) เราเชื่อว่านี่ยังเป็นเพียง ‘ระหว่างทาง’ ไม่ใช่ ‘ปลายทาง’ ของสตาร์ทอัพไฟแรงนี้

“เป้าหมายของเราคืออยากจะสร้างการศึกษาที่มีคุณภาพในราคาที่จับต้องได้” พีวาดฝันถึงปลายทางให้ฟัง

“ส่วนในเชิงธุรกิจเราอยากทำให้ Cariber ยั่งยืนและสเกลได้ อย่างหนึ่งคือเราอยากมีคอร์สมากกว่านี้ เพราะสุดท้ายไม่ว่าจะคุณภาพดีขนาดไหน จำนวนก็ต้องมา ซึ่งข้อนี้อาจจะยากนิดนึง แต่เราก็กำลังพยายามสำรวจให้กว้างขึ้น ทั้งในแง่ทาร์เก็ตกรุ๊ปใหม่ โมเดลใหม่ ลองทำดู ถ้าไม่เวิร์กก็พับ เวิร์กก็ทำต่อ”

พูดคุยกันมาถึงจุดนี้ เราอดถามคำถามสุดคลิเช่กับสองคิวเรเตอร์ไม่ได้ว่า ถ้าประสบการณ์การทำสตาร์ทอัพของพวกเขาถูกกลั่นกรองเป็นคอร์สเรียน คอร์สนี้จะชื่อว่าอะไร

“ของผมคงเป็นเรื่อง perseverance หรือความอึด”​ ฟิวตอบก่อน “ล้มแล้วก็ลุก ล้มแล้วก็เรียนรู้ เป็นเรื่องปกติที่เราต้องฝ่าไปให้ได้ แน่นอนว่าปัญหามันยาก แต่เราจะต้องผ่านไปให้ได้”

“สำหรับผม never give up การไม่ยอมแพ้” พีเสริมในมุมของตัวเอง 

“เราไม่ได้มีประสบการณ์หรือเข้าใจ industry นี้มาก่อน แต่สิ่งที่เรามีคือเราทำทุกวัน มันมีวันที่ยาก วันที่ลำบาก แต่เราไม่อยากแพ้ เราอยากทำให้สุด ก็ทำทุกวัน ทำๆๆๆ ทำไปเรื่อยๆ 

“ทุกวันนี้หลายคนมองเข้ามาอาจรู้สึกว่าเราดูดีมาก แต่ความจริงเรายังห่างไกลความสำเร็จและยังมีปัญหาอีกเยอะ ไม่ว่าจะเรื่องคน โปรดักต์ เงินทุน แต่ผมรู้สึกว่าสุดท้ายแล้วมันก็แค่ต้องทำ และมันไม่สวยหรูนะ เพราะจริงๆ ผมเครียดมาก นอนไม่หลับ เงินไม่เข้า มันยาก แต่ก็แค่ต้องทำ ทำแล้วต้องทำให้ได้” พีสรุป  

จากคำตอบเหล่านี้บวกกับความ ‘กัดไม่ปล่อย’ ในแววตาคนทั้งคู่ เราขอถือวิสาสะตั้งชื่อคอร์สเรียนที่สอนโดยพีและฟิวให้เลยก็แล้วกันว่า

The Go-Getter Guide to Perseverance & Never Giving Up 

และแน่นอน ตามธรรมเนียมของ Cariber เราขอจบด้วยประโยคนี้ 

หวังว่าเรื่องราวของพวกเขาจะทำให้คุณไปได้ไกลกว่า

You Might Also Like