City Hotel
7 เบื้องหลังการตั้งชื่อโรงแรมตามชื่อเมืองและสถานที่ยอดฮิตจนใครได้ยินก็อยากไปเที่ยว
อยู่กับโรคระบาดมาหลายปี พอเปิดประเทศทีคนรอบตัวก็วาร์ปไปต่างประเทศกันเก่งมาก แต่สำหรับใครที่ยังไปไหนไม่ได้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร เราอยากชวนวาร์ปไป ‘เมืองนอก’ ที่ตั้งอยู่ในไทย, พูดให้ถูกก็คือวาร์ปไปโรงแรมที่ตั้งชื่อตามเมืองหรือสถานที่ยอดนิยมกัน
ไม่ใช่แค่โรงแรมเหล่านี้ชื่อน่าฉงนที่ฟังแล้วก็ต้องสงสัย หรือมีไวบ์สที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้ไปเที่ยวที่เมืองนอก ทว่าทุกโรงแรมที่เราขออนุญาตหยิบมาแนะนำครั้งนี้ยังมี ‘ของดี’ และ ‘ทีเด็ด’ ที่หลายคนอาจนึกไม่ถึง อย่างโรงแรมฟลอริดามีซี่โครงหมูย่างที่อร่อยมาก หรือโรงแรมไมอามี่มีสระว่ายน้ำสวยที่เคยไปปรากฏในหน้านิตยสาร เอ็มวีของ อิ้งค์ วรันทร ไปจนถึงซีรีส์เน็ตฟลิกซ์!
ทำไมโรงแรมเก่าแก่หลายที่จึงตั้งชื่อตามเมืองหรือสถานที่ยอดนิยม และทีเด็ดที่ว่าของแต่ละโรงแรมจะชวนให้ไปเยี่ยมเยียนได้ขนาดไหน คอลัมน์ Brand Name ขอพาไปหาคำตอบ
โรงแรมไมอามี่
โรงแรมสไตล์ mid century vintage ในย่านสุขุมวิท เจ้าของสระว่ายน้ำสุดไอคอนิกที่มีคำว่า MIAMI เด่นหราบนพื้นกระเบื้อง ซึ่งหลายคนอาจคุ้นตาในหน้านิตยสาร เอ็มวีเพลงเหงา เหงาของอิงค์วรันทร ไปจนถึงซีรีส์เน็ตฟลิกซ์เรื่อง The Serpent
ไมอามี่โฮเต็ลก่อตั้งในปี 2508 โดยคุณบัญชาและคุณมาลี แซ่ตั้ง (ตัณศิริชัยยา) สองสามีภรรยาชาวจีนที่แรกเริ่มทำกิจกรรมสามล้อถีบมาก่อน กระทั่งรัฐบาลของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ออกประกาศให้ยกเลิกใช้สามล้อเพื่อปรับภาพลักษณ์การคมนาคมไทย สองสามีภรรยาจึงมองหาธุรกิจใหม่และมาจบที่โรงแรมในที่สุด ด้วยเหตุผลที่ไม่ต่างจากโรงแรมอื่นๆ ในสมัยนั้น คือเปิดเพื่อต้อนรับทหารจีไอที่ยกพลกันเข้ามาตั้งฐานทัพ
เพราะต้องฮัลโหลเวลคัมคนอเมริกัน ชื่อโรงแรมก็ต้องตั้งให้คุ้นหูคนอเมริกันและเจ้าบ้านคนไทย เผอิญว่าปีนั้นเวทีนางงามจักรวาลไปจัดที่หาดไมอามี่ สหรัฐอเมริกาพอดี ซึ่งตัวแทนจากไทยก็ไม่ใช่ใครที่ไหน อาภัสรา หงสกุล ผู้คว้ามงแรกมาให้ไทยแลนด์ สร้างตำนานไว้ขนาดนี้ก็เอาชื่อหาดมาตั้งเป็นชื่อโรงแรมไปเลยสิคะ
โรงแรมฟลอริดา
นับตั้งแต่ปีพ.ศ.2498 ที่มีสงครามเวียดนาม ชาวอเมริกันจำนวนมากหลั่งไหลมายังฐานทัพประเทศไทย ฟลอริดาเป็นอีกโรงแรมที่ตั้งชื่อตามรัฐที่ชาวอเมริกันคุ้นเคยดีอย่างฟลอริดา รัฐทางตะวันออกเฉียงใต้ของอเมริกา แถมยังมีห้องเต้นรำชื่อ ‘ออร์แลนโด’ และห้องอาหารชื่อ ‘แทมป้า’ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเมืองในรัฐฟลอริดาทั้งสิ้น
ทีเด็ดมันอยู่ห้องหลัง ซึ่งถือเป็นร้านอาหารสไตล์กุ๊กช็อป (อาหารฝรั่งที่ปรุงจากฝีมือกุ๊กอาหารจีน) ไม่กี่แห่งของไทยที่เปิดมาจนถึงปัจจุบัน ร้านแทมป้าเคยได้สัญลักษณ์ ‘เชลล์ชวนชิม’ ที่มอบโดยม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัฒน์ ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นได้ในความอร่อย โดยเฉพาะเมนูซี่โครงหมูอ่อนย่างซอสบาร์บีคิวที่ขึ้นชื่อเรื่องความนุ่ม เปื่อย ถึงขนาดว่าถ้าใช้ไม้เขี่ยเบาๆ เนื้อก็หลุดออกมาจากกระดูก ไหนจะเมนูนานาชาติอื่นๆ ที่น่าลองไม่แพ้กันอย่างขนมปังบัทเทอร์โรลกรอบนอกนุ่มไน บีฟสโตรกานอฟสไตล์รัสเซีย ซุปหัวหอมสไตล์ฝรั่งเศส และหมี่กรอบแบบไทยๆ
แอบกระซิบว่าห้องอาหารของโรงแรมฟลอริดาเคยถูกใช้เป็นโลเคชั่นใน Freelance ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ ของเต๋อ-นวพลด้วยนะ ใครอยากแกล้งๆ สวมบทเป็นยุ่นไปปั่นงานตอนกินข้าวก็เชิญเลย
โรงแรมมาเลเซีย
ลัดเลาะเข้าไปในซอยงามดูพลี มีโรงแรมเก่าแก่ชื่อ ‘มาเลเซีย’ ตั้งตระหง่านต้อนรับแขกทั้งชาวไทยและต่างชาติมาตั้งแต่ปี 2510 ชื่อมาเลเซียไม่ได้มาจากประเทศมาเลเซียเสียทีเดียว แต่หยิบยกมาจากนามสกุลของอากงเป็งฮุย แซ่เบ๊ ผู้ก่อตั้งโรงแรมที่เป็นชาวจีนแต้จิ๋ว
เบ๊ ในภาษาจีนแปลว่า ม้า ชื่อของโรงแรมจึงตั้งต้นมาจากตรงนั้น แต่จะให้ตั้งว่าโรงแรมม้าก็ไม่เข้าที อากงเลยตั้งให้คล้องกับคำที่คุ้นหูคนทั่วไปอย่างมาเลเซีย อาจเพราะได้รับอิทธิพลของชื่อโรงแรมในสมัยนั้นที่นิยมเอาชื่อสถานที่ ชื่อเมือง ไปจนถึงชื่อประเทศมาตั้งด้วยอีกทอด
โรงแรมมาเลเซียมีห้องพักราว 120 ห้อง เพิ่งรีโนเวตไปในวาระครบรอบ 50 ปี จากตึกสีขาวเก่าๆ ก็แปลงโฉมให้เป็นสีเหลืองทองเหมือนสีประจำชาติมาเลเซีย แต่ความพิเศษจริงๆ คือห้องอาหาร 24 ชั่วโมงชื่อมาลัยที่ย้ายมาจากโรงแรมเร็กซ์ ซึ่งขึ้นชื่อลือชาเรื่องเมนูข้าวต้มสามสี ตัวข้าวจะข้นคลั่ก มีความหนืดนิดๆ แต่กินพร้อมเมนู recommended อย่างหมูสับปลาเค็มทอด ต้มจับฉ่าย หรือคอหมูคั่วพริกเกลือ ก็เข้ากันดีนักแล
โรงแรมเซี่ยงไฮ้ แมนชั่น
หลายคนรู้จักโรงแรมเซี่ยงไฮ้ แมนชั่นในฐานะสถานที่จัดงานเต้นสวิง Yaowarat Street Jam ที่ชวนเราใส่ชุดวินเทจตัวเก่งไปส่ายสะโพกกับดนตรีแจ๊ส และอย่างที่หลายคนอาจเดาได้ เซี่ยงไฮ้แมนชั่นตั้งชื่อตามคอนเซปต์ของโรงแรมที่มีกลิ่นอายจีนยุคเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้นั่นเอง
ในอดีต พื้นที่ของโรงแรมเซี่ยงไฮ้ แมนชั่น เป็นตึกเก่าอายุหลายสิบปีที่แปลงโฉมมาแล้วหลายรอบ ที่นี่เคยเป็นทั้งโรงงิ้วแห่งแรกของกรุงเทพฯ ตลาดหลักทรัยพ์ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ร้านขายยาสมุนไพร กระทั่งกลุ่มบุราส่าหรีเข้ามาซื้อและพัฒนาให้เป็นโรงแรมในปี2551
สถาปัตยกรรมของโรงแรมได้แรงบันดาลใจมาจากตึกรามของจีนสมัยปี 2473 เบลนด์ไปกับแสงสีของตึกรามในย่านเยาวราชเป็นอย่างดี นอกจากกลิ่นความเป็นเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ที่ซ่อนอยู่ในทุกองค์ประกอบ ไฮไลต์ของที่นี่คือน้ำตกและบ่อปลาขนาดใหญ่ซึ่งกินเนื้อที่ 1 ใน 3 ของพื้นที่ชั้น 2 ให้ลูกค้าได้พักผ่อนหย่อนใจกันริมบ่อ
โรงแรมมาราเกช หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา
ใครอินกับหนังเรื่อง Aladdin จนอยากไปโมร็อกโกแต่ยังเดินทางไม่ได้ ลองขับรถขึ้นหัวหินแล้วแวะไป ‘มาราเกช หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา’ อาจได้ฟีลคล้ายกัน
ที่นี่คือรีสอร์ทสไตล์ Neo-Moroccan ริมหาดหัวหิน ที่นอกจากจะหยิบชื่อเมืองท่องเที่ยวริมทะเลสุดฮิตมาตั้งเป็นชื่อโรงแรมแล้ว สถาปัตยกรรมด้านในก็ได้แรงบันดาลใจจากคำว่า ‘City of Red’ ฉายาของมาราเกชที่เหล่านักท่องเที่ยวตั้งให้ สะท้อนผ่านสีแดงสดใสที่กวาดตาไปทางไหนก็เห็น ยังไม่นับลวดลายบนพื้น ทรงเว้าโค้งของอาคาร และของตกแต่งสไตล์อาหรับ
ด้วยความเป็นโรงแรมติดหาดก็ต้องขึ้นชื่อเรื่องการเป็นสถานที่แต่งงานริมทะเล แต่สิ่งที่เลื่องลือไม่แพ้กันคือห้องอาหาร AL HAMRA (อัล ฮัมรา) ซึ่งแปลว่าเมืองสีแดงเหมือนมาราเกช นั้นเสิร์ฟอาหารสไตล์โมร็อกโกหากินยาก เช่น Couscous Salad สลัดเท็กซ์เจอร์หนึบหนับแบบโมร็อกโก, ไก่ตุ๋นสไตล์โมร็อกโก และเครื่องดื่มอีกสารพัดที่ได้ฟีลโมร็อกโกแบบตะโกน
โรงแรมแมนฮัตตัน
แมนฮัตตัน นิวยอร์ก ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาที่สุดเมืองหนึ่งในสหรัฐอเมริกา ในขณะเดียวกันมันก็เป็นหนึ่งในเมืองที่ชาวโลกคุ้นหูกันมากที่สุดด้วย นั่นอาจเป็นเหตุผลให้โรงแรมใจกลางสุขุมวิทอย่าง ‘แมนฮัตตัน’ ตั้งชื่ออย่างนั้นในปี 2508 ที่โรงแรมได้ก่อตั้ง
กับคนที่โตมากับซีรีส์ถ่ายทอดชีวิตสาวๆ ในเมืองใหญ่อย่าง gossip girl หรือ Sex in The City หลายคนอาจอยากไปเดินช้อปปิงในแมตฮัตตันสักครั้ง แต่ถ้ายังไปไม่ได้ด้วยเหตุผลใดก็ตาม การพักผ่อนสักคืนในโรงแรมแมนฮัตตันก็อาจเป็นชอยส์ที่ไม่เลว เพราะโรงแรมเพิ่งปรับปรุงครั้งใหญ่ไปเมื่อปี 2562 อัพเกรดห้องพัก สิ่งอำนวยความสะอาด และการตกแต่งให้มีชีวิตชีวา แถมทำเลยังเหมาะกับสายช้อปปิงสุดๆ เพราะอยู่ห่างจากศูนย์การค้า Terminal 21 แค่ไม่กี่ก้าวเอง
โรงแรมแชงกรี-ลา
แชงกรี-ลาไม่ใช่ชื่อเมืองที่มีอยู่จริง แต่เป็นสถานที่สมมติในนิยายเรื่อง Lost Horizon ของ James Hilton นักเขียนชาวอังกฤษ หนังสือของเขานิยามแชงกรี-ลาไว้ว่าหุบเขาลึกลับอันสวยงามที่ซ่อนอยู่ทางตะวันตกของเทือกเขาคุนหลุน ประเทศจีน ในภาษาทิเบต แชงกรี-ลา (หรือแชมบาลา) ยังหมายถึงพระอาทิตย์และพระจันทร์ที่อยู่ในใจ (The Sun and the Moon in One’s Heart)
โรงแรมแชงกรี-ลาคือเครือโรงแรมเชนของพี่น้องตระกูลก๊วก (Kuok) ตระกูลนักธุรกิจใหญ่ของสิงคโปร์ซึ่งเป็นเจ้าของเดียวกับ Kerry Express ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นโรงแรมเชนที่ดีที่สุดในโลกเชนหนึ่ง แชงกรี-ลาเปิดครั้งแรกในไทยเมื่อปี 2529 ในทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยาบนถนนเจริญกรุง และไปเปิดอีกสาขาที่เชียงใหม่ในปี 2550
ความดีงามของโรงแรมแชงกรี-ลาไม่ได้อยู่ที่วิวหลักล้านในราคาเอื้อมถึง ห้องอาหารที่นี่เขาก็โด่งดังในหมู่นักกินไม่น้อย แถมยังมีให้เลือกสรรตามแต่ฟีลว่าวันนั้นอยากกินอะไร ทั้งห้องอาหารจีนแชงพาเลซที่เสิร์ฟติ่มซำน่าหม่ำ, ห้องอาหารไทยริมแม่น้ำ ศาลาทิพย์ ที่มีสำรับไทยสูตรลับเฉพาะมาบริการ ที่เด่นที่สุดน่าจะเป็นร้าน NEXT2 Café ที่เสิร์ฟมื้อค่ำธีม Lobsterlicios หรือบุฟเฟ่ต์ล็อบสเตอร์นั่นเอง