Fifty Fathoms 70th Anniversary Act 3
งานเปิดตัว Fifty Fathoms 70th Anniversary Act 3 ย้อนประวัติศาสตร์นาฬิกาดำน้ำเรือนแรกของโลก
หากคุณเป็นนักสะสมนาฬิกา หรืออยู่ในวงการนาฬิกา ย่อมต้องคุ้นเคยกับชื่อและรับรู้ถึงความพิเศษของ Blancpain (บลองแปง) แบรนด์นาฬิกาสัญชาติสวิสฯ ที่ก่อตั้งในปี 1735 มีอายุกว่า 288 ปี ทำให้ Blancpain ได้รับการขนานนามว่าเป็นแบรนด์นาฬิกาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก โดย Blancpain สร้างชื่อเสียงจากนาฬิกาดำน้ำรุ่นแรกของโลกอย่าง Fifty Fathoms (ฟิฟตี้ ฟาธอมส์) ที่ได้รับความไว้วางใจจากหน่วยรบประดาน้ำจากทั่วโลก และเป็นความภูมิใจของแบรนด์มาตลอด 70 ปี
เรื่องราวของ Fifty Fathoms นาฬิกาดำน้ำรุ่นแรกของโลก เกิดขึ้นในปี 1950 Jean-Jacques Fiechter ผู้บริหารของแบรนด์ขณะไปดำน้ำในแถบทะเลตอนใต้ของเมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส ที่ในเวลานั้นเขาเกิดลืมเวลาทำให้ออกซิเจนค่อยๆ ลดลง จนทำให้เขาต้องขึ้นสู่ผิวน้ำทันที เหตุการณ์ที่ทำให้เขาเข้าใกล้ความตายที่สุดในชีวิต ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการคิดค้น Fifty Fathoms ที่ตั้งใจออกแบบให้มีฟังก์ชั่นช่วยให้นักดำน้ำทราบเวลาดำน้ำตั้งแต่เริ่มจนจบ
Fifty Fathoms ถูกนำไปใช้อย่างเป็นทางการครั้งแรกในปี 1953 พร้อมนวัตกรรมที่จดสิทธิบัตรคุ้มครอง คือเม็ดมะยมมีการซีลสองชั้นป้องกันน้ำเข้า มีระบบซีลฝาด้านหลังตัวเรือนเพื่อป้องกันยาง O-ring ไม่ให้เกิดการบิดงอตอนประกบตัวเรือน สามารถทนแรงดันกันน้ำลึกได้ระดับ 50 ฟาธอมส์ (ตามชื่อของรุ่นนาฬิกา) หรือประมาณ 91.44 เมตร รวมไปถึงขอบหน้าปัดหมุนสำหรับจับเวลาที่สามารถล็อกได้ ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่ทำให้กองทัพในยุคสมัยนั้นสวมใส่ และกลายเป็นนาฬิกาดำน้ำที่ทรงคุณค่าแห่งวงการนาฬิกาจวบจนวันนี้
ทริปเปิดตัว Fifty Fathoms ฉลอง 70 ปี
ที่ย้ำเตือนถึงพันธะสัญญา BOC (Blancpain Ocean Commitment)
ในวาระที่ Fifty Fathoms ได้ผ่านการเดินทางมากว่า 70 ปี และในโอกาสเปิดตัว Fifty Fathoms 70th Anniversary Act 3 Blancpain จึงจัดงานที่มุ่งหวังให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสประสบการณ์แสนพิเศษ โดยการจัดทริปพาผู้ที่เกี่ยวข้องของแบรนด์รวมไปถึงสื่อ และลูกค้ากว่า 200 คน สัมผัสประสบการณ์สุดเอกซ์คลูซีฟ ณ จุดกำเนิดของนาฬิการุ่นนี้ที่เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส
ความสำคัญประการหนึ่งของทริปนี้คือการย้ำเตือนถึงพันธะสัญญา BOC (Blancpain Ocean Commitment) ที่ Blancpain มีต่อมหาสมุทร โดยได้ร่วมมือกับองค์กรชั้นนำใน 3 ด้านหลักๆ อันได้แก่ การสร้างความตระหนักรู้ (Awareness), การสำรวจ (Exploration) และการปกป้อง (Preservation) มหาสมุทร
อีกหนึ่งความพิเศษของทริปนี้อยู่ที่ ‘BOC Panel Discussion’ ซึ่งเป็นเวทีเสวนาระหว่างผู้บริหารของ Blancpain และพาร์ทเนอร์จากองค์กรต่างๆ เพื่อพูดคุยและแชร์ความคิดเห็นเกี่ยวกับการอนุรักษ์มหาสมุทร อาทิ Marc A. Hayek ประธานและ CEO ของ Blancpain, Laurent Ballesta ผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ Gombessa Expeditions, Andrew Sharpless ผู้บริหารของ Oceana, Charles Goddard ผู้บริหารโครงการ World Ocean Initiative และ Drew Richardson ประธานและ CEO ของ PADI (Professional Association of Diving Instructors), Jason Heaton นักข่าวและนักจัดรายการพอดแคสต์
นอกจากกิจกรรวมเสวนา ในโซนบริเวณชายหาดได้มีการจัด Downtown Exhibition แสดงภาพถ่ายเกี่ยวกับ Fifty Fathoms และการเฉลิมฉลองครบ 70 ปี เชิญชวนให้ผู้คนที่หลงใหลใน Blancpain และนักท่องเที่ยวที่สัญจรไปมาได้สัมผัสเรื่องราว และระลึกถึงจุดกำเนิดของ Fifty Fathoms
หนึ่งในกิจกรรมที่เป็นไฮไลท์สำคัญคือ Diving experience ซึ่งจัดขึ้นเพื่อให้แขกผู้ได้รับเชิญได้สัมผัสประสบการณ์การดำน้ำในจุดที่ถือเป็นต้นกำเนิดของนาฬิการุ่นในตำนานอย่าง Fifty Fathoms โดยถือเป็นการเติมเต็มประสบการณ์สุดพิเศษทำให้ได้ซึมซับถึงประวัติศาสตร์ของนาฬิกาดำน้ำอย่างแท้จริงเรือนแรกของโลก
ไตรภาคแห่งการฉลอง Fifty Fathoms 70th Anniversary Act 3
ในการเปิดตัวนาฬิกาอันเป็นไฮไลต์ของทริปนี้ บลองแปงได้เฉลิมฉลอง 70 ปีแห่งความยิ่งใหญ่ของคอลเลกชั่น Fifty Fathoms โดยการปิดเกาะแซงต์มาเกอริต เกาะนอกชายฝั่งของคานส์ ที่ซึ่งเป็นสถานที่ในการเปิดตัว Fifty Fathoms 70th Anniversary Act 3 ที่มีเพียง 555 เรือนทั่วโลก โดยได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่น MIL-SPEC รุ่นดั้งเดิมที่ผลิตขึ้นในปี 1964
โดยก่อนหน้านี้ Blancpain ได้ทยอยเปิดตัวนาฬิกา Fifty Fathoms แบบไตรภาคไปแล้ว 2 รุ่น และเวลาก็ดำเนินมาสู่รุ่นปิดท้ายของไตรภาคอย่าง Fifty Fathoms 70th Anniversary Act 3 ที่คงความคลาสสิกไว้อย่างครบถ้วน โดยได้อัปเกรดเทคโนโลยีให้เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้วัสดุทองบรอนซ์ 9K ที่พัฒนาขึ้นเพื่อการสวมใส่ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น สามารถสัมผัสกับผิวได้โดยไม่เป็นคราบหรือเกิดสนิมเขียว ซึ่งเข้ากับสาย nato แบบทูโทนในเฉดเดียวกับเรือนดั้งเดิม สำหรับการออกแบบแทบจะถอดแบบมาจากนาฬิกาเรือนต้นแบบทั้งหมด
ขณะที่ตัวเรือนยังมีคุณสมบัติในการป้องกันผลกระทบจากสนามแม่เหล็ก หน้าปัดเป็นเซรามิกสีดำด้าน มีการเคลือบสารเรืองแสง และมี moisture indicator (มาตรวัดความชื้น) ในตำแหน่ง 6 นาฬิกา ที่จะเปลี่ยนสีเมื่อตัวเรือนมีความชื้น นับเป็นคุณสมบัติเด่นที่มาจากรุ่น MIL-SPEC
อย่างไรก็ตาม Fifty Fathoms 70th Anniversary Act 3 ยังได้นำกลไกประสิทธิภาพสูงอย่างคาร์ลิเบอร์ 1154.P2 มาใช้ ทำให้ตัวเรือนมีความแข็งแกร่งและทนทาน สามารถกันน้ำได้ระดับ 30 บาร์ (300 เมตร) พร้อมด้วยสนามแม่เหล็กในเวอร์ชัน 1,000 เกาส์ และสำรองพลังงานได้นาน 100 ชั่วโมง
ทั้งหมดนี้เป็นบทพิสูจน์อย่างชัดเจนว่า ตลอดระยะมากกว่าครึ่งศตวรรษของคอลเลกชัน Fifty Fathoms Blancpain ยังคงเดินหน้าพัฒนานาฬิกาคอลเลคชันนี้อย่างสมบูรณ์แบบ นับเป็นการสานต่อประวัติศาสตร์เรื่องราวความสำเร็จของ Fifty Fathoms ให้คงอยู่ต่อไป
รังสรรค์อีเวนต์ที่ส่งมอบประสบการณ์
การจัดอีเวนต์ของ Blancpain ในครั้งนี้ไม่ใช่แค่การสร้าง brand loyalty ต่อแบรนด์เท่านั้น แต่เป็นการสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าและคนทั่วไปได้มีส่วนร่วมกับแบรนด์ (experiential marketing) โดยเชื่อมโยงอารมณ์และความรู้สึกระหว่างแบรนด์กับลูกค้า ผ่านการมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำ
ในโลกที่เต็มไปด้วยข้อมูลข่าวสารเช่นนี้ การดึงดูดผู้คนให้มาสนใจอะไรบางอย่างไม่ใช่เรื่องง่าย การที่ Blancpain จัดกิจกรรมในลักษณะ storytelling ผ่านประสบการณ์สุดเอกซ์คลูซีฟได้ทำให้ประวัติศาสตร์ของแบรนด์เป็นที่รับรู้มากขึ้น ทั้งกับคนที่หลงใหลในแบรนด์อยู่แล้วและบางคนที่อาจจะรู้จักครั้งแรกจากงานนี้
ที่สำคัญกิจกรรมครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่รูปแบบการจัดงาน เนื้อหาของงาน กิจกรรม แม้กระทั่งการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ ด้วยวิธีที่แตกต่างจากคนอื่นทำให้ผู้คนจดจำตัวตนของแบรนด์ได้ เพราะในพื้นที่แห่งนี้ ผู้คนจะได้สัมผัส ได้ยิน และรู้สึกถึงตัวตนของ Blancpain ด้วยตัวเอง
ความรู้สึกหรือประสบการณ์ที่ผู้คนกว่า 200 ชีวิตได้สัมผัสผ่านการจัดงานครั้งนี้คือประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหน เป็นประสบการณ์ที่สะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์และจุดมุ่งหมายที่แบรนด์ต้องการสื่อไปถึงลูกค้าผ่านประสบการณ์โดยไม่ลืม value proposition หรือคุณค่าของแบรนด์