Design with A Smile

เอนกายบนบีนแบ็กยักษ์ ช้อปสารพัดเฟอร์ฯ ขี้เล่น และสนทนากับผู้นำเข้า Fatboy Thailand 

ในซอยเอกมัย 4 เราเดินทางมาถึง Fatboy Thailand โชว์รูมแบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านเปิดใหม่ที่โดดเด่นตั้งแต่หน้าร้านด้วยป้ายสีแดงสะดุดตา 

เมื่อเดินเข้าไปภายใน เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้สึกเหมือนกันว่าบรรยากาศในห้องแห่งนี้น่าผ่อนคลาย ด้วยบีนแบ็กน่าเอนกายและแสงอบอุ่นจากโคมไฟ Edison ทั้งภายในโชว์รูมและบริเวณสวนนั้นยังเรียงรายด้วยเฟอร์นิเจอร์ขี้เล่นสุดเอกลักษณ์ ตั้งแต่ม้านั่งทรงน้องหมา โคมไฟรูปจรวด เปลญวนสีแดงดีไซน์ทันสมัยไซส์บิ๊กเบิ้ม และตุ๊กตากระต่ายแลบลิ้นตัวเบ้อเร่อชื่อ Teddy 

บริษัท อัลดีละ จำกัด (Aldila) เป็นนักสรรหาเฟอร์นิเจอร์และสินค้าไลฟ์สไตล์ที่นำเข้าแบรนด์คุณภาพดีจากยุโรปสู่ตลาดไทยมากมาย หลายแบรนด์ที่นำเข้า เช่น laCividina, Midj, Fantin, Zanotta อาจไม่คุ้นหูคนไทยนักแต่มั่นใจได้ว่ามีคุณภาพเพราะทีมผู้ก่อตั้งมีสมาชิกดรีมทีมประกอบด้วยสถาปนิกและนักตกแต่งภายในที่คัดเลือกงานดีไซน์อย่างพิถีพิถัน  

แบรนด์น้องใหม่ล่าสุดที่บริษัท Aldila นำเข้าไทยคือ Fatboy แบรนด์สัญชาติเนเธอร์แลนด์ที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบีนแบ็กไซส์ยักษ์ที่มีลูกเล่นซ่อนอยู่มากมาย แสดงให้เห็นถึงจุดเด่นของแบรนด์คือการเป็น lifestyle furniture ที่ใช้ได้ทั้งอินดอร์และเอาต์ดอร์ อีกทั้งยังมีดีไซน์ขี้เล่นแต่ยังคงความคลาสสิก

ก่อนหน้านี้ Fatboy วางขายทั้งยุโรป อเมริกา รวมถึงในเอเชียอย่างสิงคโปร์และเกาหลี ในโอกาสก้าวใหม่ที่แบรนด์สัญชาติเนเธอร์แลนด์ชื่อดังเพิ่งวางขายในไทยอย่างเป็นทางการ เราขอชวน ชุติมา อังอติชาติ Co-founder ของ Aldila ผู้นำเข้าแบรนด์ Fatboy มาเอนกายนั่งคุยบนบีนแบ็กนุ่มๆ กันแบบสบายๆ ถึงที่มาของการนำเข้าและแนะนำ Fatboy สู่ตลาดไทย 

ปกติแล้วบริษัทคุณเลือกนำเข้าแบรนด์เฟอร์นิเจอร์แบบไหน

เราเลือกโฟกัสที่แบรนด์ท้องถิ่น อาจไม่ได้เป็นแบรนด์ที่ทุกคนในประเทศรู้จัก แต่เป็นแบรนด์น้องใหม่ที่  กำลังโต เป็นธุรกิจครอบครัวที่ทำด้วยความใส่ใจและทำด้วยความรู้สึกว่าเป็นแบรนด์ของตัวเอง เน้นแบรนด์เล็กที่หายาก มีคุณภาพและดีไซน์ดี

อย่าง Fatboy เป็นแบรนด์ที่จริงๆ แล้วเราไม่ได้คาดหวังเลยว่าจะนำเข้ามาแต่เผอิญเดินไปเจอในงาน ดีไซน์แฟร์ที่มิลานแล้วชอบ แบรนด์ส่วนใหญ่ที่นั่นเป็นแบรนด์อิตาลีที่มีความโมเดิร์นและเรียบๆ เดินแล้วสะดุดตา 

ที่จำได้คือตอนนั้นบูท Fatboy ของเนเธอร์แลนด์ก็เด่นมากด้วยกิมมิกความสนุกและสีสัน เราก็เดินเข้าไปคุยกับเขาดื้อๆ เลยว่าสนใจ ทางแบรนด์ก็เปิดโอกาสให้เรานำเข้ามาไทยเพราะแบรนด์เขามีตลาดที่เอเชียและสนใจประเทศไทยอยู่แล้ว

กิมมิกความสนุกของ Fatboy เป็นแบบไหน ทำไมถึงเตะตาตาคุณถึงขั้นอยากนำเข้าไทย 

Design with a smile คือการเติมความสนุกสนานเล็กๆ น้อยๆ เข้าไปในดีไซน์ทำให้เวลาสัมผัสหรือใช้สินค้าแล้วยิ้มได้ อย่างเช่นโคมไฟแม่เหล็ก Oloha Trio ที่ขยับได้ ย้ายมาวางบนโต๊ะหรือติดที่ผนังก็ได้ 

ถ้าสังเกตจะเห็นว่าแบรนด์เน้นดีไซน์ที่มีสีสันโดดเด่น ใช้สีที่ bold คือ แดง เขียว ส้ม เหลือง อย่างโคมไฟก็จะมีที่ดึงเล็กๆ เป็นแท็กเขียนชื่อแบรนด์ว่า Fatboy ถ้าดูสินค้าแบบผิวเผินจะดูเรียบๆ เด่นด้วยสี แต่จะมีดีเทลซ่อนอยู่ในสินค้าเสมอ 

สินค้าเด่นรุ่นซิกเนเจอร์ที่ทำให้ผู้คนจดจำความสนุกของแบรนด์ได้คือรุ่นไหน

แบรนด์นี้จะดังเรื่องบีนแบ็กซึ่งเป็นสินค้าที่ทุกคนรู้จัก มีทั้งรุ่น Original Bean Bag, รุ่น Floatzac เบาะโฟมลอยน้ำได้สำหรับเอาไปใช้ที่สระว่ายน้ำหรือทะเล, รุ่น Outdoor ที่มีความทนแดดทนฝนและมีลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเป็นโรงแรมหรือรีสอร์ต 

บางรุ่นอย่าง Rock ‘n Roll ก็จะใส่ฟังก์ชั่นที่เพิ่มเติมจากการใช้งานทั่วไป เช่น ออกแบบให้เอาบีนแบ็กมาวางบนเก้าอี้โยกได้, รุ่น Buggle-Up มีเข็มขัดที่รัดขึ้นมาให้ตั้งได้สำหรับนั่งพิง, รุ่น Doggielounge สำหรับสัตว์เลี้ยง 

แล้วก็จะมีไอเดียเก๋ๆ อย่างการทำบีนแบ็กลอยน้ำคล้ายห่วงยางเป่าลม แบรนด์ทำวิดีโอพรีเซนต์การใช้งานออกมาเลยว่าถ้าอยู่ที่ทะเลก็สามารถสะบัด วิ่งให้ลมทะเลเข้าไปในบีนแบ็กแล้วมัดให้พองได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องเป่าลมด้วยซ้ำ 

เราก็ประทับใจที่แบรนด์มีไอเดียเยอะแยะ คิดมาแบบใส่ใจรายละเอียด มีดีไซน์ที่ไม่ได้หยุดนิ่ง

การออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานในสินค้าหมวดอื่นๆ ของ Fatboy มีความสนุกยังไงบ้าง 

สินค้าแนะนำอีกหมวดที่โดดเด่นและลูกค้าส่วนใหญ่ที่แวะมาจะซื้อกลับแทบทุกคนคือกระเป๋า มีฟังก์ชั่นการใช้งานหลากหลายที่คุ้มค่ามาก สามารถถือไปออฟฟิศ ทำสวน ใช้ช้อปปิ้ง ไปตลาด ซูเปอร์มาร์เก็ต ไปทะเล 

โคมไฟ Edison ก็เป็นรุ่นซิกเนเจอร์ที่ขายดี มีหลายไซส์ให้เลือก คือ Edison the Giant, Edison the Grand, Edison the Medium, Edison the Petit และ Edison the Mini มีทั้งรุ่น table lamp สำหรับตั้งโต๊ะและ floor lamp สำหรับเป็นโคมไฟประดับ ปรับระดับแสงได้ 3 ระดับ และบางตัวยังควบคุมผ่านแอพพลิเคชั่นได้

ถ้าเกิดสังเกตสินค้าหลายอย่างของแบรนด์จะใช้ได้ทั้งเอาต์ดอร์และอินดอร์เลย เขาออกแบบสินค้าโดยคิดมาว่าชีวิตเราไม่ได้อยู่แต่ในบ้าน สินค้าของเขาต้องปรับเปลี่ยนให้ใช้ในชีวิตประจำวันได้ไม่ว่าจะอยู่ในสเปซแบบไหน 

มีสินค้ารุ่นไหนของ Fatboy ที่รู้สึกว่าน่าสนใจแต่ยังไม่ได้นำเข้าไทยบ้างไหม  

ถ้าสินค้าที่เหมาะกับประเทศไทยเราก็นำเข้ามาหมดแล้ว แต่คอลเลกชั่นของ Fatboy จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ถ้ามาอีกทีก็อาจพบว่าสินค้าเดิมไม่อยู่แล้ว 

บางรุ่นจะเป็นคอลเลกชั่นลิมิเต็ดที่ผลิตมาเฉพาะบางช่วงแล้วหมดไป อย่าง bean bag ก็เคยคอลแล็บกับ Marimekko และ Longchamp มาแล้ว หรือลายพิเศษอย่างรุ่นลายทางก็ไม่ได้มีตลอด แต่ทั้งนี้บางอย่างที่เหมาะกับเมืองหนาวเราก็นำเข้าไทยเพราะดีไซน์สวย เช่น ตะเกียง Flamtastique อันใหญ่ที่จะเหมาะกับอยู่ริมระเบียงในวันอากาศหนาวแล้วจุดไฟ

ถ้าเปรียบ Fatboy เป็นคน คิดว่าคาแร็กเตอร์ของแบรนด์เป็นคนแบบไหน

ไม่จำเป็นต้องเป็นวัยรุ่นแต่เป็นคนที่ young at heart ไม่ใช่คนที่แต่งตัวฉูดฉาด ใส่เสื้อผ้าลวดลายหรือสีสดทั้งตัวแต่เป็นคนที่มีบุคลิกดี มีความสนุกสนานและอยากเติมลูกเล่นหรือสีสันบางอย่างเข้าไปในการแต่งตัว เช่น ถ้าแต่งชุดดำก็อยากจะหยิบรองเท้าสีแดงมาใส่หรือใส่เครื่องประดับเป็นกิมมิก

กลุ่มลูกค้าของแบรนด์ก็เป็นคนคาแร็กเตอร์นี้ด้วยไหม

ใช่ กลุ่มลูกค้าของเราจะเป็นคนที่มีคาแร็กเตอร์และไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ชอบของที่มีรสนิยม เป็นคนที่แต่งบ้านคอมพลีตแล้วแต่อยากเติมความสนุกและลูกเล่นเข้าไปให้บ้านมีชีวิตชีวา 

บางทีเราแต่งบ้านก็ยอมรับเลยว่าคนอาจจะไม่ได้ซื้อเฟอร์นิเจอร์ของ Fatboy ทั้งบ้านหรอก เขาก็ซื้อเฟอร์นิเจอร์ทั่วไปแหละ แต่มันต้องมีสักมุมในบ้านที่อยากสนุกและอยากสร้างกิมมิกให้เป็นจุดเด่นขึ้นมา สินค้าของเราก็จะเป็นเหมือน lifestyle furniture ที่มาตอบโจทย์ทั้งด้านฟังก์ชั่นและไลฟ์สไตล์ตรงนี้

ปัจจัยแห่งความสำเร็จในการทำธุรกิจนำเข้าเฟอร์นิเจอร์สำหรับคุณคืออะไร

อย่างแรกเลยคือต้องมีใจรัก พอเรารักในแบรนด์ก็ไม่ใช่ว่าจะนำเข้าอะไรก็ได้ ทุกแบรนด์ที่เรานำเข้ามาต้องเป็นสิ่งที่เราชอบ บางแบรนด์เราไม่รู้จักมาก่อนก็จริงแต่พอได้ไปสัมผัสสตอรี ไปเห็นสิ่งที่เขาตั้งใจทำแล้วทำให้เรารู้สึกประทับใจและอยากเอามาให้คนไทยรู้จัก 

อย่าง Fatboy เราเห็นว่าเขาไม่ได้ใส่ใจแค่อยากให้สินค้าขายได้เยอะๆ แต่ใส่ใจในการผลิตให้สินค้ามีคุณภาพ สวย คงทน ใช้ได้ยาวนานและใส่ใจสิ่งแวดล้อม 

แล้วแบรนด์ขี้เล่นอย่าง Fatboy จริงจังเรื่องสิ่งแวดล้อมยังไงบ้าง 

เนื่องจากจุดเริ่มต้นของแบรนด์มาจากประเทศฝั่งสแกนดิเนเวียเลยมีมาตรฐานของประเทศแถบนี้อยู่แล้วว่าเวลาผลิตจะเน้นเรื่อง zero waste และใส่ใจสิ่งแวดล้อมตั้งแต่กระบวนการผลิตไปจนถึงวัสดุของสินค้า ดังนั้นสินค้าบางตัวก็จะใช้เป็นวัสดุรีไซเคิล อย่างเก้าอี้ Attackle! รูปน้องหมาจะมีรุ่นสีขาวและสีดำซึ่งคิดมา 2 แบบ สีขาวเป็นรุ่นที่ทำขึ้นมาสำหรับนำวัสดุไปรีไซเคิลต่อได้ ส่วนสีดำเป็นรุ่นที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล

สิ่งที่ Fatboy เน้นมากๆ คือความทนทาน ไม่อยากให้ซื้อไปแป๊บเดียวแล้วพังและต้องกลับมาซื้อใหม่ ทางแบรนด์จะมี repair kit สำหรับให้เอาไปซ่อมสินค้าได้ มีพวกชุดอุปกรณ์แต้มสี ชุด refill โฟมสำหรับบีนแบ็ก ถ้าโฟมยุบก็เติมโฟมได้ โคมไฟก็มีแผงวงจรและหลอดไว้ให้ซ่อม มีส่วนหน้ากากที่ถอดออกแล้วซื้อเปลี่ยนเฉพาะส่วนได้ หรือถ้าอยากซ่อมก็มาที่โชว์รูมได้เลย เปลตัวหนึ่งซื้อมาแล้ว 10-15 ปีก็ยังใช้ได้ พาร์ตเนอร์คนหนึ่งในทีมเราเคยซื้อเปลมานานแล้วเป็น 10 ปี ปัจจุบันก็ยังอยู่ มันแข็งแรงทนทานมาก 

ข้อได้เปรียบของ Fatboy ในตลาดไทยที่ทำให้แบรนด์น่าสนใจคืออะไร

ส่วนใหญ่ถ้าเป็นในประเทศเรา ตลาดของตกแต่งบ้านจะมีแค่แบรนด์อิตาลีระดับไฮเอนด์ที่แพงไปเลย กับอีกหมวดหนึ่งคือแบรนด์ท้องถิ่นอย่างงานแฮนด์เมดในประเทศและของจีน ก็เลยมองว่าทำไมไม่มีแบรนด์ที่อยู่ตรงกลาง คือแบรนด์สินค้าคุณภาพดีที่ไม่ได้มีราคาสูงมากสำหรับให้คนทั่วไปใช้ เพราะแม้แต่ดีไซเนอร์เองเวลาเลือกเฟอร์นิเจอร์มาใช้ที่บ้านก็ยังมีปัญหาในการเลือกเลยทำให้รู้สึกว่าช่องว่างตลาดตรงนี้มันยังมีอยู่

การมีทีมเป็นดีไซเนอร์ทำให้เรามีความรู้เรื่องดีไซน์และรู้จักแบรนด์ต่างๆ ดีอยู่แล้วและรู้ว่าควรมองหาแบรนด์แบบไหนมาเติมในตลาด เราจะมีความเข้าใจกลุ่มลูกค้าที่เป็นดีไซเนอร์ด้วยกันว่าต้องการอะไร แต่ในขณะเดียวกันในการนำเข้าสินค้าเข้ามาเราก็คำนึงถึงคนทั่วไปที่ไม่ได้มีมุมมองแบบดีไซเนอร์ด้วยว่าต้องนั่งสบายและใช้แล้วทนทานผนวกกัน 

ทั้งหมดนี้ทำให้เราคัดเลือกสินค้าที่มีคาแร็กเตอร์ มั่นใจได้ว่ามีดีไซน์ที่สวยงามแล้วนอกจากนั้นก็คำนึงถึงด้านอื่นๆ อย่างเรื่องราคาที่ต้องจับต้องได้

คุณมีเทคนิคการตั้งราคาสินค้านำเข้าให้เหมาะกับตลาดไทยยังไง

เวลาทำการตลาดที่ไทย เราก็จะมองเห็นก่อนแล้วว่าสินค้าตัวไหนน่าจะขายดีและขายได้แล้วตั้งราคาให้อยู่ในช่วงราคาที่ลูกค้ารู้สึกว่าน่าซื้อและจับต้องได้ เราเลือกสินค้าที่คิดว่าเข้ากับคาแร็กเตอร์ของคนไทยและเหมาะกับไลฟ์สไตล์โดยนึกเทียบจากตัวเราเอง 

ปกติในการคิดราคาถ้าคิดง่ายๆ ก็จะคูณไปเลยว่าอยากได้กำไรเท่าไหร่ แต่เราจะคิดว่าถ้าเป็นเราที่อยากแต่งบ้าน เราจะซื้อของชิ้นนี้ได้ที่ราคากี่บาทนะ จะถามน้องในทีมว่าอยากซื้อของชิ้นนี้ในราคาเท่าไหร่ ถ้าแพงไปก็อาจลดราคาลงมาหน่อยให้คนซื้อได้ เราคิดกันเยอะมากเรื่องราคาเพราะอยากให้คนได้ลองใช้ของคุณภาพดีที่อยู่ได้นาน 

แสดงว่าในสายตาคุณ Fatboy ถือเป็นแบรนด์นอกมีดีไซน์ที่ราคาเข้าถึงได้ใช่ไหม

พอเทียบราคากับคุณภาพแล้วจะเห็นว่าได้สินค้าไซส์ใหญ่และมีคุณภาพดี อย่างราคาบีนแบ็กทั่วไปในท้องตลาดจะถูกมากๆ แต่ถ้าคนที่สนใจเรื่องดีไซน์ คุณภาพ ความแข็งแรงทนทาน เขาก็จะขยับมาหาแบรนด์นี้เพราะว่าราคาไม่ได้แรงจนเกินไป กระเป๋าและโคมไฟที่ราคาหลักไม่กี่พันบาทก็มี 

ตอนที่เราเลือกสินค้านำเข้าจากแค็ตตาล็อกและเห็นว่าบีนแบ็กมีไซส์เล็กก็ยังคุยกับน้องในทีมกันเลยว่าราคานี้เป็นของไซส์เล็กเนอะ แต่ปรากฏว่าไซส์เล็กของแบรนด์เขายังเป็นขนาดที่ใหญ่มากๆ สำหรับคนเอเชียและมีคุณภาพการตัดเย็บดี 

คุณมีแผนการตลาดในการแนะนำแบรนด์ Fatboy สู่ตลาดไทยยังไงบ้าง 

พอเป็นแบรนด์ใหม่ ถ้าเราทำแค่การตลาดออนไลน์ คนก็จะเอ๊ะว่าเป็นแบรนด์อะไร คนที่ไม่รู้จักก็ต้องอยากแวะมาดูสินค้า เราเลยทำพื้นที่โชว์รูมแห่งนี้และจัดอีเวนต์เปิดตัวชื่อ Fatboy Funky Museum เพราะอยากให้คนมาสัมผัสจับต้อง รู้จักสินค้า มาเข้าใจว่าของจริงหน้าตาเป็นยังไง มีคุณภาพเป็นยังไง

การเปิดโชว์รูมก่อนในช่วงแรกจะเป็นการแนะนำให้คนในประเทศรู้จักแบรนด์ ชวนให้คนเข้ามาดูต่อในเว็บไซต์ อินสตาแกรม พอเริ่มเป็นที่รู้จัก ลูกค้าเริ่มซื้อของติดไม้ติดมือกลับไป เริ่มเห็นคาแร็กเตอร์แบรนด์มากขึ้น เราก็จะเริ่มเน้นขายออนไลน์และนำไปวางขายตามห้างเป็นหลักในช่องทางที่คนเข้าถึงได้ง่าย

อนาคตอยากขยายธุรกิจและเพิ่มเติมความสนุกของ Fatboy Thailand ยังไงบ้าง

เดี๋ยวเรากำลังจะมีป๊อปอัพสโตร์ที่แรกที่เซ็นทรัลเวิลด์ เปิดวันที่ 3 ตุลาคม จะจัดเป็นระยะเวลาประมาณ 5 เดือนซึ่งก็จะเหมาะกับช่วงเทศกาล festive ตั้งแต่ฮาโลวีน คริสต์มาส ปีใหม่ วาเลนไทน์ ก็อยากทำให้เป็นสีสันความสนุกและอยากทดลองตลาดด้วย ถ้าเวิร์กเราก็อาจจะไปเปิดที่อื่นต่ออีก

สำหรับ Fatboy ตอนนี้นอกจากจะขาย B2C แล้ว เรายังมองไปถึงการเน้นที่กลุ่ม B2B ด้วย เช่น กลุ่มโรงแรม ตอนนี้กำลังจะมี pilot project ที่เชียงใหม่ มีโรงแรมที่อยากรีโนเวตบริเวณเอาต์ดอร์และสระว่ายน้ำแล้วอยากเอาสินค้าของ Fatboy ไปวาง ในอนาคตต่อไปถ้ามีกลุ่มลูกค้าคอร์เปอเรต เช่น โรงแรมต่างๆ ที่มีคาแร็กเตอร์แบรนด์เข้ากันและสามารถเอาแบรนด์เราเข้าไปผสมผสานในงานดีไซน์ของโรงแรมได้ก็น่าจะสนุกดี

Add to cart : 5 สินค้าแนะนำของ Fatboy Thailand

1. Bean Bag สินค้าซิกเนเจอร์ของ Fatboy ที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก โดยบีนแบ็กจะมีขนาดใหญ่และหลายเนื้อผ้าให้เลือก ปรับรูปทรงให้เข้ากับรูปร่างของผู้ใช้ได้ดี สบาย เหมาะสำหรับทุกพื้นที่ ทั้งในบ้านและนอกบ้าน

2.  Lamzac โซฟาลมพกพา ที่เป่าลมได้ง่าย โดยการโบกในอากาศ สามารถใช้งานได้ทุกที่ ทุกเวลา เบาและพับเก็บง่ายพกพาสะดวก เหมาะสำหรับการใช้งานเอาต์ดอร์ เช่น ตั้งแคมป์ หรือใช้ในบ้านก็ได้เหมือนกัน

3.  Edison the Petit Family มีหลายขนาดตั้งแต่ Edison the Petit Mini, Edison the Petit Small, Edison the Petit Medium, Edison the Petit Grand, Edison the Petit Giant เหมาะกับการใช้ตกแต่งทั้งในและนอกบ้านให้แสงที่นุ่มนวลและอบอุ่น ไม่ระคายตา สามารถปรับระดับความสว่างได้โดยการดึงป้าย Fatboy ค้างไว้

4. Attackle! เป็นเก้าอี้ยาว (bench) ที่มีดีไซน์เป็นรูปสุนัขสี่ขาตัวใหญ่สามารถรองรับน้ำหนักได้สูงถึง 170 กก. สร้างความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำจากวัสดุพลาสติกที่ทนทาน polyethylene ใช้งานได้ทั้งในบ้านและนอกบ้าน และยังเป็นวัสดุที่นำไปรีไซเคิลต่อได้ด้วย

5. Headdemock เปลญวนขนาดใหญ่ที่รองรับได้ถึงสองคน โครงสร้างมีความแข็งแรงและติดตั้งง่าย มาพร้อมกับขาตั้งที่ไม่ต้องใช้ต้นไม้หรือเสา เหมาะสำหรับการพักผ่อนนอกบ้าน

Writer

Craft Curator, Chief Dream Weaver, Lifestyle Columnist, Editor-in-Cheese, Design Researcher 'Instagram : @rata.montre'

Photographer

ช่างภาพที่สนุกกับการแต่งตัว อยู่กับเสียงเพลง และหลงรักในความทรงจำ Ig : mocfirst

You Might Also Like