House of Creative
คุยกับ Soho House Bangkok คลับเฮาส์สุดเอกซ์คลูซีฟที่หวังสร้างระบบนิเวศวงการสร้างสรรค์
ถ้าพูดถึง Soho House มิตรรักแฟนคลับหลายคนอาจจะคุ้นเคยว่าเป็นชื่อของ private members club ที่นิค โจนส์ (Nick Jones) นักธุรกิจร้านอาหารและคลับชาวอังกฤษ ก่อตั้งขึ้นในย่านสุดฮิปอย่างโซโห ในลอนดอน โดยเริ่มต้นจากคลับเล็กๆ ชั้นบนของ Café Boheme ในปี 1995 ก่อนที่จะขยับขยายมาเป็นคลับสุดเอกซ์คลูซีฟที่มีสาขาไปทั่วโลก
เอกลักษณ์ของ Soho House คือการเป็นพื้นที่ที่คัดสรรสมาชิกจากกลุ่มคนในวงการสร้างสรรค์ในสาขาต่างๆ อย่างวงการศิลปะ วงการดีไซน์ วงการแฟชั่น และแวดวงสื่อต่างๆ ฯลฯ ราวกับจะเป็นการสร้างระบบนิเวศเล็กๆ ของวงการสร้างสรรค์ขึ้นมา จุดเด่นอีกประการของ Soho House นอกจากการเป็นคลับสุดเอกซ์คลูซีฟที่พรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและอาหารเครื่องดื่มเลิศรสแล้ว Soho House ทุกสาขายังมีผลงานศิลปะของศิลปินร่วมสมัยชั้นนำเป็นส่วนหนึ่งของสภาพแวดล้อมภายในคลับอีกด้วย
เมื่อต้นปี 2023 ที่ผ่านมา Soho House ได้มาเปิดบ้านสาขาใหม่เป็นแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่กรุงเทพฯ ภายใต้ชื่อ Soho House Bangkok ที่นอกจากจะถอดแบบการตกแต่ง สิ่งอำนวยความสะดวก และการบริการเปี่ยมคุณภาพ ที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลกแล้ว ภายในคลับสาขานี้ยังมีผลงานศิลปะของศิลปินร่วมสมัยชั้นนำของเมืองไทยกว่า 30 คน อยู่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสภาพแวดล้อมภายใน Soho House Bangkok แห่งนี้อีกด้วย
ในครานี้เรามีโอกาสได้สนทนากับ ลินน์ วิสุทธารมณ์ Head of Membership and Communication ของ Soho House Bangkok ผู้จะมาเปิดเผยถึงตัวตนและแนวคิดเบื้องลึกเบื้องหลังคลับเฮาส์สุดเอกซ์คลูซีฟแห่งนี้ให้เราได้รับรู้กัน
หลายคนอาจมองภาพของ Soho House ต่างกันไป แล้วจริงๆ นิยามความเป็น Soho House Bangkok เป็นยังไง
เราคิดว่า Soho House Bangkok มาเมืองไทยก็เป็นคอนเซปต์ใหม่เกี่ยวกับ private members club, social club แน่นอนว่าตอนนี้ในบ้านเราก็เริ่มมี social space ที่จัดกิจกรรมค่อนข้างเยอะทั่วกรุงเทพฯ แต่บ้านของเราเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะเอกซ์คลูซีฟแต่แน่นอนนี่คือสิ่งที่ท้าทาย เพราะว่าคนไทยยังมีความคิดว่าความเอกซ์คลูซีฟนั้นเป็นอะไรที่…
ไฮโซ?
ใช่ เป็นอะไรที่ไฮโซ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่อยากให้เป็น เพราะว่าทุกอย่างที่มาจากเมืองนอก พอมาเมืองไทย ก็กลายเป็นอะไรที่เหมือน luxury product
เหมือนร้านกาแฟแฟรนไชส์ปกติทั่วไป พอมาเมืองไทยก็กลายเป็นร้านกาแฟไฮโซ
ใช่ แน่นอนว่าที่ Soho ก็มีค่าสมาชิกเพื่อที่จะเข้ามาใช้งานได้ แต่จริงๆ แล้วราคาเราก็ไม่ได้แพงเบอร์นั้น
ไม่แพงที่ว่าคือเท่าไหร่
ตอนนี้ค่าสมาชิก ถ้าอายุเกิน 27 ปี ค่าสมาชิกทั่วไปของเราอยู่ที่เดือนละ 5,000 บาท ปีละ 60,000 บาท หมายความว่าจ่ายเดือนละ 5,000 บาท คุณสามารถที่จะเข้ามาใช้สิ่งอำนวยความสะดวกที่นี่ได้ หรือสามารถที่จะเข้ามาทำเวิร์กช็อปหรือกิจกรรมต่างๆ ในบ้านได้ ซึ่งถ้าเข้าร่วมกิจกรรมเดือนละ 3 ครั้งก็คุ้มแล้ว ทั้งกิจกรรม ice bath (การบำบัดด้วยความเย็น), wellness swimming (ว่ายน้ำเพื่อสุขภาพ) เรามีสระว่ายน้ำให้ใช้ตอนเช้า สมาชิกใช้งานฟรี มีเวิร์กช็อปสอนทำลาเต้อาร์ต ทำม็อกเทล
เราเป็นพื้นที่สำหรับการสร้างบทสนทนา และรวบรวมนักคิดและคนทำงานสร้างสรรค์ มี inspiring talk มี artist talk ที่สมาชิกเข้าร่วมได้ฟรี บางครั้งก็อาจจะมีจ่ายเพิ่มนิดหน่อย อย่างเช่นเราทำดินเนอร์พิเศษ One Night only ร่วมกับร้านอาหาร ‘สำรับสำหรับไทย’ โดยทำคอนเซปต์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังสือของคุณ’รงค์ วงษ์สวรรค์ ซึ่งคนภายนอกจะจองผ่านร้านสำรับสำหรับไทยได้ แต่สมาชิกจะได้ราคาพิเศษ
ด้วยความที่ตอนนี้เราอยู่ในช่วงประชาสัมพันธ์ เราก็จะพอมีพื้นที่ที่เปิดให้คนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกเข้ามาลองได้สัมผัสพื้นที่ดู เพราะเราเชื่อว่าจริงๆ แล้วจากสิ่งที่เรามีในบ้าน ถ้าทุกคนได้มาสัมผัสจะเข้าใจว่าเป็นยังไง ถ้าเปิดใจแล้วจะเห็นถึงคุณค่าของที่นี่
คุณค่าที่ว่านี้คืออะไร
คือการเป็นพื้นที่เหมือนเป็นส่วนขยายของห้องนั่งเล่นนอกบ้าน ที่คนสามารถเข้ามาใช้งานในชีวิตประจำวัน สามารถมานั่งทำงาน นั่งพักผ่อน พบปะผู้คน เข้าร่วมกิจกรรม เป็นเหมือนพื้นที่ไลฟ์สไตล์ ที่คนสามารถเชื่อมต่อกันได้ ทางทีมงานที่ดูแลสมาชิกของบ้านก็สามารถที่จะอำนวยความสะดวก ให้คุณพบปะ มีปฏิสัมพันธ์กับสมาชิกคนอื่นๆ
อย่างเช่นทุกวันพฤหัสเราก็จะมีการจัดให้สมาชิกมาเจอกัน เพื่อเล่นเกมร่วมกัน ซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้ในเมืองไทยอะไรแบบนี้ก็มีที่อื่นๆ ทำอยู่ แต่สิ่งหนึ่งที่เราคิดว่าที่อื่นไม่มีแน่นอน คือด้วยธรรมชาติของสมาชิกของเรานั้นมีความหลากหลายจริงๆ อย่างน้อยที่สุด เราว่าที่นี่มีการผสมผสานของคนไทยและคนต่างชาติแบบที่เราไม่ค่อยเห็นที่อื่น
ด้วยความที่คนไทยค่อนข้างเป็นคนสันโดษ เราว่าไม่มีที่ไหนที่จะเปิดพื้นที่ให้คนไทยได้ใช้เวลาร่วมกับคนต่างชาติได้เหมือนที่นี่ เพราะตามปกติคนต่างชาติก็จะใช้เวลาร่วมกับคนต่างชาติ คนไทยก็จะใช้เวลาร่วมกับคนไทยด้วยกัน แต่ที่นี่ค่อนข้างผสมผสานกันได้ดี เห็นได้จากกิจกรรมต่างๆ ที่คนไทยเข้าร่วมกับคนต่างชาติ ได้พบปะกันเป็นเหมือนชุมชนข้างในที่เกิดขึ้นเอง ซึ่งทางเราก็อำนวยความสะดวกด้านพื้นที่ให้พวกเขาได้ โดยสมาชิกทุกคนสามารถที่จะจองกิจกรรมผ่านแอพพลิเคชั่นของทาง Soho House (เข้าได้เฉพาะสมาชิก) พอเรามีกิจกรรม เราก็จะโหลดขึ้นแอพฯ ว่าสัปดาห์นี้มีกิจกรรมอะไรบ้าง
ที่ผ่านมาผลตอบรับจากสมาชิกที่เข้ามาใช้งานเป็นแบบที่คุณคิดไว้ไหม
ตอนนี้ถ้าดูจากมุมมองของคนที่มาสมัครเป็นสมาชิกแล้วเข้ามาใช้งานนั้นผลตอบรับค่อนข้างดี แต่คนภายนอกอาจจะยังไม่รู้ว่า Soho House คืออะไรอยู่ดี เพราะว่าคนที่ยังไม่เคยเข้ามาใช้งานก็ยังไม่เข้าใจ แต่จริงๆ คนที่เข้ามาใช้งานก็จะเข้าใจเลยว่าที่นี่ก็ไม่ได้ไฮโซอย่างที่คิด พื้นที่ก็ค่อนข้างสบายๆ แล้วก็ไม่ได้แพงอย่างที่คิด ถ้าคนที่มาสมัครสมาชิกอายุต่ำกว่า 27 ปี ค่าสมาชิกก็เหลือครึ่งหนึ่ง คือปีละ 30,000 บาท ตกเดือนละ 2,000 นิดๆ แล้วทุกวันจันทร์ หรือทุกวันอังคารกับวันพุธหลังสี่ทุ่ม และทุกวันอาทิตย์หลังสี่โมงเย็นอาหาร เครื่องดื่มก็คือลด 50% ราคาก็ค่อนข้างสบายๆ
เรามองว่าที่นี่เป็นเหมือน night playground สำหรับคนที่กำลังจะเข้าสู่สังคมที่มีความเป็นสากล เป็นเหมือนสถานที่ที่จะช่วยให้เขาพร้อมที่จะเข้าไปในพื้นที่นานาชาติ แต่ก็ยังให้ความรู้สึกสบายๆ เหมือนอยู่ที่บ้าน และก็เป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้เขามีปฏิสัมพันธ์กับคนหลากหลายเชื้อชาติ หลากหลายอาชีพได้
ที่สำคัญคนที่มาที่นี่เป็นคนที่เราคัดมาแล้ว ทำให้ที่นี่เป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยในระดับหนึ่ง สมาชิกส่วนใหญ่เราจะคัดจาก สาขาวิชาชีพที่ทำ เพราะว่าเวลาสมัครเข้ามามันจะต้องเขียนแบบฟอร์มค่อนข้างละเอียด ถึงแม้จะเป็นสมาชิกผ่านการแนะนำก็ยังต้องเขียนใบสมัครเข้ามาด้วย ถ้าผ่านการพิจารณาแล้ว ทางทีมงานเราก็ต้องนัดสัมภาษณ์ด้วย
ไม่ใช่แค่มีเงินแล้วจะสมัครได้
ใช่ เพราะมีคนที่มีเงินเยอะสมัครมาแล้วไม่ผ่านก็มี เพราะดูแล้วเขาอาจจะไม่ได้เหมาะกับพื้นที่ของเรา
อะไรคือความเหมาะที่ว่า
อย่างแรกที่เราพิจารณาคือวิชาชีพที่ทำ ส่วนใหญ่เราจะสนใจคนที่ทำงานในสายความคิดสร้างสรรค์ อย่างคนทำงานศิลปะ แฟชั่น ดีไซน์ หรือไม่ก็คนทำธุรกิจที่อยู่ในสายงานประเภทนี้ ตอนนี้สมาชิกค่อนข้างมีคนในสายแฟชั่นเยอะสุด แต่ในสายศิลปะก็ค่อนข้างเยอะ จากการที่เรามีคอลเลกชั่นศิลปะจัดแสดงในบ้าน ซึ่งคัดสรรโดยทีมคิวเรเตอร์ระดับโลกที่คัดสรรคอลเลกชั่นศิลปะให้ Soho House ทั่วโลก นำทีมโดย Art Collections Manager ของ Soho House ซารา เทอร์ซี (Sara Terzi)
เวลาเราไปเปิดบ้านในประเทศไหน ทางทีมคิวเรเตอร์ก็จะทำการรีเสิร์ชเบื้องต้นเกี่ยวกับวงการศิลปะที่นั่น แล้วเขาก็จะบินมาเยี่ยมชมแกลเลอรี เยี่ยมชมสตูดิโอศิลปะ พบปะศิลปินต่างๆ ซึ่งศิลปินก็ค่อนข้างมีแนวทางหลากหลาย และส่วนใหญ่เป็นศิลปินที่เกิดหรือทำงานอยู่ในประเทศไทย
พื้นที่ที่แสดงงานศิลปะก็เป็นพื้นที่ในบ้าน ไม่ได้มีหอศิลป์แสดงงานโดยเฉพาะใช่ไหม
ใช่ค่ะ เราไม่มีหอศิลป์ที่นี่ แต่งานศิลปะทั้งหมดจะอยู่กับสภาพแวดล้อมในบ้าน ซึ่งเป็นธรรมเนียมของ ผู้ก่อตั้งของเราอยู่แล้ว เหมือนตอนที่นิค โจนส์ เขาทำ Soho House สาขาแรกในย่านโซโห ลอนดอน เขาต้องการเปิด private club แล้วเขามีเพื่อนเป็นศิลปินเยอะ เขาก็ชวนศิลปินเหล่านั้นให้เอางานมาแลกกับการเป็นสมาชิก ซึ่งตอนนั้นส่วนใหญ่ก็เป็นศิลปินกลุ่ม YBAs (Young British Artists) อย่าง เดเมียน เฮิร์สต์ (Damien Hirst), เทรซี เอมิน (Tracey Emin) ซึ่งสมัยแรกๆ นิคเขาเป็นคนคุยเอง จนพอเปิดบ้านไปเยอะทั่วโลก เขาก็คิดว่าคอลเลกชั่นที่เขามีจริงๆ มูลค่าสูงมาก เขาก็เลยหาทีมงานมาช่วยเจรจา ช่วยคิวเรต และทำรายการคอลเลกชั่นงานศิลปะของ Soho House ที่มีอยู่หลายพันชิ้น
งานของศิลปินที่จัดแสดงในบ้านถ้าคนที่มาเยี่ยมชมสนใจคุณขายให้เขาไหม
ไม่ขาย มีสมาชิกหลายคนติดต่อกับทางพนักงานของเราว่า งานนี้ขายไหม เขาชอบ เราก็บอกไปว่าเราไม่ได้ขายงาน งานพวกนี้เป็นงานที่เราสะสมและจัดแสดงในบ้าน ถ้าใครสนใจงานชิ้นไหน เราก็ให้เขาติดต่อไปที่ศิลปินหรือหอศิลป์ที่เป็นตัวแทนของเขา
เรามองว่า Soho House คือพื้นที่ที่เปิดให้คนเข้าถึงงานศิลปะเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น เพราะไม่ใช่ว่าคนทั่วๆ ไป หรือแม้แต่สมาชิกหรือนักท่องเที่ยวจะเข้าหอศิลป์กันทุกคน แล้วการที่เขาได้มาเห็นการจัดแสดงงานศิลปะในบ้านแบบนี้ เขาก็อาจจะเกิดไอเดียว่า เวลาที่เราแต่งบ้าน เราก็จัดแสดงแบบนี้ได้ แขวนแบบนี้ได้เหมือนกันนะ ที่นี่งานศิลปะวางใกล้ชิดกับพื้นที่ใช้งานมากกว่าหอศิลป์ เพราะส่วนใหญ่หอศิลป์ก็ไม่ได้จัดแสดงงานในพื้นที่ living area แบบนี้
เวลาศิลปินขายงานที่ลูกค้าเห็นจากในบ้านได้มีการหักเปอร์เซ็นต์ค่านายหน้าไหม
ไม่เลย เราไม่ได้เป็นนายหน้าขายงานศิลปะ เวลาเราคิวเรตผลงานของศิลปินเหล่านั้นเข้ามา เราแลกกับการให้เขาเป็นสมาชิกและเครดิตที่ใช้กับการซื้อเครื่องดื่ม หรือพาเพื่อน แกลเลอริสต์ หรือนักสะสมมารับประทานอาหารใน Soho House หรือจองโรงแรมในประเทศอื่นเวลาที่เขาเดินทาง ที่ผ่านมาก็มีศิลปินมาใช้กันหลายคนแล้ว ศิลปินที่ทำงานในระดับสากลเขาจะมองเห็นคุณค่าส่วนนี้ของที่นี่
เหมือนเป็นระบบนิเวศของวงการศิลปะหรือวงการสร้างสรรค์เหมือนกันนะ
เรามองว่าระบบนิเวศของวงการศิลปะไม่ได้ประกอบไปด้วยแค่ศิลปิน หอศิลป์ หรือนักสะสม แต่มีหลายองค์ประกอบที่ช่วยในเรื่องของการเชื่อมต่อหรือทำให้ศิลปะสามารถเข้าถึงได้ เราคิดว่า Soho House เป็นเครื่องมือบางอย่างที่ช่วยในการสร้างระบบนิเวศตรงนี้ขึ้นมาได้ จากความหลากหลายของสมาชิกของเรา
อย่างคนทำงานแฟชั่นอาจจะอยากได้งานศิลปะมาอยู่บนเสื้อผ้า
ใช่ ซึ่งที่นี่เป็นที่ที่เราอำนวยความสะดวกให้เกิดโอกาสเหล่านี้ขึ้นได้ อาจจะเริ่มต้นด้วยการคุยกับคนที่นั่งโต๊ะข้างๆ หรืออาจเป็นการจัดกิจกรรมที่สร้างความคุ้นเคยระหว่างสมาชิก ทำให้เกิดการพูดคุยแลกเปลี่ยนที่ทำให้เกิดความเป็นไปได้ในการสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ขึ้นมาก็ได้ เพราะทางทีมผู้ดูแลสมาชิกเราก็มีฐานข้อมูลของสมาชิกแต่ละคนอยู่ ถ้าศิลปินหรือคนทำงานสร้างสรรค์ในสายไหนมีความต้องการที่จะแบ่งปันหรือเผยแพร่ข้อมูล หรืออยากนำเสนอแบรนด์ของเขาให้กับสมาชิกคนอื่นๆ รู้จักเราก็สามารถช่วยสร้างกิจกรรมหรืออีเวนต์ให้เกิดปฏิสัมพันธ์ตรงนี้ได้
เรามองว่าแค่เราเปิดโอกาสให้คนทำงานในสายความคิดสร้างสรรค์ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่ดีร่วมกัน ก็อาจจะสร้างแรงบันดาลใจบางอย่างให้เกิดขึ้นได้