สระสวย
‘เสน่ห์’ ร้านสระไดร์แบบ subscription เจ้าแรกในไทย ตกครั้งละ 66 บาท แต่ได้ใช้อุปกรณ์ Dyson
ปกติคุณเข้าร้านทำผมตอนไหน?
ตอนที่อยากตัดผม ตอนที่อยากเปลี่ยนสีผมใหม่ หรือตอนที่อยากสระไดร์ผม
เชื่อว่าคำตอบส่วนมากคงเทไปที่ 2 เหตุผลแรก ทำให้ผู้คนไม่ได้เข้าร้านทำผมบ่อยนัก ทั้งที่จริงแล้วชีวิตของเราวนเวียนอยู่กับการสระไดร์ผมแทบทุกวัน และปัญหาใหญ่ของผู้หญิงก็คงหนีไม่พ้นความรู้สึกขี้เกียจสระผม บางครั้งก็งานยุ่งจนไม่มีเวลาสระผม นี่ยังไม่นับรวมถึงการเซตผม เอาแค่จะไดร์ผมก็ใช้เวลานานแล้ว
“เราต้องการสร้างภาพจำให้คนรู้สึกว่าการเข้าร้านสระผมเป็นเรื่องง่าย ด้วยราคาที่เข้าถึงได้จริง เเละสามารถเข้าไปอยู่ใน routine การดูแลตัวเองได้ทุกวัน เหมือนการดื่มกาแฟก่อนเข้างาน หรือไปฟิตเนสหลังเลิกงาน”

ความตั้งใจนี้เกิดจากประสบการณ์ของ พีม–พศุตม์ คล่องวัฒนกิจ ที่เคยเป็นบาร์เบอร์และเปิดร้านซาลอนเป็นของตัวเองมาก่อน จึงหยิบ pain point เรื่องการสระผมของสาวๆ โดยเฉพาะคนเมือง มาสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ในโมเดลที่ยังไม่มีใครทำมาก่อนในวงการร้านทำผม
ด้วยการเปิดร้าน ‘เสน่ห์’ มาให้บริการ blow-dry subscription หรือการสระไดร์แบบ subscription เป็นเจ้าแรกในไทย เพื่อให้ทุกคนมาใช้บริการได้แบบไม่จำกัดในทุกวัน ด้วยราคาต่อเดือนที่เข้าถึงได้จริง เริ่มต้นที่ 1,990 บาทต่อเดือน ตกครั้งละ 66 บาท โดยใช้อุปกรณ์ทำผมระดับโลกอย่าง Dyson
ทันทีที่เราเห็นโมเดลธุรกิจนี้ก็เกิดความสงสัยว่าไอเดียนี้มีที่มาที่ไปจากไหน การใช้อุปกรณ์พรีเมียม แต่ตั้งราคาเท่านี้คุ้มทุนจริงหรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อเทรนด์ wellness หรือการดูแลสุขภาพที่ไม่ได้หมายถึงแค่ร่างกายหรือจิตใจ แต่อาจหมายรวมไปถึงการดูแลเส้นผมให้สวยงามและสุขภาพดี ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจ หรือความเสี่ยงในวันที่คนลงมาเล่นในสนามนี้เยอะกันแน่
ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกันผ่านคอลัมน์ Micro Wave ครั้งนี้กันได้เลย

ในมุมของคุณคิดภาพจำของร้านทำผมเมื่อก่อนเป็นยังไง
ก่อนหน้านี้เวลาเรานึกถึงร้านทำผม ภาพจำหลักๆ คือการไปตัดผม ทำสี หรือ ทำเคมีต่างๆ ซึ่งเเต่ละครั้งที่ไปมักจะใช้เวลาอยู่ในร้านนาน และเราจะเข้าไปเฉพาะเวลาที่ต้องทำผมจริงๆ ไม่ได้เป็นอะไรที่ไปบ่อยๆ เราเเทบไม่ได้เห็นภาพคนเข้าร้านทำผม เพื่อไปดูเเลตัวเองหรือเข้าบ่อยจนเป็นกิจวัตรประจำวัน
คุณมองเห็นโอกาสหรือช่องว่างทางการตลาดอะไรถึงตัดสินใจเปิดร้านเสน่ห์
เราเคยเป็นบาร์เบอร์ (ช่างตัดผมชาย) มาก่อน แล้วก็มีคนมาเสนอขายกิจการซาลอน (ร้านเสริมสวยหรือร้านทำผม ที่ให้บริการดูแลเส้นผมและทรงผม เช่น สระ ตัด ย้อม ดัด ยืดผม) ทั้งที่เราไม่มีประสบการณ์เลย ก็ทำร้านนั้นมาประมาณ 2 ปี แล้วรู้สึกว่าหลายธุรกิจในหลายวงการ จะต้องเปลี่ยนแปลงหรือถูก disrupt ในที่สุด ตัวอย่างที่เราเห็นได้ชัดเจนก็จะเป็น Netflix, spotify

กลับกัน วงการ hair salon ในเมืองไทย ผ่านมาเป็น 10 ปี 20 ปีเเล้ว ยังไม่มี disruptive idea หรือโมเดลใหม่ๆ ที่เข้ามาเปลี่ยนหรือยกระดับวงการนี้สักเท่าไหร่ แล้วเรามองว่าหนึ่งใน pain point ที่ใหญ่ที่สุดของผู้หญิงคือเรื่องการสระผม เชื่อว่าผู้หญิงทุกคนต้องเคยรู้สึกขี้เกียจสระผมเอง หรือรู้สึกว่าการเป่าผมเองใช้เวลานาน แต่ถ้าจะเข้าร้าน hair salon เพื่อใช้บริการทุกครั้ง แล้วจ่ายเป็นรายครั้ง หลายๆ ครั้งก็แพง ยิ่งถ้าอยากเข้าถึงบริการที่ดีและผลิตภัณฑ์ที่ดีด้วย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย ราคาจะสูงตามขึ้นอีก
ร้านเสน่ห์เราเลยอยากมาเป็น solution ที่แก้ pain point นี้ให้ทุกคนเข้ามาใช้บริการได้แบบไม่จำกัดในทุกวัน ด้วยราคาต่อเดือนที่เข้าถึงได้จริง เริ่มต้นที่ 1,990 บาทต่อเดือน ตกครั้งละ 66 บาท แล้วเข้าถึงอุปกรณ์ทำผมระดับโลกอย่าง Dyson ได้ในรูปแบบของสระไดร์แบบ subscription เจ้าแรกในไทย

คุณใช้ไดร์ของ Dyson ใช้ผลิตภัณฑ์แบบพรีเมียม แต่ทำราคาเดือนละ 1,990 บาทได้ยังไง
ถ้าให้เปรียบเทียบง่ายๆ ก็เหมือนกับร้านอาหารบุฟเฟต์ที่ราคาไม่ได้สูงมาก เเต่การบริการดีและใช้วัตถุดิบคุณภาพดี พอเราเฉลี่ยต่อหัวหรือเฉลี่ยจากจำนวนครั้งที่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ ก็ทำราคาที่คุ้มที่สุดสำหรับคนไทย และเราเองก็ได้รับการซัพพอร์ตจาก Dyson Thailand เพื่อให้คนไทยได้ลองใช้ Dyson ครบทุกรุ่น ในราคาที่เข้าถึงได้จริง

ไอเดียการสระไดร์แบบ subscription มาจากไหน
โมเดล subscription ไม่ใช่สิ่งใหม่ เราจะเห็นตัวอย่างจาก Netflix หรือ Spotify ที่เปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคไปแล้ว หรืออย่างการสมัครฟิตเนส ที่ไม่ต้องคิดเยอะว่ามาเล่นครั้งนี้จะแพงมั้ย จะเล่นได้กี่ครั้งต่อเดือน
แต่ใน hair salon บ้านเรายังไม่มีใครหยิบโมเดลนี้มาใช้เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้วงการนี้ ซึ่งเรามองว่านี่เป็นโอกาสที่จะ disrupt รูบเเบบการขายเดิมๆ และสร้างวิธีการใหม่ๆ ให้วงการนี้ เราเลยเป็นร้านที่ให้ บริการ blow-dry subscription หรือการสระไดร์แบบ subscription
ที่ลูกค้าเลือกแพลนได้ไม่ว่าจะเป็น 1 เดือน 3 เดือน เเละ 12 เดือน และใช้บริการสระไดร์ได้ทุกวัน และทุกสาขาที่จะเปิดเพิ่มในอนาคต เหมือนการสมัครฟิตเนสเลย เพราะเราอยากให้เสน่ห์เป็นไลฟ์สไตล์ใหม่ที่ตอบโจทย์ pain point เรื่องการสระไดร์ แล้วเข้าไปผูกกับกิจวัตรประจำวันของคุณ ทำให้ทุกๆ ครั้งที่อยากเข้าร้านสระผมคุณจะต้องนึกถึงร้านเสน่ห์


นอกจากสระไดร์แล้ว ร้านคุณมีบริการอื่นด้วยมั้ย
เราให้ความสำคัญเรื่องบริการและประสบการณ์ที่ลูกค้าจะได้รับ เราเลยออกแบบท่าสระผมและท่านวดศีรษะมาจากท่านวดไทยบางท่า และท่ายืดเส้น ยืดสายบางท่า มาใช้ให้เข้ากับความต้องการของคนไทยเป็นหลัก โดยเน้นการนวดผ่อนคลาย
และลูกค้าสามารถเลือกใช้ Dyson เซตผมได้ทุกรุ่น เช่น ทำผมลอนด้วย Dyson Airwrap ทำผมตรงด้วย Dyson Airstrait ส่วนนี้เราไม่มีบวกเพิ่ม วันไหนอยากทำทรงไหนก็ได้หมด และไม่ได้มีแบ่งราคาตามความยาวของผม ทั้งหมดรวมอยู่ในค่า subscription แล้ว ซึ่งเราออกแบบบริการสระ ไดร์ เซตผมให้ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที เพื่อตอบโจทย์ชีวิตที่เร่งรีบของคนเมือง


เรามีเพิ่มทรีตเมนต์และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นระดับท็อป อย่างตอนนี้ก็มีของ Olaplex และ K18 เป็นตัวเลือกสำหรับลูกค้าที่ทำสีผมมา แล้วอยากฟื้นฟูผม บริการนี้จะคิดเพิ่มจากค่า subscription โดยหลักๆ แล้วทุกบริการของเรา จะคำนึงเรื่องของการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นหนังศีรษะหรือเส้นผม
คิดว่าเสน่ห์จะเปลี่ยนภาพจำของร้านทำผมในไทยยังไงบ้าง
เราไม่ได้มาเปลี่ยนภาพจำ เเต่เรามาสร้างภาพจำใหม่ๆ ให้วงการนี้ เราต้องการสร้างภาพจำให้คนรู้สึกว่าการเข้าร้านสระผม เป็นเรื่องง่ายในราคาที่เข้าถึงได้จริง เเละสามารถเข้าไปอยู่ในกิจวัตรการดูแลตัวเองได้ทุกวัน เหมือนการดื่มกาแฟก่อนเข้าทำงาน หรือการไปฟิตเนสหลังเลิกงาน

ที่มาที่ไปของชื่อร้านเสน่ห์มาจากไหน
มาจากจุดประสงค์หลักที่เราทำแบรนด์นี้ขึ้นมาเลย เราอยากจะนำเสนอแบรนด์ไทย เพราะเห็นว่าทุกวันนี้มีหลายร้านที่เป็นแบรนด์จากต่างประเทศเเละมาเปิดในไทย เเต่ยังไม่ค่อยมีร้าน hair salon ที่นำเสนอแบรนด์คนไทยเเละไปในเวทีโลก
เเต่กลับกันสิ่งเเรกๆ ที่ต่างชาตินึกถึงก็คือเรื่องการบริการ เหมือนกับร้านนวดไทยที่มีอยู่หลายประเทศทั่วโลก เราเลยอยากนำเสนอร้านสระผมแบรนด์คนไทยให้ตลาดโลกได้รู้จัก และเน้นงานบริการที่เป็นเสน่ห์ของคนไทย เลยใช้ชื่อแบรนด์ว่า ‘เสน่ห์’

คิดว่าความยากหรือความท้าทายในการเปิดร้านช่วงแรกคืออะไร
พอเราใช้โมเดล subscription กับบริการสระไดร์ ก็ตามมาด้วยเทคโนโลยีหรือระบบที่อยู่ข้างหลังบ้านอย่างแอพพลิเคชั่นของเรา เพื่อทำให้ระบบนี้สมบูรณ์แบบมากที่สุด แล้วเราไม่ได้มีกรณีศึกษาให้เรียนรู้ เราต้องลองผิดลองถูกเองจากศูนย์ และยังมีอะไรที่ต้องทำ เพื่อพัฒนาระบบของเราให้ดีขึ้น
แอพพลิเคชั่นที่คุณพูดถึงมีหน้าตาเป็นแบบไหน
ถ้านึกภาพตามง่ายๆ เหมือนเราเข้าฟิตเนส ที่สมาชิกทุกคนต้องมีแอพพลิเคชั่นไปสแกนแล้วก็เข้าได้ทุกสาขา
ร้านเราวอล์กอินมาได้เลย ไม่ต้องจอง แล้วใช้แอพฯ สแกนเข้าใช้บริการได้ทุกวัน ลูกค้าสามารถเลือกแพลนการ subscription ตามจำนวนเดือนที่สะดวกได้ผ่านแอพฯ และเรามีระบบเก็บคะแนนในนั้นมาใช้แลกเป็นส่วนลดในการทำทรีตเมนต์ได้อีกด้วย

ด้วยความที่รูปแบบธุรกิจของคุณเป็นสิ่งใหม่ที่ยังไม่มีใครทำ แล้วคุณสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจได้ยังไง
เราปรับวิธีการเล่าให้คนเข้าใจง่ายมากขึ้นและทำให้เชื่อมโยงกับคน เราใช้คำว่าสระไดร์บุฟเฟต์ และเริ่มอธิบายว่าการสระไดร์ได้แบบบุฟเฟต์คือการ subscription เหมือนสมัคร Netflix หรือ Spotify ไม่ใช่การซื้อแพ็กเกจ แต่เป็นการจ่ายรายเดือนในราคาคงที่ แล้วเข้ามาใช้บริการได้ทุกๆ วัน
ตั้งแต่เปิดร้านมาลูกค้าให้กระแสตอบรับเป็นยังไงบ้าง
เราเปิดร้านมาประมาณ 3 เดือน กระแสตอบรับต้องบอกว่าเกินคาดมากๆ ลูกค้าหลายคนก็ฟีดแบ็กว่าชอบไอเดียนี้ ในที่สุดก็มีคนเข้ามาแก้ pain point เรื่องการสระผม เพราะเป็นเรื่องเบสิกมาก แต่ทุกวันนี้ยังเข้าถึงยากทั้งในเรื่องราคาและรูปแบบการให้บริการ
แต่พอเรามาก็ตอบโจทย์ตรงนี้ โดยเฉพาะคนเมือง ตอนนี้คนก็เรียกร้องอยากให้เราขยายสาขาไปหลายๆ ที่เพื่อเข้าถึงคนในหลายๆ โซน ทุกวันนี้เรามีการบันทึกดาต้าของลูกค้าด้วย จะเห็นว่าส่วนใหญ่มาใช้บริการเฉลี่ยอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง อย่างบางวันถ้ารีบกลับบ้านหน่อยก็จะไม่ได้มาสระผม แต่ถ้าพอมีเวลาช่วงพักเที่ยงหรือช่วงเย็น ก็แวะมาสระไดร์ผม

คุณมองว่าเทรนด์ wellness หรือการดูแลสุขภาพของผู้คนจากเมื่อก่อนกับตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปยังไง
เปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก ตั้งเเต่ช่วงโควิด-19 เป็นต้นมาเราจะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าคนเริ่มให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผ่านอาหารการกินหรือไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงกิจกรรมที่เลือกทำ ทุกวันนี้เราจะได้ยินคำว่า wellness กันมากขึ้น หลายธุรกิจ หลายเเบรนด์ ก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้
เมื่อก่อนความเข้าใจคำว่า wellness อาจหมายการรักษาหรือดูแลสุขภาพ ซึ่งจริงๆ คำว่า wellness มันคือสุขภาพดี ที่ตอนนี้ขยายไปถึงเรื่องการดูแลเส้นผม ความงาม และการดูแลตัวเองทั้งร่างกายและจิตใจ เทรนด์โลกตอนนี้ก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ร้านเสน่ห์เองก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนวัตกรรม แล้วก็ wellness ด้วย


เทรนด์ที่ว่าส่งผลดีต่อธุรกิจคุณด้วยไหม หรือถือว่าเป็นความเสี่ยงที่มีผู้แข่งขันในตลาดนี้สูงขึ้น
คนที่ได้ผลประโยชน์จริงๆ คือผู้บริโภค เพราะสุดท้ายเเล้วหลายธุรกิจก็ต้องปรับตัวตามเทรนด์ที่เปลี่ยนไปไม่มากก็น้อย ทั้งเรื่องสินค้าและบริการ ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น
แม้ว่าตลาด wellness จะมีการแข่งขันที่สูงขึ้น แต่เรามองว่าไม่ใช่ความเสี่ยงสำหรับธุรกิจเรา ยิ่งมีคนมาทำมากขึ้นหรือมีโมเดลใหม่ๆ มากขึ้น นั่นก็เป็นเครื่องยืนยันว่าเทรนด์นี้กำลังมาหรือธุรกิจภาคส่วนนี้คนให้ความสนใจ
เรามีเพื่อนร่วมวงการดีกว่าเราไม่มีเลย ถ้าเราไม่มีคนทำแข่งเลย แปลว่ามันอาจจะไม่เวิร์กหรือไม่ได้เป็นที่สนใจจริงก็ได้
ในอนาคตมีแผนอยากให้ธุรกิจเติบโตไปในทิศทางไหน
ร้านเสน่ห์ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อขยายสาขา เพื่อให้คนไทยได้เข้าถึงบริการที่ดี ในราคาที่เข้าถึงได้จริง เเละสร้างไลฟ์สไตล์ใหม่ให้คนไทย
เราเชื่อว่ามีร้านทำสีหรือร้านตัดผมที่เก่งๆ เยอะแยะ หลายคนก็มีร้านประจำในการตัดผมทำสี อันนี้ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ว่าสุดท้ายแล้วเรามองว่าเราไม่ได้เข้ามาแข่งในตลาดนี้ ถ้าคุณอยากไปตัดผม ทำสี คุณไปร้านประจำคุณได้เลย แต่ถ้าคุณอยากสระผมให้มาที่ร้านเสน่ห์

บทเรียนที่เสน่ห์ให้กับคุณคืออะไร
เรามองว่าวันนี้อาจจะยังเร็วไปที่จะสรุปบทเรียนจากธุรกิจนี้ เพราะเราเพิ่งเริ่มเข้ามาในตลาดไม่นาน แต่ถ้าพูดในมุมของบทเรียนในการตัดสินใจ คือเรากล้าที่จะทำสิ่งที่ยังไม่มีใครทำ ซึ่งบทเรียนสำคัญอย่างแรกคือคุณจะต้องเจอทุกคนบอกว่า ‘มันเป็นไปไม่ได้ มันไม่เวิร์กหรอก’
คุณจะต้องพร้อมเดินบนเส้นทางที่เดียวดายในช่วงแรก เพราะแทบจะไม่มีใครให้คำปรึกษาหรือเป็นแบบอย่างได้ เพราะมันเป็นเรื่องใหม่มากๆ แต่สิ่งที่เราได้เรียนรู้คือ ถ้าคุณตัดสินใจจะทำแล้ว คุณต้องโฟกัสมากกว่าคนอื่น ตั้งใจมากกว่าคนอื่น และพร้อมที่จะแลกกับอะไรหลายๆ อย่างมากกว่าคนอื่นๆ
ทุกวันนี้เราอาจจะยังไม่ได้เป็นเสน่ห์ในเวอร์ชั่นที่สมบูรณ์เเบบ 100% เเต่เราก็ยังไม่หยุดปรับปรุงเเละพัฒนา เพื่อให้บริการของเราไปสู่ความสมบูรณ์เเบบมากที่สุด