บด ทด สอบ

Passion Is Enough. Not True. และอีกหลายคำถามที่พบบ่อยก่อนเปิดร้านกาแฟ

EP.1 

Passion is not enough

เพียงเรามีความฝัน มีแพสชั่น ตามหาและลงมือทำมัน เราก็จะไปถึงจุดหมาย ได้ชื่อว่าเป็นคนที่ประสบความสำเร็จก่อนวัย 30 หรือ ถ้าลองได้ทำสิ่งที่รักแล้วมันจะไม่เหมือนทำงาน

ในยุคหนึ่งเรามักจะได้ยินคำพูดหรือวลีประมาณนี้ เสมือนเข็มทิศของชีวิตวัยรุ่นไว้ตามหาฝัน ทำได้ก็ดูเท่ ทำไม่ได้ก็ดูเป็น loser ค้นหาตัวตนต่อไป

ร้านกาแฟ ถูกยกเป็นงานยอดนิยมในการแหกคอก โดดร่ม ลงเรือไล่ล่าความฝัน และทันทีที่เรามีความฝันในการมีร้านกาแฟ คำถามเเละข้อกังขารอบตัวมักถาโถมเข้ามาทั้งจากคนรอบข้าง และสภาพแวดล้อม ให้เราได้นั่งลงเเละคิดว่าความฝันของเราจะเกิดขึ้นได้จริงไหม

ผมก็เป็นคนหนึ่งในนั้น ที่มีความฝันอยากทำกาแฟเป็นอาชีพ อยากมีโรงคั่วกาแฟที่ทำกาแฟดีๆ ให้คนรู้จักและได้ดื่ม มีฝันอยากลงแข่งขันเพื่อสักวันจะได้เป็นเเชมป์ไปแข่งขันระดับโลก เหมือนร้านที่เราเคยไปกินเวลาไปเที่ยว และที่สุดคือการมีชีวิตอยู่ได้ ด้วยการทำกาแฟหล่อเลี้ยงชีวิต แล้วเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วจากวันแรกที่หยิบอุปกรณ์มาชงกาแฟเล่นๆ ที่บ้านจนมาถึงวันนี้ ผ่านวันที่เราเจอคำถามเเละข้อกังขามากมายจากคนรอบข้าง ทำให้ผมได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ 

และนี่คือเรื่องราวที่ผมอยากเล่าให้ทุกๆ คนฟัง เรื่องราวบทหนึ่งในชีวิตของผมจากประสบการณ์ที่ได้ทำโรงคั่วกาแฟที่มีชื่อว่า ‘hands and heart’ (#พื้นที่โฆษณา)

ผมขอเริ่มจากคำถามที่พบบ่อยๆ ก่อนเปิดร้านกาแฟ ซึ่งท่าไม้ตายของคำถามเหล่านี้มีหลายท่า ถ้าพร้อมแล้ว เริ่ม!

Round 1 (3 2 1 go!)

ท่าที่ 1 

แพสชั่นพอมั้ย?

ในเมื่อเราจะลงมือทำอะไรบางอย่างตามแพสชั่นของเรา คำถามคือ เรารู้จักคำว่าแพสชั่นของเราในเเง่มุมไหน เรามีเป้าหมายในการทำร้านกาแฟของเราให้ไปอยู่ในจุดไหน เป็นโรงคั่วระดับโลกที่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค หรือเป็นร้านกาแฟที่มีเมนูแฟนตาซีให้คนดื่มสนุกตลอดเวลา หรือเป็นร้านกาแฟที่สนับสนุนความเป็นโลคอลแล้วเอาจุดนั้นมาสร้างเเบรนด์ของตัวเองให้คนดื่มได้รู้สึกซาบซึ้ง อินตาม หรือเป็นร้านกาแฟที่เป็นจุดนัดพบของคนให้เข้ามาใช้เวลาแห่งความสุขร่วมกันกับเพื่อนๆ หรือคนรู้ใจ หรือนั่งทำงาน หรือเน้นเเข่งขันเพื่อก้าวสู่การเป็นแชมป์ระดับประเทศ หรือจะเป็นร้านที่มุ่งมั่นทำกาแฟในแบบที่เราชอบดื่ม ผลักดันมันจนรสที่เราชอบเป็นรสที่คนอื่นชอบ 

เราอยากให้มันเป็นแบบไหน และแพสชั่นของเราจะขับเคลื่อนมันไปถึงจุดนั้นได้ยังไง 

มีคำสองคำในภาษาอังกฤษที่เปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจน มันคือคำว่า want กับ need 

แบบเเรกอาจจะเเค่อยากมีแต่ไม่มีก็ได้ แต่อย่างหลังคือทำยังไงก็ได้ให้ได้มา

ก่อนจะเริ่มทำร้านผมเคยถามตัวเองแบบนั้น ว่าเราอยากทำกาแฟจริงๆ ไหม ถ้าไม่ทำแล้วจะมีอะไรอย่างอื่นที่ให้เราทำได้อีกแล้วจะมีความสุขกับมัน คิดไปคิดมาอยู่ 2-3 เดือน จนได้คำตอบว่า “ต้องทำ ถ้าไม่ได้ลองทำคงเสียดายแย่” 

ผ่านมาถึงปัจจุบัน ประมาณ 6 ปีแล้ว ผมก็ยังยืนยันว่าคิดไม่ผิดที่ลงมาวิ่งในสนามนี้ สนามที่ถ้าไม่ลองก็คงเสียดายแย่

แล้วความฝันของเราขับเคลื่อนด้วยแพสชั่นแบบไหนกัน? เป็นแบบที่หนึ่งหรือแบบที่สอง?

เพราะสุดท้ายแล้วการทำงานด้วยแพสชั่นอย่างเดียวมันไม่อาจพาเราไปถึงจุดหมายได้อย่างง่ายดาย คล้ายการตั้งเป้าให้ได้ PB (personal best) ในสนามมาราธอนแต่ขาดการฝึกซ้อม ไม่คำนวณปริมาณการกินเจล และไม่จิบน้ำตามระยะ

การทำร้านกาแฟก็เช่นกัน ไฟฝันและความบ้าบิ่นในช่วงเเรกจะพาเราออกเดินทางได้ เป็นร้านที่ instagramable ร้านยอดฮิต ร้านแนะนำ ร้านติดดาว ร้านเด็ดห้ามพลาด หรืออีกสารพัดร้านตามกระเเสของโซเชียลมีเดียให้ได้หลงระเริงไปได้ประมาณ 1 เดือน หรือ 3 เดือนเป็นอย่างมาก แต่มันไม่อาจพาเราไปถึงจุดหมายใดๆ ได้เลยถ้าเราไม่ได้คิดถึงองค์ประกอบอื่นๆ และสิ่งสิ่งนั้นคือเรื่องการจัดการและเงินทุน

ท่าที่ 2

ต้องมีเงินทุนเท่าไหร่?

การทำตามความฝัน โดยเฉพาะธุรกิจในฝัน สิ่งที่สำคัญคงเป็นเรื่องของเงินทุน 

ไม่มีเงินก็ไม่มีธุรกิจ 

ไม่มีธุรกิจก็ไม่มีความฝัน

ในท่าที่สองของคำถามมันจะมาในรูปแบบที่ว่า ลาออกจากงานอันน่าเบื่อมาเปิดร้านกาแฟเพื่อชีวิตที่ดีกว่าการทำงานประจำที่ทำอยู่ ชีวิตจะดีขึ้นจริงไหม เพราะการทำร้านกาแฟคือการทำงานประจำอีกรูปแบบหนึ่งที่ฉาบด้วยสีสันในชีวิตให้มากขึ้นในอีกรูปแบบหนึ่ง และเราก็ยังเป็นมนุษย์ที่กินเงินเดือนของธุรกิจตัวเองอีกเหมือนเดิม 

การทำร้านกาแฟเลยไม่ได้เท่ากับหลุดพ้นจากชีวิตเดิม และไม่ได้อยู่ในหมวดหมู่ของการทำงานที่รักแล้วเราจะรู้สึกไม่เหมือนทำงาน ไม่เหนื่อย เพลิดเพลินตลอดเวลา

งานก็คืองาน มีเหนื่อยและต้องการการพักผ่อน เช่นการไม่คิดถึงเรื่องกาแฟสักหนึ่งวัน หรือมากกว่านั้น

มาถึงตรงนี้ชีวิตเหมือนวนลูปเดิม ต่างกันแค่ได้มาเดินในเส้นทางที่เราได้เลือกเองด้วยเงินทุนของเราเอง

คำถามคือเรามีเงินจำนวนนั้นมากน้อยแค่ไหนในการเริ่มต้น และมีอิสระทางการเงินในชีวิตอยู่เท่าใดในการใช้ชีวิต 

cash flow ในธุรกิจของเรามีเหลือสำหรับระยะเวลาเท่าไหร่ 

และเช่นเดียวกันว่า ในชีวิตเรามี cash flow ให้อุ่นใจได้นานแค่ไหนกัน สำหรับการไล่ตามความฝันครั้งนี้

เงินส่วนใดเป็นเงินออม และเงินส่วนใดที่เราจะเอามาลงทุน เพราะการลงทุนครั้งนี้มีความเสี่ยง นึกภาพตามคงคล้ายเดินเข้าบ่อนรับพนันฟุตบอลถูกกฎหมายในอังกฤษ แล้วหยิบโพยกาทีมรักให้เป็นแชมป์พร้อมวางเงินเดิมพัน 

ต่างกันที่ ฤดูกาลนี้เราคือผู้เล่น และเป็นคนกุมชะตาพาทีมรักไปให้ถึงฝัน

ท่าที่ 3

เปิดร้าน งานสบายๆ ได้ใช้ชีวิตสงบ?

มีประโยคหรือวลีที่ได้ยินกันบ่อยๆ ว่าเปิดร้านกาแฟสบายๆ ชิลล์ๆ ได้มีชีวิตสโลว์ไลฟ์ ได้ไปมีความสุขแบบฮุกกะ ลากอม ลุกกะ เอนจอยเดอะโมเมนต์ ใช้ชีวิต live life with passion บลา บลา และอีกหลายๆ บลาไม่หมดสิ้น

แต่ในแง่หนึ่งแล้ว การเปิดร้านกาแฟคือการใช้เเรงงาน ลองนึกภาพการยืนเป็นเวลานานประมาณ 9 ชั่วโมง ไม่น้อยกว่านั้น และไม่ได้ยืนนิ่งๆ เพียงอย่างเดียว เพราะต้องทำอย่างอื่นไปด้วย โดยสิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำเเล้วซ้ำเล่า ในทุกๆ วัน 

ในช่วงแรกของการทำร้าน ที่ร้านจะเน้นการทำกาแฟแบบ hand brew มีอุปกรณ์หลักท่ีเราใช้มันบ่อยๆ คือเครื่องบดมือยี่ห้อ Porlex บดทีละแก้วๆ แล้วจำนวนการบดในแต่ละวันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ 

จากวันแรกจนถึงวันที่เราบดกันแทบไม่ทัน

นึกถึงอีกทีอาการเมื่อยแขนก็หวนกลับมาอีกครั้ง แม้ในตอนนั้นจะสนุกกับมันมากในฐานะคนทำ ผ่านมานานบางทีได้มีโอกาสคุยถามกับคนรอบข้างที่มีภาพจำของร้านคือการบดมือด้วยเจ้า Porlex นี้ ทุกคนต่างก็พูดในทำนองเดียวกันว่า 

“เมื่อยเเทน” และ “รอนานเหมือนกัน”

ในที่สุดแล้วเมื่อได้ผ่านช่วงเวลานั้นมา ความชิลล์มายาคติข้างต้นนั้นก็หายไป ทิ้งไว้เหลือเพียงความเมื่อยล้า

เพราะมันเป็นงานที่ใช้แรงกายมากพอสมควร ไม่เหมาะกับการเป็นงานชิลล์ๆ ในชีวิตอย่างที่เขาว่ากัน 

ความฝันอันยิ่งใหญ่มาพร้อมอาการปวดหลังล่าง (lower back) อันใหญ่ยิ่ง

การลองตอบคำถามต่างๆ ที่ว่ามาจากคนรอบข้างหรือจากตัวเองเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเริ่มทำธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจในฝัน คำถามไม่ได้เป็นสิ่งที่ยุติความฝันของเรา ณ วินาทีนั้น 

กลับกันมันคือสิ่งที่ทำให้เราได้ทบทวนว่าเรามีอะไร และเราขาดอะไรในการเริ่มต้นทำธุรกิจในฝันให้เป็นจริง

ความฝันอาจจะถีบส่งให้เราได้ออกเดินทางตามหามัน แต่ใช่ว่าเราจะดับเครื่องชนไปกับมันได้ในทันที การลองทบทวนคำถามที่เหมือนจะเบรกความฝันเราไว้ มักเป็นหนทางให้เราได้เดินไปต่อ ให้แพสชั่นไม่เป็นเพียงเเค่ต้นทุนอันฉาบฉวย

Writer

คนวัยเลขสาม บางวันชอบเขียน บางวันชอบทำกาแฟ เลยหาเรื่องเขียน และหากาแฟใส่ตัวอยู่เสมอ

Illustrator

Just another graphic designer

You Might Also Like