Fabric Specialist
moreloop แพลตฟอร์มส่งต่อผ้าเหลือใช้ที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนเทียบเท่าขับรถรอบโลก 165 รอบ
ในแวดวงแฟชั่นยั่งยืนไทย คงไม่มีใครไม่รู้จัก moreloop
ไม่ว่าตอนไหนที่เรามีโอกาสไปนั่งคุยกับคนในวงการนี้ อย่าง SC GRAND แบรนด์สิ่งทอรีไซเคิลที่ส่งต่อแนวคิดรักษ์โลกมาตั้งแต่รุ่นยาย หรือ Loopers แพลตฟอร์มซื้อ-ขายเสื้อผ้ามือสองสุดป๊อปปูลาร์ ชื่อของ moreloop ล้วนถูกกล่าวถึงอย่างน้อยหนึ่งครั้ง
![](https://capitalread.co/wp-content/uploads/2023/09/BODY-WEB-W-moreloop14-1024x683.jpg)
ย้อนกลับไปราวปี 2017 ในยุคที่คำว่าแฟชั่นยั่งยืนและเศรษฐกิจหมุนเวียนยังไม่คุ้นหู ชินปากคนไทย moreloop เกิดขึ้นในฐานะแพลตฟอร์มที่ทำหน้าที่เป็นคนกลางส่งต่อผ้าเหลือใช้ (หรือที่พวกเขาเรียกอย่างน่ารักว่า ‘ผ้าเหงา’) คุณภาพดีจากโรงงานหลายแห่งให้กับลูกค้า
ความตั้งใจแรกของ ธมลวรรณ วิโรจน์ชัยยันต์ และอมรพล หุวะนันทน์ คืออยากตัดความเสียดายในใจเวลาที่เห็นผ้าเหลือจากการผลิตออกไป ทว่าความตั้งใจที่ใหญ่กว่านั้นคือการช่วยเซฟโลกใบนี้ผ่านการหมุนเวียนทรัพยากร
วันนี้ moreloop กำลังก้าวเข้าสู่ขวบปีที่ 6 เติบโตขึ้นทุกปี และมีผ้าเหงาที่รอเจ้าของในสต็อกกว่า 3,000 รายการ แพลตฟอร์มนี้ยังกลายเป็นขวัญใจของดีไซเนอร์หน้าใหม่หลายคน ที่สำคัญคือพิสูจน์ว่าธุรกิจสีเขียวนั้นไม่ได้ขายยาก ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่เป็นสิ่งที่จะอยู่กับสังคมต่อไปอย่างยั่งยืน
บ่ายวันแดดดี เราจึงเดินทางมายังโรงงานผลิตเสื้อผ้าเก่าแก่ของธมลวรรณเพื่อคุยกันเรื่องเบื้องลึกเบื้องหลังของการทำแพลตฟอร์มที่คนในแวดวงทุกคนต้องรู้จัก
![](https://capitalread.co/wp-content/uploads/2023/09/BODY-WEB-W-moreloop17-1024x683.jpg)
ผ้าเหลือ
ถ้า moreloop เปรียบได้กับเสื้อสักตัว ด้ายเส้นแรกของธุรกิจก็ถูกถักทอขึ้นเมื่อราว 5 ปีก่อน
ในตอนนั้น ธมลวรรณคือทายาทรุ่นที่ 2 ของธุรกิจผลิตเสื้อผ้าส่งออกซึ่งมีอายุกว่า 30 ปี ส่วนอมรพลคืออดีตนักการเงินที่ตัดสินใจลาออกมาสร้างอะไรบางอย่างของตัวเอง
ตามประสาคนที่เติบโตมาพร้อมกับการผลิตเสื้อผ้า หญิงสาวมองเห็นความพิเศษของผ้าทุกผืนในโรงงาน ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เส้นใยคุณภาพดี มีคุณสมบัติเหนือกว่าเนื้อผ้าที่ขายกันทั่วไป ทุกครั้งที่เธอเห็นว่าผ้าเหล่านั้นมีส่วนเกินหลังผลิตเสร็จจึงอดเสียดายไม่ได้
![](https://capitalread.co/wp-content/uploads/2023/09/BODY-WEB-W-moreloop36-1024x683.jpg)
![](https://capitalread.co/wp-content/uploads/2023/09/BODY-WEB-W-moreloop35-1024x683.jpg)
“เพราะเรารู้ว่าเป็นผ้าดี กว่าจะได้มาสักผืนนั้นยาก รอนาน เวลาที่ไม่ได้ถูกใช้แล้วก็จะถูกด้อยค่าไวมาก ขายโละทิ้งบ้าง ชั่งกิโลขายบ้าง โรงงานไม่ได้สนใจว่าผ้าเนื้อดีแค่ไหนแต่นับเป็นของเหลือใช้ ต่อให้เราขายไปได้เป็นร้อยเป็นพันตัว เปอร์เซ็นต์ในการใช้ผ้าเหลือก็ไม่ได้ลดลง”
หญิงสาวเท้าความถึง pain point สำคัญ แล้วแวะขยายความคำว่าผ้าเหลือหรือที่คนในอุตสาหกรรมสิ่งทอเรียกว่า ‘ผ้าเดดสต็อก’ ให้ฟังว่า ตอนได้ยินคำว่าผ้าเหลือหรือผ้าเดดสต็อก ภาพในหัวของหลายคนคือผ้าชิ้นเล็กๆ คล้ายเศษผ้า แต่จริงๆ มันคือม้วนผ้าธรรมดาที่ใช้ตัดเย็บเสื้อผ้าทั่วไปนี่แหละ
![](https://capitalread.co/wp-content/uploads/2023/09/BODY-WEB-W-moreloop31-1024x683.jpg)
“ในมุมโรงงานเอง โดยปกติเพื่อป้องกันระยะเวลาที่จะเสียจากการสั่งผลิตใหม่ เราจำเป็นต้องสั่งเผื่อ 3-5% เผื่อผ้าเสีย เผื่อตำหนิ เผื่อลูกค้าเปลี่ยนใจ อีกมุมหนึ่งคือบางครั้งเราต้องสั่งผ้าในจำนวนขั้นต่ำ เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ กลายเป็นว่ายังไงมันก็เหลือ
“หากมองในแง่ธุรกิจ ผ้าเหลือเหล่านี้คือเงิน คือกระแสเงินสดของบริษัท ถ้าเราทำธุรกิจแปลว่ามันต้องมีรายได้เข้ามาหล่อเลี้ยงธุรกิจ ดังนั้นอะไรก็ตามที่สามารถสร้างรายได้ให้องค์กร ในมุมนักธุรกิจเราทิ้งไม่ได้อยู่แล้ว อยู่ที่เราจะใช้ของเหล่านั้นยังไงให้มันสร้างสรรค์และตอบโจทย์ให้กับคนอื่น”
![](https://capitalread.co/wp-content/uploads/2023/09/BODY-WEB-W-moreloop24-1024x683.jpg)
![](https://capitalread.co/wp-content/uploads/2023/09/BODY-WEB-W-moreloop33-1024x683.jpg)
![](https://capitalread.co/wp-content/uploads/2023/09/BODY-WEB-W-moreloop37-1024x683.jpg)
ประกอบกับตอนนั้น อมรพลที่เพิ่งเข้าสู่วงการสตาร์ทอัพอยากทำมาร์เก็ตเพลสออนไลน์ที่รวบรวมของเหลือจากโรงงานพอดี
“ในฐานะนักวิเคราะห์ เราเดินโรงงานมาค่อนข้างเยอะ เห็นว่ามีของเหลือในโรงงานมากมาย จึงตั้งต้นว่าอยากทำแพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับจำหน่ายของเหลือในโรงงาน แต่จะเริ่มจากอุตสาหกรรมไหนก่อนดี” เขาครุ่นคิด
วันหนึ่ง ธมลวรรณซึ่งรู้จักอมรพลอยู่แล้วทักหาเขาเพื่อขอความรู้เกี่ยวกับมาร์เก็ตเพลส ชายหนุ่มจึงแชร์สิ่งที่สนใจให้หญิงสาวฟัง แล้วก็โป๊ะเชะ
“เฮ่ย ฉันมีสิ่งนั้น”
![](https://capitalread.co/wp-content/uploads/2023/09/BODY-WEB-W-moreloop19-1024x683.jpg)
ผ้าเยอะ
อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มของพวกเขาก็ไม่ได้เกิดขึ้นปุบปับ เพราะจะทำธุรกิจทั้งทีก็ต้องคิดให้รอบ
คำว่ารอบในที่นี้ ถ้าแปลว่า ‘รอบข้าง’ น่าจะตรงตัวที่สุด
“เราชวนพี่พลมาดูที่โรงงานเพื่อให้เห็นว่าผ้าเหลือมีหน้าตาเป็นยังไง ซึ่งจริงๆ pain point นี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับโรงงานเราแค่โรงงานเดียว” ธมลวรรณย้อนเล่า
![](https://capitalread.co/wp-content/uploads/2023/09/BODY-WEB-W-moreloop21-1024x683.jpg)
แต่ตามประสานักวิเคราะห์ อมรพลขอไม่เชื่อและไปหาคำตอบด้วยตัวเองก่อนว่า pain point นี้ใหญ่มากพอจะทำธุรกิจหรือไม่ ปรากฏว่าผลลัพธ์เกินความคาดหมายไปมาก
“เอาแค่ในประเทศ เรามีผ้าส่วนเกินประมาณ 350,000 ตัน เทียบเท่าการผลิตเสื้อได้ 700 ล้านตัวต่อปี และสามารถทำเสื้อผ้าคนไทยฟรีอย่างน้อย 10 ตัว” ชายหนุ่มเน้นเสียงหนักแน่น
![](https://capitalread.co/wp-content/uploads/2023/09/BODY-WEB-H-moreloop33-683x1024.jpg)
แต่ pain point ไม่ได้จบเพียงในโรงงานเท่านั้น
หญิงสาวเล่าว่า “ในทางกลับกัน พอเราไปคุยกับน้องๆ ดีไซเนอร์แบรนด์ต่างๆ หลายคนอยากเป็นเจ้าของแบรนด์แต่เขาไม่ได้มีทุนมากพอที่จะซื้อผ้าขั้นต่ำตลอดเวลา เพราะการทำหนึ่งคอลเลกชั่น ถ้ามีเสื้อสีเดียวแบบเดียวอาจขายยาก บางคนอยากทำเป็นคอมพลีตลุค
“ดังนั้น การที่เขายอมปรับดีไซน์มาใช้ของเหลือจากอุตสาหกรรม เท่ากับว่าเขาสามารถเริ่มต้นแบรนด์ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า แถมยังมีโอกาสได้ใช้ผ้าที่มีคุณภาพระดับเดียวกับแบรนด์ส่งออก ซึ่งเขาก็ต้องเอาความคิดสร้างสรรค์และการพลิกแพลงมาแลกด้วยเช่นกัน”
![](https://capitalread.co/wp-content/uploads/2023/09/BODY-WEB-W-moreloop8-1024x683.jpg)
ผ้าเหงา
เมื่อตลาดกว้างพอ moreloop จึงเกิดขึ้นในปี 2017 ในฐานะแพลตฟอร์มส่งต่อผ้าส่วนเกินคุณภาพดีที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างโรงงานกับผู้ซื้อ
กระบวนการไล่เรียงได้เช่นนี้ พวกเขาเปิดรับข้อมูลและตัวอย่างผ้าจากหลายๆ โรงงานมารวมไว้ที่โรงงานของอมรวรรณ จากนั้นจะถ่ายรูปผ้าทุกผืนแล้วอัพโหลดขึ้นเว็บไซต์ ใครสนใจผ้าผืนไหนก็มาดูตัวอย่างได้ที่โรงงาน ก่อนจะตกลงซื้อ-ขายกัน
“ราว 5 ปีก่อน ตอนที่เราเริ่มนั้นไม่ง่าย โดยเฉพาะการสื่อสาร” ธมลวรรณย้อนความ “อย่าง moreloop เองเราจะพยายามไม่เรียกผ้าของเราว่าเศษผ้าหรือเดดสต็อก เพราะ dead แปลว่าตาย stock แปลว่าเก็บ ทั้งเก็บทั้งตาย คือคุณค่ามันไม่เหลือแล้ว เราจึงใช้คำว่าผ้าส่วนเกินหรือ surplus fabric ในยุคนั้น มั่นใจมากว่าเราเป็นแบรนด์แรกๆ ที่เล่นคำพวกนี้
“แต่ตอนนี้เรามีชื่อใหม่ เป็นชื่อเล่นของผ้าเขาว่า ‘ผ้าเหงา’ เพราะน้องแค่เหงา ยังไม่ถูกใช้” หญิงสาวหัวเราะ
![](https://capitalread.co/wp-content/uploads/2023/09/BODY-WEB-W-moreloop32-1024x683.jpg)
และจริงๆ แล้วชื่อ moreloop ไม่ได้มาแต่แรกด้วยซ้ำ พวกเขาเคยใช้ชื่อว่า waste space (พื้นที่ของเหลือ) ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นชื่อปัจจุบัน นั่นเพราะหนึ่ง–การใช้คำว่า waste ทำให้วัตถุดิบถูกด้อยค่าตั้งแต่ยังไม่ซื้อขาย และสอง-ชื่อใหม่นี้สื่อถึงการหมุนเวียน (loop) ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนที่พวกเขาวางไว้เป็นรากฐานของธุรกิจ
ในยุคนั้น คำว่าเศรษฐกิจหมุนเวียนหรือแฟชั่นยั่งยืนยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนัก moreloop จึงนับว่าเป็นแบรนด์แรกๆ ที่ผลักดันเรื่องเหล่านี้อย่างเป็นรูปธรรม จนกระทั่งการมาถึงของกระแส fashion revolution ที่สร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วโลก ทำให้พวกเขาก็ยิ่งโดดเด่นในฐานะตัวละครหลักในแวดวงแฟชั่นยั่งยืนไทย
“อะไรก็ตามที่เริ่มเป็นกระแส คนให้ความสนใจ มันมีโอกาสที่เราจะต่อยอดทางธุรกิจได้มากขึ้นอยู่แล้ว เพียงแต่เราคิดว่าสิ่งแวดล้อมไม่ใช่เทรนด์ ไม่ใช่เป็นแค่กระแส มันคือสิ่งที่มาแล้วไม่หายไปจนกว่าเราจะแก้ สิ่งที่น่าสนใจคือมีธุรกิจของน้องๆ รุ่นใหม่ที่เขาต้องมีเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจหรือองค์กร แล้วมันจะถูกขับเคลื่อนไปเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุด” หญิงสาวย้ำ
![](https://capitalread.co/wp-content/uploads/2023/09/BODY-WEB-W-moreloop26-1024x683.jpg)
ผ้าช่วยโลก
ปัจจุบัน moreloop รับตัวอย่างผ้าจากกว่า 70 โรงงาน และมีผ้าหลากหลายเกรดกว่า 3,000 หน่วยให้เลือกสรร ตั้งแต่ผ้าสำหรับตัดเสื้อเชิ้ต เสื้อยืด กางเกง ไปจนถึงเบาะเรือ
ที่ต้องมีเยอะขนาดนี้ เพราะพวกเขาไม่ได้มีกฎเกณฑ์ตายตัวว่าผ้าแบบไหนที่จะคัดเข้ามาในแพลตฟอร์ม
“เพราะถ้าเราบอกว่าจะหมุนเวียนทรัพยากรแล้วมันไม่ควรจะมีกฎเกณฑ์” ธมลวรรณให้เหตุผล แล้วกระซิบบอกว่าหากจะมีข้อยกเว้น ก็คงเป็นแค่ผ้าบางผืนที่มีลายพิมพ์โลโก้ผิดลิขสิทธิ์เท่านั้น
หลากหลายไม่แพ้เนื้อผ้าคือลูกค้า ผู้ก่อตั้งทั้งสองบอกเราว่ามีตั้งแต่เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า โรงแรม ลูกค้าที่ซื้อเอาไปประดิษฐ์ของกระจุกกระจิก อาทิ ห่วงรองเท้า หรือแม้กระทั่งคนจัดงานแต่งงานที่อยากได้ผ้าไปตกแต่งงาน
![](https://capitalread.co/wp-content/uploads/2023/09/BODY-WEB-W-moreloop4-1024x683.jpg)
![](https://capitalread.co/wp-content/uploads/2023/09/BODY-WEB-W-moreloop3-1024x683.jpg)
![](https://capitalread.co/wp-content/uploads/2023/09/BODY-WEB-W-moreloop12-1024x683.jpg)
ที่น่ารักก็คือทีมงาน moreloop ไม่ได้เรียกตัวเองว่าเป็นคู่ค้าแต่คือ Fabric Specialist ผู้เป็นเพื่อนคู่คิด
“เรามีทีมที่จะคอยแนะนำแบรนด์ต่างๆ ถ้าเขาอยากได้คำแนะนำ บางคนดีไซน์สินค้าขึ้นมาสักตัวแต่ไม่รู้ว่าผ้าแบบไหนจะเหมาะกับสินค้าของเขา เราก็ช่วยแนะนำประหนึ่งเป็นแบรนด์ตัวเอง” หญิงสาวบอก
และถึงจะเป็นแพลตฟอร์มซื้อ-ขายผ้าแต่ moreloop ก็ไม่ได้มีรายได้มาจากแหล่งเดียวเท่านั้น พวกเขายังมีบริการอัพไซเคิลที่เปลี่ยนผ้าเหล่านี้เป็นสินค้าให้กับองค์กรต่างๆ มากกว่านั้นคือผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ moreloop ของตัวเองด้วย
“5 ปีที่ผ่านมา เราน่าจะใช้ผ้าเหงาไปกว่า 60,000 กิโลกรัม ประหยัดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ไปด้วยจำนวน 870,000 กิโลคาร์บอนหรือเทียบเท่ากับการขับรถรอบโลก 165 รอบ” อมรพลเผยสถิติที่ทำให้เราทึ่ง
![](https://capitalread.co/wp-content/uploads/2023/09/BODY-WEB-H-moreloop13-683x1024.jpg)
![](https://capitalread.co/wp-content/uploads/2023/09/BODY-WEB-H-moreloop11-683x1024.jpg)
![](https://capitalread.co/wp-content/uploads/2023/09/BODY-WEB-H-moreloop19-683x1024.jpg)
ผ้าช่วยเรา
ผู้ก่อตั้งทั้งสองบอกว่า ในยุคที่คำว่าเศรษฐกิจหมุนเวียนและแฟชั่นยั่งยืนอยู่ในความสนใจของคนทั่วไป สิ่งนี้ไม่ได้เปลี่ยนความตั้งใจแต่ยิ่งตอกย้ำให้พวกเขาเชื่อในสิ่งที่ทำ
“vision ที่เรายึดถือมาตั้งแต่วันแรกคือการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนให้เกิดขึ้นจริง คำว่าจริงในที่นี้คือเป็นธุรกิจได้จริง ทำกำไรได้จริง เติบโตได้จริง และสเกลบริษัทได้จริง ซึ่งปัจจุบันเราทำเป็นธุรกิจที่มีกำไรได้จริงแล้ว เติบโตปีละ 20-30% นั่นหมายความว่ากลไกนี้สามารถที่จะเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืน แต่สิ่งที่เราอยากทำต่อจากนี้คือเราจะสเกลธุรกิจยังไงให้ได้ 5-10 เท่าในอีก 4-5 ปีข้างหน้า นั่นคือโจทย์ในอนาคตอันใกล้” อมรพลบอก
![](https://capitalread.co/wp-content/uploads/2023/09/BODY-WEB-H-moreloop18-683x1024.jpg)
“moreloop ทำให้เราได้เรียนรู้เยอะมากในฐานะผู้ประกอบการที่พยายามจะสร้างอะไรบางอย่าง สร้างสิ่งที่ตัวเองอยากเห็น ผมรู้สึกว่าเราไม่ได้สร้าง moreloop อย่างเดียวแต่ moreloop สร้างเราด้วย แบรนด์นี้ทำให้เราฝึกรับฟัง มีวินัย พัฒนาตัวเองมากขึ้น ที่สำคัญมันช่วยตอบคำถามในชีวิตของเราที่เราสงสัยว่า เราเกิดมาครั้งหนึ่งแล้วเราจะสร้างอะไรให้โลกในเวลาที่เรามีเหลืออยู่ได้ไหม การทำแบรนด์นี้ตอบคำถามนั้น” ชายหนุ่มเน้นเสียง ก่อนหญิงสาวจะเสริมต่อว่า
“moreloop ทำให้เรามองลูกค้าเปลี่ยนไป มันเปลี่ยนจากการที่เราผลิตตามสั่งให้กลายเป็นคนให้คำแนะนำได้ ทำให้เรารู้สึกสนุกกับการทำงานมากขึ้น สุดท้ายคือทำให้โรงงานเล็กๆ ของเราได้รับการมองเห็น แล้วสิ่งนี้ไม่ได้มีแค่เราเท่านั้นที่รู้สึกดีแต่พนักงานของเราที่อยู่กับโรงงานเรามานานเขาก็รู้สึกภูมิใจกับสิ่งที่เขาทำด้วยเช่นกัน”