First mover

Fitness First ทำยังไงให้เป็นเจ้าตลาดมา 20 ปี กับบทบาทผู้จัดงาน group exercise ‘TUFF25’ 

สมัยนี้ถ้าอยากออกกำลังกาย บางคนอาจเลือกวิ่งในสวนสาธารณะ บ้างออกกำลังกายเอง บ้างเข้าสตูดิโอเฉพาะทางที่เชี่ยวชาญกีฬาประเภทนั้นๆ แต่เชื่อว่าหลายคนทีเดียวที่ยังคงเลือกสมัครสมาชิกยิมหรือฟิตเนสที่มีอุปกรณ์ให้เลือกหลากหลาย พร้อมคลาสออกกำลังกายให้สลับเล่นได้ไม่รู้จบ 

และหากเลือกทางหลังสุดแล้ว Fitness First ฟิตเนสสีแดงพร้อมตัวอักษร ‘F’ เบิ้มๆ ก็น่าจะเป็นชื่อแรกๆ ที่หลายคนเลือกเปิดใจ ด้วยเป็นพี่ใหญ่ที่อยู่มานานกว่า 20 ปี

แรกเริ่มเดิมที Fitness First เป็นยิมสัญชาติอังกฤษซึ่งในประเทศแถบยุโรปนั้นมีความเป็นมายาวนาน ส่วนประเทศไทยลงหลักปักฐานตั้งแต่ปี 2001 โดยปัจจุบันมีอีก 4 ประเทศในเอเชีย ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ 

“ตลาดทางเอเชียมาหลังทางฝั่งยุโรปเขาอยู่กว่า 10 ปี แนวทางจะให้บริการที่เน้นคอสเมติกกว่า คือการทำแบรนดิ้งคู่กับการส่งมอบประสบการณ์ให้ลูกค้า ขณะที่ฝั่งยุโรปลูกค้าจะเน้นเล่นเอง ไม่เน้นกิจกรรมเท่าทางเอเชีย”

จุดเด่นของ Fitness First ที่ยังชนะใจผู้คนคือการเป็น full-service gym ที่เก็บค่าสมาชิกรายเดือน มีอุปกรณ์ออกกำลังกายให้เล่นอย่างอิสระ พร้อมห้อง group exercise ซึ่งเป็นกิจกรรมหมู่ให้ได้ร่วมจอย เช่น คลาสจักรยาน พิลาทิส โยคะ คลาสสายเต้น ไปจนถึงเวต ฯลฯ 

ที่สำคัญ ด้วยกว่า 33 สาขาของ Fitness First และ 2 สาขาแบรนด์น้องอย่าง Celebrity Fitness ที่เดินทางสะดวก เข้าถึงง่าย จึงทำให้คนที่อยากออกกำลังกายมักนึกถึงเป็นแบรนด์แรกๆ 

“ถามว่ามันมีข้อเสียของการอยู่มานานไหม พี่ว่าไม่มี แต่เป็นเรื่องที่เราต้องตื่นตัวตลอดเวลา” คุณโต–อรวรรณ เกลียวปฏินนท์ หัวหน้าทีมการตลาด บริษัท อีโวลูชั่น เวลล์เนสส์ (ประเทศไทย) จำกัด ยืนยันแบบนั้น

ในห้วงเวลาที่หันไปทางไหนก็เห็นคนเริ่มทานอาหารดีๆ ออกกำลังกายมากขึ้น และในช่วงที่ Fitness First เพิ่งจัดงาน ‘The Ultimate Fitness Force 2025’ อีเวนต์รวมตัวคนรักการออกกำลังกายแบบกลุ่มจบไปหมาดๆ เราขอพาทุกคนไปเปิดบ้าน สนทนากับหญิงสาวตรงหน้าซึ่งอยู่ในแวดวงนี้มานาน ผ่านช่วงเวลาที่ฟิตเนสยังไม่เป็นที่นิยม มาสู่ช่วงที่ใครๆ ต่างกระโดดลงมาเล่น

กับคำถามเบสิกที่หลายคนน่าจะสงสัย Fitness First ทำยังไงให้ยังยืนระยะได้จนถึงทุกวันนี้

“พวกเราสนุกกับความเปลี่ยนแปลง”

“ในมุมของนักการตลาดและผู้บริหารทุกคน เทรนด์การออกกำลังกายและการใส่ใจเรื่องสุขภาพก่อนและหลังโควิด-19 มันแตกต่างกันมาก” 

หลังโควิด-19 คุณโตอธิบายว่าผู้บริโภคมีความรู้ด้านฟิตเนสมากขึ้น ประกอบกับคอนเทนต์ในโลกโซเชียลมีเดียมากมาย ผู้บริโภครู้จักความชอบตัวเองว่าชอบหรือไม่ชอบแนวไหน กิจกรรมแบบไหนที่อยากไป ทำให้ segment การออกกำลังกายละเอียดขึ้นมาก 

“คำว่า ‘wellness’ ยังขยายขอบเขตไปมากกว่าการแค่ออกกำลังกาย แต่หมายถึงการดูแลสุขภาพ การทำกายภาพ การดูแลจิตใจ ความสนใจกับตัวเลขต่างๆ ที่มาจากกิจกรรมของตัวเอง เช่น ฉันออกกำลังกายแล้วเบิร์นไปเท่าไหร่ หรือฉันวิ่งได้แค่ไหน เพซดีขึ้นไหม เปอร์เซ็นต์ไขมันหรือกล้ามเนื้อมากขึ้นหรือลดลงยังไง และที่สำคัญคือนิยมการแชร์ต่อให้โลกต้องรู้เพื่อเป็นแรงผลักให้ทำต่อไป 

“ทั้งหมดนี้แปลว่าอะไร แปลว่าพวกเราต้องอ่านตลาดและผู้บริโภคให้แตกและให้ทัน” คุณโตยืนยัน

ตั้งแต่ day 1 ของการทำธุรกิจ Fitness First ยืนหยัดในการเป็น full-service gym ที่มีอุปกรณ์ครบครัน มีคลาสมากกว่า 150 โปรแกรม รวมกว่า 20,000 คลาสต่อเดือนในทุกสาขา นั่นหมายความ Fitness First ต้องคอยศึกษาเทรนด์ใหม่ๆ ต้องปรับคลาสและรูปแบบการสอนให้ตอบโจทย์ความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา 

“ที่เห็นชัดเจนคือคลาสที่เน้นการสร้างกล้ามเนื้อนั้นได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะคนมีความรู้มากขึ้นว่ากล้ามเนื้อนั้นเป็นส่วนสำคัญของร่างกาย นอกจากคลาสเดิมอย่าง BODYPUMP, BODYCOMBAT แล้วจึงมีคลาสสำหรับการแข่ง HYROX ที่กำลังมาแรงด้วย

“เดี๋ยวนี้คลาสพิลาทิส คลาสโยคะก็ไม่ได้มีแค่ผู้หญิงแล้ว แต่ผู้ชายก็หันมาเล่นกันมากขึ้น ซึ่งมันไม่ใช่แค่ที่ Fitness First แต่ทั่วโลกเป็นแบบนี้หมดเลย เราเลยยิ่งต้องเพิ่มคลาสพิลาทิส และเพิ่มคลาสใหม่ๆ อย่าง Jump ที่ใช้เครื่องแทรมโพลีน หรือ Bungy Bounce ที่เป็นสลิงยืดให้กระโดดและสร้างกล้ามเนื้อ หรือ Activate ที่เน้นการแก้ออฟฟิศซินโดรม คอ บ่า ไหล่ สะโพก แล้วเราก็เพิ่มแพ็กเกจ ProRelieve หรือการนวดเฉพาะจุดเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่เล่นกีฬาเยอะ คลายความตึงและเกร็งสะสมของกล้ามเนื้อที่ใช้ขณะเล่นกีฬา” 

Fitness First ยังมี PT100 Membership สำหรับคนที่สนใจการเทรนแบบส่วนตัวโดยเฉพาะ ซึ่งเมื่อลูกค้าซื้อแพ็กเกจ PT100 แล้ว ลูกค้าไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าสมาชิกรายเดือน ฝึก 100 ชั่วโมงกับเทรนเนอร์ได้มากถึง 3 คนใน 2 สาขา และเลือกออกกำลังกายได้ทุกสาขาของ Fitness First และ Celebrity Fitness ตอบโจทย์คนที่มีบ้านและที่ทำงานคนละโลเคชั่น

“เราอาจจะไม่ใช่ยิมที่หรูหรามากที่สุด แต่เรามั่นใจที่สุดเรื่องคุณภาพการดูแลทุกคนที่เดินเข้ามาเพื่ออยากให้ตัวเองแข็งแรงขึ้น เพราะเราครบทั้งฮาร์ดแวร์ คือเป็นยิมที่ครบทุกโซนอุปกรณ์ มีคลาสหลากหลายประเภท และซอฟต์แวร์ คือพนักงานประจำ 1,600 คนที่ได้รับการเทรนตลอดเวลา ดูแลสมาชิกได้ 65,000 กว่าคน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยากที่สุด แต่เรายังคงเป็นที่หนึ่งและแข็งแรงมากเสมอมา”

การพัฒนาและปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์สุขภาพที่เปลี่ยนไปของ Fitness First ไม่ได้หยุดอยู่แค่การพัฒนาสินค้าและบริการ แต่คุณโตยังเล่าให้เข้าใจว่าในเชิงการสื่อสาร ก็ยิ่งต้องละเอียดมากขึ้นชนิดที่ไม่ใช่แค่ micromarketing แต่คือ nanomarketing 

“การสื่อสารเราอาจจะต้องทำการบ้านกันโหดนิดหนึ่ง ต้องคิดว่าเรื่องนี้เราพูดกับใคร เราไม่ได้แค่พูดกับคนอยากสุขภาพดี เท่านี้มันไม่พอแล้ว เราเปิดเรดาร์วิเคราะห์ให้ลึกกว่านั้นโดยใช้ database และ social listening ระบุกลุ่มลูกค้าให้ละเอียด เช่น ถ้าเราจะพูดกับผู้ชายอายุ 25-28 ปี เป็นฟรีแลนซ์ที่ชอบออกกําลังกายเดี่ยวๆ คือไม่ได้ยุ่งกับใครมาก แล้วสินค้าอะไรที่เขาจะอยากได้และเราจะหาเขาเจอได้จากช่องทางไหน”

สมาชิกส่วนใหญ่มีอายุ 30-40 ปี ตอนนี้ Fitness First เริ่มสื่อสารเพิ่มกับกลุ่ม first jobber และกลุ่มคนที่เริ่มเข้างานที่สอง ช่วงอายุประมาณ 28-35 ผ่านการเลือก opinion leader ที่ล้วนมีเรื่องราวและความชอบเรื่องสุขภาพที่แตกต่างกัน 

ตั้งแต่ก้อย อรัชพร ที่ไม่เคยออกกำลังกายเลย หมอเจี๊ยบ ลลนา ที่มีเป้าหมายเรื่องสุขภาพเพื่อใช้ชีวิตอย่างยาวนานกับคนรัก นนกุลซึ่งรักการออกกำลังกายเป็นทุนเดิม ไปจนถึงน้าเน็กที่เป็นตัวแทนของคนที่เชื่อมหลายเจนฯ 

“เรายังไม่เห็นความเสื่อมถอยของธุรกิจนี้ แต่ถามว่ายากขึ้นไหม สิบเท่าตัว แต่เป็นเรื่องธรรมดามาก คิดว่าทุกคน ทุกธุรกิจเจอแบบนี้หมด ทุกคนต้องทำงานและวิเคราะห์หนักขึ้น สังเกตตลาดมากขึ้น ปรับตัวให้เร็วมากขึ้น พัฒนาตัวเองให้ดีมากขึ้น บางอย่างเรา beyond เทรนด์ บางอย่างเราตามเทรนด์”

“ไม่ใช่เพราะเราหน้าใหญ่ แต่เรารู้ว่าตลาด group exercise สำคัญมาก”

หากใครติดตามข่าวสารแวดวงสุขภาพ อาจได้เห็นการจัดงาน The Ultimate Fitness Force ที่ Fitness First เป็นผู้บุกเบิก และทำต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 

นี่คืองานสำหรับคนรักการเข้าคลาสออกกำลังกาย เพียงแต่ย้ายเซตติ้งจากยิมเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ เสมือนเป็นคอนเสิร์ตที่คนรักการเข้าคลาสออกกำลังกายจะมารวมตัวใช้แรงกาย แรงใจ และสนุกกับเสียงเพลงพร้อมๆ กัน 

ตลอด 2 วัน จะมีคลาสหลากหลายประเภทสำหรับความชอบทุกแบบ ให้แฟนคลับที่ปกติออกกำลังกายในคลับ ได้มาเปลี่ยนบรรยากาศแบบสุดขั้วแบบคอนเสิร์ต กับไอคอนระดับตำนานจากทั้งไทยและ Les Mills Asia Pacific เจ้าของลิขสิทธิ์คลาสออกกำลังกายอย่าง BODYPUMP, BODYCOMBAT, BODYJAM, Les Mills Pilates ฯลฯ มาขึ้นนำออกกำลังกายบนเวที

“ถ้าไม่ใช่เรา ทำไม่ได้ เราไม่ได้คิดไปเอง แต่เหตุผลคือต้นทุนมันมหาศาลมากในทุกมิติ ทั้งการจัดงาน กำลังคน อุปกรณ์ การหวังกำไรเป็นไปไม่ได้เลย แต่นี่คือการลงทุนเรื่องแบรนดิ้งกับกลุ่มคนที่มีความรักในการออกกำลังกายเหนียวแน่น ที่สำคัญที่สุดคือ กิจกรรมนี้ทำให้คนใหม่ๆ อยากคิดเริ่มออกกำลังกายมากมาย คนที่ออกอยู่แล้วก็ยิ่งสนุกต่อไปไม่เลิก สิ่งเหล่านี้ประเมินค่าไม่ได้เลย”

The Ultimate Fitness Force 2025 สร้างผลลัพธ์ที่ดีในหลายเด้ง เด้งแรกคือการสร้างความสดใหม่ให้คนรักการเข้าคลาส ทั้งยังเป็นเหมือนการสร้างเป้าหมายให้คนออกกำลังกายไม่เพียงแค่ออกในคลาสให้ได้เท่านั้น แต่คือการตั้งเป้าว่าพัฒนาการในคลาสจะต้องดีขึ้นเพื่อให้สามารถจอยงานในปีหน้าได้สนุกกว่าเดิม

“บรรยากาศมันขนลุกมาก มันคืออีเวนต์ที่ถูกคัดเลือกมาแล้วทุกอย่าง ทั้งเซตอัพที่ยิ่งใหญ่แบบคอนเสิร์ตที่ในคลับให้ไม่ได้ ได้อยู่ใน environment ที่มีคนคลั่งไคล้ในสิ่งเดียวกัน แต่ละคนที่เข้าร่วม เขาเลือกมาทุกสิ่ง รองเท้า เสื้อผ้าหน้าผมเป็นยังไง เขาโชว์สายรัดข้อมือว่าเขาเข้ากี่คลาส เขาซื้อของที่ระลึกอะไรบ้าง

“อีกข้อคือการยกระดับความฝันของเทรนเนอร์ให้เป็นจริง เพราะเขาต้องการอยู่บนเวทีระดับโลก อยู่ระดับเดียวกับเทรนเนอร์ระดับโลกทั้งแผงแบบนี้ แล้วกว่าที่คุณจะขึ้นไปตรงนั้นได้ ไม่ใช่จับฉลากมา แต่มันคือผลของการเทรนอย่างหนัก การสอนในคลาส การมีชั่วโมงบินมากมาย และยังต้องผ่านการคัดเลือกอีก มันทำให้เขาเห็นภาพว่าสายอาชีพของเขามันมี next step เสมอ” 

จากครั้งแรกในปี 2024 ซึ่งรองรับคนได้ 4,000 คน ในปี 2025 ที่ผ่านมา Fitness First ขยายงานเพื่อรองรับคนกว่า 8,000 คน และขยายกลุ่มเป้าหมายเพื่อเน้นไปที่ชาวต่างชาติมากขึ้น จึงได้ร่วมมือกับสยามพิวรรธน์และหลากหลายพาร์ตเนอร์  

“เราปักงานนี้เป็น the largest group fitness in Asia ใครชอบการออกกำลังกายแบบกลุ่มต้องมา เพราะใหญ่สุดแล้ว เป็นการผลักกระแสการออกกำลังกายแบบกลุ่มให้กับทั้งตลาดประเทศไทย มันเกินเลยเป้าแค่องค์กรเราไปแล้ว 

“เราจึงต้องทำ เพราะเราทำได้ เราคาดหวังให้คนมีความสุขกับการเข้าร่วมกิจกรรม พบความชอบของตัวเองและออกกำลังกายต่อเนื่อง เป็นสมาชิกเราก็ดี ไม่ใช่สมาชิกเราก็ได้ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่นึกถึง group exercise มันคือมาตรฐานนี้นะ และนี่แหละคือ Fitness First ประเทศไทย”

“ความยั่งยืนของธุรกิจอยู่ที่รากหญ้า”

หากมองในมุมมองผู้บริโภค ลูกค้า สมาชิกทั้งหลาย จะว่าจุดเด่นของ Fitness First คือสาขาที่เยอะเดินทางสะดวก และคลาสที่หลากหลาย ก็ได้ เพราะเป็นจุดขายที่นำหน้าเจ้าอื่นๆ มากโข 

แต่หากถามในมุมมองของผู้บริหารอย่างคุณโตแล้วนั้น เธอบอกว่า “เราบอกให้ว่าความยั่งยืนของธุรกิจอยู่ที่รากหญ้า” –ในความหมายนี้คือเหล่าพนักงานทุกแผนกที่เป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญกับเหล่าสมาชิก

“ในฐานะผู้บริหาร เราสร้างประสบการณ์ได้ เราสร้างกฎ หรือเช็กลิสต์ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันที่ทุกคลับต้องมีได้ แต่คนที่นำไปส่งต่อจริงๆ คือน้องๆ ที่อยู่ในคลับ เป็นเหตุผลว่าทำไมพนักงานของเราถึงเป็นพนักงานประจำร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งไม่มีแบรนด์ไหนทำเพราะมันยากมาก  

“เพราะอะไร เพราะการมีคลาสแปลว่าต้องมีคนสอน การมีคนสอนแปลว่าทักษะคุณต้องได้ ทักษะคุณได้แปลว่าเราต้องมีการเรียนรู้และการพัฒนา นั่นทำให้เรามีทีม L&D หรือ Learning & Development ที่แข็งแรงมาก”

คุณโตยังอธิบายธรรมชาติการทำงานของพนักงานในสายนี้ว่าส่วนใหญ่แล้วแม้จะจบจากวิทยาศาสตร์การกีฬา แต่พนักงานจะได้รู้ว่าตนเองมีความชอบเฉพาะก็ต่อเมื่อได้มาทำงานจริง 

“เราพลิกภาพลักษณ์ของคนที่ทำสายอาชีพฟิตเนส 20 กว่าปีก่อน คนจะเฉยๆ กับอาชีพฟิตเนสเลย จะคิดว่าเป็นแค่ครูพละ เงินเดือนก็ไม่เก๋ เดี๋ยวนี้เทรนเนอร์เงินเดือนแตะแสนได้สบาย”

Fitness First มี career path ที่ชัดเจน มีฐานเงินเดือนที่ดี มีคอมมิชชั่น มีเส้นทางการเติบโตที่ทำให้เด็กๆ วิทยาศาสตร์การกีฬาเห็นภาพว่าเมื่อเข้าสู่โลกการทำงานจริง พวกเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในสายไหนได้บ้าง คุณโตยังบอกอีกว่าผู้บริหารหลายคนของ Fitness First นั้นยังเคยทำตําแหน่งในคลับมาก่อน แต่สามารถเปลี่ยนมาสายบริหารได้จากการเทรนนิ่งทักษะความรู้ด้านการบริหาร  

นอกจากการเทรนเหล่านี้แล้ว Fitness First ยังมีกลุ่มที่เรียกว่า ‘Team Titan’ เป็นโปรเจกต์ที่คัดเอาพนักงานที่สนุกกับการทำกิจกรรม ชอบและเข้าแข่งขันตามสนามต่างๆ ทั้งสายวิ่ง HYROX ยกน้ำหนัก เต้น ขี่จักรยาน ซึ่ง Fitness First ร่วมสนับสนุนทั้งเงินทุนและอุปกรณ์ และหาผู้สนับสนุนเพิ่มเติมให้

การสนับสนุนพนักงานเข้าสู่สายการแข่งขันเหล่านี้ คุณโตถือเป็นการทำการตลาดที่ได้ทั้ง 2 ทางคือทั้งฝั่งลูกค้าที่เห็นภาพเทรนเนอร์ที่น่าเชื่อถือเพราะเข้าแข่งขันจริง และฝั่งพนักงานที่อยากพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น 

“ยกตัวอย่างพี่ขวัญ หรือพาขวัญ สุพานิชรัตนา ผู้หญิงตัวเล็กๆ อายุ 48 ปี เขาเป็น National Health Fitness Manager ที่ลงแข่งทั้ง Triathlon, Hyrox, Trail, วิ่งทางเรียบ มาต่อเนื่อง ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีมากๆ ว่าทุกคนแค่ทำสิ่งที่ชอบ ไม่ต้องวิ่งในรูตยากๆ แต่มันคือ commitment ของการ keep up ตัวเองแล้วก็มีชีวิตที่ดีขึ้น

“เด็กของเรา 1,600 คน มีความถนัดไม่เหมือนกัน แต่เรากําลังจะบอกว่าสายอาชีพนี้มันคือสิ่งที่พวกเราต้องพัฒนาตัวเองตลอดเวลา เมื่อมีโปรดักต์ใหม่เข้ามา เช่น ตอน HYROX มา เราต้องคิดเลยว่าเราจะส่งต่อให้สมาชิกได้ยังไง ที่ไหน โดยใคร โปรแกรมการเทรนพนักงานต้องเป็นยังไง เหมือนถ้าเป็นโปรแกรมเมอร์ เราก็ต้องติดตามเทคโนโลยีตลอดเวลา”

ปัจจุบัน Fitness First มีสมาชิกเช็กอินเข้าคลับเฉลี่ย 8 ครั้งต่อเดือน มี active member กว่า 65,000 ราย ในจำนวนนั้นมีสมาชิกที่ถือ PT package หรือมี personal trainer อยู่กว่า 25% ซึ่งถือว่าสูงมากเพราะจากฐานข้อมูลเอเชียมีสมาชิกที่ซื้อ PT Package อยู่ที่ 5-10% 

นอกจากนั้นยังมี Net Promotor Score (คะแนนการแนะนำ Fitness First ให้คนอื่นสมัครสมาชิก) อยู่ที่ 56 ขณะที่ค่าเฉลี่ยของยิมทั่วโลกอยู่ที่ 30-40 ซึ่งเป็นผลจากการใช้โมเดลพนักงานประจำที่ดูแลสมาชิกได้ต่อเนื่องชัดเจน

“ถึงบอกว่านี่คือรากหญ้าของความสำเร็จ เราเลือกแบบนี้ ยากหน่อย แต่เราเชื่อและพิสูจน์แล้วว่า เราจะอยู่ได้อย่างยั่งยืน”

“ความเซียนของธุรกิจที่ mature แล้ว คือการปรับตัวและทำตัวเองให้สดใหม่เสมอ”

หากเปรียบเป็นคน อายุอานาม 20 ปี อาจเป็นช่วงค้นหาตัวเองว่าจะเลือกเดินเส้นทางไหน จะทำตามหัวใจตนเองหรือทำตามกระแสสังคม แต่สำหรับ Fitness First นั้น อายุอานาม 20 ปี อาจแตกต่างออกไป 

Fitness First ถือเป็นพี่ใหญ่ในวงการฟิตเนสในไทย เป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมนี้ เป็นผู้เซตมาตรฐานหลายอย่าง และเป็นผู้ที่มาก่อนกาลซึ่งในวันนี้อาจไม่จำเป็นต้องหาคำตอบว่าฉันคือใครและต้องการสิ่งใด แต่โจทย์สำคัญคือฉันจะอยู่ยังไงให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน

“เพราะเราอยู่ใน mature stage หรือช่วงยืนระยะแล้ว ถามว่ามันมีข้อเสียไหม เราว่าไม่มี แต่เป็นเรื่องธรรมชาติอย่างที่สุด ซึ่งไม่ง่าย เราอาจไม่ได้วูบวาบแต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ลูกค้าคาดหวัง full-service gym ที่หลากหลาย ได้มาตรฐาน เขาจะรู้ว่าเขาสามารถมาที่นี่ได้ 

“ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา หลักการทำงานของเราง่ายๆ คือทุกฝ่ายคือสมาชิก พนักงาน และองค์กรต้องแฮปปี้ ตอนนี้ลูกค้าเริ่มมีหลากหลายกลุ่ม แต่ก่อนเขาอาจคิดถึงเรา แต่ตอนนี้เขาอาจไปวิ่งเอง หรือไปเล่นที่อื่นก็ได้ แต่มันแปลว่าอะไร แปลว่าในภาพใหญ่คนตระหนักรู้เรื่องสุขภาพมากขึ้นซึ่งมันดีมากนะ เราต่างหากที่ต้องมีหน้าที่หา segment ให้เจอ 

“ตลาดที่คนอยากได้ full-service gym ยังมีอยู่ไหม มีอยู่มหาศาล ประชากรประเทศไทยเป็นสมาชิกฟิตเนสมากสุดน่าจะไม่เกิน 5% ขณะที่อเมริกา แอฟริกาใต้ ออสเตรเลีย อังกฤษ เขาขึ้นหลัก 20-30% ไปเรียบร้อย หลายคนยังเป็นสมาชิกหลายยิมด้วยซ้ำ เพราะเอาความสะดวกเป็นหลัก นั่นคือสิ่งที่เรามองเห็น”

เป้าหมายในวันนี้ของ Fitness First คือการสร้างประสบการณ์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง ด้วยการทำทุกวันให้ตรงตามมาตรฐาน มองหาสินค้าและบริการใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า และไม่ปิดโอกาสตัวเองในการหาโอกาสใหม่ๆ

“เรามองว่า mature stage นี้มันไม่น่ากลัวนะ มันเป็นจุดที่แปลว่าธุรกิจเฮลตี้ด้วยซ้ำ แต่สำคัญสุดคือคือการปรับตัวและทำให้ตัวเองเป็นโปรดักต์ที่สดใหม่สำหรับตลาดเสมอ 

“แต่เผอิญพวกเรารักธุรกิจนี้มั้ง พูดอะไรมันก็สนุก คุยกันเองว่าอะไรก็เป็นไปได้หมด” คุณโตกล่าวปิดท้าย

You Might Also Like