‘Humour Marketing’
กลยุทธ์ที่ทำให้ขายหัวเราะเป็นมากกว่าหนังสือการ์ตูน
หลายๆ คนอาจมีความทรงจำผูกพันกับขายหัวเราะ ในฐานะหนังสือการ์ตูนอารมณ์ดี หรือในยุคนี้ในฐานะแบรนด์, คอนเทนต์ครีเอเตอร์ และอินฟลูเอนเซอร์ ด้านการ์ตูน คาแร็กเตอร์ และอารมณ์ขัน แต่ที่หลายๆ คนไม่ทราบ คือปัจจุบันขายหัวเราะเติบโตเป็นแบรนด์ที่ทำแคมเปญการตลาดได้อย่างสร้างสรรค์ โดยใช้ความเชี่ยวชาญด้านอารมณ์ขัน การ์ตูน และคาแร็กเตอร์ สร้างสรรค์แคมเปญการตลาดให้กับพาร์ตเนอร์แบรนด์และองค์กรต่างๆ
ในแคมเปญล่าสุดอย่าง ‘ฮ่าสิบปีขายหัวเราะ : ขายหัวเราะ 50thHAPPYversary’ ฉลองครบรอบ 50 ปี ก็ทำถึงจนกวาดรางวัลจากเวทีใหญ่มาได้หลายรางวัล รางวัลแรกคือรางวัลชนะเลิศ Creative Excellence Awards จาก CEA ในหมวด Creative Business Awards : Creative Collaboration โดยเป็นผลคะแนนทั้งจากรอบกรรมการและรอบวัดผลด้วย Social Listening
ส่วนอีกรางวัลมาจากงานมหกรรมความคิดสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอย่าง ‘AdPeople AWARDS & SYMPOSIUM 2024’ หรือในชื่อเดิมคือ ADMAN Awards’ โดยสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย ที่คว้าไปถึง 5 รางวัล ได้แก่ รางวัล Silver 3 รางวัล ได้แก่ หมวด Public Relation Plan, หมวด Experience & Activation และหมวด Digital & Social รางวัล Bronze 2 หมวด ได้แก่ หมวด Creative Strategy และหมวด Entertainment
สำหรับแคมเปญ ‘ฮ่าสิบปีขายหัวเราะ’ ที่ชวนแบรนด์และองค์กรต่างๆ มาร่วมคอลแล็บเพื่อเฉลิมฉลอง 50 ปีนั้นประกอบไปด้วยโปรเจกต์สนุกสนานมากมาย ไล่ตั้งแต่การร่วมคอลแล็บกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในโปรเจกต์ ‘เปลี่ยนไกด์เป็นแก๊ก’ ด้วยการนำมุกติดเกาะสุดคลาสสิกมาเล่าใหม่ โดยมีคาแร็กเตอร์ขาประจำอย่าง พระอภัยมณี นางเงือก นางยักษ์ และเหล่านักวาดตัวพ่อ ซึ่งเป็นทั้งซอฟต์พาวเวอร์ และ humour marketing มาช่วยโปรโมตสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ 50 แห่ง จากทั้งหมด 5 ภาค ในประเทศไทย เพื่อสร้างสีสันและกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคัก
ถัดมาเป็นการคอลแล็บร่วมกับแบรนด์สายแฟชั่น ซึ่งเป็นน่านน้ำใหม่ที่ขายหัวเราะเพิ่งเคยสัมผัส เริ่มจากการคอลแล็บกับแบรนด์ MC JEANS เพื่อออกคอลเลกชั่น ‘MC OVER’ ที่นอกจากจะมีลวดลายขายหัวเราะบนเสื้อยืดและเสื้อยีนส์ การโปรโมตยังหยิบคาแร็กเตอร์ขาประจำมาปรับลุคด้วยแฟชั่นยีนส์สุดเท่ นอกจากนั้นยังมีการคอลแล็บร่วมกับแบรนด์แฟชั่นสายสตรีทอย่าง CARNIVAL ที่หยิบฟอนต์อันเป็นเอกลักษณ์ของขายหัวเราะ และแก๊กตลกสามช่อง มาเปลี่ยนเป็นคอลเลกชั่นเสื้อผ้าสุดลิมิเต็ด ที่ sold out อย่างรวดเร็ว
ในหมวดอาหาร ขายหัวเราะยังร่วมคอลแล็บกับแบรนด์ที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนานอย่างขนมปัง ‘ฟาร์มเฮ้าส์’ ที่นอกจากจะออกฟรุ้ตพาย 5 รสชาติ ยังมีการนำคาแร็กเตอร์ขวัญใจ ทั้งปังปอนด์ หนูหิ่น คุณมิลค์ บ.ก.วิธิต และเจ้าแมวตุ้มเม้งมาอวดโฉมบนแพ็กเกจจิ้งขนมปังแถว
หรือจะเป็นฝั่งการทำงานร่วมกับแบรนด์แว่นตาที่อยู่คู่กับคนไทยมานานอย่าง ‘หอแว่น’ ที่หยิบคาแร็กเตอร์ยอดนิยมมาดีไซน์แว่น 2in1 ที่เป็นทั้งแว่นสายตาและแว่นกันแดด ให้เข้ากับลุคและสไตล์ของคนแต่ละวัย ก่อนจะเอาใจสายสตรีทอีกครั้งด้วยการร่วมมือกับ Preduce Skateboards แบรนด์สเก็ตบอร์ดขวัญใจเด็กสยามสแควร์ รังสรรค์สเก็ตบอร์ดซีรีส์พิเศษ ซึ่งหยิบเอาลวดลายมุกตลกสุดฮาที่เป็นดั่งจดหมายเหตุมาประทับบนแผ่นสเก็ต
และปิดท้ายแคมเปญด้วยการคอลแล็บกับ IKEA แบรนด์เฟอร์นิเจอร์จากสวีเดน ในโปรเจกต์ ‘ขำแบ็คโฮม’ ที่หยิบเอกลักษณ์ความเป็น Thai Local ผสมผสานกับอารมณ์ขัน เพื่อโปรโมตสินค้าต่างๆ ของ IKEA ในรูปแบบอนิเมชั่น และ Gagtalogue หรือแค็ตตาล็อกในสไตล์การ์ตูนแก๊กตามแบบฉบับขายหัวเราะ
หัวใจสำคัญของแคมเปญ ‘ฮ่าสิบปีขายหัวเราะ’ ไม่เพียงเป็นการนำคาแร็กเตอร์ตัวการ์ตูนจากขายหัวเราะและอารมณ์ขันซึ่งเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่ทุกคนรู้จักดีมาเป็นตัวชูโรง แต่ยังเป็นการหยิบคาแร็กเตอร์ตัวการ์ตูนต่างๆ ซึ่งเราคุ้นเคยกันตั้งแต่เด็กมาจับคู่กับแบรนด์ โดยดึงจุดเด่นของทั้งสองฝ่ายมาสร้าง product & service ที่น่าสนใจ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในแต่ละเจเนอเรชั่น ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงวิธีในการประยุกต์ใช้ความถนัดและจุดแข็งที่มีอยู่ในมือ มาต่อยอดส่งเสริมในด้านการตลาดและโลกธุรกิจด้วยความคิดสร้างสรรค์ไร้ขอบเขต
คุณปาริชาต บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายบริการการตลาด ททท. กล่าวถึงความร่วมมือและรางวัลนี้ว่า “ทาง ททท. มีวิสัยทัศน์ อยากให้นักท่องเที่ยวมีความสุขในการเที่ยวเมืองไทย ขายหัวเราะเป็นพันธมิตรที่มีศักยภาพ ถ้าพูดถึงขายหัวเราะคนก็จะมีรอยยิ้มตรงกับสิ่งที่เราคิดพอดี ก่อนหน้าปี 2566 เราเคยทำเรื่องของเกาะขายหัวเราะ ในเรื่องของความยั่งยืนซึ่งก็ประสบผลสำเร็จ ทำให้สร้างชื่อเสียงเละเกิดการเดินทางท่องเที่ยวเป็นรูปธรรมอย่างเห็นได้ชัด เราก็เลยคิดว่าถ้าเรามีพันธมิตรที่มีศักยภาพ วัตถุประสงค์ตรงกัน เเละเป็นปีท่องเที่ยวไทยผนวกกับอยากให้คนไทยอยากให้นักท่องเที่ยวมีความสุขก็เลยเป็นอะไรที่ลงตัว พอทราบ (ว่าได้รางวัล) ก็หายเหนื่อย คือความตั้งใจ ความดีใจ เป็นค่าตอบเเทนการทำงานของพวกเราที่มุ่งมั่นตั้งใจให้การท่องเที่ยวไทยยั่งยืน เวลาเราทำเเล้วออกดอกออกผลก็เป็นความภูมิใจของพวกเรา”
ตัวแทนจากทาง IKEA ประเทศไทย คุณยุนนา ชอย ผู้จัดการแผนกการตลาดและประชาสัมพันธ์ และคุณวรันธร เตชะคุณากร ผู้จัดการแผนกออกแบบและสื่อสาร เล่าว่า “ขายหัวเราะสร้างความสุขให้กับผู้คนที่บ้าน IKEA ก็สร้างความสุขให้กับคนเหมือนกัน ไม่ได้เป็นในมุมแก๊ก แต่เป็นในมุมที่เราเอาสินค้าต่างๆ เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ มาทำให้ชีวิตของคนดีขึ้น และเราก็อยากทำให้คาแร็กเตอร์ของ IKEA มีความขี้เล่นสนุกสนาน ทำให้คนอื่นมีความสุขได้เหมือนกัน
“จริงๆ IKEA เป็นแบรนด์จากต่างประเทศที่ได้เข้ามาอยู่ในประเทศไทย พอได้มาทำงานร่วมกันกับขายหัวเราะ ก็รู้สึกว่า ทำให้เข้าถึงคนไทย ทำให้ IKEA เป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตของผู้คนในชีวิตประจำวันของคนไทยได้มากขึ้น เป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับขายหัวเราะ หลังจากนั้นถึงจะรู้สึกดีใจว่า สิ่งที่เราได้ทำร่วมกัน มีผู้คนมากมายชอบ และทำให้พวกเราได้รับรางวัลกับผลงานที่พวกเราตั้งใจกันทำมาหลายเดือน”
ส่วนคุณริชาร์ด อมตวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เล่าว่าความร่วมมือในครั้งนี้ ทั้งแม็คยีนส์ ฃและขายหัวเราะ ต่างมีดีเอ็นเอที่ตรงกันในหลายๆ ส่วน ทั้งสองแบรนด์ต่างปรับตัวและนำเสนอสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ อย่างแม็คยีนส์ก็มีเพิ่มช่องทางการขายออนไลน์ นำเสนอสินค้าและคอลเลกชั่นใหม่ๆ ต่อเนื่อง เช่นเดียวกับขายหัวเราะ ที่ปัจจุบันมีการพัฒนาไปมากกว่าแค่หนังสือ
“การ collaboration ในคอลเลกชั่นนี้จึงน่าจะเพิ่มสีสันให้กับแบรนด์แม็คยีนส์ และเป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ทำร่วมกับพาร์ตเนอร์ที่มีดีเอ็นเอหลายอย่างตรงกัน เป็นอีกหนึ่งก้าวที่แบรนด์ได้หาสิ่งสนุกๆ มานำเสนอ เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้า ยินดีกับขายหัวเราะด้วยกับความสำเร็จ และยินดีที่ได้ร่วมงานกันในโปรเจกต์คุณภาพนี้และได้สร้างสรรค์คุณภาพให้กับลูกค้าร่วมกันและหวังว่าขายหัวเราะจะได้ต่อยอดสิ่งดีๆ แบบนี้ให้ลูกค้าต่อไป”