‘โอม จงปัง’
6 แบรนด์ที่หวังสร้างยอดด้วยกลยุทธ์มูเก็ตติ้ง ในวันที่คนไทยกว่า 52 ล้านคนเชื่อเรื่องโชคลาง
‘ใส่เสื้อสีมงคลประจำวัน เปลี่ยนกระเป๋าตังค์ตามสีวันเกิด เปิดไพ่ทำนายดวงชะตา เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ให้มงคล’
สิ่งเหล่านี้แทบจะเป็นเรื่องปกติเพราะเรื่องโชคดวงและความศรัทธาแทบจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคนไทย ยิ่งในปัจจุบันที่เศรษฐกิจฝืดเคือง สถานการณ์ทางสังคมย่ำแย่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจึงกลายเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจและทำให้หลายคนผ่านเรื่องราวในแต่ละวันไปได้ เพราะหวังว่าวันพรุ่งนี้จะต้องปัง
ไม่แปลกใจหากผลสำรวจพฤติกรรมคนไทยสายมูของบริษัท Lucky Heng Heng จะพบว่าคนไทยกว่า 52 ล้านคน หรือคิดเป็น 75% ของทั้งประเทศ เชื่อเรื่องโชคลาง และเน้นพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ โดยเฉพาะในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมานี้เทรนด์มูเตลูมาแรงอย่างต่อเนื่อง จนดันให้ตลาดสายมูหรือ ‘มูเก็ตติ้ง’ ถูกจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 5 เทรนด์การตลาดดาวรุ่งที่มาแรงที่สุด
สอดคล้องกับข้อมูลของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พบว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการมูมีเงินสะพัดกว่า 10,000-15,000 ล้านบาท และโตขึ้น 10-20% ต่อปี ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีที่แบรนด์ต่างๆ จะจับประเด็นเรื่องการมูเตลูมาต่อยอดเป็นกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อดึงดูดใจลูกค้าและเพิ่มยอดขาย
แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นความเชื่อย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย ในเมื่อแต่ละคนมีความเชื่อที่แตกต่างกันไป แบรนด์ไหนที่จะทำมูเก็ตติ้งจึงต้องศึกษาอินไซต์ของผู้บริโภคให้ดี โดยมีตัวอย่างการสำรวจพฤติกรรมของผู้คนที่น่าสนใจ จากสถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) พบว่าในจักรวาลไทยมูนิเวิร์ส นิยมเชื่อเรื่องเทพ สี ตัวเลข และเครื่องรางเป็นหลัก และมักมูแบบไร้ข้อจำกัด คือเปิดกว้างเรื่องศาสนาหรือความเชื่อ พร้อมกราบไหว้บูชาและปฏิบัติตามเพื่อให้ประสบผลสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนา
นอกจากนี้คนต่างเจเนอเรชั่นก็มีความเชื่อที่ไม่เหมือนกัน และต้องใช้กลยุทธ์มัดใจที่แตกต่างกันออกไป เช่น
- คน Gen X หรือคนในช่วง 43-58 ปี นิยมการมูตามธรรมเนียมปฏิบัติที่มีมาแต่รุ่นก่อน และมักขอพรในเรื่องสุขภาพ กลยุทธ์สำหรับคนเจนฯ นี้จึงเน้นไปทางการเติมพลังกาย พลังใจ และกิจกรรมที่คุ้นเคยอย่างการสวดมนต์ ไหว้พระ และทำบุญ
- เจนฯ Y หรือคนในช่วง 27-42 ปี มักเปิดกว้างให้ทุกความศรัทธา บูชาได้ทุกศาสนา และปฏิบัติตามได้ทุกความเชื่อ โดยโฟกัสไปที่เรื่องการงานและการเงิน กลยุทธ์เจาะใจคนเจนฯ Y จึงควรเน้นไปที่การเปิดประสบการณ์มูแบบใหม่ๆ แต่ควรให้ข้อมูลที่ถูกต้องชัดเจน เพราะเจนฯ นี้ชอบค้นหาและแชร์ข้อมูลกับคนรอบข้าง
- เจนฯ Z หรือคนในช่วง 11-26 ปี ชื่นชอบการมูที่มีลูกเล่นและสีสัน เน้นเรื่องการงานและการเรียน กลยุทธ์ซื้อใจคนเจนฯ Z จึงต้องเป็นการมูแบบไม่ตะโกน คือของที่มูต้องดูดีมีสไตล์ ถ่ายรูปสวย และเสริมความมั่นใจได้ทั้งในชีวิตประจำวันและในโลกออนไลน์
จากเทรนด์สายมูที่มาแรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่ ประกอบกับพฤติกรรมของผู้บริโภคข้างต้น เห็นได้ว่าหลายๆ แบรนด์มีการเปิดตัวสินค้าและบริการ เพื่อเจาะตลาดสายมูกันมากขึ้น และเพิ่มลูกเล่นให้น่าสนใจจนเป็นที่ฮือฮาทันทีที่เปิดตัว วันนี้ Capital จึงขอมา Recap ถึงแบรนด์ที่ใช้กลยุทธ์มูเก็ตติ้ง จัดเต็มทั้งสินค้าที่ไม่คิดว่าจะมาทางสายมูได้ ให้ได้มูกันตั้งแต่หลับยันตื่นกันเลยทีเดียว
1. หลับเต็มตื่น มูเต็มผืน ด้วยชุดผ้าปูเสริมดวงจาก ‘ซาติน’
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการมาของเทรนด์สายมู ส่วนหนึ่งก็มาจากช่วงโควิด-19 ที่ผู้คนกังวลกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ทั้งเรื่องสุขภาพกาย สุขภาพการเงิน และเรื่องการงาน ประกอบกับช่วงนั้นผู้คนก็หันมาอยู่บ้านกันบ่อยขึ้น ‘ซาติน’ แบรนด์เครื่องนอนที่อยู่คู่คนไทยกว่า 70 ปี จึงจับ pain point เหล่านั้น มาต่อยอดสู่การทำ ‘ชุดผ้าปูที่นอนเสริมดวง’
ด้วยความคิดที่ว่าการนอนที่ดีถือเป็นจุดเริ่มต้องของการมีสุขภาพที่ดี และชีวิตดีๆ จะตามมา โดยจับมือกับ ‘หมอช้าง–ทศพร ศรีตุลา’ หมอดูชื่อดังของไทยออกชุดเครื่องนอนเสริมดวงให้ปังของทั้ง 12 ราศี และทำให้ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายด้วยดีไซน์ ลวดลาย และสีสัน ที่ปรับให้เข้ากับห้องนอนทุกแบบ ทุกสไตล์ และชูเรื่องคุณภาพ
ด้วยกระแสตอบรับที่ดี จึงออกชุดที่นอนตามราศีคอลเลกชั่นใหม่ๆ ต่อเนื่องกันมาตลอด 4 ปีเต็ม ตั้งแต่ปี 2562-2566 พร้อมตั้งเป้าหมายว่าการบุกตลาดสายมูในครั้งนี้จะทำให้ซาตินเพิ่มยอดขายในแต่ละปีได้ถึง 40%
2. อาบน้ำรีเฟรชดวง กับ ‘โชกุบุสซึ’ กลิ่นดิน น้ำ ลม ไฟ
ใครจะคิดว่าแม้แต่การอาบน้ำก็ช่วยเสริมดวงให้เราได้ โชกุบุสซึจับมือกับโลตัส จับอินไซต์ที่คนส่วนใหญ่รู้สึกมีความสุขและผ่อนคลายเวลาได้อาบน้ำ มาผสมผสานเข้ากับหลักฮวงจุ้ย อย่างน้ำถือเป็นสิ่งชำระล้างที่ดี ส่วนธาตุเป็นตัวบอกอารมณ์และความรู้สึกของคน จนออกมาเป็น ‘โชกุบุสซึ จักรราศี’ ครีมอาบน้ำตามธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนเมษายน 2567 นี้
และได้ผู้เชี่ยวชาญอย่าง ‘หมอช้าง–ทศพร ศรีตุลา’ มาช่วยคัดเลือกกลิ่นให้เหมาะสมกับคนแต่ละธาตุ ตามหลักทางโหราศาสตร์ โดยเลือกใช้กลิ่นตามธาตุของตัวเองหรือธาตุอื่นๆ ได้ เพราะแต่ละธาตุก็จะส่งผลดีไม่เหมือนกัน เช่น หากต้องการปรับสมดุลก่อนนอนให้เลือกใช้กลิ่นธาตุน้ำ หากต้องการปลุกความคิดสร้างสรรค์ให้เลือกใช้กลิ่นธาตุลม
ก่อนหน้านี้โชกุบุสซึมียอดขายอันดับ 1 ถึง 3 ปีซ้อน คาดว่าครีมอาบน้ำเสริมดวงน่าจะส่งผลดีต่อการรักษาอันดับไม่มากก็น้อย ส่วนฟากฝั่งโลตัส ด้วยการคอลแล็บกันเพื่อวางขายครีมอาบน้ำคอลเลกชั่นพิเศษนี้เฉพาะที่โลตัส ก็ถือเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยกระตุ้นยอดขายทั้ง 2 ฝ่ายได้ดีทีเดียว
3. เสริมสิริมงคลกับบัตรแรบบิทมหาเทพจาก ‘แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์’
ถ้าใครเดินทางด้วยรถไฟฟ้าในช่วงนี้น่าจะเห็นป้ายโฆษณาที่ติดโปรโมต ‘บัตรแรบบิทลายมหาเทพ’ ทั้ง 4 แบบ ซึ่งล้วนเป็นเทพที่หลายคนคุ้นเคยกันดี ได้แก่ พระพิฆเนศ พระพรหม พระแม่ลักษมี และเจ้าแม่กวนอิม
บัตรนี้ไม่ได้มีวางขายที่ BTS เหมือนบัตรแรบบิทคอลเลกชั่นอื่น เพราะเป็นลายพิเศษที่ ‘แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์’ มอบให้ฟรีสำหรับลูกค้าที่เปิดบัญชีออมทรัพย์ดิจิทัล โปร-ฟิต และบัญชีออมทรัพย์คุ้มครองชีวิตเท่านั้น เพื่อหวังกระตุ้นให้คนมาเปิดบัญชีมากยิ่งขึ้น เป็นอีกสิ่งที่ทำให้เห็นว่าการตลาดสายมูมาแรงถึงขนาดที่ภาคธนาคารก็หันมาเล่นในตลาดนี้แล้วเช่นกัน
ถ้ามีโอกาสผ่านไปแถวหน้าลานเซ็นทรัลเวิลด์ จะเห็นเหล่าคนโสดมาขอพรเรื่องความรักที่ศาลพระตรีมูรติจำนวนมาก ถึงขนาดที่วันธรรมดามีคนมาขอพรวันละ 800 คน ส่วนวันพฤหัสฯ เพิ่มสูงถึง 2,000 คน และคาดว่าคนจะเยอะที่สุดในวันวาเลนไทน์
ในปี 2565 ‘Tinder Thailand’ ได้มองเห็นโอกาสนี้และคอลแล็บกับเซ็นทรัลเวิลด์ออกแคมเปญ ‘LOVE destiNATION : Eat Play Love’ เพื่อให้เหล่าคนโสดมาปัดขวากันตรงลานเทพเจ้าได้ทันทีเพื่อหวังให้เห็นผลทันควัน
พร้อมจัดกิจกรรมแจกชุดไหว้ขอพรวันละ 100 ชุดทุกวันพฤหัสในเดือนกุมภาพันธ์และในวันวาเลนไทน์ เพียงแค่โชว์แอพฯ Tinder ในโทรศัพท์ ทำให้ในช่วงนั้นเราจะเห็นภาพคนต่อแถวรอไหว้พระตรีมูรติกันยาวเหยียดเลยทีเดียว
4. ปัดขวามูเรื่องรักกับ ‘ทินเดอร์ x พระตรีมูรติ’
ถ้ามีโอกาสผ่านไปแถวหน้าลานเซ็นทรัลเวิลด์ จะเห็นเหล่าคนโสดมาขอพรเรื่องความรักที่ศาลพระตรีมูรติจำนวนมาก ถึงขนาดที่วันธรรมดามีคนมาขอพรวันละ 800 คน ส่วนวันพฤหัสฯ เพิ่มสูงถึง 2,000 คน และคาดว่าคนจะเยอะที่สุดในวันวาเลนไทน์
ในปี 2565 ‘Tinder Thailand’ ได้มองเห็นโอกาสนี้และคอลแล็บกับเซ็นทรัลเวิลด์ออกแคมเปญ ‘LOVE destiNATION : Eat Play Love’ เพื่อให้เหล่าคนโสดมาปัดขวากันตรงลานเทพเจ้าได้ทันทีเพื่อหวังให้เห็นผลทันควัน
พร้อมจัดกิจกรรมแจกชุดไหว้ขอพรวันละ 100 ชุดทุกวันพฤหัสในเดือนกุมภาพันธ์และในวันวาเลนไทน์ เพียงแค่โชว์แอพฯ Tinder ในโทรศัพท์ ทำให้ในช่วงนั้นเราจะเห็นภาพคนต่อแถวรอไหว้พระตรีมูรติกันยาวเหยียดเลยทีเดียว
5. ปลุกเสกการเงินให้ปัง เมื่อ ‘กสิกร’ ออกบัตรลายองค์เทพ
ในทุกวันนี้ที่เราสามารถกดเงินใช้บัตรผ่านแอพฯ ธนาคารได้แล้ว ทำให้บางคนเลือกที่จะไม่สมัครบัตรเดบิต จนมีรายงานว่าคนไทยใช้บัตรเดบิตลดลงปีละ 1.1%
แต่ในปี 2567 นี้เอง ‘กสิกร’ ก็แก้เกมด้วยการหยิบอินไซต์ที่คนไทยนิยมบูชาเทพกันมากขึ้น มาออก ‘บัตรเดบิตลายองค์เทพ’ ทั้ง 4 แบบ ไม่ว่าจะเป็นลายองค์พระพิฆเนศอวยพรให้งานเจริญรุ่งเรือง, ลายองค์ท้าวเวสสุวรรณอวยพรให้ร่ำรวยเงินทอง, ลายองค์พระแม่ลักษมีอวยพรให้ความรักสมหวัง และลายรวมองค์เทพอวยพรให้โชคดี
เพียงเปิดตัวไม่นานก็เรียกกระแสฮือฮาบนโลกโซเชียลเป็นอย่างมาก และหลายๆ คนแชร์ไปในทิศทางที่ว่าจะกลับมาสมัครบัตรเดบิตอีกครั้งจากบัตรลายเทพนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าติดตามต่อว่าด้วยพลังแห่งมูเก็ตติ้งจะทำให้ยอดสมัครบัตรเดบิตของกสิกรปีนี้เพิ่มขึ้นหรือไม่
6. หน้าเคลือบทองด้วยกล่องทิชชูแก้ชง ‘ซิลค์’
พอขึ้นปีใหม่ทีไร สิ่งหนึ่งที่หลายคนชอบเสิร์ชหาคือ ปีนี้ปีนักษัตรอะไรชงบ้าง และตามมาด้วยการหาสถานที่แก้ชง หรือหาของมงคลมาประดับบ้าน แต่ของมงคลเหล่านั้นมักจะมีราคาสูง
ซิลค์ กระดาษทิชชูในเครือ BJC จึงทำให้การแก้ชงเป็นเรื่องง่ายมากขึ้นพร้อมเพิ่มยอดขายให้ปัง ด้วยการวิจัยหากลุ่มลูกค้าหลักของตัวเองจนพบว่าเป็นกลุ่มแม่บ้านและผู้หญิงวัยทำงานที่ต้องการทิชชูคุณภาพดี สะอาด สัมผัสนุ่ม และพบว่าคนเหล่านั้นมีความเชื่อเรื่องปีชง
จึงได้ออกแบบลวดลายมงคลบนกล่องทิชชูเพื่อแก้ชงและเสริมดวง ออกมาต่อเนื่องถึง 3 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี 2560-2563 พร้อมดึงความเชื่อจากสิ่งศักดิ์สิทธ์ของจีนมาเสริมสิริมงคล เช่น ปี่เซียะที่เป็นสัตว์เทพมงคล และลูกท้อผลไม้ที่คนจีนเชื่อว่าจะทำให้อายุยืน ซึ่งมูเก็ตติ้งนี้ช่วยกระตุ้นยอดขายให้โตขึ้นในปีที่ซิลค์ออกสินค้าสายมูได้ถึง 29% เลยทีเดียว
อ้างอิง
- bangkokbiznews.com/business/economic/1121072
- marketingoops.com/reports/mutelu-muketing
- thairath.co.th/money/personal_finance/banking_bond/2790533
- workpointtoday.com/shokubutsu
- lhbank.co.th/th/about-us/news/pr-lhb-you-rabbit
- siamrath.co.th/n/417143
- teroasia.com/news/230592
- mgronline.com/business/detail/9620000109944