นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการใช้คุกกี้

บริษัท ทุนดี จำกัด (“บริษัท”) มีความจำเป็นต้องใช้คุกกี้ในการทำงานหลายส่วนของเว็บไซต์เพื่อรับประกันการให้บริการของเว็บไซต์ที่จะอำนวยความสะดวกในการใช้บริการเว็บไซต์ของท่าน โดยบริษัทรับประกันว่าจะใช้คุกกี้เท่าที่จำเป็น และมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลของท่านโดยสอดคล้องกับกฎ หมายที่เกี่ยวข้อง และจะไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้แก่บุคคลอื่น เว้นแต่เป็นกรณีการใช้คุกกี้บางประเภทที่อาจดำเนินการโดยผู้ให้บริการภายนอก ทั้งนี้ เมื่อท่านเข้าใช้บริการเว็บไซต์ บริษัทจะถือว่าท่านรับทราบและตกลงนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้แล้ว โดยบริษัทสงวนสิทธิ์ในการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ตามแต่ละระยะเวลาที่บริษัทเห็นสมควร โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวผ่านทางเว็บไซต์นี้... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customized advertisements based on the pages you visited previously and to analyze the effectiveness of the ad campaigns.

‘การ์ตูน มังงะ นิยาย’ ขายดีในงานหนังสือครั้งที่ 53 เจนฯ Z ครองแชมป์นักอ่าน ดันเม็ดเงินสะพัด 420 ล้านบาท

กลิ่นของกองหนังสือที่โชยมา สัมผัสของกระดาษที่คุ้นเคย การได้พบปะกับนักเขียนคนโปรด และโดนนักอ่านจากหลายสำนักพิมพ์คอยป้ายยา ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเสน่ห์ของงานสัปดาห์หนังสือที่หาไม่ได้จากที่ไหน ต่อให้ปัจจุบันจะเป็นยุคที่คนสั่งหนังสือออนไลน์พร้อมโค้ดส่วนลดมากมาย แต่กลิ่นอายของงานหนังสือก็ยังเป็นสิ่งที่นักอ่านต่างชื่นชอบ

พิสูจน์ได้จากงานสัปดาห์หนังสือครั้งที่ 53 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติครั้งที่ 23 ที่ได้ปิดฉากลงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากจัดงานยาวถึง 13 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม – 8 เมษายน 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ถึงแม้จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างแผ่นดินไหวในประเทศเมียนมา ที่ส่งแรงสั่นสะเทือนมายังประเทศไทยในวันที่ 28 มีนาคม 2568 ทำให้ต้องปิดให้บริการในวันนั้นเร็วกว่ากำหนดแต่ก็ได้ขยายการจัดงานเพิ่มอีก 1 วัน และทำให้เกิดเม็ดเงินสะพัดเป็นจำนวนมาก 

นอกจากนี้สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย หรือ PUBAT ก็ได้เปิดเผยถึงข้อมูลที่น่าสนใจ ทั้งกลุ่มนักอ่านหลักที่มาร่วมงาน ไปจนถึงประเภทหนังสือที่ถูกใจนักอ่านในปีนี้ ที่เราจะมา Recap ให้ได้ติดตามกัน

#นักอ่านกลุ่มไหนที่เทใจมางานหนังสือ

จากจำนวนนักอ่านที่เข้าร่วมงานตลอด 13 วันมีมากถึง 1.3 ล้านคน ในวันธรรมดาจะมีผู้เข้าร่วมงานเฉลี่ย 7-8 หมื่นคนต่อวัน ขณะที่วันเสาร์-อาทิตย์ เฉลี่ยอยู่ที่ 1.3-1.5 แสนคนต่อวัน ซึ่งถือว่าสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว แม้หลังจากเกิดแผ่นดินไหว 1 วัน คือวันเสาร์ที่ 29 มีนาคม ยังมีผู้เข้าร่วมงานถึง 1.3 แสนคน นอกจากนี้วันที่มีผู้เข้าร่วมงานมากที่สุดอยู่ในช่วงท้ายๆ ของการจัดงานคือวันที่ 6 เมษายน 2568 มีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 1.7 แสนคน

ในจำนวนผู้ร่วมงานที่มีมากมายแบ่งเป็นผู้หญิง 66% ผู้ชาย 27% LGBTQ+ 6% และไม่ระบุเพศประมาณ 1% โดยมีกลุ่มนักอ่านที่เข้ามาใช้บริการมากที่สุด คือ เจนฯ Z 43.65%, เจนฯ Y 36.1%, เจนฯ X (อายุ 43-58 ปี) 19.75%

#หนังสือประเภทไหนที่คนเลิฟ

ภายในงานได้มีการสำรวจประเภทหนังสือที่ผู้ร่วมงานสนใจ โดย 1 คนเลือกความสนใจได้มากกว่า 1 ประเภท จนสรุปได้ดังนี้

– 40% สนใจการ์ตูนและมังงะ

– 30% สนใจนิยายและวรรณกรรม

– 28% สนใจจิตวิทยาและให้กำลังใจ

– 25% สนใจหนังสือพัฒนาตนเอง

– 24% สนใจตำราเรียนและคู่มือเตรียมสอบ

– 8.5% สนใจหนังสือเด็ก

#ดันรายได้ถึง 420 ล้านบาท

อัตราเฉลี่ยของการซื้อหนังสือภายในงานพบว่านักอ่านกว่า 30.88% ซื้อหนังสือประมาณ 600-1,000 บาท ส่วนอีก 14.70% ซื้อหนังสือกว่า 1,000-1,500 บาท และอีก 12.84% ซื้อหนังสือมากกว่า 3,000 บาท ทำให้ตลอดการจัดงานยอดขายรวมอยู่ที่ 420 ล้านบาท ถือว่ามากกว่าปี 2567 ที่ผ่านมา ซื่งมียอดขายรวม 400 ล้านบาท

ปัจจัยความสำเร็จในครั้งนี้ส่วนหนึ่งมาจากคอมมิวนิตี้นักอ่านที่เข้มแข็ง ทั้งป้ายยาหนังสือน่าอ่าน ประชาสัมพันธ์รายละเอียดการจัดงาน รวมถึงมีอินฟลูเอนเซอร์ทำคอนเทนต์ภายในงานมากมาย ทำให้เข้าถึงกลุ่มนักอ่านหน้าเก่าและหน้าใหม่มากขึ้น

รวมถึงความสำเร็จของกิจกรรม Bangkok Rights Fair 2025 ที่เกิดการซื้อ-ขายลิขสิทธิ์ภายในงานมากถึง 271 คู่ จากผู้เข้าร่วมทั้งหมด 135 บริษัท ใน 14 ประเทศ โดยแบ่งออกเป็นบริษัทต่างชาติ 43 ราย และบริษัทไทย 92 ราย และมียอดการซื้อ-ขายลิขสิทธิ์เกิดขึ้นภายในงานมากกว่า 68 ล้านบาท

ทุกตัวเลขที่เกิดขึ้นจากการจัดงานในครั้งนี้เป็นกระจกสะท้อนอย่างดีว่า ‘หนังสือยังไม่ตาย’ และการจัดงานหนังสือในรูปแบบออฟไลน์ให้คนได้มาพบปะเจอหน้ากัน ได้จับหนังสือกับมือยังเป็นสิ่งที่นักอ่านให้ความสนใจ ในขณะเดียวกันก็ต่อลมหายใจให้กับคนในแวดวงธุรกิจหนังสือ 

นอกจากนั้นยังพร้อมเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ที่ทางสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย หรือ PUBAT ตั้งใจเดินหน้าผลักดันให้หนังสือไทยเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ และคาดว่าอีก 2 ปีข้างหน้าจะพาหนังสือไทยขึ้นแท่นศูนย์กลางอาเซียนให้ได้ เป็นที่น่าจับตามองต่อไปว่าในอนาคตแวดวงหนังสือจะเติบโตไปในทิศทางไหน

Writer

นักเขียนที่อยากเปลี่ยนเรื่องธุรกิจให้เป็นเรื่องสนุก และมีแมวกับกาแฟช่วยฮีลใจในทุกวัน

Illustrator

บรรณาธิการศิลปกรรม Email: y.pongtorn@gmail.com

You Might Also Like