คิดก่อน Trump

5 ประโยคเด็ดเรื่องภาษีจาก Donald Trump ที่ต้องการให้ America Great Again!

สัปดาห์ที่ผ่านมา คงไม่มีประเด็นอะไรที่ฮอตฮิตไปกว่าการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเก็บภาษีสากล 10% สำหรับสินค้านำเข้าทุกประเภท และภาษีแบบตอบโต้ที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ซึ่งประเทศกว่า 50 ประเทศได้รับผลกระทบเต็มๆ ส่วนไทยเราก็โดนไปกว่า 36% 

นโยบายนี้ทำเอาทุกประเทศแตกตื่นก็จริง แต่ถ้าย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทรัมป์พูดถึงภาษีศุลากากร หรือ ‘tariffs’ ตลอดเวลา ด้วยตัวเขาเอง มองว่านโยบายภาษีเป็นเครื่องมือทางการเมืองสำคัญที่จะทำให้อเมริกาแก้ปัญหาขาดดุลการค้าและหนี้สินมากมายที่สะสมมานานได้

ช่วงเวลาที่มีข่าวใหม่เรื่องภาษีผุดมาไม่เว้นแต่ละวัน ตลาดหุ้นร่วงกันระนาว และยังมีเฟคนิวส์จำนวนมาก Capital ขอพาย้อนกลับไปดูคำพูดของทรัมป์ที่สะท้อนความเชื่อของเขาที่ใช้ภาษีเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทำให้ America Great Again!

1. “I am a Tariff Man.”

ในปี 2018 ทรัมป์ได้ทวีตข้อความนี้เพื่อเน้นย้ำถึงความเชื่อของเขาว่าภาษีศุลกากรเป็นเครื่องมือสำคัญในการปกป้องเศรษฐกิจสหรัฐฯ และลดการขาดดุลการค้า เขาเชื่อว่าการใช้ภาษีศุลากากรจะช่วยสร้างความยุติธรรมในการค้าระหว่างประเทศได้  

ที่จริง เรื่องการใช้ภาษีเป็นเครื่องมือเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศนั้น ทรัมป์เองได้แรงบันดาลใจจาก William McKinley ประธานาธิบดีคนที่ 25 ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีนโยบายกีดกันทางการค้าแบบสุดโต่ง อย่างการขึ้นภาษีสูงถึง 50% ของมูลค่าสินค้านำเข้า การกระทำนี้ ทรัมป์มองว่าแมคคินลีย์นี่แหละที่ทำให้ประเทศร่ำรวยมหาศาล  

2. “To me, the most beautiful word in the dictionary is ‘tariff’.”

ระหว่างการพูดที่ Economic Club of Chicago ตัวทรัมป์เองกล่าวว่าสำหรับเขา คำว่า ‘ภาษี’ เป็นคำที่ไพเราะงดงามที่สุดในพจนานุกรม และภาษีนี่แหละจะเป็นเครื่องมือปกป้องอุตสาหกรรมและแรงงานอเมริกันได้ นั่นสะท้อนว่าทรัมป์ยกย่องภาษีเหมือนคำศักดิ์สิทธิ์ และผลผลิตของประเทศเป็นเรื่องศักดิ์ศรีของชาติ มากกว่าแค่กำไรขาดทุนเท่านั้น

3. “Whatever they tax us, we will tax them.”

จาก Economic Times ทรัมป์ได้กล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภาสหรัฐฯ ว่ามาตรการภาษีตอบโต้นี้ก็เพื่อโจมตีสหภาพยุโรป, จีน, บราซิล, อินเดีย และเกาหลีใต้ ฯลฯ ที่เรียกเก็บภาษีสินค้าสหรัฐฯ สูงเกินควร ดังนั้นทรัมป์มองว่า “พวกเขาเก็บภาษีเราเท่าไหร่ เราก็เก็บเขาคืนเท่านั้น” 

เช่นอินเดียที่ทรัมป์บอกว่าเก็บภาษีสหรัฐถึง 100% และจีนก็เก็บภาษีเฉลี่ยเป็นสองเท่าของสหรัฐ ซึ่งเขามองว่าไม่เป็นธรรม และนี่เป็นกลยุทธที่ทำให้สหรัฐฯ ไม่ต้องเป็นฝ่ายรอ แต่เป็นฝ่ายรุกที่บีบให้ประเทศอื่นๆ ต้องเข้ามาเจรจากับสหรัฐด้วยตนเอง  

4. “Tariffs are about making America rich again and making America great again.”

ทรัมป์เชื่อว่าการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ และกระตุ้นการผลิตภายในประเทศ เพราะหลักๆ แล้วเขามองว่าภาษีศุลกากรนี้จะเป็นแรงกดดันสำคัญให้บริษัทต่างๆ ย้ายฐานการผลิตกลับมาที่อเมริกา เพื่อจะได้ไม่ต้องจ่ายภาษี เขายังเสนอให้ลดภาษีนิติบุคคล จาก 21% ลงเหลือ 15%

และนี่แหละที่จะทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง 

5. “Without tariffs we wouldn’t be standing here”

ทรัมป์เชื่อว่าภาษีคือสิ่งที่ทำให้อเมริกายัง ‘ยืนหยัด’ ในเวทีเศรษฐกิจโลกได้ ยิ่งเมื่อประเทศต่างๆ รีบเข้ามาขอเจรจา เช่น สหภาพยุโรปที่เสนอข้อตกลง ‘zero-for-zero’ หรืออีกหลายสิบประเทศที่พยายามลดภาษีแลกกับการคลายมาตรการ ทรัมป์ยิ่งมั่นใจว่าภาษีคือสิ่งที่ทำให้สหรัฐฯ เป็นฝ่ายถือไพ่เหนือกว่า

ทั้งหมดเนี้เป็นเพียงบางส่วนจากปากของทรัมป์เท่านั้น ยังมีอีกหลายประโยคนั้นที่ทรัมป์กล่าวถึงภาษีซึ่งสะท้อนความคิดทางการเมืองของเขา ว่าภาษีตอบโต้ไม่ใช่แค่เครื่องมือหลักที่จะช่วยให้สหรัฐฯ มีรายได้เพิ่มขึ้น แต่เป็นแนวทางการเมืองที่เน้นการกดดัน ต่อรอง และกำหนดเกมให้สหรัฐฯ อยู่เหนือทุกคน

แม้นักเศรษฐศาสตร์จะมองในมุมตรงกันข้ามว่านี่อาจนำมาสู่ความหายนะครั้งใหญ่ และชาวอเมริกันก็ลำบากขึ้นแน่นอน เพราะจะทำให้เกิดเงินเฟ้อมหาศาล อัตราภาษีนี้ยังเข้าใกล้ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ ‘กฎหมายภาษี Smoot-Hawley ปี 1930’ ที่เคยทำให้เกิดสงครามการค้าทั่วโลกและอาจทำให้ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ หรือที่เรียกว่า Great Depression

แต่ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ โลกทั้งใบก็กำลังขยับ เพราะ ‘คำพูด’ และ ‘แนวคิด’ ของชายผู้บอกว่าตัวเองคือ ‘Tariff Man’

อ้างอิง

Writer

กองบรรณาธิการไลฟ์สไตล์ที่มีแมวเป็นแรงผลักดันในการทำงาน

Illustrator

บรรณาธิการศิลปกรรม Email: [email protected]

You Might Also Like