เอาให้โฮ่ง

5P ของ Doglicious แบรนด์ขนมสัตว์เลี้ยงของสามเพื่อนซี้ที่หมาแมวกินดี พ่อแม่ก็ทำคอนเทนต์ได้ 

พิซซ่าหน้า Salmon Lover คิมบับที่ห่อจากไข่เนื้อแน่น ชุดเบอร์เกอร์และเฟรนช์ฟรายส์ทอดหอมๆ

นึกภาพไม่ออกเลยว่าเมนูที่ได้ยินชื่อก็น้ำลายสอเหล่านี้จะกลายมาเป็นอาหารน้องหมา จนกระทั่งวันที่เราได้รู้จัก Doglicious

แบรนด์อาหารและขนมของสัตว์เลี้ยง (pet treats) แบรนด์นี้ก่อตั้งโดย เพิท–ภาณิชา ศุภหัตถานุกุล, เยลลี่–ณัฐวรรณ วุฒินภาวัฒน์ และบอม–ชนิภา ศรีสมบุญกุล สามหุ้นส่วนที่ต่างเลี้ยงและรักสัตว์เหมือนกัน 

เมนูของพวกเขานั้นไม่ใช่อาหารคนที่หมากินได้ จะบอกว่าเป็นอาหารหมาที่คนกินได้ก็ไม่เชิง แต่ทุกเมนูของ Doglicious รังสรรค์ขึ้นมาโดยให้ความสำคัญกับผู้เลี้ยงและสัตว์เลี้ยงเท่าๆ กัน ในแง่ที่ว่า เป็นเมนูที่น้องหมาได้อิ่มอร่อย ได้โภชนาการที่เหมาะสม ในขณะที่คนเลี้ยงก็ไม่ได้ทำแค่ป้อนแล้วจบ แต่ได้ใช้เวลาคุณภาพกับน้องหมา เพื่อนฝูง แถมยังถ่ายรูปสวยๆ ทำคอนเทนต์ได้อีก 

ความแตกต่างเหล่านี้เองนำมาสู่การสนทนากับหนึ่งในผู้ก่อตั้งอย่างเพิทซึ่งพร้อมมาเปิดคู่มือ 4P+1 ของ Doglicious แล้ว

PRODUCT

ย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้น เพิท เยลลี่ และบอมซึ่งปวารณาตนเป็นพ่อแม่หมาแมวอยู่แล้วคิดว่างานออกแบบน่าจะเอามาสร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจขนมของน้องๆ ได้ Doglicious จึงก่อร่างสร้างตัวจากจุดนั้น

“ก่อนหน้านี้ขนมหรืออาหารของน้องๆ ในท้องตลาดส่วนใหญ่จะมีหน้าตาเดิมๆ เราก็คิดว่าทำไมไม่เคยมีอาหารสุนัขที่หน้าตาเหมือนอาหารของคนเลย” เพิทเล่า pain point แรก 

อีกหนึ่งปัญหาที่พวกเขามองเห็นคือพ่อแม่หลายคนใช้อาหารคนป้อนสัตว์เลี้ยงของตัวเอง Doglicious จึงพลิกแพลงออกมาเป็นเมนูที่ใช้วัตถุดิบเกรดเดียวกับอาหารคน แต่ทำรสชาติที่น้องๆ หมาแมวกินได้อย่างเอร็ดอร่อย อุดมไปด้วยสารอาหารที่ต้องการ 

ในกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ พวกเขายังไปลงคอร์สเรียนด้านโภชนาการขนมกินเล่นของสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ เพื่อสร้างสรรค์เมนูที่ปลอดภัย ย่อยง่าย และตอบโจทย์กับสัตว์เลี้ยงมากที่สุด

“เราจะทำเมนูกลูเตนฟรี ไม่ใส่ยีสต์ สีที่ได้ก็มาจากผักหรือผลไม้” เพิทบอก แล้วยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์แรกของ Doglicious ให้ฟัง Doglicious ดัดแปลงพิซซ่าขอบชีสที่คนชอบกินให้กลายเป็นขอบมันม่วงแสนอร่อย 

ทำไมต้องเป็นพิซซ่า? เหตุผลไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการเป็นเมนูที่มีหลายชิ้น แบ่งน้องหมาได้หลายตัว เหมาะกับผู้เลี้ยงที่มีสมาชิกมากกว่าหนึ่งตัวในบ้าน มากกว่านั้น Doglicious ยังมีการคำนวณโภชนาการตามน้ำหนักของน้องให้ด้วยว่าควรกินเท่าไหร่

“เราคำนึงเรื่องโภชนาการเป็นหลัก หมาบางตัวอาจจะแพ้ปลาบางชนิด หมาบางตัวอาจจะแก่แล้ว ระบบย่อยไม่ค่อยดี น้องหมาแต่ละตัว แต่ละสายพันธุ์ ก็กินไม่เหมือนกันเลย ก่อนที่จะทำแต่ละเมนูเราจึงต้องคุยกับเจ้าของหมาให้เยอะๆ ก่อนเพื่อจะได้แนะนำเขาได้”

ไลน์สินค้าของ Doglicious มีทั้งเค้ก พิซซ่า คิมบับ ไปจนถึงคุกกี้และซีเรียล ซึ่งมีทั้งแบบ made-to-order เพื่อรองรับเงื่อนไขการกินของน้องๆ และแบบสต็อก ให้พ่อแม่น้องหมาจับจ่ายได้ง่ายๆ และอันที่จริง เห็นชื่อแบรนด์อาจคิดว่าเป็นสินค้าของน้องหมาแค่อย่างเดียว แต่แท้จริงแล้ว Doglicious เป็นโปรดักต์ที่ทำขึ้นมาทั้งเพื่อน้องหมาและน้องแมว (ลูกค้าสามารถตรวจสอบได้จากรูปหมา/แมวหน้าแพ็กเกจจิ้งล่ะ)  

ที่พิเศษกว่านั้นคือพวกเขาเชื่อว่าการให้อาหารน้องๆ คือกิจกรรมที่เจ้าของกับสัตว์เลี้ยงจะได้ใช้เวลาร่วมกัน ผลิตภัณฑ์ของ Doglicious จึงตั้งใจบรรจุในแพ็กเกจจิ้งสวยงาม เปิดกล่องมาเจอหน้าตาอาหารที่สีสันสดใส ทำให้นอกจากหมาแมวจะอิ่มอร่อยแล้ว คนเลี้ยงก็ถ่ายรูปทำคอนเทนต์ได้อย่างสนุกสนาน

ช่วงเทศกาล Doglicious ยังขยันออกสินค้าพิเศษให้พ่อแม่น้องหมาแมวได้ช้อปมาเฉลิมฉลองร่วมกัน อาทิ คุกกี้วันคริสต์มาสที่ทำแพ็กเกจจิ้งล้อไปกับคุกกี้ของขวัญแสนคุ้นตา พวกเขายังมีบริการจัดแคตเทอริ่งให้กับองค์กรที่อยากจัดงานแบบ pet-friendly และมีอาหารเสิร์ฟน้องหมาน้องแมวในงานอีกด้วย

PRICE

หากมองจากสายตาของคนทั่วไป อาหารสัตว์เลี้ยงแบรนด์ Doglicious อาจดูราคาแพงกว่าในท้องตลาด เรนจ์ราคาของพวกเขาเริ่มต้นตั้งแต่ 320 บาท (พิซซ่า) ไปจนถึงหลักพัน (เค้กแบบอลังการงานสร้าง)

ต้นทุนของวัตถุดิบคือเหตุผล อาหารของ Doglicious ใช้วัตถุดิบเกรดเดียวกับอาหารคน 

“อย่างแซลมอนก็ใช้เกรดเดียวกับในร้านอาหารญี่ปุ่น หรืออาหารที่มีส่วนผสมของปลา เราไม่ได้ใช้เศษปลาแต่ใช้ปลากะพงขาว นมเราก็ใช้นมแพะจากฟาร์มโดยตรง” เพิทบอก

“เพิทคิดว่าอาหารของเราไม่ใช่อาหารสัตว์ มันคือศิลปะอย่างหนึ่งด้วย” ความครีเอทีฟคืออีกหนึ่งเหตุผล อย่างเบอร์เกอร์ การจะรังสรรค์ให้มันฟูขึ้นมาจนได้รูป เราไม่ได้ใส่ยีสต์หรือผงฟู แต่เราคิดค้นวิธีที่จะทำให้มันฟูขึ้นมาได้เอง ใช้ระยะเวลายาวนานมากกว่าจะสำเร็จ พอเราอธิบายตรงนี้กับลูกค้า เขาก็จะเข้าใจ 

“ตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์มา เราไม่ประนีประนอมกับคุณภาพ เราต้องการให้ลูกค้าและน้องๆ ประทับใจจริงๆ พอลูกค้าซื้อไปแล้วเขาจะเห็นเองว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ และสุดท้ายเขาก็จะกลับมาหาเราเอง”

PLACE & PROMOTION

Doglicious ปล่อยเมนูแรกออกมาตอนช่วงโควิด-19 พวกเขาจึงต้องขายออนไลน์เป็นหลัก ก่อนจะขยับขยายไปฝากขายในร้านอาหารสัตว์เลี้ยงต่างๆ ที่รู้จัก

แต่ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาก็พบว่าออนไลน์เป็นช่องทางที่เหมาะสมที่สุด เพราะนอกจากจะเป็นช่องทางที่ทำให้ลูกค้าได้มีเวลาตัดสินใจ สินค้าของ Doglicious ยังเป็นสินค้าที่เรียกร้องการพูดคุยกับลูกค้าอย่างละเอียด

“สินค้าของ Doglicious ถือว่าเป็นสิ่งใหม่ ไม่เหมือนการขายขนมทั่วไปที่ลูกค้ารู้จักอยู่แล้ว เราเป็นแบรนด์เล็กๆ ที่เพิ่งเริ่มด้วย จึงเน้นการสื่อสารให้มาก” 

การพูดคุยกับลูกค้ายังไม่ได้มีประโยชน์ในแง่การขายหรือรับฟีดแบ็กอย่างเดียว แต่มันทำให้ทีม Doglicious รู้สึกเหมือนได้เจอคอมมิวนิตี้ของพ่อแม่น้องๆ เหมือนกัน ทำให้ยิ่งได้คุยก็ยิ่งสนุกถูกคอ

ส่วนด้านโปรโมชั่น Doglicious บอกเราว่าไม่ได้จัดโปรฯ หนักเท่าไหร่  มีการจัดโปรฯ ส่งฟรีในวันพิเศษเช่น  2.2 หรือ 3.3 บางครั้งก็มีการจัดเซตเมนูที่กิน (และถ่ายรูป) ได้เข้ากัน หรือวันดีคืนดีก็จะมีการคอลแล็บกับแบรนด์สัตว์เลี้ยงแบรนด์อื่นๆ แล้วจัดส่วนลดร่วมกันเพื่อกระตุ้นยอด

“ความท้าทายของการทำการตลาดกับลูกค้าของเราคือ เขาจะเป็นประเภทที่เห็นสินค้าแล้วจะไม่ได้ตัดสินใจซื้อทันที มันต้องมีการให้ข้อมูล ด้วยสินค้าของเราค่อนข้างใหม่ หลายคนอาจจะกังวลก่อนจะซื้อ 

“เราเข้าใจนะ เพราะบางคนเขารักหมาเหมือนลูกจริงๆ เราก็รักน้องของเราแบบนั้น จะตัดสินใจซื้ออะไรสักอย่างให้ลูกเราก็ต้องคิดเยอะ เราจึงเน้นพูดคุยกัน ไม่ได้ยิงแอดฯ เยอะ และอาศัยปากต่อปากมากกว่า” เพิทบอก

Passion and Participation

P ที่ 5 ของ Doglicious คือ Passion

“ธุรกิจของเราเกิดขึ้นได้เพราะเรากับพาร์ตเนอร์มีแพสชั่นร่วมกัน ในการทำธุรกิจเราต้องอยู่กับมัน 24 ชั่วโมง ถ้าเราไม่มีแพสชั่นเราทำไม่ได้หรอก ถ้าเราไม่ได้รักมันจริงๆ แค่อยู่กับมันแค่ไม่กี่ชั่วโมงเราก็เบื่อ เพราะฉะนั้นแพสชั่นคือตัวขับเคลื่อนธุรกิจของเรา”

Doglicious ใจดี แถม P มาให้เราอีกตัว นั่นคือคำว่า Participation หรือการมีส่วนร่วมระหว่างเจ้าของกับสัตว์เลี้ยง

“การให้ขนมหมามันมีอะไรมากกว่าการป้อน อาหารของ Doglicious ทำให้เจ้าของสามารถฝึกน้องได้ ถ่ายรูปทำคอนเทนต์ได้ หรือชวนเพื่อนคนอื่นๆ ที่รักหมาเหมือนกันมีส่วนร่วมกับกิจกรรมนี้ได้”

Tagged:

Writer

นักอยากเขียนผู้รักทะเลและฤดูหนาวพอๆ กับหนังสุขซึ้ง สนใจประเด็น gender และเรื่องป๊อปทุกแขนง

Photographer

ช่างภาพและ baker ฝึกหัด

You Might Also Like