แปรงสี FUN

CURAPROX แปรงสีฟันสีสันสนุกจากสวิตเซอร์แลนด์ที่ออกแบบมาเพื่อทำให้ทุกคนอยากแปรงฟัน

หากเรานึกถึงจุดขายของแปรงสีฟันทั่วไปคงหนีไม่พ้นเรื่องเดิมๆ อย่าง ขนแปรงนุ่ม ประสิทธิภาพในการขจัดคราบ ช่วยให้ฟันขาวใส แต่นั่นไม่ใช่ความตั้งใจหลักของ CURAPROX แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่ตั้งใจออกแบบ ‘แปรงสีฟันที่ทำให้คนอยากแปรงฟัน’

“ดีเอ็นเอของเรามีอยู่ 3 อย่างคือ ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และใช้งานง่าย” อรินทรา ทองฤดี Head of Consumer Business Unit แห่ง CURAPROX (Thailand) กล่าวถึงหัวใจของแบรนด์ที่สานต่อมาอย่างแข็งแรงตั้งแต่วันแรกจนขวบปีที่ 50 ซึ่งพวกเขาได้ขยับขยายธุรกิจไปแล้วกว่า 70 ประเทศ

curaprox

แต่ถ้าจะมีสิ่งไหนที่แข็งแกร่งไปกว่านั้นก็คงหนีไม่พ้นดีไซน์ของแปรงสีฟันรุ่น CS5460 ที่คงเดิมมาตลอดครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา และยังสามารถดึงดูดผู้ใช้หน้าใหม่ได้มากกว่า 1 ล้านคนทั่วโลกในแต่ละปี

อะไรคือความลับที่ซ่อนอยู่ในดีไซน์อันไร้เทียมทานของแปรงสีฟันอันไร้เทียมทานด้ามนี้ คอลัมน์ Product Champion อยากชวนไปสำรวจเบื้องหลังการออกแบบของ CURAPROX ที่หวังให้ทุกคนอยากเดินไปแปรงฟันด้วยความสมัครใจในทุกเช้าที่ตื่นและทุกคืนก่อนเข้านอน

curaprox
curaprox

ย้อนกลับไปในปี 1972 เมื่อประธานบริษัทอย่าง Ueli Breitschmid และพาร์ตเนอร์พบว่า นักเรียนทันตแพทย์ส่วนใหญ่ ถึงแม้จะมีความรู้ในทางตำราแค่ไหนแต่ก็ยังมีโรคในช่องปากอยู่ นั่นแปลว่ามันต้องมีปัจจัยในเชิงพฤติกรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง อะไรบางอย่างที่ทำให้พวกเขาลงมือปฏิบัติตามสิ่งที่ร่ำเรียนมาไม่ได้ พวกเขาจึงตั้งใจศึกษาและออกแบบแปรงสีฟันที่จะช่วยให้การแปรงฟันไม่เป็นภาระ แต่กลายเป็นเรื่องที่ทำได้อย่างสบายใจ

และเมื่อได้ศึกษาลงลึกกับผู้บริโภคมากขึ้น พวกเขาพบว่าปัญหาในการแปรงฟันนั้นมาจากอินไซต์ 3 ข้อใหญ่ในการแปรงฟัน ได้แก่

curaprox

หนึ่ง–ไม่รู้ว่าต้องแปรงแรงแค่ไหน 

ในเมื่อเราไม่มีหน่วยวัดแรงในการแปรงฟัน แล้วแค่ไหนกันที่จะเพียงพอให้ฟันเราสะอาด ไม่ผุ แต่ก็ไม่มีปัญหาเลือดออกขณะแปรงฟัน

“หลายคนมีความเชื่อที่ว่าแปรงแรงแปลว่าสะอาด แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ เพราะคราบแบคทีเรียที่เป็นวัตถุประสงค์ของการแปรงฟันมันนิ่มมาก ให้นึกภาพว่ามันเหมือนกาว Post-it ที่เราแค่เอานิ้วไปสะกิดกระดาษก็หลุดแล้ว ดังนั้นไม่มีความจำเป็นเลยที่เราจะต้องแปรงให้มันแรงขนาดนั้น” อรินทรายกตัวอย่าง ในฐานะที่เธอเองก็เป็นคนหนึ่งซึ่งเคยมีประสบการณ์เลือดออกขณะแปรงฟันจนพานทำให้ไม่อยากแปรงไปเสียอย่างนั้น

โซลูชั่นของพวกเขาคือการออกแบบขนแปรงปลายมนที่อ่อนนุ่มแบบสุดๆ และยังใช้เป็นตัววัดแรงได้ด้วย

curaprox

“จุดที่เป็น critical point ในการสัมผัสคือเหงือกซึ่งเป็นเนื้อเยื่อที่บอบบางมาก เราจึงต้องให้ความสำคัญกับขนแปรง ขนแปรงของเราเป็นวัสดุจดสิทธิบัตร แปลว่าจะไม่มียี่ห้ออื่นที่ทำเหมือนกันได้ ทั้งประสบการณ์ความนุ่มที่คุณได้ ความรู้สึกสะอาดที่หลายคนพูดถึง ที่สำคัญคือขนแปรงของเรายังมีหน้าที่เป็นตัวบ่งชี้ได้ว่าคุณแปรงแรงไปหรือเปล่า ถ้าใช้ไป 3-5 วันแล้วขนแปรงบานออกไม่เป็นทรง นั่นแปลว่าคุณแปรงแรงเกินไป ให้พยายามลดแรงลงอีก” เธอแนะนำ

สอง–ไม่รีบก็ขี้เกียจ (หรือไม่ก็ทั้งสองอย่าง)

แม้จะรู้ดีว่าการแปรงฟันอย่างมีประสิทธิภาพควรแปรงอย่างน้อย 2-3 นาทีขึ้นไป แต่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนส่วนใหญ่มักจะแปรงฟันเสร็จด้วยความไวแสง

“ถ้าไม่รีบก็ขี้เกียจ มีแค่สองอย่างนี่แหละค่ะ (หัวเราะ) ดังนั้น CURAPROX จึงตั้งคำถามว่า ทำยังไงให้การกวาดแปรงหนึ่งครั้งมันมีประสิทธิภาพสูงสุด คำตอบที่ได้คือการดีไซน์ขนแปรงแบบหน้าตัดตรง และเพิ่มจำนวนขนแปรงเข้าไปเพื่อไม่ให้แบคทีเรียสามารถหลุดรอดจากขนแปรงของเราได้ อย่างรุ่นมาตรฐาน CS5460 นี้ก็จะมีขนแปรงทั้งหมด 5,460 เส้น ถ้ามองด้านข้างแบบนี้จะสังเกตว่าเราไม่เห็นแสงลอดผ่านมาเลย เพราะขนแปรงแน่นมากจริงๆ

“ดังนั้นถ้าเราเปรียบเทียบกับการใช้แปรงแบบอื่นที่หน้าตัดอาจจะไม่ได้ตรง หรือมีจำนวนขนแปรงน้อยกว่า ก็ต้องบอกว่าแปรงของเราทำความสะอาดได้มากกว่าจริงๆ ในการกวาดแต่ละครั้ง” เธอสรุปถึงดีไซน์ที่ตอบโจทย์ทั้งเพนพอยต์ของคนรีบและคนขี้เกียจได้ในเวลาเดียวกัน

curaprox

สาม–แปรงยังไงก็ยังมีคราบหินปูน

“ปกติแล้วคุณแปรงฟันตรงไหน” อรินทราตั้งคำถาม

เชื่อว่าคนส่วนใหญ่คงมีคำตอบในใจคล้ายกันกับเราว่า “ก็แปรงบนฟัน”

“โดยทั่วไปคราบหินปูนมักจะเกิดบริเวณใกล้เหงือกใช่ไหม แต่คนเรามักจะแปรงฟันบนฟันซึ่งผิดวิธี จริงๆ แล้วมันต้องแปรงตรงขอบเหงือก และถ้าจะให้แนะนำอย่างเจาะจงที่สุดคือคุณควรวางบนขอบเหงือกให้แปรงทำมุม 45 องศา” อ่านถึงตรงนี้หลายคนคงอึ้งกิมกี่ไม่ต่างกับเราที่กำลังนั่งฟัง

“คำถามคือ 45 องศาบนขอบเหงือกนี่มันอยู่ตรงไหนล่ะ คนส่วนใหญ่คงไม่เอาไม้โปรฯ มานั่งวัดองศาระหว่างแปรงฟันถูกไหม ดังนั้น CURAPROX จึงดีไซน์ด้ามจับมาให้เป็นแปดเหลี่ยม ทำมุมด้านละ 45 องศา เพื่อไกด์มุมในการแปรงฟันอย่างถูกต้องที่สุด” เธอสรุป

curaprox

อรินทราอธิบายต่อว่า แปรงสีฟันแปดเหลี่ยมด้ามนี้ถูกออกแบบมาให้จับเหมือนกับการจับปากกา ไม่ใช่เพราะว่าเราจะทำมุมได้ถูกต้องเท่านั้น แต่ยังเพื่อให้เราไม่เผลอแปรงแรงจนเกินจำเป็นอีกด้วย

“การจับท่านี้จะช่วยลดแรงในการแปรงได้เพราะมันจับไม่ถนัด (หัวเราะ) แปรงแค่วนๆ เบาๆ เพราะวัตถุประสงค์ของการใช้แปรงสีฟันคือขจัดคราบแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเหงือกอักเสบ เราแค่ต้องทำความสะอาดให้ถูกจุด แล้วเราก็จะไม่เป็นโรค” 

แปรงสีฟันที่มีชีวิต

นอกเหนือจากความโดดเด่นในแง่ฟังก์ชั่นทั้ง 3 ข้อที่ช่วยแก้พฤติกรรมผิดๆ ในการแปรงฟันแล้ว อีกหนึ่งอย่างที่ดึงดูดให้เราอยากหยิบแปรง CURAPROX ขึ้นมาใช้บ่อยๆ แถมยังช่วยตกลูกค้าใหม่เข้าสู่วงการได้ไม่น้อยก็คือสีสันอันโดดเด่น ซึ่งอรินทราเล่าว่า เฉดสีสุดเก๋นี้ไม่ได้เพิ่งจะมาทำในยุคหลัง แต่มันคืออีกหนึ่งความตั้งใจแรกเริ่มของแบรนด์

“คุณ Ueli Breitschmid ประธานบริษัทเขาเคยบอกว่า เขาต้องการสร้างโปรดักต์ที่มันมีชีวิต ซึ่งสิ่งที่เขานึกถึงคือเรื่องซินเดอเรลลา ที่เสกฟักทองให้เป็นรถ เสกหนูให้เป็นม้า เราจึงตั้งใจใส่สีสันสนุกๆ เข้าไปในแปรงสีฟันเพื่อให้มันมีชีวิต และเกิดเป็น bonding กับผู้ใช้งาน ให้เขารู้สึกเป็นเจ้าของแปรงด้ามนั้น และเกิดความรู้สึกผูกพันกับแบรนด์ไปด้วยในตัว”

เมื่อความผูกพันกับแบรนด์เริ่มก่อตัว สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือหลายคนซื้อไปเปลี่ยนให้กับสมาชิกคนอื่นๆ ในบ้าน มีการบอกต่อ แนะนำกันแบบปากต่อปาก หรือแม้กระทั่งซื้อไปให้เป็นของฝากติดไม้ติดมือ เหล่านี้เองที่ทำให้พวกเขาสามารถดึงดูดผู้ใช้ใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง

“บอกตรงๆ ว่ามันไม่เคยมีแปรงสีฟันแบรนด์ไหนที่กลายมาเป็นของขวัญ แต่เพราะแฟนๆ CURAPROX ส่วนใหญ่ใช้แปรงสีฟันของเราอย่างต่อเนื่อง และเขารู้ว่าแปรงสีฟันด้ามนี้มันช่วยแก้ปัญหาที่สาเหตุจริงๆ โอเคสีมันน่ารัก ใช่ แต่ว่าสิ่งที่มันให้กับคนที่ได้ใช้งานมันอย่างถูกวิธี เชื่อได้เลยว่ามันมีค่ามากกว่าเงิน 205 บาทแน่นอน” อรินทราสรุป

แปรงเพื่อปกป้อง

“โรคในช่องปากมี 2 โรคใหญ่ๆ คือโรคเหงือกอักเสบกับโรคฟันผุ ซึ่งเป็นโรคที่ป้องกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ด้วยการแปรงฟันอย่างถูกวิธีและตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำ อันที่จริงเราไม่จำเป็นต้องมีหินปูนให้หมอขูดเลยถ้าเราแปรงฟันได้ดี” ในฐานะผู้ที่คลุกคลีกับ CURAPROX มาหลายปี มีประสบการณ์เกี่ยวกับสุขอนามัยในช่องปากมาไม่น้อย อรินทราจึงกลายเป็นคนหนึ่งที่เชื่อมั่นใน ‘ทันตกรรมป้องกัน’ 

เพราะเป็นแบรนด์ที่เชื่อในการป้องกันมากกว่าที่จะซ่อมแซมเอาเมื่อสาย ถึงแม้ฮีโร่โปรดักต์ตลอดกาลอย่าง CS5460 จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์เลยตลอด 50 ปีที่ผ่านมา แต่พวกเขาก็ไม่หยุดพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อขยายขอบเขตในการปกป้องฟันซี่สำคัญให้ผู้คนทุกช่วงวัย ในทุกช่วงเวลา

และต่อไปนี้คือแปรงสีฟัน 5 รุ่นของ CURAPROX ที่บอกเราว่าพวกเขาไม่เคยหยุดพัฒนาสินค้าใหม่เพื่อวิ่งตามนวัตกรรมด้านสุขอนามัยในช่องปากที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ไม่ว่าจะเป็นแปรงสำหรับเด็กเล็ก, เด็กโต, ผู้สูงวัย, คนจัดฟัน ฯลฯ ภายใต้คอนเซปต์ที่ว่า ‘BORN TO BONE’ 

1. แปรงสีฟันเด็กเล็ก ฟันน้ำนม

“เด็กฟันน้ำนมจำเป็นต้องใช้ขนแปรงที่เตี้ยและมีความแข็งนิดหนึ่ง เพราะว่าคราบแบคทีเรียบนฟันของเขาจะเหนียวกว่าของผู้ใหญ่ ส่วนด้ามแปรงของแปรงสีฟันนั้นจะถูกดีไซน์มาให้เป็นแบบกลม เพราะว่าเขากำลังอยู่ในวัยพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก ดังนั้นจึงยังไม่จำเป็นต้องเรียนรู้เรื่ององศาการวางแปรงหรอก เราแค่ต้องทำให้เขารู้ว่าจะต้องมีสิ่งนี้เข้าปากทุกวันเช้าเย็น เราเริ่มสอนกันตั้งแต่แบบนั้น”

2. แปรงสีฟันเด็กโต ฟันแท้

“สำหรับเด็กที่เริ่มมีฟันแท้ขึ้นแล้ว เราจะให้เขาเปลี่ยนมาเป็นอีกรุ่นหนึ่งซึ่งคล้ายกับว่าเป็น CS5460 ขนาดย่อส่วนลงมา เพื่อให้เหมาะกับขนาดและสภาพช่องปากของเด็กๆ รุ่น 6-7 ขวบ ด้ามแปรงของรุ่นนี้จะเริ่มเปลี่ยนเป็นแปดเหลี่ยมแล้ว เพื่อไกด์ให้เขารู้ว่าต้องแปรงตรงไหน วางอย่างไรถึงจะถูก พอเขาโตเป็นผู้ใหญ่เขาก็จะใช้รุ่นฮีโร่โปรดักต์ของเราต่อ”

3. แปรงกระจุก แปรงสำหรับผู้มีปัญหาฟันเก

“เมื่อโตขึ้นสภาพฟันแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนฟันแท้ขึ้นแล้วเกซ้อนกันอยู่ แต่ยังไม่ได้จัดฟัน เราจึงออกแบบแปรงกระจุก หรือที่มีชื่อเล่นว่า ‘แปรงคนขยัน’ เพราะมีหัวแปรงขนาดเล็ก ใช้สำหรับแปรงทีละซี่ เก็บรายละเอียดในส่วนที่มีฟันซ้อนหรือฟันเกได้มากกว่าเมื่อเทียบกับแปรงส่วนใหญ่” 

4. แปรงสีฟันรุ่น Surgical Megasoft สำหรับผู้มีแผลในปาก

“ในขณะที่บางคนเจอคุดนอนมาเลย ก็ต้องไปผ่าออกทำให้มีแผลในปากต้องรักษา เราจึงออกแบบแปรงสีฟันรุ่น Surgical ซึ่งเราออกแบบมาเพื่อ special need ใครก็ตามที่มีแผลผ่าตัด หรือแม้กระทั่งได้รับการรักษาแบบฉายรังสีหรือคีโม เพราะเนื้อเยื่อในช่องปากเขาจะเซนซิทีฟมากกว่าปกติ อะไรไปสะกิดนิดเดียวก็เลือดออกแล้ว ดังนั้นขนแปรงรุ่นนี้เราจะไม่ได้ทำเป็นสีๆ แต่ถูกดีไซน์ให้เป็นขนแปรงสีขาว เพื่อเป็น indicator ให้ผู้ใช้งานสามารถสังเกตได้ง่ายหากมีเลือดออก เขาจะได้รีบไปหาคุณหมอหรือโทรปรึกษาได้

“อีกอย่างคือขนแปรงรุ่นนี้จะนุ่มกว่ารุ่นปกติเป็นสองเท่า เส้นผ่านศูนย์กลางเล็กลงไปอีก เพื่อให้ความนุ่มมันมากกว่า Surgical เป็นแปรงเฉพาะกาล อายุการใช้งานแค่ 7 วัน พอแผลหายดีแล้วก็หยุดใช้ ดังนั้นขนแปรงมันอาจจะเสียรูปทรงได้เร็วมาก ส่วนด้ามแปรงก็เป็นด้ามกลมไม่ใช่แปดเหลี่ยม เพราะจุดประสงค์ของมันคือการทำความสะอาดบริเวณแผลอย่างนุ่มนวล ซึ่งแผลอาจจะอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้ การเป็นด้ามกลมจึงช่วยให้ใช้งานได้ง่ายกว่า”

5. แปรงสีฟัน Ortho สำหรับคนจัดฟัน

“มันจะหน้าตาคล้ายกับเจ้า CS5460 เลย ยกเว้นแค่ขนแปรงแถวที่ 3 หรือตรงกลางจากทั้งหมด 5 แถวที่จะเตี้ยกว่าแถวอื่นๆ เพื่อที่จะวางบน brackets ได้พอดี โดยที่แถวข้างๆ ยังสามารถเข้าไปทำความสะอาดบริเวณเนื้อฟันโดยรอบแป้นเหล็กได้อีก คือมันดีไซน์มาเพื่อการณ์นั้น”

6. แปรงสีฟัน Velvet สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์และผู้มีปัญหาเรื่องเหงือก

“แปรงรุ่น Velvet หรือ CS12460 จะมีหน้าตาเหมือนรุ่นฮีโร่โปรดักต์เลยแต่ว่าขนแปรงจะละเอียดกว่า ก็คือตามตัวเลขเลย มีทั้งหมด 12,460 เส้น โดยเส้นผ่านศูนย์กลางเล็กกว่า เป็นการออกแบบมาเพื่อคนที่มีปัญหาเรื่องเหงือกโดยเฉพาะ เช่นคุณแม่ตั้งครรภ์ ซึ่งจะมีภาวะฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง อาเจียนบ่อย มีกรดในช่องปาก เพิ่มอัตราการเกิดฟันผุ หรือเป็นโรคเหงือกอักเสบที่เกี่ยวเนื่องกับความเครียด ทำให้ในช่องปากเขาจะเซนซิทีฟมากเป็นพิเศษ บางรายก็พาลจะไม่แปรงฟันด้วยซ้ำ ดังนั้นแปรงรุ่น Velvet มันจึงถูกออกแบบมาเพื่อการณ์นี้”

ยิ่งมีผู้ใช้ใหม่เพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่ CURAPROX ก็ยิ่งต้องทุ่มเทให้เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการใช้งานแปรงสีฟันอย่างถูกวิธีมากขึ้นเท่านั้น ผ่านทั้งพนักงานขายใน specialty store ด้านผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก คลินิกทันตกรรมที่เป็นพาร์ตเนอร์ ตลอดจนการพาแบรนด์ออกไปเจอกับลูกค้าโดยตรงผ่านอีเวนต์ต่างๆ เช่นล่าสุดที่อรินทราพาทีมงานตระเวนไปคุยกับเด็กและผู้ปกครองตามสนามเด็กเล่นทั่วกรุงเทพฯ ในช่วงที่มีแคมเปญยาสีฟันสำหรับเด็ก สินค้าใหม่ล่าสุดที่เพิ่งปล่อยออกมา

“นั่นคือวิธีที่ CURAPROX เข้าไปหาผู้บริโภคจริงๆ เป้าหมายหลักของเราไม่ได้ไปเพื่อขายด้วยซ้ำ แต่เราไปเพื่อแนะนำว่าฟันซี่แรกของลูกสำคัญมากนะ เราพาผู้เชี่ยวชาญไปให้ความรู้กับเขา นั่นคือคีย์หลักที่เราอยากจะทำ เพราะเป้าหมายของเรามันไม่ได้เป็นการทำยอดสูงๆ เราต้องการแค่กำไรให้เราพออยู่ได้ และการได้ช่วยให้คนไทยมีสุขภาพช่องปากที่แข็งแรงอย่างยั่งยืน นั่นแปลว่าเขาจะซื้อเราหรือไม่ก็ได้ แต่ขอให้เขามีองค์ความรู้ที่ถูกต้องก่อน เขาจะดูแลตัวเองได้อย่างยั่งยืนมากกว่า” เธอสรุป

Writer

เรียนจบในยุคโควิด-19 เยียวยาใจด้วยการนอนดูซีรีส์เกาหลีและกินของอร่อย

Photographer

หญิงสาวผู้หลงใหลการดูหนังรักและหลงใหลในการสัมผัสขนนุ่มฟูของน้องหมา

Illustrator

บรรณาธิการศิลปกรรม Email: [email protected]

You Might Also Like