World Tour

แผนการเก็บเงินและใช้เงิน เมื่อคุณฝันจะเดินทางเที่ยวรอบโลก

Wealth Done ตอนนี้มีคำถามจากผู้อ่านว่า ถ้ามีความฝันอยากเดินทางเที่ยวรอบโลกจะต้องวางแผนอย่างไร ซึ่งคำตอบของเรื่องนี้มีอยู่มี 2-3 เรื่องค่ะ หนึ่งคือเงิน สองคือเวลา และสามคือแผน

ตัวเราเองก็เคยมีความฝันเรื่องเที่ยวรอบโลก เมื่อ 4 ปีที่แล้วได้ศึกษาข้อมูลก็พบว่ามีสายการบินดังๆ หลายแบรนด์ที่ขายตั๋ว round the world นั่นคือ บินจากประเทศไทยไปเมืองต่างๆ รอบโลกแบบไม่ย้อนกลับ มีราคาตั้งแต่ 1,500-15,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 51,000-510,000 บาท (ศึกษาเส้นทางและอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ roundtheworld.staralliance.com/staralliance/en/round-the-world และ goworldtravel.com/round-the-world-ticket-airtreks

ส่วนหนึ่งที่ทำให้เชื่อว่าเรื่องนี้เป็นไปได้ เพราะเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องราวของเพื่อนชาวสิงคโปร์ที่เลือกเดินทางด้วยตั๋ว round the world แบบ Business Class ของสายการบิน Singapore Airlines (สมัยนั้นราคาประมาณ 250,000 บาท) เราก็ถามเขาว่าทำยังไง เขาบอกว่า โห ง่ายมาก เนื่องจากตั๋วเดินทางในสมัยที่เขาไปมีอายุ 2 ปี (ปัจจุบันตั๋วรอบโลกมีอายุตั้งแต่ 7 วันถึง 12 เดือน) เราไม่จำเป็นต้องลางานเพื่อเที่ยวรอบโลกติดกันทุกวัน แต่วางแผนสำหรับการหยุดยาวเป็นช่วงๆ ได้ สมมติวางแผนเดินทางจากไทยบินไปเที่ยวเวียดนาม แล้วบินจากเวียดนามไปเกาหลี เที่ยวเกาหลีแล้วไปจีน เสร็จแล้ววันหยุดหมดอาจจะซื้อตั๋วของสายการบินโลว์คอสต์จากจีนกลับไทยก่อน แล้ววันหยุดรอบถัดไปฉันก็บินจากไทยกลับไปที่จีน เพื่อตั้งต้นการเดินทางจากจีนไปเมืองอื่นๆ ต่อเพื่อจะให้ได้รอบโลก

มันเป็นอะไรที่ต้องวางแผน วางแผนตั้งแต่วันลา วันที่จะไป จุดหมายปลายทางจะเป็นที่ไหน จะเลือกที่พักแบบไหน ไปจนถึงประกันการเดินทางที่คุณจะเลือกใช้

อันดับแรก เงิน 250,000 บาท ไม่ได้เยอะไปสำหรับการเที่ยวรอบโลก สิ่งที่อยากบอกทุกคนก็คือ คุณทำความฝันนี้ให้เป็นจริงได้นะ อยู่ที่ว่าคุณได้มีการวางแผนหรือเปล่า

เริ่มจาก วางแผนใช้ประโยชน์จากอัตราแลกเปลี่ยน บัตรเดบิตของธนาคารหลายๆ ธนาคารจะมีบัตร travel card ซึ่งเป็นบัตรที่อนุญาตให้เราซื้อ-ขายสกุลเงินต่างประเทศตามเรตที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาต่างๆ เช่น ในวันที่ค่าเงินเยนถูกเราสามารถเปลี่ยนเงินบาทในบัญชีให้เป็นเงินเยนสะสมเก็บไว้ในบัตรก่อน เวลาเดินทางก็ให้ใช้จ่ายผ่านบัตรนี้ซึ่งดีกว่าบัตรเครดิตที่เรียกเก็บในอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ใช้จ่าย ซึ่งมักจะแพงกว่า

เรื่องต่อมาคือการวางแผนเรื่องวัน-เวลา เพราะอุณหภูมิในแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน เช่น ประเทศในย่านยุโรป ถ้าไปช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ซึ่งจะมีช่วงเวลากลางวันยาวนาน บางที่แม้จะเป็นสามทุ่มแล้วฟ้าก็ยังคงสว่างอยู่ หรือถ้าวางแผนไปเที่ยวในช่วงที่อากาศกำลังดีก็ไม่ต้องกอบเสื้อหนาว ทำให้ประหยัดพื้นที่ในกระเป๋าเดินทาง

ตามด้วยการเลือกรูปแบบการเดินทาง คุณอาจจะเลือกสายการบินท้องถิ่นแทนการเลือกบินตรงเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งสมัยนี้ทุกอย่างหาได้ง่ายเพียงกูเกิล ไม่ว่าจะสายการบินหรือที่พัก มีตัวช่วยเปรียบเทียบราคาและความคุ้มค่ามากมาย

เราจึงบอกเสมอว่า วิชาวางแผนทางการเงินเริ่มเรียนรู้ได้จากการวางแผนเที่ยวนี่แหละ เพราะการจองล่วงหน้ามักจะได้ราคาที่ถูกกว่าหรือช่วยประหยัดเวลาเข้าแถวรอได้ไม่น้อย

สมัยก่อนจะไปไหนต้องไปกับบริษัททัวร์ บางทีเราไม่ได้ชอบปราสาท เขาพาไปดูปราสาทอยู่นั่นแหละ ทั้งๆ ที่ฉันอยากเข้ามิวเซียมเพราะชอบงานศิลปะมากกว่า หรือบางคนอยากช้อปปิ้ง ซึ่งถ้าชอบช้อปปิ้ง เราแนะนำให้ไปอิตาลีเพราะ VAT ดีที่สุด จำได้ว่าประมาณ 17 เปอร์เซ็นต์ คุณซื้อของราคาเท่ากันแต่คุณได้ VAT ที่อิตาลีดีกว่า เมื่อทำเรื่องขอคืน VAT ก็เท่ากับซื้อของในราคาที่ถูกกว่า แต่ถ้าสมมติว่าชอบแฟชั่นอยากไปฝรั่งเศส ก็น่าคิดต่อว่าแล้วจะนั่งรถไฟจากฝรั่งเศสไปที่อังกฤษต่อเลยดีไหม สมมติถ้าไปแวะเที่ยวอังกฤษด้วยต้องแลกเงินเท่าไหร่ นอกจากวีซ่าแชงเก้นต้องทำวีซ่าอังกฤษด้วยไหม หรือแม้แต่วีซ่าแชงเก้น แต่ละสถานทูตก็มีเรตราคาไม่เท่ากัน มันเหมือนจะยากแต่มันคือความสนุกนะ จะท่องเที่ยวทั้งทีเราก็ควรได้วางแผนทำในสิ่งที่ชอบตรงกับไลฟ์สไตล์

มีตัวอย่าง ทริปเดินทางรอบโลกของคนวัยเกษียณที่เราเคยเห็น บางคนขายบ้านแล้วไปใช้ชีวิตในเรือสำราญ เดินทางด้วยรถไฟ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไปกับการเข้าพักที่นั่นที่นี่ทั่วโลก ซึ่งแนวคิดนี้เป็นที่นิยมมากในต่างประเทศ บางคนขายบ้านแล้วใช้รถบ้านขับแวะตามป่า เขา และอุทยานแห่งชาติ เราว่าอนาคตบ้านเราอาจจะนิยมทำแบบนี้ ที่เล่ามาทั้งหมดนี้เพราะอยากชวนทุกคนมาเติมเต็มความฝันของตัวเอง และถ้าการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในความฝันก็ลองหาเวลาสร้างความทรงจำกับคนพิเศษในสถานที่พิเศษ 

สุดท้ายเราจะพบว่าสถานที่ยังไม่สำคัญเท่าคนที่ไปด้วยกัน ซึ่งมันอาจะเป็นสถานที่เดิมก็ได้ แต่เพราะคนไปด้วยทำให้มันพิเศษ 

หลายคนบอกว่าการท่องเที่ยวเป็นความฟุ่มเฟือยของชีวิต แต่สำหรับเรานั้นไม่ใช่ การเดินทางทำให้ได้ไปเห็นอะไรที่แตกต่าง เกิดประกายความคิดและเรื่องราว เราเองรู้สึกขอบคุณชีวิตที่ได้ทำงานในสายนี้ ทำให้เราต้องเดินทางค่อนข้างเยอะก็เลยทำให้ได้เห็นอะไรเยอะแยะ บางเรื่องเราคิดกันแทบตาย เช่น สมมติไม่รู้ว่าล้อเป็นวงกลม แล้วเราคิดกันแทบตายว่าล้อควรจะเป็นสี่เหลี่ยมหรือแปดเหลี่ยม วันหนึ่งได้มาเห็นล้อเป็นวงกลมคือจบเลย หรือขนมเค้ก สมัยก่อนจะมีแต่บัตเตอร์เค้กอย่างเดียว สมัยนี้ขนมเค้กมีหลากหลายและช่างน่ามหัศจรรย์ มันก็เป็นเรื่องราวที่เราได้เรียนรู้จากวัฒนธรรมคนอื่น แล้วเราก็ชื่นชมเรื่องราวเหล่านั้น 

สำหรับเรา เราคิดว่าการท่องเที่ยวเป็นกำไร โดยเฉพาะถ้าคุณพ่อคุณแม่สามารถพาน้องๆ ไปด้วยได้ แล้วใช้เวลาด้วยกัน คุณอาจจะให้เขาลองจัดทริปหรือว่าพาเขาไปเที่ยวในสวนสนุก พาเขาไปลองใช้ภาษาอื่นที่เขาไม่ได้คุ้นเคย อย่างน้อยที่สุดลองถามว่าราคาเท่าไหร่ ให้เขาตอบโต้บทสนทนาต่างๆ ก็เป็นแบบฝึกหัดที่ดี

ขอยกตัวอย่างทริปที่ประทับใจที่สุด เป็นทริปที่พาคุณพ่ออายุ 90 กว่าปีไปอังกฤษ คุณพ่อชอบอาหารฝรั่งอยู่แล้วจึงไม่มีปัญหา ทริปนั้นเราไปพักที่โรงแรมตรงชานเมืองลอนดอน แล้วพอดีกับที่ลูกชายไปฝึกงานที่นั้น หลังส่งคุณพ่อและน้องกลับไทย เราก็อยู่เที่ยวต่ออีกเกือบเดือน ทุกคนถามว่าอยู่ทำอะไรที่ลอนดอน เราก็บอกว่าดูละครเวที เราชอบละครเวทีมากๆ คืออย่างนี้ค่ะ โรงละครในอังกฤษทุกที่ดีหมด แต่ถ้าเกิดซื้อตั๋วแบบปกติมันจะราคาประมาณ 170-180 ปอนด์ สิ่งที่เราทำคือ เราไปที่โรงละครก่อนละครจะเล่น 2 ชั่วโมง แล้วเข้า booking UK เพื่อหาตั๋วถูกทำให้เราได้ตั๋วในราคา 16 ปอนด์ ผลก็คือเราดูละครเวทีแบบกระหน่ำมาก 

ทั้ง The Phantom of the Opera, Cats หรือแม้กระทั่ง Michael Jackson หรือถ้าเรื่องที่ฮิตหน่อย เช่น Harry Potter and the Cursed Child เราก็จะจองตั๋วล่วงหน้า เพราะว่าเรื่องนี้แบ่งรอบการแสดงเป็นสองตอน ถ้าคุณดูต่อกันจะสนุกมาก แล้วเป็นละครที่มีของวิเศษมากมายบนเวที คือเขาเล่นได้เก่งมาก หายตัวไปหายตัวมาได้เลย ปกติจะไม่ค่อยเห็นเพราะละครเวทีจะมีแต่เพลงนะคะ แต่เรื่องนี้จะทำให้ตัวละครหายตัวไปมาอยู่ข้างบนเวทีจริงๆ หายตัววิ่งมาอยู่ข้างล่าง แนะนำสุดๆ เอนจอยมาก ประเทศอังกฤษอยู่ง่ายมาก ภาษาก็ง่าย อาหารก็ง่าย อยู่คนเดียวยิ่งง่ายเพราะอยู่ข้างๆ Tesco ไปสักห้าโมงของก็เซลหมดแล้ว เหลือ 1 ปอนด์ จะกินอะไรก็กิน เชอร์รีและสตรอว์เบอร์รีกระบะใหญ่ในราคา 1 ปอนด์ เพราะฉะนั้นเราถึงบอกว่า ถ้าคุณรู้จักวางแผนยังไงก็สนุก

หลายคนมีคำถามว่า ถ้าเราเป็นเด็กจบใหม่ที่ต้องทำงานไปด้วยเก็บเงินด้วย และก็ยังอยากเที่ยวด้วยจะจัดการเงินยังไง วิธีของเราคือตั้งใจใช้เงินเดือนละ 10,000 บาท โดยทุกต้นสัปดาห์จะกดเงินใส่กระเป๋า 2,500 บาท บริหารให้ได้ทั้งอาทิตย์ แล้วกลับบ้านไปกินข้าวแม่ เชื่อสิว่ามันสนุก แล้วการที่อดออมเพื่ออะไรบางอย่างมันจะยิ่งตื่นเต้นมาก

นอกจากเรื่องที่เล่ามา มีอีกเรื่องที่สำคัญมากๆ คือประกันการเดินทาง ซึ่งหลายคนไม่ทราบว่าประกันการท่องเที่ยวที่เราจ่ายกันพันกว่าบาทนั้น มีวงเงินคุ้มครองถึง 5 ล้านบาท คุ้มครองตั้งแต่ไฟลต์ดีเลย์ก็เคลมเงินได้ คุ้มครองกระเป๋าหายก็เคลมเงินได้ คุ้มครองกระเป๋าล้อหักก็เคลมได้ หรือเกิดคุณไปเจอแท็กซี่พาไปผิดทางหรือโกงเงินก็ยังคุ้มครองได้ เพราะฉะนั้นเราจึงแนะนำให้ให้ทำประกันการเดินทางทุกครั้ง ไม่นับว่าไปประเทศที่คุณคุยภาษาเขาไม่รู้เรื่อง เช่น ไปญี่ปุ่น ถ้าคุณไปต่างจังหวัดแล้วเกิดหกล้มขาแพลงแล้วจะคุยหรือสื่อสารอย่างไร แต่ถ้ามีประกันคุณโทรกลับมาเขาก็จะมีล่ามญี่ปุ่นดูแลคุณ เผลอๆ ถ้าอุบัติเหตุนั้นมีอะไรรุนแรงเขาก็ช่วยจัดการพาคุณกลับมาที่โตเกียวได้เลยเพราะอยู่ภายใต้กรมธรรม์ 

และจะดีกว่านั้นอีก ถ้าซื้อประกันแล้วไม่เกิดเหตุร้ายใดๆ เราเชื่อเสมอว่ายอมจ่ายเงินหลักพันเพื่อความสบายใจ เหมือนซื้อฮู้แต่ก็ดีกว่าไปซื้อยันต์ใดๆ เพราะยันต์นี้ถ้าเกิดปัญหาก็มีคนดูแล แต่ถ้ามันไม่เกิดก็ถือว่าโชคดีที่สุด เพราะฉะนั้นการซื้อประกันท่องเที่ยวเป็นอะไรที่ขอสั่งเลยว่าต้องทำทุกครั้งก่อนเดินทางนะคะ แล้วมันง่ายมาก เดี๋ยวนี้ซื้อออนไลน์ได้เลยตลอดเวลา มีไฟลต์ มีพาสปอร์ตก็ซื้อได้แล้ว 

นอกจากการเลือกคนที่ไป เวลาที่ไป สถานที่ไป การจัดการเงิน จัดการประกัน ดูเรื่องวันลาแล้วเนี่ย เราขอแนะนำสิ่งที่อยากให้ทำหากเป็นไปได้ นั่นคือ ขอให้ลองจดบันทึกเล็กๆ ว่าเราประทับใจอะไร ตอนนั้นเราอาจจะรู้สึกว่าไม่เห็นต้องจดอะไร แต่เชื่อมั้ยทุกวันที่กลับมาที่พักตอนเย็นถ้าลองจดบันทึกเล็กๆ ว่าไปตรงไหนบ้าง กินอะไร เชื่อสิคะ มันจะเป็นบันทึกที่มีค่ามาก เผลอๆ คุณอาจจะเป็นนักเขียนนะ มีน้องคนหนึ่งชอบเที่ยวเมืองแปลกๆ จากที่ไม่คิดว่าจะมีใครไปตามรอย แต่พอเริ่มเขียนหนังสือเธอก็ลงรายละเอียดลึก ทั้งการเดินทาง แนะนำที่พักและร้านอาหาร บางทีเขียนชื่อเมนูไว้ให้คนอ่านสื่อสารกับคนที่ร้านตามเมืองต่างๆ สุดท้ายกลายเป็น blogger ท่องเที่ยวโด่งดัง จนโรงแรมทุกโรงแรมชวนไปเป็นแขก VIP ได้ทำงานที่รักไปด้วย ได้เงินด้วย ได้เที่ยวด้วย 

สำหรับเรื่องท่องเที่ยวเราถือว่าเป็นแบบฝึกหัดขั้นต้นของวิชาการวางแผนเลย ถ้าไม่รู้จะวางแผนการเงินยังไง ลองวางแผนเที่ยวดู ใช้ข้อมูลที่มีมาตั้งเป้าหมายและประยุกต์กับสิ่งที่มี วางแผนการเก็บเงินและใช้เงิน แบบนี้ดีมั้ยคะ


WEALTH DONE คอลัมน์ที่อยากผลักดันให้คนหันมาวางแผนการเงิน หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับเรื่องการเงินการลงทุนที่เกิดขึ้นรอบตัวและสงสัยใคร่รู้เป็นพิเศษ ส่งมาบอกพวกเราได้ที่ [email protected] หรือทุกช่องทางโซเชียลมีเดียของ Capital แล้วรออ่านคำตอบพร้อมกันทุกวันพฤหัสบดี เว้นวันพฤหัสบดี ที่ capitalread.co

Tagged:

Writer

อุปนายกสมาคมนักวางแผนทางการเงินไทย กรรมการอิสระ และที่ปรึกษาทางการเงินผู้อยากให้คนไทยหันมาวางแผนทางการเงิน ขณะเดียวกันเธอก็เชี่ยวชาญในการวางแผนอ่านหนังสือและดูซีรีส์อย่างไรให้จบภายในหนึ่งคืน

Illustrator

กราฟฟิกที่พยายาม ประคองสติ เพื่อค้นหาสไตล์